5.
“อ้าว หนูปูนิ่ม ขอโทษทีจ้ะ ฉันคุยโทรศัพท์อยู่ ไม่ได้ยิน”
กว่าคุณหงส์จะออกมารับเอกสาร กลุ่มนักร้องขี้เมาก็แทบจะครวญจบเพลง ปูนิ่มเปื่อยหมดแล้ว โมโหแต่ต้องระงับไว้ ยิ้มแห้งแล้งส่งให้พร้อมซองเอกสารแล้วขอตัวกลับ
“มายังไง เดี๋ยวฉันไปส่งไหม”
“ไม่เป็นไรค่ะ หนูขับรถมาเอง ขอบคุณมากค่ะ”
““ถึงแม้จะรู้เป็นได้แค่ชู้ทางใจ ก็ช่างหัวมันปะไร ถึงใครจะว่าฉันเลว...
“อะไรนะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ หนูกลับแล้ว”
เสียงร้องนั้นยังต่อเนื่องจนคุณหงส์ไม่ค่อยได้ยินที่ปุริมาตอบ เธออารมณ์เสีย หันไปตวาด “นี่!! เอเอฟทั้งหลาย อะไรกัน ปากยาวแต่หัววัน คอยดูนะถ้าเช้ามืดขนปลากันเอื่อย ๆ ละก็ จะตัดค่าแรงให้หมดเลย”
“ผมไม่ได้ทำอะไรเลยนะ” เขมรัฐแกล้งพูด หยุดเสียงร้องเสียงให้จังหวะ
“เอ็งนั่นแหละ นำดีนัก ไปเถอะจ้ะปูนิ่ม” เธอว่าลูกชายเสร็จก็หันมารับรองหญิงสาว เธอสูดลมหายใจ ก้าวยาว ๆ เดินคอตั้งออกไป คิดว่าเมื่อมีประกาศิตจาก ‘เจ๊’ แล้ว ทุกคนจะไม่กล้าทำอะไรอีก
“เฮ้ย หมัด ไปที่ร้านเอากับแกล้มมาเพิ่มหน่อยสิ”
“ได้ครับ นายเข้จะเอาอะไร ปูนิ่มทอดกระเทียม”
ไม่ฟัง ไม่ฟัง ตั้งสมาธิ ปุริมาสะกดจิตตัวเอง
“ไม่เอา ปูทอดเป็นกลับแกล้มไม่อร่อย บอกป้าไก่เอายำปูนิ่มเลย เนื้อสด ๆ รสแซ่บ ๆ ซอย ๆ เอ้ย! หอมซอยเยอะ ๆ ด้วย” กรี๊ดดดด!!!
สมาธิแตกกระจาย เธอรีบวิ่งออกมาราวกับหนีคนไล่ล่า เสียงโฮ่ฮาเป่าปากเกรียวกราวดังสนั่นเหมือนเวลาที่เพื่อนผู้ชายเชียร์ฟุตบอล
ปุริมาคิดถึงครูชาร์คในทันที ถ้าพ่อให้เธอเอาเอกสารมาให้ ‘ผีทะเล’ กลุ่มนี้อีกเมื่อไร จะจ้างเขาให้มาส่งแทน!!!
ฝากไว้ก่อนเถอะ อีตาบ้า!!!
คเชนทร์มีสีหน้าเคร่งเครียดขณะคุยกับคุณครูสาววัยสามสิบกลาง ๆ เมื่อเธอมายื่นความจำนงขอลาออกจากตำแหน่งครูภาษาไทย เขายังไม่ตอบอนุญาตทันที แต่ถามเหตุผล
“มีปัญหาอะไรหรือเปล่า บอกผมมาได้เลยนะไม่ต้องเกรงใจ เราทำงานด้วยกันคุยกันได้”
“ไม่มีค่ะ”
“เพื่อนร่วมงานล่ะ”
เธอส่ายหน้า “ไม่มีจริง ๆ ค่ะ หนูเข้าได้กับทุกคน ทุกคนก็ช่วยงานดีมาตลอด”
คนถามนิ่งไปเล็กน้อย ตัดสินใจ “เรื่องเงินเหรอ”
คราวนี้อีกฝ่ายไม่ตอบ เท่ากับแปลว่าใช่ ผู้อำนวยการโรงเรียนถอนหายใจ “ผมเข้าใจนะ ที่ผ่านมาโรงเรียนเราสภาพคล่องไม่ดีนักเลยทำให้ฝืดกันบ้าง ครูเองก็มีภาระ แต่ตอนนี้ทุกอย่างดีขึ้นแล้ว เอาเป็นว่าผมจะพิจารณาให้ก็แล้วกัน ตอนนี้อยากขอให้ช่วยกัน...”
“หนูตกลงกับที่ใหม่ไปแล้วน่ะค่ะ”
คเชนทร์ชะงัก นึกตำหนิที่ผู้มีวัยอ่อนกว่าพูดแทรก แต่วินาทีถัดมาก็เข้าใจได้ว่าเธอต้องการให้ทุกอย่างจบลงโดยเร็ว เขานิ่งอยู่ครู่ใหญ่จนคนขอลาออกอึดอัด
“ผอ.คะ”
“แล้ว...จะไปเริ่มงานเมื่อไหร่”
“เดือนหน้าค่ะ”
“หมายถึงเดือนธันวา” หญิงสาวพยักหน้า
“ก็อีกไม่กี่วันเองนี่ แล้วทำไมเพิ่งมาบอกล่ะ” น้ำเสียงคเชนทร์เปลี่ยนไป คนฟังก้มหน้า “โอย แล้วผมจะหาครูใหม่มาทันได้ยังไงกัน ที่มีอยู่ก็ไม่พอแล้ว”
“หนูขอโทษค่ะ” เธอเสียงสั่นขณะยกมือไหว้ “เขาเพิ่งบอกรับหนูเมื่อวานนี้เอง หนูก็รีบมาบอก ผอ. อย่าโกรธหนูเลยนะคะ”
คเชนทร์ลูบหน้าผาก “ผมไม่ได้โกรธที่ครูจะลาออกหรอก ผมเข้าใจ แค่...ตำหนิที่เพิ่งมาบอก ตามมารยาทเราต้องให้เกียรติที่ทำงาน ให้มีเวลาได้เตรียมจัดหาคนใหม่บ้าง แบบนี้ไม่ใช่ผมหรอกที่เหนื่อยคนเดียว ครูคนอื่นก็ต้องเหนื่อยด้วย”
อีกฝ่ายได้แต่เงียบ กระทั่งคเชนทร์ตัดบท เมื่อมาถึงขั้นที่ทำอะไรไม่ได้ก็ไม่ต้องทำ
“ตกลง เดี๋ยวครูไปแจ้งฝ่ายธุรการให้เขาทำหนังสือลาออก เซ็นต์ให้เรียบร้อยแล้วเอามาให้ผมแล้วกัน”
“ได้ค่ะ” เธอสูดลมหายใจ ตาแดงเรื่อ ขยับลุก
“เดี๋ยวก่อน”
คนอาวุโสกว่าจุดยิ้มจาง “วันสุดท้ายผมจะเลี้ยงเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ ขอให้ครูโชคดีนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ” เธอยกมือไหว้ด้วยความซาบซึ้ง แล้วเคลื่อนกายออกไป
ไม่ถึงนาทีถัดจากนั้นเสียงเคาะประตูแสดงความจำนงก็ดัง เจ้าของห้องตอบรับ คุณสกุณีเดินเข้ามาพร้อมชายคนหนึ่ง คเชนทร์ปรับสีหน้าให้สงบ
“คุณเอื้อ”
“ผอ.คะ ลูกชายดิชั้นค่ะ ที่บอกว่าจะให้มาออกแบบอาคาร สินธพค่ะ”
“สวัสดีครับ”
ผู้อาวุโสกว่ารับไหว้ ถือโอกาสมองคนตรงหน้า ชายหนุ่มหุ่นสันทัดใสชุดเสื้อเชิ๊ตสีฟ้าอ่อนกับกางเกงยีนส์ หน้าออกกลม ตาโต ดูน่ารักมากกว่าหล่อ เวลายิ้มเห็นเขี้ยวทำให้ยิ่งมีเสน่ห์ เมื่อรวมกับผิวพรรณสะอาดสะอ้านก็เข้าสเป็คหญิงสาวได้ไม่ยาก
“กินอะไรมาหรือยัง กาแฟไหม”
“ไม่เป็นไรครับ ผมเรียบร้อยมาแล้ว ขอไปดูหน้างานเลยได้ไหมครับ”
“ดีเหมือนกัน” คเชนทร์เดินนำ สกุณีมีกริยารีรอเล็กน้อยก่อนเอ่ยปาก
“เมื่อครู่ ครูแตนมาหาผอ.เหรอคะ” อีกฝ่ายแค่พยักหน้า “มีเรื่องอะไรกันเหรอคะ”
คเชนทร์แสดงอาการนิ่งบอกให้รู้ว่ายังไม่ต้องการตอบคำถามในเวลานี้ สกุณีผงกศีรษะเชิงขอโทษ กล่าวขอตัวไปทำงานก่อนเพราะการก่อสร้างไม่ใช่ความรับผิดชอบของเธอ
ภายใต้สีหน้าเรียบเฉย มีเพียงดวงตาที่ส่องประกาย...
สินธพกับคเชนทร์ยืนดูพื้นที่ซึ่งจะเตรียมปรับปรุง อาคารเดิมมีนั่งร้านวางกันพื้นที่ไม่ให้เดินผ่าน ชายหนุ่มพิจารณา ฝั่งซ้ายมือเป็นอาคารอำนวยการ ตรงหน้าคืออาคารสีม่วงสำหรับชั้นประถมและมัธยม ส่วนตรงจุดที่ยืนเป็นถนนภายใน
“กว้างขนาดนี้ทำยิมเนเซียมไปเลยก็ได้นะครับ” ชายหนุ่มเสนอความเห็น
“ผมก็อยากทำ แต่ที่ประชุมลงมติว่าทำเป็นลักษณะอาคารอเนกประสงค์ดีกว่า ใช้เล่นกีฬาได้ จัดกิจกรรมได้ด้วย อีกอย่าง ถ้าเป็นยิมเนเซียมเต็มรูปแบบ มันจะบังอาคารเรียน ดูไม่ค่อยสบายตาเท่าไหร่”
สินธพเห็นด้วยในข้อนี้ เพราะอาคารที่เห็นสูงแค่สามชั้น ถ้าทำยิมเนเซียมแบบที่ว่าจะต้องสูงบังสถานที่เรียน อีกอย่างเขาก็ถูกใจกับการใช้สีม่วงสสับชมพู
“สีประจำโรงเรียนน่ะ ให้เขาทาสีสด ๆ จะได้เห็นแต่ไกล มันดูสดใสดีใช่ไหมล่ะ”
“ครับ”
พูดคุยกันเรื่องแบบก่อสร้างกับข้อมูลนักเรียนอีกสองสามประโยค คเชนทร์ก็ยกมือคล้ายกวักเรียกใครบางคนที่เดินอยู่บริเวณอาคารอำนวยการ
สินธพมองหญิงสาวซึ่งเดินมาถึง หุ่นสูงเพรียวกับผมยาวทำใจเขาเต้นวูบวาบ พอรวมกับใบหน้าสวยน่ารักแล้วแทบไม่อยากละสายตา
“จะมาหาผมหรือเปล่า”
ปุริมาตอบว่าใช่ คเชนทร์พยักหน้ารับรู้ ก่อนจะแนะนำหนุ่มสาวทั้งคู่ “คุณสินธพ จะมาทำอาคารใหม่ให้โรงเรียน ส่วนนี่ปุริมา ผู้ช่วยผมทำแผนงาน”
หญิงสาวยกมือไหว้เพราะดูแล้วเธออายุน้อยกว่าเขาแน่ ๆ พอทักทายเสร็จก็ไม่มีบทสนทนาต่อ หญิงสาวอมยิ้มนิด ๆ
“ถ้างั้น ผมขอตัวไปทำงานก่อนดีกว่า ผอ.พอจะมีห้องว่างไหมครับ”
“จะทำเลยเหรอ” คเชนทร์ยกคิ้ว แต่สีหน้าพึงพอใจ
“ไหน ๆ ก็มาแล้วน่ะครับ เดี๋ยววัดพื้นที่แล้วก็ออกแบบได้เลย ถ้าไม่ติดอะไรพรุ่งนี้ก็น่าจะเสร็จ”
ผู้อาวุโสกว่าคิดเล็กน้อย ครั้นแล้วก็พยักหน้า “อื้ม ดีเหมือนกัน เดี๋ยวใช้ห้องประชุมก็แล้วกัน ปุริมาพาคุณสินธพไปนะ”
“ไม่เป็นไรครับ” ชายหนุ่มบอกปฏิเสธพร้อมโปรยยิ้ม “ยังไงผมก็ต้องวัดพื้นที่ก่อน เกรงใจคุณปุริมา เดี๋ยวเรียบร้อยแล้วผมถามจากแม่ เอ่อ จากคุณเอื้อได้ครับ”
หญิงสาวกระพริบตา ก่อนที่เขาจะผละออกไปที่รถเพื่อหยิบอุปกรณ์ก็ยังทิ้งสายตามาให้ เธอเข้าใจความหมายมันดี แต่ที่ติดใจ
“เอ๊ะ เมื่อกี้นี้”
“พ่อลืมบอกไป สินธพเป็นลูกชายคุณเอื้อน่ะ”
(....)
จากคุณ |
:
BabyRed
|
เขียนเมื่อ |
:
5 ก.ย. 54 09:19:53
|
|
|
|