Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
...Dragon Delivery...#17 (3/7 ครึ่งแรก) ติดต่อทีมงาน

ก่อนอื่น  คนที่จำได้คงชักงง  เพราะตอนที่แล้วมันเป็น 4/?  ทำตอนนี้กลับมา 3/7 ล่ะ  

ความจริงก็คือ คนเขียนรีไรท์ใหม่ค่ะ  เพราะถ้าไม่รีไรท์จะเขียนต่อไม่ได้จริง ๆ และเนื่องจากเนื้อหาที่รีไรท์ไม่ถึงกับเปลี่ยนจากเดิมมาก (แต่เปลี่ยนรายละเอียดไปพอสมควร  และตัดตอนที่เยิ่นเย้อออกไป) จึงรู้สึกว่าการเอามาปะที่ถนนใหม่ทั้งหมดเป็นการสิ้นเปลืองกระทู้  ก็เลยนำไปเก็บไว้ที่เว็บเด็กดี  ซึ่งมีระบบเก็บนิยายค่อนข้างดี  อยู่ที่ลิ้งค์นี้ค่ะ

http://writer.dek-d.com/lawit/writer/view.php?id=738340

ที่จริงแล้วตอนนี้จะต่อกับตอนที่เคยลงไปค่อนข้างพอดี  แต่เนื่องจากมีการเปลี่ยนรายละเอียดมาก  จึงอาจจะต้องรบกวนคนอ่านกลับไปอ่านที่เด็กดีก่อน  ถึงจะอ่านเข้าใจ  แต่ถ้าหากไม่ต้องการกลับไปอ่านที่เด็กดี  คนเขียนก็ขอเล่าเรื่องย่อ ๆ ไว้ตรงนี้

ต้องขอโทษคนอ่านจริง ๆ ที่ทำอย่างนี้ค่ะ  _(_ _'')_

###

เรื่องย่อ:

โซลโทกับเรนากลับมาจากบ้านไร่  เรนาได้ความคิดน่าจะลองเขียนถึงเรื่องไซธีน เอชาน  เผื่อว่าถ้าเขียนแล้วอาจจะทำให้พบตัวไซธีนในโลกในใจ  และสอบถามอะไรได้  แต่ปรากฏว่าการเขียนถึงไซธีน กลับเป็นชนวนให้เกิดเรื่องที่ไม่ได้คาดคิด  คือโซลโทถูกยึดร่างไป

ความจริงแล้ว ไซธีนถูกสาปว่าจะต้องหายไป  แต่เนื่องจากไซธีนไม่อยากหาย  จึงได้นำสำเนาความทรงจำและพลังสามในสี่ส่วนของตัวเองมาใส่ในร่างของโซลโท  ซึ่งที่จริงควรจะตายตั้งแต่เก้าขวบ  ส่งผลให้โซลโทมีชีวิตต่อมา  โดยความทรงจำของไซธีนถูกปิดผนึกไว้  เมื่อเรนาที่มีพลังของมิวส์ในตัวเขียนถึงไซธีน  ก็เป็นตัวกระต้นให้ความทรงจำนั้นออกมา  โซลโทเลย "ตาย" ไปจริง ๆ

โซลโทไปถึงโลกแห่งความตายแล้ว  ได้ตัดสินใจท้าจ้าวแห่งความตายเพื่อไถ่วิญญาณของตัวเองคืน  จ้าวแห่งความตายให้โจทย์มาว่า "ต้องทำให้ชะตากรรมของตัวเองกลับเป็นของตัวเองโดยสมบูรณ์"

เรื่องข้างล่างก็ต่อจากตอนนี้เลยค่ะ  ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยทางฝั่งเมืองซีเลนั้น  จะเปลี่ยนใหม่เกือบหมด  ถือว่าล้างไพ่ไปเลยค่ะ

###

๓.

โซลโทรู้สึกตัวที่ฝั่งน้ำแห่งหนึ่ง

ฝั่งน้ำเลือนลางอยู่ด้านขวา  นอกจากนั้นล้วนเป็นหมอกหนา  มองไม่เห็นอะไร   เจ้าของร้านเอชานงุนงงอยู่ชั่วขณะจึงได้ลุกขึ้นยืน   เขาจำได้  ตนท้าจ้าวแห่งความตาย  และนางก็รับคำท้านั้น   นางบอกให้เขานำชะตากรรมคืนมา...เป็นของตนโดยสมบูรณ์

ที่จริงเขาไม่เข้าใจเงื่อนไขดังกล่าว   และคิดจะถามให้ชัดว่าอีกฝ่ายหมายถึงอย่างไร   กระนั้นยังไม่ทันทำอะไรกลับตกลงมาที่นี่...ที่นี่เป็นที่ไหน  โซลโทไม่เคยเห็นมาก่อน   เจ้าของร้านเอชานรู้สึกว่าอยู่กลางหมอกช้านานไปก็ไม่เป็นการอยู่ดี  จึงเดินต่อมา  ไม่ช้าเขาก็พบทางคนเดิน   และพบว่าพ้นหมอกไปเป็นไร่นา   ท้องฟ้าเบื้องบนเป็นสีฟ้า  ไม่ใช่สีเหลืองอย่างโลกคนตาย   อากาศคล้ายฤดูร้อน  มีบางสิ่งที่ทำให้รู้สึกว่าไกลแสนไกล

โซลโทรู้สึกพิลึกประหลาดว่าที่นี่คุ้นตา   เขายืนงงอยู่ครู่หนึ่งจึงค่อยนึกได้   ที่นี่คือหมู่บ้านของเขา  นานแสนนานมาแล้ว    ต้นไม้ที่ถูกตัดไปยังอยู่   ไร่นาบางแปลงซึ่งเปลี่ยนไปปลูกอย่างอื่นแล้วยังคงเป็นนาข้าว  ว่าไป เขาก็คิดว่าตนเห็นจามีที่ตายแล้วนานปี

"เจ้าขนขาว" ชายหนุ่มออกอุทานเรียกชื่อด้วยความดีใจ   เร่งเดินไปโดยไม่รู้ตัว   แต่แล้วเขาก็เห็นว่าจามีแก่ตัวนั้น
ไม่ได้อยู่ตัวเดียว   ข้างจามีมีเด็กชาย  และข้างเด็กชายก็มีสุนัขอยู่อีกตัว

สุนัขขนเหลืองตัวนั้นเห่าโฮ่ง ๆ   เร่งวิ่งมาก่อน   แต่ได้กลิ่นชัดเจนมันก็ดูจะงง  หันหัวเลิ่กลั่กไปมา   เด็กชายเดินเข้ามาใกล้อีกหน่อยแล้ว  มือจับเชือกที่ผูกกระดึงรอบคอจามี   เขาเป็นเด็กชาวไร่ธรรมดา  อายุสักห้าหกขวบ  แม้ดูแข็งแรงราวกับเด็กโต ๆ   สีหน้าท่าทางกลับซื่อ  คาดว่าตัวใหญ่เสียเปล่า  แต่คงไม่เคยได้เป็นลูกพี่ของใคร

โซลโทยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นด้วยความตกใจ   เขาได้เห็นตัวเอง

แต่ก่อนจะทันเอ่ยอะไร   ก็มีเสียงใครบางคนกระซิบแผ่วเบา

'มาจนได้'

เสียงนั้นราวอยู่ข้างไหล่  โซลโทตกใจจนสะดุ้งทั้งตัว  หันขวับไปดู   เมื่อแรกเขาไม่ทันเห็นอะไร   แต่หลังจากพยายามเขม้นมองจึงพบว่าท่ามกลางอากาศว่างเปล่า  ทางเดิน  แปลงนา  และสรรพสิ่งธรรมชาติทั้งหลาย  มีเงาของใครบางคนปรากฏเลือนลาง  โปร่งแสง  แต่ก็ให้ความรู้สึกคล้ายหมอกควัน  เหมือนบางสิ่งที่เพียงสะบัดมือก็จะกระจัดกระจายหายไป

โซลโทยืนจ้องเงานั้นอยู่เป็นนาน  เขารู้สึกว่าสิ่งรอบตัวไม่ไหวติง  สุนัขไม่เห่าแล้ว  สายลมไม่พัด  ใบไม้ที่ปลิวคว้างค้างนิ่งกลางอากาศ  ชายหนุ่มคิดว่าเห็นรูปร่าง...ใครบางคน  ชราแล้ว  ไว้เคราสั้น ๆ  ผมยาวสีขาวมัดรวบไว้   ใส่เสื้อคลุมแขนยาวกว้างเหมือนพวกพ่อมด  ทว่าข้างในเสื้อคลุมก็ยังเห็นชุดหนังแบบที่คนขี่มังกรใส่กัน

"ท่าน..." เจ้าของร้านเอชานอัศจรรย์เกินกว่าจะรู้สึกอะไรในทันที "ลุงไซธีน"

...

เขาไม่ทราบว่าทำไมจึงรู้  

เขาไม่เคยเห็นไซธีน เอชานมาก่อน  แม้ผู้อื่นอธิบายรูปร่างหน้าตาให้ฟัง  โซลโทก็ไม่ใช่คนมีจินตนาการดีเลิศจนนึกเห็นตามได้  นอกจากนั้น ภาพในหนังสือที่มัตยา ซาวาล ทิ้งไว้ก็เป็นแต่ภาพร่างหยาบ ๆ อย่างนิทาน   แม้แต่ภาพของพระราชา ท่านเจวาน หรือท่านทาร์น  หากไม่รู้จักตัวก่อนก็ยากจะเดาว่าเป็นใคร

ผ่านไปชั่วขณะ  ความรู้สึกจึงกลับมา

ความรู้สึกที่มาเป็นอย่างแรกคือความโกรธ   คุไหม้เดือดพล่าน  สันกรามของชายหนุ่มขบเข้าโดยไม่รู้ตัว  ไหล่กว้างใหญ่เกร็งตั้ง  ร่างสูงราวกับยิ่งดูสูงจนแทบกลายเป็นสัตว์ร้าย  นั่นเป็นความโกรธที่นานครั้งจะมาเยือนเจ้าของร้านเอชาน  ความโกรธแบบที่จะเตือนผู้อยู่ใกล้ให้ทราบทันทีว่าที่จริงชายหนุ่มเป็นคนอันตราย  ทำให้ตระหนักว่าแม้ปรกติดูไม่มีอะไร  แต่ที่แท้โซลโทยามดุร้ายก็มีกำลังเหลือเฟือ  มากพอจะหักแขนขา  หรือบิดคอฆ่าคนตาย

เงาร่างของไซธีนยืนนิ่ง  เมื่อแรกเขากอดอกสอดมือในแขนเสื้อ   แต่เวลานี้ทิ้งแขนลงข้างตัว   ก้าวขาออกไป  เขาเดินผ่านโซลโทที่โกรธแค้นคล้ายไม่สนใจ

"จะไปไหน" เจ้าของร้านเอชานถามลอดไรฟัน "ไซธีน เอชาน!"

ชายชราเพียงปรายตามอง  เกือบคล้ายเหยียดหยามดูแคลน

'ตามข้ามาสิ' เขาว่า 'เจ้ามีทางเลือกอื่นด้วยหรือไง'

โซลโทชะงักหน่อยหนึ่ง   แต่แล้วก็ทราบว่าจริง   ตนไม่มีทางเลือก  เขาไม่รู้ว่าที่นี่ที่ไหน  เหตุใดจึงได้พบไซธีน  และจ้าวแห่งความตายต้องการอะไร   โลกรอบตัวหยุดนิ่งไปแล้ว   เขาคงถามอะไรกับใครอื่นนอกจากชายชราตรงหน้าไม่ได้   ด้วยเหตุนี้แม้อยากฆ่าอีกฝ่ายแทบตาย  แม้อยากร้องถามว่าจะช่วยเรนากับเจวานอย่างไร   ยามไซธีนออกเดิน  โซลโทจึงขบกราม  เดินตามไป

ในไม่ช้าเขาก็พบว่าโลกนี้ไม่ได้เป็นดังตาเห็น มันไม่ใช่หมู่บ้านของเขา เพราะยามเดินพ้นไปไม่เท่าไรก็กลายเป็นสุดเขตแดน  โลกตัดหายกลายเป็นห้วงว่างเปล่า เกือบคล้ายท้องพระโรงของจ้าวแห่งความตาย แต่ยามเดินตามไซธีนสู่ห้วงว่างเปล่านั้น   โซลโทจึงพบว่าที่นี่ต่างออกไป   ...ในความมืดราวกับท้องฟ้ายามกลางคืน   มีบางสิ่งที่คล้ายฉากละครอยู่มากมาย   ทั้งบน ล่าง ซ้าย ขวา  แต่ละฉากล้วนมีเรื่องราวเล่นไป  ทางเดินชายหมู่บ้านที่เขาจากมาก็เป็นฉากหนึ่งเช่นกัน   เขาเห็นตัวเองเดินไปตามทางนั้น   บางทีคงเดินอยู่ตลอดกาล

"นี่...อะไรกัน" ชายหนุ่มอดถามไม่ได้  เขาเกือบพูดขอรับตามเคยชิน   แต่เมื่อมีความโกรธมาก  ถ้อยคำก็ยั้งไว้กลายเป็นห้วนสั้นแทน

'ผลึกความทรงจำหนึ่งหยิบมือ' ไซธีนบอกโดยไม่หันกลับมา

เจ้าของร้านเอชานก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี  เขาเดินตามไป บางครั้งก็อดแอบมองฉากทั้งหลายรอบกายไม่ได้  มีฉากที่มืดอย่างยิ่ง   ไม่ทราบว่าอยู่ที่ใด   มีฉากที่สว่างสดใส   มีผู้คนมากมายที่เขาไม่รู้จัก  และมีบางคนที่ราวกับเขาจะจำได้เลือนลาง

ท่ามกลางฉากเหล่านั้น   มีบางสิ่งอยู่ตรงกลาง  ดูคล้ายรังของแมงมุม   โซลโทเพิ่งเห็นว่ามีสายใยบาง ๆ เชื่อมฉากละครทั้งหมดกับสิ่งนั้น   ยามเดินเข้าไปใกล้  ก็เห็นว่าในรังแมงมุมดูคล้ายห้องทำงาน  ...ห้องของพ่อมด  เต็มไปด้วยขวดแก้วและอุปกรณ์   หนังสือตำรา  และรูปรอยสัญลักษณ์มากมาย   ทั้งหมดทำให้โซลโทนึกถึงหนังสือของมัตยา  หนึ่งในหลายภาพนั้นคือไซธีน   นั่งอยู่ในห้องทำงาน

เมื่อถึงห้องนั้นแล้ว  เงาของไซธีนก็หันกลับมา  ร่างดูจะชัดเจนขึ้น  เกือบจับต้องได้   โซลโทเห็นหน้าเขาชัด   เขาหน้าไม่เหมือนใครที่บ้าน   มีบางอย่างคล้ายเชลา   ที่จริงเพราะเหมือนอย่างนั้น   แม้ผิวไม่ได้สีเขียวอย่างรูเซลคาก็ชวนให้ทราบว่ามีบางอย่างที่ไม่ได้เป็นมนุษย์เต็มตัว

"ท่านคือไซธีน" ชายหนุ่มถาม

"ข้าคือไซธีน" อีกฝ่ายตอบกลับมา เสียงของเขาไม่เหมือนมาจากที่ไกลแล้ว เหมือนพูดอยู่จริง ๆ "ตัวจริง  ไม่ใช่ความทรงจำ"

"ทำไมมาอยู่ที่นี่"

"คนตายแล้วก็ต้องมาอยู่ที่โลกแห่งความตาย" ไซธีนเหยียดริมฝีปาก "หรือแม้เรื่องแค่นี้ก็โง่จนไม่เข้าใจ"

สิ่งที่ไซธีน เอชานใส่ไว้ในร่างของโซลโท  คือสำเนาความทรงจำและกำลังสามในสี่ส่วนของเขา  ชายชราหวังว่าความทรงจำนั้นจะเข้ายึดครองวิญญาณและร่างกายของโซลโท   สร้างเป็นตัวเขาคนใหม่ขึ้นมา   แต่ในความเป็นจริง แม้พยายามสร้างวิญญาณใหม่   วิญญาณเก่าก็ยังคงอยู่นั่นเอง   และเมื่อเป็นวิญญาณที่ทำให้สิ่งที่ไม่ควรเกิดต้องเกิดขึ้นมา  เขาก็ถูกสาปให้ต้องสูญหาย  แม้เวลานี้หลบหนีจากการสูญหายมาได้   แต่ทำบาปไว้มาก  วิญญาณก็แตกสลายอยู่ดี

"ท่านหนีได้อย่างไร  ทำไม่ต้องหนีด้วย" โซลโทไม่เข้าใจ

"ข้าทำให้วิญญาณออกจากร่างก่อนที่มันจะหายไปหมดสิ้นจริง ๆ" ไซธีนบอก "จากนั้นข้าจึงมาที่นี่  ไม่มีเจ้าพนักงานคนใดรู้  ข้ามาหาจ้าวแห่งความตาย  ท้าพนันว่าข้ายังไม่ตาย   ร่างของข้ายังหายใจ   ข้าต้องการไถ่วิญญาณของตัวเองคืน"

"หา" เจ้าของร้านเอชานยิ่งตกใจ   อย่างไรก็ตาม ความตกใจของเขาทำให้อีกฝ่ายหัวเราะในคอ

"ร่างของเจ้าก็คือร่างของข้า   ความทรงจำและพลังของข้าทำให้เจ้ามีชีวิตอยู่   ตราบใดที่ร่างของเจ้าหายใจ  ข้าก็ยังนับว่าตายไม่ได้เหมือนกัน  แม้จ้าวแห่งความตายจะชิงชังวิญญาณชั่วร้ายอย่างข้า  แต่นางทำผิดจากกฎที่ตั้งไว้ไม่ได้   ถ้าหากคนที่ยังไม่ตายมาท้านาง  นางก็ต้องรับคำท้า"

โซลโทงงงันจนนิ่งอึ้งไป

"เมื่อข้าทำให้วิญญาณตนเองออกจากร่างก่อนที่ทุกอย่างจะสลายไป นอกจากจะรักษาวิญญาณไว้ได้ ก็รักษาความทรงจำไว้ได้บางส่วน  โลกแห่งนี้สร้างขึ้นจากผลึกความทรงจำหนึ่งหยิบมือที่ยังเหลืออยู่ มันห่อหุ้มวิญญาณที่แตกของข้าไว้  ทำให้ข้าอยู่ได้ จ้าวแห่งความตายให้โจทย์ข้ามา  นางว่าถ้าหากข้าอยากไถ่วิญญาณคืน  ก็จงทำให้ชะตากรรมของร่างกายที่ยังอยู่บนโลกนั้นเป็นชะตากรรมของข้าเองให้ได้"

"นั่นเป็นโจทย์ของข้าเหมือนกัน" ชายหนุ่มยิ่งไม่เข้าใจ

ไซธีนหัวเราะ

"นั่นเพราะมีเราคนเดียวที่จะรอดไปได้ คนหนึ่งเป็นคนที่ควรถูกสาปให้สูญหาย อีกคนเป็นคนที่ควรตายแต่ถูกทำให้ไม่ตาย" ชายชราบอก "ดังนั้นเพื่อให้เกิดความสมดุล  จึงมีชะตาเดียวเท่านั้นที่ควรจะเหลืออยู่   จ้าวแห่งความตายให้โจทย์นี้มาก็เพื่อความง่ายของนาง   นางให้เราสองคนสู้กัน  คนชนะก็รอด  คนแพ้ก็สูญหาย  สะดวกดีไหมเล่า"

โซลโทฟังคำเหล่านั้นจนหน้าซีดขาว

"ตะ...แต่นางไม่ได้บอกข้าอย่างนั้น" เขาเถียง "ท่านโกหกข้า"

"ข้าโกหกหรือนางโกหก  สำคัญตรงไหน" อีกฝ่ายเหยียดมุมปาก "แต่ข้าจะบอกให้  ถึงอย่างไรวิธีที่จะทำให้ชะตาของเจ้าเป็นของเจ้าก็มีทางเดียวเท่านั้น   คือทำลายข้าให้ได้"

ในขณะที่โซลโทยังคงนิ่งอั้น  ไซธีนก็เอ่ยต่อไป  ดวงตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อย  คล้ายกับกึ่งสนใจกึ่งไม่สนใจ

"แต่เจ้าเป็นคนที่ถูกกระทำ จึงได้สิทธิ์เดินหมากก่อน  ข้าไม่ได้อยู่ที่นี่หรอก  โซลโท เอชาน  เจ้าต้องหาข้าให้เจอ  ว่าในโลกนี้ข้าซุกซ่อนอยู่ที่ไหน หาให้เจอและทำลายให้ได้  ถ้าหากเจ้าหาเท่าไรก็ไม่เจอ จะถึงตาข้าเดินหมากบ้าง  ข้าจะกลืนวิญญาณและพลังที่เจวานให้เจ้า   ตัวข้าเองก็จะไม่แตกอีก  และข้าจะได้กลับไป

"เมื่อข้าได้กลับไป  ข้าจะเข้าสวมร่างกายที่ยังอยู่บนโลก  เวลานี้มันมีแต่ความทรงจำ  จึงยากจะคงชีวิตอยู่ได้นาน  หากข้าสวมเมื่อไร  ร่างนั้นก็จะเป็นของข้าโดยสมบูรณ์  ชะตากรรมหลังจากนั้นก็จะเป็นชะตากรรมของข้า  แม้แต่เอนาเร เฮเบล หรือพลังมหาศาลของเจวาน โยราห์  ข้าก็จะนำมาเป็นของตัวเอง  ข้าจัดเตรียมสิ่งเหล่านั้นไว้แล้ว  เหลือเพียงรอกลืนเจ้าและกลับไป"

ครั้นแล้วร่างของชายชราก็ค่อย ๆ เลือนหาย   เหลือเพียงเสียงเจอหัวเราะที่แว่วอยู่ในหูโซลโท

'พยายามเข้า  หาข้าให้ดี  ทำลายข้าให้ได้  เจ้ามีสิทธิ์เลือกเพียงสามครั้ง  ผิดจากนั้นแล้วข้าจะได้สิทธิ์กินเจ้า โซลโท เอชาน'

แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 54 00:02:10

จากคุณ : ลวิตร์
เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 54 22:15:27




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com