ยมทูต บทที่ 5 อัคนีและวายุ
|
 |
ยมทูต บทต้น
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=moonyforever&month=02-08-2011&group=13&gblog=1
บทที่ 4 คำอำลา http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10975375/W10975375.html
บทที่ 5
อัคนีและวายุ
ใบหน้าขาวผ่องเหมือนถูกพอกด้วยแป้งจนหนาของคนที่ยืนยิ้มหวานตรงหน้ากับทรงผมที่พองฟูเหมือนคนเพิ่งลงจากมอร์ไซด์รับจ้างทำให้ผมแทบกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่ได้ ผมจ้องเสื้อผ้าที่ดูเฉียบไปทั้งตัวของอีกฝ่ายด้วยความทึ่ง ภาพเทวดาอ้อนแอ้นแต่งตัวเหมือนลิเกตามงานวัดที่เคยถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กหายวับไป ไม่ยักรู้ว่าพวกบนสวรรค์ก็รู้จักแต่งเนื้อแต่งตัวทำผมเผ้าเข้ากับอิน เทรนด์เกาหลีญี่ปุ่นเหมือนกัน
มองอะไร
เทวดาหน้าขาวหันมาตวาดผม น้ำเสียงห้วนแบบมะนาวไม่มีน้ำช่างแตกต่างจากหน้าตาหล่อเหลานั้นอย่างกับฟ้ากับเหว ผมทำเป็นผิวปากตีสีหน้าไม่รู้ไมชี้แล้วเบนสายตามองไปด้านอื่น ส่วนยมทูตสาวของผมขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ
ใครเป็นยมทูตสาวของนาย เธอหันมาพูดเสียงห้วนก่อนจะเลื่อนสายตากลับไปที่พ่อเทวดาอีกครั้ง ทำไมถึงมาช้า
ผมมัวแต่วุ่นวายเรื่องเอกสารส่งตัว อีกฝ่ายตอบพลางมองหน้าแม่สาวยมทูตด้วยสายตากรุ้มกริ่ม ท่าทางเจ้าชู้ไม่เลือกสถานที่แบบนี้ทำให้ผมชักไม่ชอบหน้าเจ้าเทวดากำมะลอนี่ซะแล้ว นี่ถ้าตอนเป็นคนคงได้มีการวางมวยสั่งสอนมารยาทกันบ้าง ผมนึกอย่างไม่ชอบใจและหยุดความคิดทันทีเมื่อเห็นสายตาดุจากยมทูตสาว เธอหันไปโต้เทวดาหน้าตี๋ทันควัน
แค่เปลี่ยนจากการพาวิญญาณลงนรกไปขึ้นสวรรค์ไม่ใช่เรื่องยาก ติดต่อผ่านยมทูตที่รับผิดชอบก็จบเรื่อง
น้ำเสียงเต็มไปด้วยความไม่พอใจแต่พ่อเทวดารูปหล่อทำเป็นเลิกคิ้วและพูดด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่ทำให้ดูเหมือนตัวเองสลักสำคัญ
ย้ายวิญญาณจากนรกไปขึ้นสวรรค์เป็นเรื่องใหญ่ ต้องผ่านการอนุมัติและขั้นตอนมากมายหลายอย่าง
แต่พวกนายเป็นฝ่ายทำข้อมูลผิด ยมทูตอัคนีเถียง บัญชีบุญของเขาหายไปตั้งครึ่ง โชคดีที่ฝ่ายกองยมทูตตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังดูก่อนไม่อย่างนั้นวิญญาณดวงนี้คงต้องไปรับโทษที่ตัวเองไม่ได้ก่อ
ยังไงเขาก็ต้องรับกรรมอยู่แล้ว จะช้าหรือเร็วมันก็มีค่าเท่ากันไม่ใช่หรือ เทวดาพูดด้วยสีหน้าไม่ยี่หระ ยมทูตสาวหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ
อย่าคิดว่าตัวเองเป็นเทวดาแล้วจะทำอะไรก็ได้ นายเองก็มีกรรมที่ต้องชดใช้รออยู่เหมือนกัน หล่อนจ้องเขาด้วยดวงตาวาว หมดบุญเมื่อไหร่ได้เจอกับฉันแน่
เธอหันไปทางชายเคราะห์ร้ายและพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนอย่างไม่น่าเชื่อ
ขึ้นไปเสวยสุขบนสวรรค์ก่อน อีกร้อยปีค่อยเจอกัน
ร่างของชายคนนั้นลอยขึ้นอย่างเชื่องช้าและเคลื่อนเข้าไปในลำแสงที่ส่องลงมาจากก้อนเมฆ ผมมองชายเคราะห์ร้ายที่กำลังเลื่อนสูงขึ้นไปในอากาศด้วยความรู้สึกยินดีในขณะที่เขามองกลับลงมาด้วยสายตาเศร้า
ขอบคุณ เขาพึมพำพร้อมกับโบกมือ ลาก่อน
เทวดาหน้าตี๋มองกิริยาของชายคนนั้นด้วยสายตาหมั่นไส้ เขากระแทกลมหายใจออกมาและพูดเสียงไม่ดังนัก
ดีใจเหลือเกินนะที่ได้ขึ้นสวรรค์
นายก็เป็นแบบนั้นในวันแรก ยมทูตอัคนีพูดขึ้นมาทันควัน อีกฝ่ายหันมามองหน้าเธอแล้วเหยียดยิ้ม
ผมทำบุญกุศลมามาก เขามองเธออย่างดูแคลน แต่คงไม่เท่ากับคุณ
พูดมาก ยมทูตสาวจ้องเทวดาหนุ่มด้วยดวงตาวาว ตามไปดูแลเขาได้แล้ว
ขอรับ เทวดาหน้าหล่อพูดพร้อมกับค้อมตัวน้อยๆเป็นเชิงหยอกล้อ แล้วพบกันใหม่
ร่างของเขาเปล่งแสงสว่างเจิดจ้าบาดตาก่อนจะพุ่งหายไปในท้องฟ้า ผมมองตามด้วยความหมั่นไส้ในขณะที่ยมทูตสาวเบ้หน้าเล็กน้อย
พวกบ้าสำแดงอิทธิฤทธิ์ เธอหันมาทางผมและเลิกคิ้วเล็กน้อย นายไม่เป็นอะไรหรือ
คำถามของเจ้าหล่อนทำเอาผมงง
ทำไมถึงถามแบบนั้น ผมหลุดคำถามออกไปและรีบตะครุบปากตัวเองเอาไว้เมื่อเห็นอีกฝ่ายนิ่วหน้า
นายมองรัศมีเทวดาได้ ยมทูตคนสวยพูดเสียงไม่ดังนักก่อนจะทำหน้าเหมือนนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
แย่แล้ว
เธอรีบล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงและดึงโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดปุ่มพร้อมกับกรอกคำพูดลงไปทันทีเมื่อมีเสียงปลายสายรับ
กำลังจะไปเดี๋ยวนี้ แม่สาวยมทูตเปิดมือถือฉับและหันมาคว้าโซ่ล่ามคอของผม เพราะนายแท้ๆทำให้ฉันต้องเสียงาน
เธอบ่นอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะพุ่งออกไปจากที่นั่นทันทีโดยมีร่างของผมปลิวตามหลังไปเหมือนกับว่าวกระดาษที่ผูกไว้กับท้ายสิบล้อ พริบตาทั้งผมกับยมทูตสาวก็มาถึงที่แห่งหนึ่งซึ่งดูเหมือนจะเกิดเหตุการณ์อะไรบางอย่างเพราะผมเห็นคนจับกลุ่มวิพากย์วิจารณ์กันอย่างสนุกปากอยู่สองสามกลุ่ม จนเมื่อกวาดตามองไปรอบตัวและได้เห็นกองเลือดกับข้าวของเครื่องใช้ที่ตกกระจายเกลื่อนพื้นโดยมีรถเมล์เล็กที่ด้านหน้ายุบไปทั้งแถบจอดนิ่งอยู่ข้างทางแล้วผมเลยถึงบางอ้อ สงสัยจะมีอุบัติเหตุใหญ่แถวนี้แน่ๆ
ใช่ แม่ยมทูตคนสวยตอบขณะเดินลากผมตรงไปหากลุ่มคนซึ่งยืนนิ่งอยู่ริมทางเท้า ความจริงฉันต้องมารับวิญญาณคนตายจากอุบัติเหตุรถเมล์เสยเข้าไปในร้านข้าวต้มแต่เพราะความเมตตาไม่เข้าท่าของนายทำให้เวลาทำงานต้องเคลื่อนไป
น้ำเสียงเจือการตำหนิจนผมต้องฝืนส่งยิ้มแหยให้ แต่ยมทูตอัคนีกลับชำเลืองตามองอย่างไม่สนใจก่อนจะตวัดกลับไปทางคนกลุ่มนั้นอีกครั้ง คราบเลือดและฝุ่นผงที่เปรอะเปื้อนบนตัวของพวกเขาทำให้ผมรู้ได้ในทันทีว่าคนเหล่านี้คือวิญญาณที่เธอต้องมารับ แต่ที่สะดุดตามากที่สุดเห็ฯจะเป็นสาวสวยหุ่นดีในชุดรัดรูปสีดำสนิทที่กำลังยืนกอดอกอยู่ตรงหน้าพวกเขา ราวกับรู้ถึงการมาของอัคนี เธอจึงหันหน้ากลับมามองพร้อมกับเลิกคิ้ว
มาแล้วหรือ เธอเอ่ยทักและเลื่อนสายตามองมาที่ผม นั่นคงเป็นวิญญาณเจ้าปัญหาที่พูดถึงสินะ
ตัวก่อเรื่องเลยมากกว่า ยมทูตอัคนีตอบพลางกวาดตามองชายหญิงที่กำลังนั่งบ้างยืนบ้าง พวกเขามองกลับมาด้วยสีหน้ามึนงง ยังไม่ได้ส่งใครไปเลยใช่ไหม
อัคนีถาม อีกฝ่ายยักไหล่
ไม่ใช่หน้าที่ฉัน
คำตอบของแม่สาวชุดดำทำให้ผมรู้ได้ในทันทีว่าเธอเป็นยมทูตเหมือนกับอัคนี ความอยากรู้ทำให้ผมรีบใช้สายตาไล่สำรวจตัวเธอโดยอัตโนมัติและแอบกลืนน้ำลายเมื่อพบว่าทรวดทรงองค์เอวของเจ้าหล่อนอวบอัดอย่างเหลือรับโดยเฉพาะหน้าอกหน้าใจ มันช่างใหญ่โตราวกับเอาแตงโมสองลูกไปแขวนไว้เล่นเอาขนาดแม่ยมทูตคนสวยของผมที่ว่าอวบอึ๋มเล็กลงไปเลยทีเดียว นรกสมัยนี้ช่างมีมาตรฐานการคัดเลือกยมทูตแจ๋วจริงๆ
มีคนต่างชาติด้วยหรือนี่ เสียงยมทูตอัคนีพูดขึ้น เธอหันไปมองเพื่อนยมทูตสาวซึ่งกำลังยืนทำตาวาวกับผม ติดต่อไปที่ฝ่ายการต่างประเทศแล้วหรือยัง
ยัง อีกฝ่ายตอบอย่างไม่ใส่ใจนักก่อนจะหันมาตวาดเสียงดัง มองอะไร!
ผมสะดุ้งสุดตัวและรีบเลื่อนสายตาออกจากแตงโมสองลูกทันที ยมทตอัคนีขมวดคิ้วขณะหยิบแท็ปเล็ตและเครื่องมือคล้ายหูฟังขนาดเล็กมาเสียบหู
ติดต่อฝ่ายการต่างประเทศ เธอพูดใส่ไมโครโฟนขนาดจิ๋วที่ยื่นออกมาจากหูฟัง ต่อกองวิญญาณแถบตะวันตก
ผมยืนฟังหูผึ่ง บ๊ะนรกโลกันต์สมัยนี้มีแยกเป็นฝ่ายเป็นแผนกด้วย ไอ้ที่เคยสงสัยมานานแล้วว่าพวกยมบาลจะทำยังไงถ้ามีคนตายเป็นชาวต่างชาติ เพิ่งมากระจ่างเอาวันนี้เอง แม่ยมทูตคนสวยยืนฟังปลายสายนิ่งอยู่ครู่หนึ่งจึงหันหน้าไปทางวิญญาณฝรั่งซึ่งยังคงยืนเอ๋อ
เป็นชาวอะไร เธอถามเสียงห้วน อีกฝ่ายอึ้งไปเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับเสียงไม่ดังนัก
แคนาดา
ยมทูตอัคนีพยักหน้าและกรอกคำพูดกลับไปยังหน่วยงาน ผมเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจเพราะคำถามของเธอเป็นภาษาไทยก็จริงแต่เสียงที่ออกมาจากไมค์กลับกลายเป็นภาษาอังกฤษชัดแจ๋ว สงสัยไอ้ที่เสียบหูของเธอคงเป็นเครื่องแปลภาษา อ้าว ผมนึกว่าพวกยมทูตติดต่อกับวิญญาณด้วยพลังจิตซะอีก
จะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อสิ่งที่เขาคิดก็เป็นภาษาอังกฤษเหมือนกัน ยมทูตคนสวยของผมตอบหลังจากเก็บแท็ปเล็ตกลับเข้ากระเป๋า วิญญาณเป็นคนชาติไหน ทั้งคำพูดและความคิดก็เป็นภาษาของชาตินั้น ต่อให้อ่านเข้าไปในหัวก็ไม่มีวันเข้าใจพวกเขาได้
เธอหันหน้าไปทางเพื่อนซึ่งกำลังยืนกอดแตงโม เอ๊ยกอดอก
ฝ่ายการต่างประเทศกำลังส่งคนมารับ
อีกฝ่ายพยักหน้ารับและดึงแท็ปเล็ตของตัวเองออกมา ผมมองกิริยาของเจ้าหล่อนแล้วกลืนน้ำลายเมื่อเห็นภูเขาไฟสองลูกสั่นไหวตอนที่เธอขยับตัว ยมทูตอัคนีหันมาจ้องผมพร้อมกับตวาด
คิดบ้าอะไรอยู่ได้ น่ารำคาญ!
เธอเงื้อมือขึ้น ผมร้องลั่นด้วยความตกใจและยกแขนขึ้นป้องใบหน้าพร้อมกับหลับตาปี๋เพราะนึกว่าจะโดนฟาดพลังใส่ เสียงตูมดังสนั่น ร่างของผมปลิวหวือลอยข้ามถนนไปตกอีกฝั่ง และหล่นโครมลงบนถังขยะ หมาจรจัดที่กำลังนอนแทะกระดูกขาหมูแถวนั้นร้องลั่นด้วยความตกใจ มันหันมาด่าผมสองสามคำก่อนจะคาบกระดูกวิ่งไปหลบใต้เพิงขายของ ผมค่อยๆมองลอดแขนและทันเห็นยมทูตแตงโมกำลังลดขาลง นี่ผมโดนฝ่าพระบาทมรณะของเจ้าหล่อนหรอกรึ นึกว่าจะโดนพลังเพลิงพิฆาตของอัคนีเสียอีก
ทำอะไรน่ะวายุ เสียงยมทูตคนสวยของผมร้องถาม ยมทูตอกภูเขาไฟที่ถูกเรียกว่าวายุนิ่วหน้า
ในหัวของวิญญาณดวงนี้มีแต่เรื่องลามกทั้งนั้น เธอหันไปมองหน้าเพื่อน เธอทนอยู่ได้ยังไงอัคนี
ลามกที่ไหนกัน เพราะสายตาของผมเลือกมองแต่ของสวยๆงามๆเท่านั้น ผมนึกแย้งในใจมันเป็นอารมณ์อันสุนทรีย์ของศิลปินต่างหากไม่อย่างงั้นพวกนิยมรูปโป๊จะชอบยกมาเป็นข้ออ้างแก้ตัวให้กับความลามกของตัวเองเหรอ อย่างหน้าอกหน้าใจของยมทูตอัคนีกับสะโพกดินระเบิดของแม่สาววายุสุดเซ็กซี่นี่ ถ้าเป็นมนุษย์คงได้ไปยืนเป็นแบบคู่ขวดเหล้าหรือรถยนต์หรู เจอเข้าไปแบบนี้แล้วได้สัมผัสสักนิดจะตายอีกกี่ครั้งก็ยอม
นายได้ตายอีกสมใจแน่ เสียงยมทูตวายุคำราม ผมร้องอุทานลั่นเมื่ออากาศที่อยู่รอบตัวเริ่มหมุนวน มันกลายเป็นลมงวงช้างภายในพริบตาหอบร่างบอบบางเหมือนนายแบบของผมให้ลอยขึ้นไปในอากาศและหมุนติ้วราวกับลูกข่าง มันเริ่มแรงขึ้นที่ละน้อยจนเกือบจะกลายเป็นพายุหมุน ผมรู้สึกเหมือนแขนขากำลังจะถูกฉีกออกจากตัว เสียงยมทูตอัคนีร้องห้ามด้วยความตกใจ
พอได้แล้ววายุ!
กระแสลมอ่อนกำลังลงทันที ผมเห็นแม่สาวแตงโมคว้าปลายโซ่และกระชากอย่างแรง ร่างวิญญาณลอยละลิ่วตกลงไปกองแทบเท้าท่ามกลางเสียงหัวเราะเยาะของเจ้าหมาฝั่งตรงข้าม จนแม่ค้าที่กำลังยืนวิจารณ์เรื่องอุบัติเหตุกับเพื่อนอย่างสนุกปากต้องหันไปดุ
เห่าอะไรวะไอ้ด่าง
ผมไม่สนใจว่าเจ้าด่างมันจะตอบว่าอะไรเพราะตอนนี้ตัวเองก็กำลังดิ้นกระแด่วอยู่ใต้ฝ่าเท้าของยมทูตอกแตงโม เธอกดน้ำหนักให้แรงขึ้นพร้อมกับพูด
ยังจะคิดแบบนี้อีก เจ้าหล่อนยกเท้าออกและกระชากโซ่ดึงให้ผมยืนขึ้น สงสัยต้องให้ฟ้าผ่าสมองสักสองสามครั้งจะได้หายลามก
อย่า ยมทูตอัคนีปรามเสียงไม่ดังนัก ผมเหลือบตามองเธอด้วยความดีใจเพราะคิดว่าที่ห้ามเพราะความเป็นห่วงแต่สีหน้าสะใจของเจ้าหล่อนทำให้ต้องเปลี่ยนใจ โธ่ นึกว่าสงสารที่แท้ก็สมน้ำหน้าเราอยู่เหมือนกัน ยมทูตวายุเขย่าผมสองสามครั้งก่อนจะเหวี่ยงลงไปกองกับพื้น
นายโชคดีมากที่ได้อัคนีมารับ เป็นฉันละก็ป่านนี้ได้ส่งเข้าหม้อต้มวิญญาณไปแล้ว เธอพูดพลางหักนิ้วสองสามครั้งเป็นเชิงสำทับก่อนจะหันหน้าไปทางเพื่อนยมทูตสาว จบเรื่องแล้ว ได้เวลาทำงานของฉันเสียที
ขอบใจมากที่มาเฝ้าวิญญาณพวกนี้ให้
ไม่เป็นไร ยมทูตวายุตอบก่อนจะอ่านข้อความบนแท็ปเล็ต เพราะวิญญาณทนายความที่ถูกกระถางต้นไม้ตกลงมาโดนหัวตายอยู่แถวนี้เหมือนกัน
เธอปิดเครื่องและเก็บกลับลงไปในกระเป๋า
ฉันไปล่ะ ดวงตาดุปรายมาที่ผม เจอคราวหน้าถ้ายังลามกแบบนี้ฉันจะขึงวิญญาณนายไว้กลางอากาศให้เครื่องบินวิ่งชนเล่น
ร่างสุดเซ็กซี่หายวับไปกับตา ยมทูตอัคนีหันมาจ้องหน้าผมพร้อมกับพูดเสียงห้วน
ยังไม่เข็ดอีกรึไง
ผมยิ้มแห้งก่อนจะดันตัวลุกขึ้น แม่ยมทูตสาวยืนนิ่วหน้า หลังจากมองผมนิ่งอยู่ครู่หนึ่งจึงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแปลกใจ
ประหลาด
ผมรีบก้มหน้าลงสำรวจตัวเองเพราะนึกว่ามีอะไรบนตัวงอกเกินแหรือแหว่งเว้าหายไป ยมทูตอัคนีส่ายหน้า
วิญญาณนายยังอยู่ครบ แต่ที่ฉันแปลกใจก็คือเรื่องที่นายสามารถทนรัศมีเทวดากับพลังทำลายของวายุได้ เธอทำหน้าคิด ถ้าเป็นวิญญาณดวงอื่นคงโดนฉีกกระจุยไปแล้ว
ประกายตาของแม่สาวยมทูตวาววับก่อนจะหรี่ลงเล็กน้อย
หรือว่านายจะเป็นหนึ่งในห้าดวงวิญญาณแห่งศิลาทำนาย
หนึ่งในห้าอะไรนะ ผมย้อนถามด้วยความสงสัย อีกฝ่ายนิ่วหน้าก่อนจะเบือนหนีไปอีกด้านและจ้องชายในชุดสูทสีดำสูงใหญ่สองสามคนซึ่งกำลังเดินตรงเข้ามา
พวกเขามากันแล้ว เธอพูดเสียงไม่ดังนัก ผมมองตามและทำท่าจะถามแต่ต้องหุบปากเงียบเมื่อเห็นดวงตาดุดันของชายทั้งสองคน หนึ่งในนั้นถามเสียงห้วน
วิญญาณคนต่างชาติอยู่ที่ไหน
นั่นไง ยมทูตอัคนีตอบพร้อมกับชี้มือผ่านพวกเขาไปทางด้านหลัง พาเขาไปได้เลยเพราะฉันก็ต้องรีบพาพวกนี้ไปที่ด่านตรวจวิญญาณด้วยเหมือนกัน
ตกลง ชายทั้งสองคนพูดพร้อมกัน พวกเขาหันไปยังวิญญาณชาวต่างชาติและพาออกไปจากที่นั่นทันที ยมทูตอัคนีมองกลุ่มวิญญาณที่ตายด้วยอุบัติเหตุนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง
เจ้าพวกนั้นมากันอีกแล้ว เธอพูดเสียงไม่ดังนักขณะจ้องกลุ่มหมอกสีดำซึ่งกำลังเคลื่อนเข้าไปหาวิญญาณเหล่านั้น ผมรีบมองตาและเบิกตากว้างเมื่อเห็นเปลวเพลิงปะทุขึ้นบนฝ่ามือของยมทูตสาวและสะบัดเข้าใส่ไอมรณะพวกนั้น มันสลายหายไปอย่างรวดเร็ว
พวกผีข้างถนนเหรอ ผมถามพลางขยับไปยืนข้างหลังเจ้าหล่อน ยมทูตสาวขมวดคิ้วก่อนตอบเสียงเครียด
ไม่ใช่ น้ำเสียงฟังดูจริงจังกว่าทุกครั้ง มันเป็นเวทเรียกวิญญาณของพวกหมอผีที่ชอบจับดวงวิญญาณคนตายโหงไปใช้งาน
เธอรีบเดินไปหนุดยืนกลางกลุ่มคนตายเหล่านั้นและสร้างเปลวเพลิงขนาดใหญ่ขึ้นคลุมพวกเขาเอาไว้
ฉันไม่มีเวลาฝากนายไว้กับใคร ยมทูตอกสวยหันมาพูดกับผม จะพาไปด่านตรวจด้วยแต่อย่าได้ทำปากพล่อยอีกเพราะยมทูตที่นั่นสามารถถีบนายลงนรกขุมโลกันต์ได้ทันที
ขู่แบบนี้ใครจะกล้าเผยอปากพูดกันล่ะครับ ใจผมเต้นระรัวเป็นกลองด้วยความหวาดกลัวพลางนึกภาพนรกที่มียมทูตรูปร่างสูงใหญ่ราวกับยักษ์ปักหลั่นถือหอกดาบเดินสวนไปมาอย่างวุ่นวาย จินตนาการสยดสยองบังเกิดขึ้นในความคิดเป็นเรื่องราวตามที่เคยได้ยินได้ฟังมาทั้งการโดนขึงบนแผ่นหินร้อนๆหรือโดนผ่าท้องลากไส้ออกมาให้หมาเฝ้านรกกัดกิน แล้วยังต้นงิ้วซึ่งมีหนามเต็มลำต้นสูงลิบลิ่วกับวิญญาณบาปที่ตะเกียกตะกายปีนขึ้นไปเพียงเพื่อถูกหนามแหลมเหล่านั้นพุ่งเสียบร่างจนทะลุ กลิ่นเลือดและเสียงร้องโหยหวนน่าขนลุกลอยเข้ามาในมโนสำนึก มันทำให้ผมต้องกลืนน้ำลายลงคอด้วยความรู้สึกสยดสยองแต่ก็ทำได้เพียงเท่านั้นเพราะเมื่อยมทูตอัคนีขยับโซ่ในมืออีกครั้งร่างของผมก็หลุดเข้าไปในช่องว่างของอากาศที่ดูเหมือนอุโมงค์และถูกพลังบางอย่างดูดหายเข้าไปในความมืดอย่างรวดเร็ว */*/*/*/*/*
สวันดีค่ะ ต้องขออภัยที่คราวนี้นำมาลงให้อ่านล่าช้ากว่าทุกครั้ง พอดีเน็ตที่บ้านมีปัญหานิดหน่อยค่ะคือกากชนิดอยากโยนทิ้งมาก พยายามโพสต์อยุ่หลายครั้งก็ล่มจนต้องยอมแพ้ ห่างหายไปหลายวันมาตอบคำถามกันดีกว่านะคะ
ว้า จบละ สั้นจังเลย ยังไม่หายคิดถึง...แม่สาวอกโตเลย จากคุณ : wor_lek - แหะๆ เรื่องนี้บางบทสั้นแค่ห้าหน้า บางยทก็ยาวค่ะ สลับกันไป
มีเทวดาด้วย อยากให้ลงบ่อยๆ ค่ะ จะรออ่านนะค่ะ จากคุณ : PiN.VE - มียมทูตก็ต้องมีเทวดา แต่เรื่องนี้พวกเทวดาจะทำตัวแบบน่าหมั่นไส้นิดหน่อยเพราะมูนนี่เขียนในมุมมองที่ว่าพวกเขาได้เสพสุขจากบุญแต่ยังไม่หมดกิเลสเลยยังยึดติดอยู่กับรูปลักษณ์กับความหลงค่ะ
ยมฑูตใจดีแฮะ จากคุณ : scottie - เป็นพวกปากร้ายใจดี ^^
ใครมาอีกล่ะนี่...ท่าทางคู่แข่งพระเอกจะมาแล้ว อืมม์ เถียงยมฑูตเป็นบาปด้วย..^^ จากคุณ : GTW - เทวดามาปรากฏ แต่คงไม่ถึงมือพระเอกหรอกค่ะเพราะโดนแม่สาวอกโตอัดกระเด็นซะก่อน
ตามมาอ่านค่ะ อีตาผม ที่ตายก่อนกำหนด 2 นาที เพราะไม่ยอมแวะซื้อไก่ทอดหน้าปากซอย นี่ สั่งยมทูตสาวอกโตได้ด้วยแฮะ อิอิ ใกล้หมดเวลา 2 นาทีของอีตาผม หรือยัง แล้วถ้าหมดเวลา อีตาผม จะต้องไปลงนรก ขุมไหนอ่ะ รออ่านตอนต่อไปนะคะ :) จากคุณ : ดินสอสีน้ำ - อีตาผมมันมั่วนิ่มได้ตลอดค่ะ บทหน้าเขาก็จะได้ลงไปนรกแล้ว แต่ออกตัวไว้ก่อนนะคะว่าเรื่องนี้เป็นแนวแฟนตาซีกึ่งผจญภัย ดังนั้นจะไม่ลงรายละเอียดเกี่ยวกับนรกภูมิมากค่ะ
ยังน่าติดตามเหมือนเดิมค่ะ จากคุณ : สวนใส -ขอบคุณค่ะ ^^
เหมือนเคยอ่านแฮะ^___^ จากคุณ : Tyra -มูนนี่เคยนำมาลงเมื่อปีที่แล้วและหยุดไปค่ะ ที่เอามาลงใหม่เพราะนำของเดิมไปปรับแก้เพิ่มรายละเอียดที่มันดูห้วน และคงจะได้ลงต่อไปเรื่อยๆค่ะ
ปิดท้ายด้วยภาพยมทูตอัคนีและวายุ ตามเนื้อเรื่องยมทูตในกลุ่มธาตุซึ่งเป็นระดับหนึ่งจะสวมเครื่องแบบสีดำสนิท แต่ตอนที่วาดนึกสนุกเลยให้อัคนีใส่สีแดงซึ่งหมายถึงไฟค่ะ
ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามนิยายของมูนนี่นะคะ ^^
จากคุณ |
:
Moony_Lupin
|
เขียนเมื่อ |
:
4 ก.ย. 54 10:51:16
|
|
|
|