Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
บ้านอุ่น...ล้อมรั้วรัก บทที่ ๓ คุณชายเปลี่ยนไป ติดต่อทีมงาน

บทนำและบทที่ ๑ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10931894/W10931894.html
บทที่ ๒ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10957018/W10957018.html
บทที่ ๓ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10988371/W10988371.html


สะพานคอนกรีตยกทรงสูงเหนือน้ำคลำด้านล่าง เป็นเหมือนเส้นทางสายแคบเข้าสู่บ้าน เวลาค่ำมืดดึกดื่นเช่นนี้มีดวงไฟให้แสงสว่างอยู่เพียงไม่กี่ดวง เพียงแต่ภาพฝันไม่เคยคิดว่ามันเปลี่ยวหรือน่ากลัวแต่อย่างใด ด้านซ้ายมือเป็นคลองเล็กๆ สภาพน้ำเรียกได้ว่าเข้าขั้นวิกฤตจนเธอไม่คิดว่าจะมีใครลงไปหลบซ่อนตัวอยู่ได้ ส่วนด้านขวาก็เป็นกำแพงหนาทึบตลอดแนว

เลยกำแพงสูงนี้ไป เป็นที่ตั้งของโรงงานชุดชั้นในสตรี และหากเดินไปจนสุดกำแพงแล้วเลี้ยวขวา ก็จะเห็นบ้านไม้หลังเก่ายกทรงสูง เรียงรายเป็นแนวยาว บ้านทุกหลังล้วนเป็นสวัสดิการสำหรับพนักงานที่อยู่มานาน เรียกว่านานพอที่จะตั้งรกรากอยู่ที่นี่ได้ และหนึ่งในนั้นก็คือครอบครัวของเธอ

หากย้อนกลับไปเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน ผู้คนในละแวกนี้คงเคยได้ยินตำนานมนต์รักโรงงานเย็บผ้า ระหว่างพ่อยามเฝ้าหน้าประตูกับแม่หนูช่างเย็บผ้า ทั้งคู่พบรักกันในโรงงาน และครองรักกันหวานชื่นจนโรงงานยกบ้านหลังน้อยให้เป็นของขวัญวันแต่งงาน แม้จะอดมื้อกินมื้อ แต่ก็พิสูจน์ความรักของทั้งสองได้เป็นอย่างดี

ไม่นานเด็กน้อยอย่างภาพฝันก็ได้ออกมาลืมตาดูโลก พวกเขาคิดว่าจะมาเติมเต็มความรักให้มั่นคงยิ่งขึ้น แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อทั้งสองเริ่มมีปากเสียงกัน ความรักถึงขั้นกระท่อนกระแท่น คนหนึ่งต้องออกจากงานเพื่อมาดูแลลูก แต่รายได้ของสามีไม่เพียงพอที่จะเลี้ยงทั้งครอบครัว คนเป็นภรรยาบอกว่าการเลี้ยงลูกเหนื่อยแสนเหนื่อย จะให้ทำกับข้าวทุกวันเช่นเคยคงเป็นไปไม่ได้ สามีเลยสวนกลับมาว่าการที่เขาต้องทำงานทั้งวันก็เหนื่อยแล้ว กลับมาฟังภรรยาบ่นอีกก็คงต้องขอบาย

จากที่เคยบอกกันและกันว่า ‘สู้ไหว’ แต่เสาเรือนกลับไหวเอนไปตามกาลเวลาทุกที

จวบจนวันนี้ตำนานมนต์รักโรงงานเย็บผ้ากลายเป็นความหลัง เมื่อมันไม่ได้ชื่นมื่นเหมือนวันวานอีกแล้ว แม่หนูช่างเย็บผ้ากลายเป็นหัวหน้าสมาคมขาดขา ส่วนพ่อยามเฝ้าหน้าประตูกลายเป็นศิลปินร่ำสุราประจำซอย หากทั้งคู่ไม่เป็นคนเก่าคนแก่ของโรงงานแห่งนี้ คงได้ย้ายที่อยู่กันไปนานแล้ว

หลังจากภาพฝันโตพอที่จะเข้าโรงเรียนได้ กานดาแม่ของเธอก็กลับเข้าไปเป็นช่างเย็บผ้าอีกครั้ง ส่วนพ่อก็ยังเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้โรงงานอยู่เช่นเคย สภาพแวดล้อมสอนให้เธอเข้มแข็งมาตั้งแต่จำความได้ เธอหารายได้ตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นมัธยมเพื่อแบ่งเบาภาระของพ่อและแม่ และเมื่อเข้ามหาวิทยาลัยได้สำเร็จเธอก็ไม่เคยพึ่งเงินจากทางบ้านอีกเลย


เมื่อวางสายจากเพื่อนรัก ภาพฝันก็เดินไปตามทางด้วยความคุ้นชิน พีรศิลป์โทรมาชวนทานข้าวที่บ้านอีกเช่นเคย แต่วันนี้เธอรู้ดีว่ามันไม่เหมือนเคย วันนี้มีงานเลี้ยงต้อนรับการกลับมาของคุณชายบ้านอินธารักษ์ เพราะฉะนั้นคงไม่เหมาะนักที่เธอจะไปร่วมโต๊ะอาหารเหมือนเช่นทุกครั้ง แม้ความรู้สึกจะบอกว่าที่นั่นเป็นเหมือนอีกครอบครัวหนึ่งที่เธอมี แต่อย่างไรเสียเธอก็ได้ชื่อว่าเป็นคนนอก

การแก้แบบรีสอร์ทให้เสร็จภายในคืนนี้ ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เธอปฏิเสธ หากแบบเสร็จเร็วเท่าไร ก็ทำให้ดำเนินการขั้นต่อไปได้เร็วขึ้นเท่านั้น และนั่นก็หมายความว่า ปีณัฐและอรพินไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องจ่ายเงินเดือนให้เธออีก ที่ผ่านมาเธอก็เกรงใจทั้งสองมากพออยู่แล้ว

และเหตุผลสำคัญ ชื่อเจ้าของงานในคืนนี้ทำให้เธอไม่อยากไปร่วมโต๊ะด้วยสักเท่าไร หากเกิดเก็บอารมณ์หงุดหงิดที่เห็นหน้าคุณชายไว้ไม่อยู่ล่ะก็ มีหวังได้ถึงขั้นแตกหักเป็นแน่ แม้ในใจจะเตือนตัวเองว่าให้ปรองดองเข้าไว้ก็ตาม

เพราะภาพนั้น ภาพเดียวแท้ๆ ภาพนั้น!! เธอลืมได้อย่างไร ลืมทวงไปเสียสนิท


เมื่อใกล้ถึงทางเข้าบ้านสุดเขตกำแพงโรงงาน ภาพฝันมองเห็นอะไรไหวๆ อยู่ใกล้ทางเข้า แต่เมื่อเพ่งมองจนแน่ใจว่าเป็นสิ่งใด เธอก็ยิ้มออกมาทันที เพราะเงาตะคุ่มที่อยู่ตรงนั้นคือเจ้าคีหรือคีรัชเพื่อนบ้านตัวน้อยของเธอนั่นเอง วันนี้เจ้าตัวแสบคงไม่ได้มานั่งตบยุงอยู่เฉยๆ เป็นแน่ เธอเชื่อว่าคงมีบ้านหลังใดหลังหนึ่งกำลังเปิดสัมมนาขาไพ่กันอย่างเมามัน

สมาคมขาดขาเริ่มก่อตั้งขึ้น ตั้งแต่เธออยู่ชั้นประถม หัวหน้าสมาคมก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แม่หนูช่างเย็บผ้านั่นเอง สมาชิกก็จะเป็นพี่ป้าน้าอาเพื่อนบ้านในละแวกนี้ เลิกงานเมื่อไหร่สมาชิกทุกคนก็ร่วมกันร้องเพลงสามัคคีชุมนุมมาเติมขาที่ขาดไปทันที

ภาพฝันยิ้มอย่างมีเลศนัย เมื่อคิดบางอย่างขึ้นมาได้ เธอปรับเปลี่ยนสีหน้าตัวเองให้เหมาะสมกับบทบาทที่จะเล่น แล้วจึงเดินหันซ้ายหันขวาเข้าไป เมื่อไปถึงตรงหน้าคีรัชเธอก็หันหน้าหันหลัง ทำทีเป็นตื่นเต้นกับอะไรบางอย่าง

“คี ตอนเดินเข้ามาพี่เห็นตำรวจ” ภาพฝันก้มลงไปกระซิบ

เพียงเท่านั้นเพื่อนบ้านวัยเก้าขวบก็ลุกขึ้น ก่อนจะวิ่งหายจ้อยไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นว่าแผนการสำเร็จเธอก็เดินยิ้มตามไปบ้าง จะตั้งวงอะไรกันนักกันหนาทุกวี่ทุกวัน ต้องโดนเสียบ้าง! ทั้งคนเล่นทั้งต้นทางนั่นแหละ

อันที่จริงหากย้อนกลับไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน หน้าที่ของคีรัชในตอนนี้ ก็เคยเป็นของเธอมาก่อน เรียกได้ว่าเป็นงานอดิเรกที่น่าทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะไม่ว่าใครจะได้จะเสีย ต้นทางก็จะได้ค่าขนมทุกครั้ง


ภาพฝันก้าวเข้าบ้านอย่างหมดสภาพ แม้การท่องเที่ยวด้วยสองมือสองเท้าแบบนี้จะเกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่มันก็ทำให้เธอกลับมาสลบเหมือดทุกทีไป วันนี้บ้านเงียบผิดปกติ พ่อคงจะเข้ากะดึก แม่ก็คงนั่งตั้งวงอยู่ในบ้านสักหลัง แต่บ้านใกล้เรือนเคียงก็น่าจะมีเสียงดังมาบ้าง ภาพฝันคิดพลางบอกตัวเองว่า ดีแล้ว เพราะอย่างน้อยบ้านหลังนี้ก็ไม่ได้เป็นที่สัมมนาของสมาคม วันนี้เธอจะได้มีสมาธิทำงานอย่างเต็มที่

แต่หารู้ไม่ว่าเธอนั้นคิดผิด!

เหมือนมีอะไรบางอย่างกระแทกด้านหลังโซฟาตัวเก่า เสียงดังโครมครามราวกับมีหนูร้อยตัววิ่งกันขวักไขว่อยู่ในนั้น แต่เมื่อได้ยินเสียงกระซิบแว่วมา ก็ทำให้ภาพฝันกอดอกอมยิ้ม ไม่ใช่หนูร้อยตัวที่มาชุมนุมกันแต่อย่างใด แต่เป็นป้าๆ น้าๆ ข้างบ้าน รวมไปถึงหัวหน้าสมาคมอย่างแม่ของเธอนั่นเอง

“เจ้าคี ออกไปดูซิ ทางสะดวกหรือยัง” เสียงกระซิบแว่วดังมาอีกรอบ คีรัชถือว่าอ่อนหัดอยู่มาก เพราะไม่มีต้นทางคนไหนต้องหลบๆ ซ่อนๆ เช่นนี้

“แม่ น้าดา น้านิด ป้าไพ ออกมากันได้แล้ว ฝันเอง” ภาพฝันส่งเสียงเรียก

เพียงเท่านั้น ทุกคนก็ทยอยกันออกมา วันนี้สมาชิกในสมาคมมีถึงหกคน มันก็ไม่น่าจะแปลกสักเท่าไร ถ้าด้านหลังโซฟาตัวนั้นมีความกว้างมากกว่าหนึ่งไม้บรรทัด ไม่น่าเชื่อว่าพื้นที่แคบๆ เพียงแค่นั้น แถมยังปกคลุมไปด้วยฝุ่นและหยากไย่ จะเป็นที่หลบซ่อนของสาวใหญ่เจ้าเนื้อได้ถึงหกคน แถมด้วยเด็กชายตัวจ้อยอีกหนึ่ง

“ฝัน ตำรวจล่ะ ไหนแกบอกว่ามาป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้”

“อ๋อ ตำรวจจราจรน่ะแม่ ขับรถผ่านหน้าปากซอยเฉยๆ” ภาพฝันตอบออกไป...หน้าตาเฉย

“ไหนเจ้าคีบอกว่า แกเห็นตำรวจ”

“ก็เห็นตำรวจ ฝันพูดผิดตรงไหน” อีกครั้งที่ภาพฝันพูดไป...หน้าตาเฉย

เมื่อได้ยินตัวต้นเหตุบอกอย่างนั้นคงเอาผิดไม่ได้ ทุกคนจึงหันไปหาต้นทางแทน คีรัชมองซ้ายมองขวาแล้วเห็นท่าไม่ดี เมื่อสายตาของป้าๆ น้าๆ ทุกคนช่างฉายแววอาฆาตเสียจริง เจ้าตัวมองหาทางหนีทีไล่แล้วจึงตัดสินใจวิ่งปรู๊ดออกไป

พี่ฝันนะพี่ฝัน อดค่าต้นทางเลยวันนี้


ความวุ่นวายสงบลง ดูเหมือนเหตุการณ์จะกลับคืนสู่ปกติได้อย่างง่ายดาย เมื่อปูผ้าพร้อม สำรับไพ่พร้อม ทุกขาพร้อม สมาคมก็เปิดสัมมนากันอีกครั้งทันที

ภาพฝันได้แต่ส่ายหน้า วันนี้คงไม่มีโอกาสได้นั่งแก้แบบรีสอร์ทด้วยความสงบสินะ

หลังจากอาบน้ำให้สมองปลอดโปร่งแล้ว จึงได้ฤกษ์งามยามดีนั่งแก้แบบรีสอร์ทเสียที ภาพฝันนั่งลงแล้วนึกถึงภาพที่ได้เห็นมา แม้อยุธยาในวันนี้ จะเหลือเพียงซากปรักหักพัง เหลือเพียงอิฐก้อนเก่าที่ปกคลุมไปด้วยตะไคร่สีเขียว แต่สิ่งเหล่านี้กลับซ่อนมนตร์ขลังไว้อย่างมากมายเหลือเกิน ภาพนั้นคือร่องรอยแห่งความทรงจำที่ย้ำเตือนความรู้สึกได้เสมอมา

จากคุณ : pormare
เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 21:32:22




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com