ต้นเดือนสิงหาคม อากาศร้อนอบอ้าวสมกับเป็นฤดูฝน ท้องฟ้าไม่มีแดดมากนัก แต่ก็ไม่มีแม้แต่ลมที่จะช่วยให้จิตใจของเหล่านักศึกษาที่เตรียมสอบมิดเทอมจะเย็นสบายขึ้นได้เลยสักนิด
บนม้านั่งที่วางกระจัดกระจายอยู่รอบๆภาควิชาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ เต็มไปด้วยเหล่าเด็กหนุ่มเด็กสาวในชุดนักศึกษาที่ถูกต้องตรงตามระเบียบ ชุดนักศึกษาชายติดกระดุมเม็ดบนและผูกเนคไท ชุดนักศึกษาหญิงติดเข็มมหาวิทยาลัยเรียบร้อย และการที่แต่งตัวถูกต้องตรงตามระเบียบทุกประการนี่เอง ที่เป็นเหมือนเครื่องชี้บอกให้เห็นว่าพวกเขาเหล่านี้ยังเป็นแค่เด็กปี 1 เท่านั้น
ท่ามกลางผู้คนที่เดินผ่านไปมา เสียงพลิกหน้ากระดาษดังคลอกับเสียงขีดเขียน เสียงซุบซิบปรึกษาแนวข้อสอบดังมาจากโต๊ะตัวนั้นตัวนี้ที่มีคนนั่งอยู่ตั้งแต่ 2-3 คนไปจนถึงหลายสิบคน และที่โต๊ะที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าสระน้ำก็มีเด็กสาวสองคนที่กำลังนั่งจมอยู่ท่ามกลางกองหนังสือเช่นกัน
ข้อนี้เธอทำได้มั้ย?
เด็กสาวที่รวบผมมัดเป็นหางม้าถามขึ้นด้วยสีหน้าเหมือนคนกำลังท้องผูก ดวงตามองเขม่นใส่ข้อสอบเก่าปีล่าสุดอย่างกับคู่อาฆาต มันเหลือเวลาอีกแค่ 2 อาทิตย์ก็จะถึงวันสอบมิดเทอมแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเธอคนนี้จะยังไม่อาจญาติดีกับ Calculus 1 ได้เลย
ถ้าทำได้ ป่านนี้ฉันก็คงลุกขึ้นเต้นสวอนเลคไปนานแล้วล่ะ ปู
สาวผมสั้นตอบด้วยสีหน้าตึงเครียดไม่แพ้กัน มือที่จับดินสอแน่นขึ้นเช่นเดียวกับคิ้วที่ขมวดแล้วขมวดอีกจนแทบคลายไม่ออก บางทีการที่เธอกับปูกลายมาเป็นเพื่อนสนิทกันได้หลังจากที่รู้จักกันในรั้วมหาวิทยาลัยแค่ไม่กี่เดือนนั้น คงเป็นเพราะความไม่เก่งเอาเสียเลยในด้านวิชาคณิตศาสตร์ที่สูสีกันอย่างยากจะหาใครเทียบติด
แล้วจะทำยังไงดีล่ะ ฟาง ใกล้สอบแล้วด้วย ยังจำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง
เด็กสาวที่ถูกเรียกว่า ปู โอดครวญพลางซบหน้าลงกับกองชีทที่สกปรกด้วยรอยลบครั้งแล้วครั้งเล่า หวังเหลือเกินว่าความรู้จะสามารถออสโมซิสผ่านทางผิวหนังขึ้นมาได้ แต่น่าเสียดายที่มันคงเป็นไปไม่ได้...
ถึงจะเหลือเวลาอีกตั้ง 2 อาทิตย์ แต่พวกเราต้องสอบตั้ง 7 วิชาเลยนะ แถมแคลฯยังสอบเป็นวันแรกอีก เวลาก็ยิ่งน้อยสุดๆ
มันช่างเป็นความทุกข์ระทมของนักศึกษาทั้งมหาวิทยาลัย ไม่ใช่เพียงแค่สาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ที่ต้องพบว่า พวกตนกำลังเผชิญกับภัยพิบัติที่มีชื่อว่า Calculus 1 อันเป็นวิชาบังคับของทุกสาขา กล่าวกันว่ามันเป็นวิชาในตำนานที่สามารถชี้ชะตาของนักศึกษาคนหนึ่งได้ หลายคนที่ต้องลิ้มรสกับเกรด D ตั้งแต่เทอมแรกที่เข้าเรียน หลายคนยิ่งกว่าที่จำเป็นต้องดรอปวิชานี้ทันทีหลังจากคะแนนมิดเทอมออกเพื่อป้องกัน F หลายคนกว่านั้นที่ต้องได้เห็นเกรดที่น่ารังเกียจที่สุดปรากฏอยู่บนใบแจ้งเกรดของตน และ F ที่แสนน่ารังเกียจตัวนั้นก็จะกลายมาเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้พวกเขาต้องถูกรีไทร์
จากสถิติที่ทางมหาวิทยาลัยรวบรวมไว้ พบว่า ทุกๆปีจะมีนักศึกษาประมาณ 30% ของทั้งมหาวิทยาลัยทำเรื่องขอดรอป Calculus 1 หลังจากที่รู้ผลสอบมิดเทอม ทั้งนี้อันเนื่องมาจากกฎของมหาวิทยาลัยที่อนุญาตให้นักศึกษาสามารถทำเรื่องขอดรอปวิชานั้นๆได้ภายใน 2 อาทิตย์หลังจากทราบผลสอบมิดเทอม หลังจากนั้นจะไม่อนุญาตให้มีการดรอปอีก ดังนั้นเองเพื่อเป็นการป้องกัน F บนใบแจ้งเกรด หลายคนที่ไม่แน่ใจว่าตนเองจะเอาชีวิตรอดได้จึงย่อมทำเรื่องดรอปเสียก่อน
แต่ถึงอย่างนั้น ทั้งที่จำนวนนักศึกษาที่ดรอปหลังมิดเทอมมีมากถึง 30% แต่เมื่อผลสอบไฟนอลออก ก็จะพบว่ามีนักศึกษาอีกถึง 20% ด้วยกันที่ติด F จากวิชานี้ และเมื่อ 2 ปีก่อนนี้เองที่อาจารย์ผู้ออกข้อสอบได้ทำสถิติสูงสุด ด้วยการทำให้นักศึกษาปี 1 ถึง 70% ของทั้งมหาวิทยาลัยสอบตกวิชา Calculus 1!!
ในตอนนั้นมันกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต จนถึงกับอธิการยังต้องออกมาจัดการเรื่องวุ่นวายนี้ด้วยตัวเอง ปีนั้นนักศึกษาจึงได้รับอนุญาตให้ทำเรื่องดรอปหลังจากรู้ผลสอบไฟนอลแล้วเป็นกรณีพิเศษ และมันก็กลายเป็นอีกหน้าหนึ่งของเรื่องเล่าชวนสยองในรั้วมหาวิทยาลัย
และในปีนี้ก็เป็นอีกปีที่จะต้องมีคนจำนวนหนึ่งต้องพานพบกับเรื่องราวสยองขวัญนั้น..!!?
ปุณยวีร์ หรือ ปู ถอนใจเฮือกก่อนจะพบว่ามันไม่ใช่แค่เธอที่ถอนหายใจออกมาในเวลานั้น แต่มันรวมถึงเพื่อนสนิทอย่างฟาง และเพื่อนคนอื่นๆที่นั่งโต๊ะข้างเคียงที่ต่างก็มีสีหน้าของคนที่สิ้นหวังแล้วกับชีวิตไม่แพ้กัน นั่นก็เพราะว่า....
เซตเป็นภาษาคณิตศาสตร์ ใช้แทนกลุ่มคน สิ่งของ หรือตัวเลข ยูเนียนของเซต A และ B คือเซตที่ประกอบด้วยสมาชิกซึ่งเป็นสมาชิกของเซต A หรือ เซต B หรือของทั้งสองเซต เขียนแทนด้วย A U B
อินเตอร์เซคชั่นของเซต A และ B คือเซตที่ประกอบด้วยสมาชิกซึ่งเป็นสมาชิกทั้งในเซต A และ เซต B .....เรื่องแบบนี้ถึงรู้ไปก็ทำข้อสอบไม่ได้อยู่ดี!!
เสียงท่องตำรากลับกลายเป็นเสียงที่ดังจนแทบเป็นตะโกน มือเรียวกระแทกสันหนังสือแคลคูลัส 1 ลงกับโต๊ะดังปัง ถือโอกาสระบายความหงุดหงิดออกมาผ่านทางเสียงและการกระทำของตน..กับความอยุติธรรมที่ว่า เนื้อหาในหนังสือและแบบเรียนนั้นมักจะง่ายกว่าข้อสอบเสมอ
ก็นั่นน่ะสิ! ในหนังสือล่ะเขียนซะง่าย แต่ทีในข้อสอบเก่านี่ดันมีทั้งเซต ลิมิต อนุพันธ์ อะไรก็ไม่รู้ ของแบบนี้ใครมันจะไปทำได้!!
เด็กหนุ่มชื่อ แชมป์ ช่วยร่วมอุดมการณ์ด้วยการทุบโต๊ะดังโครมใหญ่ ก่อนจะตามมาด้วยเสียงสูดปากจากความเจ็บ มือที่สะบัดเร่าๆแทบไม่ได้รับความเห็นใจจากเพื่อนๆที่ต่างก็กำลังกลัดกลุ้มใจในเรื่องเดียวกัน กับความจริงที่ว่าถ้ายังคงเป็นแบบนี้ต่อไปแล้วล่ะก็..พวกเขารวมแล้วกว่าสามสิบชีวิตคงได้จูงมือกันดรอปวิชานี้แน่ๆ
ทำไม่ได้ก็ต้องหาทางทำให้ได้ ฟางว่าอย่างปลงตก อ.สุชาติไม่มีทางให้คะแนนนายแค่เพราะเขียนกลอนสรรเสริญครูบาอาจารย์ลงไปในกระดาษคำตอบแน่ ดีไม่ดีมีหวังอาจารย์จะเอามาอ่านประจานให้ฟังหน้าชั้นล่ะไม่ว่า
อาจารย์ที่นี่จะโหดไปไหนเนี่ย เด็กหนุ่มร้องโหยหวน มือยกขึ้นกุมขมับที่เริ่มปวดแปล๊บๆอย่างน่ากลัวไมเกรนกำเริบ ดูเหมือนว่าคะแนนสอบมิดเทอมเต็ม 45 คะแนนนี่จะดูได้มายากเย็นเสียเหลือเกิน อาจารย์ไม่คิดจะให้ค่าน้ำหมึกพวกเรากันหน่อยรึไง โหดร้าย...
ชู่ว! เบาๆหน่อย มีคนเดินมาโน่นแล้ว
ฟางรีบให้สัญญาณให้เหล่าเพื่อนๆที่ตั้งท่าจะนินทาอาจารย์ต่อต่างก็รีบงับปากลงอย่างทันท่วงที ทั้งหมดต่างหันมาก้มหน้าก้มตามองชีทบนโต๊ะด้วยท่าทางขยันเรียนสุดชีวิต แม้กระนั้นก็ยังอดไม่ได้ที่จะลอบปรายตามองไปยังคนที่กำลังเดินใกล้เข้ามา ก่อนที่ปูจะรีบก้มหน้าลงกระซิบถามลอดไรฟันอย่างสงสัย
นั่นใครน่ะ?
มันยากที่จะละเลยความอยากรู้ไปได้ ด้วยเพราะชายหนุ่มร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตสีฟ้าสะอาดตาที่กำลังเดินผ่านเข้ามาในคณะนั้น ให้อย่างไรก็ไม่มีทางจะเป็นนักศึกษาไปได้ หรือถ้าจะบอกว่าเขาคนนี้เป็นนักศึกษาปริญญาโท ก็ไม่น่าที่จะมีเด็กบางคนยกมือขึ้นไหว้ แต่ถ้าจะบอกว่าเป็นอาจารย์แล้วล่ะก็..นี่มันจะไม่หนุ่มไปหน่อยหรือ?
นั่น อ.จิรันดน์ ไงล่ะ แอนกระซิบตอบพลางมองอาจารย์หนุ่มรูปหล่อด้วยสายตาเคลิ้มฝัน ปูไม่รู้จักสินะ อ.จิรันดน์เป็นอาจารย์พิเศษที่ทางคณะเชิญมาสอนวิชาคอมฯของพวกปี 4 แทนอ.สุกัญญาที่ลาคลอดน่ะ น่าอิจฉาพวกพี่ปี 4 จะตายได้อาจารย์หล่อๆแบบนี้มาสอนด้วย
แล้วไม่ใช่แค่หล่ออย่างเดียวนะ มินท์รีบบรรยายสรรพคุณต่อ ได้ยินว่า อ.จิรันดน์เป็นศิษย์เก่าที่นี่แล้วพอเรียนจบก็ได้ทุนไปต่อปริญญาโทที่เยอรมัน เพิ่งจะสำเร็จการศึกษาแล้วกลับมาไทยได้ไม่กี่เดือนเท่านั้นเอง
ว่าจบก็ตามด้วยข้อมูลอีกมากมายของอาจารย์หนุ่มตั้งแต่อายุยี่สิบกว่าๆไปจนถึงสัดส่วน ฐานะทางบ้านที่จัดได้ว่าดีมาก ครอบครัวที่มีพ่อแม่กับน้องชายอีกหนึ่ง แล้วยังดีกรีความรู้..อย่างที่หากว่าเขาเป็นยาแก้ไอแล้ว สรรพคุณของอ.จิรันดน์ก็คงไม่ต่างไปจากยาที่มีราคาสูงมากจนยากจะหาได้ในท้องตลาด หรือก็คือเป็นสิ่งที่ไกลเกินเอื้อม แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงเป็นอาหารตาที่ดีอยู่นั่นเอง...
ถ้าสรรพคุณดีขนาดนี้ แสดงว่าพวกสาวๆในภาคเราก็ต้องตามตื๊ออาจารย์กันน่าดูเลยสิ
ปุณยวีร์ถามพลางพยายามยืดคอมองชายหนุ่มที่กำลังหยุดยืนตอบคำถามของนักศึกษาชั้นปี 4 แต่น่าแปลกที่แม้จะมีสายตาหลายต่อหลายคู่ลอบมองไปยังอาจารย์หนุ่ม แต่กลับแทบไม่มีสาวคนไหนเลยที่จะลุกขึ้นไปหาอาจารย์..ทั้งที่นานๆจะมีหล่อขนาดนี้ผ่านมาในภาคแท้ๆ
ไม่มีใครกล้าตื๊ออาจารย์หรอก เพื่อนสาวตอบพลางส่ายหน้า เหตุผลก็เพราะ...
คำพูดที่พลันหยุดลงแค่นั้น เมื่อเสียงซุบซิบจากสาวๆเรียกสายตาของอาจารย์ให้หันมามองแบบกราดผ่าน และเพียงแค่ได้มองสบกับดวงตาคมดุที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังกรอบแว่นสีใสคู่นั้น ดวงตาที่เหมือนจะสัญญาถึงการหักคะแนนความประพฤติแบบไม่ให้เหลือแม้แต่แต้มเดียวของอีกฝ่าย มันก็มากพอที่จะทำให้เหล่าคนช่างนินทาต่างก็รีบงับปากลงอย่างรวดเร็ว ไม่เว้นแม้แต่คนชอบอยากรู้อยากเห็นเรื่องชาวบ้านอย่างปุณยวีร์ ผู้เพียงแค่มองสบตากับอาจารย์เพียงแวบเดียว ก็รีบเบนสายตาหลบไปหานกหาไม้ทางอื่นทันที
แก้ไขเมื่อ 30 ส.ค. 54 14:39:37
แก้ไขเมื่อ 30 ส.ค. 54 14:38:33
แก้ไขเมื่อ 30 ส.ค. 54 14:37:22
จากคุณ |
:
Mukkuk (Mukkuk)
|
เขียนเมื่อ |
:
30 ส.ค. 54 14:36:22
|
|
|
|