และในช่วงเย็น ลูกน้องของอชิรก็นำเสื้อผ้ามาให้เมธิกา พร้อมช่างแต่งหน้า ช่างทำผมครบครัน และไม่นานนัก เมธิกาก็ถูกเนรมิตจากสาวน้อยธรรมดากลายเป็นหญิงสาวสวยสง่าในชุดราตรีสีน้ำตาลทอง..หญิงสาวมองภาพลักษณ์ของตัวเองที่สะท้อนในกระจกอย่างพึงใจที่ไม่มีส่วนไหนบ่งบอกได้เลยว่าเธอเป็น เด็กน้อย อย่างที่สามีเคยปรามาสไว้ และค่ำคืนนี้เธอจะทำตัวให้ดีที่สุด ให้เขาได้ภูมิใจว่าคิดไม่ผิดที่เลือกเธอมาเป็นภรรยา
ลูกน้องของอชิรขับรถพาเมธิกาไปที่งานเลี้ยง ซึ่งผู้เป็นนายได้คอยอยู่แล้วตรงจุดนัดพบบริเวณหน้างาน..ร่างสูงเพรียวในชุดสูทราคาแพงเดินเข้ามาใกล้ มองหญิงสาวในชุดราตรีหรูอย่างพึงใจ
คืนนี้คุณคงต้องยืนเมื่อยหน่อยนะ
หญิงสาวอมยิ้ม คงไม่มีอะไรเมื่อยไปกว่าการเดินช็อปปิ้งหรอกค่ะ
และคำตอบของเธอก็ทำให้คนฟังพยักหน้าเห็นด้วยเช่นกัน นั่นสิ ผมก็ลืมไป แล้วก็โอบรอบเอวบางผู้เป็นภรรยาพาเข้างานโดยมีตฤนถือกล่องของขวัญเดินตามไปหาเจ้าของงาน ซึ่งเป็นนักธุรกิจหนุ่มใหญ่ที่เริ่มหันไปลงเล่นการเมืองได้สักระยะหนึ่งแล้ว เมธิกาก็พอจะจำหน้าเขาได้ตามสื่อ และกระพุ่มมือไหว้ทันทีที่สามีแนะนำให้รู้จัก
ผู้เป็นเจ้าของงานกวาดสายตาสำรวจหญิงสาวตรงหน้าเพียงปราดเดียวก็หันไปเอ่ยกับเพื่อนรุ่นน้อง น่ารักแบบนี้นี่เล่า คุณถึงได้เก็บเงียบไม่พาออกงานมาอวดกันเลยนะ
ก็กลัวเขาเหนื่อยน่ะครับ เลยไม่ได้พาออกไปไหนด้วย อชิรตอบยิ้มๆ แล้วก็ชำเลืองสายตามองคนที่ยืนข้างกายที่กำลังปลาบปลื้มกับคำชื่นชม และยืนฟังการสนทนาระหว่างบุรุษทั้งสองไม่นาน ผู้เป็นเจ้าของงานก็ขอตัวไปทักทายแขกรายอื่น และหลังจากนั้น เมธิกาก็ได้พบปะเพื่อนนักธุรกิจของอชิรอีกหลายคน ซึ่งมีทั้งผู้ชายและผู้หญิงที่แวะเวียนเข้ามาทักทายไม่ขาดระยะ จนเธอเริ่มมึนกับการจำชื่อและใบหน้า แต่ก็พยายามแสร้งยิ้มหวานสุดชีวิตเพื่อจะได้ไม่สร้างปัญหาให้กับสามี
เบื่อรึยัง อชิรหันมาถามในตอนหนึ่งที่ว่างเว้นจากการพูดคุย
ไม่หรอกค่ะ..แต่เพื่อนของคุณนี่เยอะจังเลยนะคะ
ส่วนใหญ่ก็รู้จักกันจากการทำงานทั้งนั้นล่ะ
และเมื่อบริกรแบกถาดเครื่องดื่มมาใกล้ ชายหนุ่มก็หยิบแก้วแชมเปญสำหรับเขาและเธอ ก่อนกระซิบบอก อยู่อีกแป๊บเดียวนะ เดี๋ยวค่อยกลับไปกอดเจ้าบ็อบบี้
แม้จะพูดออกมาอย่างนั้น แต่ในแววตาของคนพูดกลับแฝงความนัยบางอย่างที่ทำให้คนฟังร้อนๆหนาวๆ แต่ไม่กี่อึดใจก็ต้องกลับไปให้ความสนใจกับบรรดาเพื่อนนักธุรกิจของเขาอีกครั้ง
และอีกมุมหนึ่งของห้องจัดเลี้ยง บรรดาหนุ่มสาวซึ่งเป็นเพื่อนลูกสาวของเจ้าของงานกำลังจับกลุ่มพูดคุยกันสนุกสนาน และหนึ่งในนั้นมีวรัญญารวมอยู่ด้วย แต่หญิงสาวหมดอารมณ์รื่นเริงไปในทันทีที่เห็นอชิรเดินโอบประคองหญิงสาวหน้าตาแสนธรรมดาผ่านประตูก้าวเข้ามาและแนะนำใครต่อใครว่าผู้หญิงคนนี้เป็น ภรรยา เธอจึงจับจ้องไม่วางตาพลางคิดว่า ถ้าหากผู้หญิงที่เขาแต่งงานด้วยจะสวยเลิศเลอเพอร์เฟ็คเธอก็พอจะทำใจได้ แต่เมื่อได้เห็นตัวจริงแล้วกลับไม่เห็นว่าจะมีอะไรวิเศษวิโสไปกว่าเธอเลย จึงไม่เข้าใจว่าทำไมคนอย่างเขาถึงได้เลือกผู้หญิงคนนี้แทนที่จะเป็นเธอหรือผู้หญิงคนไหนก็ได้ที่ดูเหมาะสมกับเขามากกว่ายัยหน้าจืดคนนี้ และให้ยิ่งเจ็บใจกับท่าทางอี๋อ๋อที่เขาไม่เคยกระทำกับเธอเลยสักครั้ง
ฮึ! รักกันนักใช่มั้ย
วรัญญามองอย่างเข่นเขี้ยวพร้อมกระดกแชมเปญจนหมดแก้ว ก่อนผละเดินออกจากกลุ่มมุ่งตรงไปยังบุคคลทั้งสองหวังหย่อนระเบิดสักลูก สองลูกเป็นการทิ้งทวน เพราะถึงอย่างไรดูท่าแล้วอชิรก็คงไม่หวนกลับมาหาเธออีก ไม่อย่างนั้น คงไม่ปล่อยให้รอแล้วรอเล่าเช่นทุกวันนี้หรอก
อารมณ์ของเมธิกาสะดุดกึกกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เดินนวยนาดมาหยุดยืนตรงหน้า ให้เห็นชัดถึงความสวยงามชนิดที่ทำให้ผู้หญิงด้วยกันยังรู้สึกทึ่ง นั่นก็รวมทั้งเธอด้วย ทว่า..สายตาที่มองสบสามีของเธอนั้นมันก็ช่างหวานหยดย้อยจนน่าหมั่นไส้เสียจริง
สวัสดีค่ะ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ
และหญิงสาวแปลกหน้าก็เอ่ยทักทายสามีของเธอโดยทำเป็นเหมือนไม่เห็นว่ามีใครอีกคนกำลังยืนหัวโด่อยู่นี่..เมธิกาพยายามซ่อนความหงุดหงิดเต็มที่ แต่ไม่อาจซ่อนความหึงหวงที่มีเกินพิกัดได้ เรียวแขนเกี่ยวกวัดยึดเกาะลำแขนของผู้เป็นสามี
ใครหรือคะ แนะนำให้เมย์รู้จักหน่อยสิ ก่อนแสร้งยิ้มให้กับหญิงสาวตรงหน้า
อชิรซ่อนอาการอึดอัด ไม่คิดว่าจะได้เจอกับวรัญญาในงานนี้ แต่ก็ไม่แปลกใจที่เห็นเธอเช่นกัน เพราะลูกสาวคนโตของเจ้าของงานเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันกับเธอ
และยังไม่ทันที่เขาจะเอ่ย วรัญญาก็แนะนำตัวเอง ฉันชื่อวรัญญาค่ะ..แล้วคุณ คงเป็นภรรยาแต่งของคุณอชิรสินะ
อชิรนิ่วหน้ามองผู้พูดอย่างไม่พอใจในประโยคที่ได้ยิน แต่วรัญญาก็ทำเป็นมองไม่เห็น
เมธิกาหยัดยิ้ม พยายามทำใจเย็น ค่ะ ฉันชื่อเมธิกาเป็นภรรยาแต่งของเขา..แล้วคุณล่ะ เป็นเพื่อนร่วมธุรกิจกับเขาหรือคะ
ฉันไม่ใช่เพื่อนร่วมธุรกิจอะไรหรอกค่ะ..เพียงแต่ฉันเป็นเพื่อนอย่างอื่นของเขา
คนกลางเห็นท่าไม่ดีรีบโอบภรรยาหมายพาออกจากงาน ผมว่า เรากลับกันดีกว่านะ
แต่เมธิกายังดึงดัน เพราะรับรู้ถึงกระแสท้าทายระคนหยามหยันจากอีกฝ่ายชัดเจน เดี๋ยวค่อยกลับก็ได้ ฉันเริ่มจะสนุกที่ได้คุยกับคุณวรัญญาแล้ว
นั่นสิคะ..จะรีบกลับไปไหน วรัญญาสำทับพร้อมรอยยิ้มเย็น คนกันเองแท้ๆ
ญาญ่า! อชิรเอ่ยเสียงต่ำจ้องเขม็ง ไม่พอใจกับการล้ำเส้นของอีกฝ่ายที่ยังคงมองอย่างท้าทาย
ทำไมล่ะคะ รึฉันพูดผิดตรงไหน
พูดผิด เมธิกาทะลุขึ้นกลางปล้อง คุณเป็นแค่คนเคยรู้จักเท่านั้น ไม่ใช่คนกันเองอย่างที่พูด แล้วอีกไม่นานแม้แต่ชื่อของคุณ สามีฉันก็คงจำไม่ได้
วรัญญาหน้าตึง ไม่คิดว่าจะถูกเด็กสาวที่ปากยังไม่ทันจะสิ้นกลิ่นน้ำนมยอกย้อนเช่นนี้ ไอ้ที่คิดว่าจะแค่หยิกกัดแบบอ้อมค้อมคงไม่จำเป็นแล้ว สู้ฉะกันซึ่งๆหน้าให้สะใจกันไปเลย มั่นใจตัวเองเหลือเกินนะสาวน้อย หัดดูสารรูปของตัวเองบ้างนะ จืดชืดแบบนี้อีกไม่นานก็คงถูกเขาเขี่ยลงถังขยะแล้ว
คนฟังตัวสั่นเทิ้มกับอารมณ์พลุ่งพล่านที่ไม่เคยประสบ
เมธิกา กลับเถอะ
อชิรยอมรับว่าครั้งนี้ตนเองกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่แก้ไขลำบาก เพราะเขาไม่สามารถทำอะไรวรัญญาได้ท่ามกลางผู้คนที่กำลังเริ่มหันมาให้ความสนใจบ้างแล้ว และผู้เป็นภรรยาก็ดูท่าจะไม่ยอมให้เรื่องนี้มันผ่านไปง่ายๆเช่นกัน เพราะเธอยังคงขัดขืนต่อการนำพาของเขา ในขณะที่สายตาแข็งกร้าวยังจ้องอีกฝ่ายเขม็ง
แน่ะ..สามีให้กลับบ้านแล้วก็อย่าดื้อกับเขาสิ ทำตัวให้เชื่องเข้าไว้ เขาจะได้เลี้ยงเธอเอาไว้ดูเล่นนานๆ
ญาญ่า พอเสียทีซิ! อชิรชักเหลืออด
และในฉับพลัน! เมธิกาก็สาดแชมเปญใส่ใบหน้างามนั้นอย่างจัง ก่อนแค่นเสียงพูด เธอน่ะสิ ถูกทิ้งลงถังขยะ
วรัญญากรี๊ดลั่นและถลันเข้าใส่ซึ่งอีกฝ่ายก็ตั้งท่ารออยู่แล้ว แต่อชิรเข้าขวางก่อนที่ตฤนจะรีบเข้าไปช่วยจับวรัญญาเพื่อยุติความโกลาหลให้นายหนุ่มรีบฉุดรั้งกึ่งลากกึ่งอุ้มร่างของผู้เป็นภรรยาพาออกจากงาน
ปล่อยนะ! เมธิกายังคงดิ้นรนด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด จนอชิรหันมาดุ
อย่าทำตัวเป็นเด็กได้มั้ยเมธิกา คุณไม่อายรึไงที่ถูกมองเป็นตัวตลกน่ะ
หญิงสาวเม้มปากแน่น น้ำตาคลอเบ้า คำก็เด็กสองคำก็เด็ก แล้วมาเอาฉันทำไม ทำไมไม่เลือกนังนั่นล่ะ
เมธิกา มีเหตุผลหน่อยซิ
เออ ก็ฉันมันเด็กนี่ ไม่มีหรอกไอ้เหตุผลน่ะ..แล้วไงล่ะ อีกไม่กี่วันเราก็ต่างคนต่างไปอยู่แล้ว ทำไมต้องพาฉันมาให้แฟนเก่าคุณเยาะเย้ยด้วย รึกลัวว่าฉันจะไม่ยอมไปจากคุณรึไง ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันไปเดี๋ยวนี้เลยก็ได้ ตะโกนใส่หน้าจบก็หันเดินจ้ำอ้าวอย่างไม่รู้ทิศทาง ขอแค่ไปให้พ้นๆหน้าเขาก่อนเท่านั้น และอาการพาลพาโลลุกลามไปถึงร้องเท้าส้นสูงที่ทำให้เดินไม่ถนัดนัก จึงก้มลงถอดหิ้วเดินเท้าเปล่าให้สิ้นเรื่องสิ้นราวขณะที่มืออีกข้างถลกชายกระโปรงยาวลากพื้นขึ้นมาถือ
อชิรถอนใจเฮือก เคยได้ยินมาว่าผู้หญิงนั้นเป็นเพศที่ช่างคิดช่างจินตนาการ สามารถสร้างสรรค์เรื่องเล็กๆเท่ามดให้ขยายวงกว้างจนถึงขนาดเท่าช้างได้ภายในพริบตา..แรกๆก็ไม่เชื่อ แต่ในวินาทีนี้เขาเห็นด้วยเต็มร้อยเลย
เมธิกา..
ชายหนุ่มเดินตามมารั้งแขนเธอไว้แน่น และขณะนั้นตฤนก็ขับรถปราดเข้ามาจอด ก่อนรีบลงไปเปิดประตูให้นายหนุ่มที่กำลังยื้อยุดร่างเพรียวระหงให้เข้ามานั่งภายในรถจนได้
เมธิกายังคงนั่งสะอึกสะอื้น นึกแปลกใจแต่แรกแล้วที่จู่ๆเขาก็ชวนออกงาน ทั้งๆที่เมื่อก่อนเขาไม่เคยสนใจที่จะชวนไปไหนเลยทิ้งให้เฝ้าอยู่แต่กับบ้าน เธอจะทำอะไร จะไปไหนมาไหนก็ไม่เคยสนใจ แต่พอมาในค่ำคืนนี้เขาทำให้เธอรู้ซึ้งแล้วว่าเพราะอะไรเขาถึงไม่แตะต้องเรียกร้องสิทธิ์จากเธอเลยสักครั้ง เป็นเพราะเขามีผู้หญิงคนอื่นที่สวยกว่าคอยปรนเปรออยู่แล้ว แล้วเขาจะมาสนใจอะไรกับผู้หญิงที่แสนจืดชืดอย่างเธอกันเล่า ต่อให้พยายามเรียกร้องความสนใจจากเขามากแค่ไหน สิ่งที่ได้รับตอบกลับมาก็เป็นเพียงแค่ความอับอายและความน่าสมเพชในสายตาเขาเท่านั้น
ในขณะที่อชิรยังคงนั่งสงบนิ่ง ใบหน้าเคร่งขรึมผินมองออกไปนอกกระจกรถ แต่ภายในใจสะท้านไหวต่อเสียงกระซิกสะอื้นที่เริ่มแผ่วลงจากความพยายามสะกดกลั้นของคนที่นั่งข้างกาย และหวังว่า หลังจากที่เธอได้ระบายอารมณ์ออกไปบ้างแล้ว จะมีสติพอที่จะรับฟังและพูดคุยกับเขาให้เข้าใจ
และบรรยากาศอึมครึมชวนอึดอัดของบุคคลทั้งสองแผ่ซ่านไปถึงผู้เป็นสารถี จนต้องเหยียบคันเร่งเพื่อจะได้หลุดพ้นจากสภาวการณ์นี้โดยเร็ว
.............................................................................................. จบตอนค่ะ โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ
จากคุณ |
:
ระรินใจ
|
เขียนเมื่อ |
:
5 ก.ย. 54 12:45:13
|
|
|
|