Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เล่ห์ลายโบตั๋น >>> บทที่ ๓ ติดต่อทีมงาน

บทที่ ๑: http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10877060/W10877060.html

บทที่ ๒:  http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10901629/W10901629.html

...............................................................................................

“นายท่านเพิ่งสั่งคนมาตกแต่งและทำความสะอาด เพื่อต้อนรับนายน้อยโดยเฉพาะเลยขอรับ” พ่อบ้านตงซวนรีบรายงาน เมื่อทั้งหมดเดินผ่านกรอบประตูหกเหลี่ยมบนกำแพงสีขาวเข้ามาสู่เรือนฉีเหลียน

จางเพ่ยหลินเพียงแต่พยักหน้าไม่กล่าวอะไร ขณะที่ก้าวไปตามทางเดินอิฐสีน้ำตาลเข้มที่ยังมีรอยตะไคร้น้ำจับอยู่บางส่วน คล้ายกับตลอดเวลาที่ผ่านมาแทบจะไม่มีใครเข้ามาในนี้ ต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงาทั้งสองฝั่งทางเดินมีร่องรอยของการตัดแต่งกิ่งให้เรียบร้อย  

นางมองไปรอบๆ ตัว ก่อนจะเขม็งมองชายหนุ่มซึ่งนั่งเพียงลำพังอยู่ที่ศาลาริมสระบัว เมื่อเห็นนางมองไป เขาก็ยกจอกในมือขึ้นคล้ายทำความเคารพแล้วกระดกดื่ม ใบหน้าที่ค่อนข้างยาวนั้นแดงกล่ำจากฤทธิ์สุรา

“คุณชายเมิ่งซง ท่านมาอยู่นี่ได้อย่างไรขอรับ” พ่อบ้านตงซวนถาม พร้อมกับเหลือบมองคุณชายใหญ่ที่ตอนนี้ยืนเอามือไพล่หลัง ทอดตามองคุณชายรองนิ่ง เมื่อได้ยินเขาเรียกชื่ออีกฝ่าย คุณชายใหญ่ก็มีรอยยิ้มจางๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่ค่อนข้างขาวผ่องเกินบุรุษทั่วไปทันที

“อ๋อ...เมิ่งซงนั่นเอง คิดว่าใครเสียอีก” คนที่ยืนอยู่ข้างตัวพึมพำรับรู้

“ตงซวน! ที่นี่มันบ้านของข้า ข้าจะอยู่ที่ไหน พ่อบ้านอย่างเจ้ามีสิทธิ์อะไรมาถามข้า” จางเมิ่งซงตะคอกกลับ ก่อนจะละสายตามองคนมาใหม่อย่างท้าทาย ในขณะที่มือเทสุราลงจอกยกดื่มต่อ

“แต่ที่นี่มันเรือนฉีเหลียนเป็นเรือนของ...”

“เป็นแค่บ่าวไพร่อย่าเข้ามายุ่งเรื่องของเจ้านาย” จางเมิ่งซงยกจอกลง ชี้หน้าพ่อบ้านเก่าแก่

“หากคุณนายรู้ว่าคุณชายรองมาระรานพี่ชายถึงที่เรือนหลังนี้ นางคงไม่พอใจเท่าไรนัก” ตงซวนพูดขณะที่ปรายตามองคุณชายใหญ่

สาวใช้ที่ติดตามมาจากซูโหยวเอื้อมจับมือเจ้านายของตนไว้แน่น คล้ายตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า

คนถูกจับมือหันไปยิ้มให้น้อยๆ ดึงมือออกจากการจับกุม พร้อมกับยักไหล่ สีหน้ายังคงราบเรียบ แม้แววตาจะปรากฏรอยโทสะอยู่บางเบาชั่วครู่แล้วหายไป

“ไม่เป็นไรหรอกพ่อบ้านตง” เสียงที่พูดนั้นราบเรียบ ขยับตัวเดินไปยังเรือนที่พักไม่มองคนบนศาลาอีก

“เรือนนี้ก็ไม่มีคนอยู่มานานแล้ว น้องเมิ่งซงจะมานั่งเล่นบ้างในบางครั้งจะเป็นไรไป ถึงต่อไปสมบัติพวกนี้จะตกเป็นของข้าเสียส่วนใหญ่ แต่ถึงอย่างไร...พวกเราพี่น้องก็มีกันเพียงสามคนเท่านั้น จะให้ข้ามาหวงสมบัตินอกกายที่เล็กน้อยแค่นี้ก็ออกจะจิตใจคับแคบจนเกินไป”

“เจ้า!” คนที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้หินอ่อนตบโต๊ะเสียงดัง ลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธ เมื่อถูกกล่าวกระทบด้วยท่าทีเปี่ยมเมตตาเช่นนั้น

มุมปากสีชมพูระเรื่อขยับขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่ยังคงวางสีหน้าเคร่งขรึม ยกมือขึ้นโบกไปมา “ไม่ต้องกล่าวคำขอบใจข้าหรอกเมิ่งซง พวกเราพี่น้องกัน สิ่งที่เจ้าต้องการหากไม่เหลือบ่ากว่าแรงของข้า เจ้าเอ่ยขอ ข้าย่อมให้อยู่แล้ว”

“เหวินอี้! เจ้าไปอยู่กับตระกูลอี้มาตั้งนานจะกลับมาเวลานี้ทำไม คิดจะยึดเอาสิ่งที่ข้าช่วยท่านพ่อหามาด้วยความลำบาก ไปครอบครองคนเดียวอย่างนั้นหรือ” จางเมิงซงถลึงตามองอีกฝ่ายด้วยสายตาดุร้าย “บอกไว้ก่อน ข้าจะไม่ยอมให้ไอ้ลูกของนางผู้หญิงขี้ขโมย มาขโมยสมบัติของข้าไปหมดหรอก สักวันข้าจะต้องไล่เจ้าออกไปให้ได้”

“คุณชายเมิ่งซง! ท่านไม่ควรพูดเช่นนี้กับพี่ชายน่ะขอรับ” พ่อบ้านร้องเตือนด้วยน้ำเสียงจริงจัง แต่กลับต้องหยุดชะงักไปเมื่อคนข้างๆ หัวเราะออกมาเบาๆ

“เจ้าจะยอมหรือไม่ยอมแล้วข้าจะทำอย่างไรได้ ในเมื่อฟ้าลิขิตให้ท่านแม่ของข้าแต่งเข้าตระกูลจางก่อนท่านแม่รองหลายปี จนข้าได้เกิดมาเป็นบุตรคนโตอายุมากกว่าเจ้าถึงห้าปี ถึงข้าจะอยากเห็นแก่ความเป็นพี่น้องของเรา ยกสมบัติทั้งหมดของตระกูลจางให้เจ้าดูแลต่อ แต่เจ้าก็รู้ว่าหากข้าทำเช่นนั้นก็เท่ากับฝ่าฝืนกฏที่บรรพชนของเราตั้งไว้ เจ้าอาจกล้าที่จะได้ชื่อว่าเป็นลูกหลานอกตัญญู แต่ข้ากลับไม่กล้าพอที่จะทำเช่นนั้น” คุณชายใหญ่ตอบโต้ด้วยน้ำเสียงไร้รอยโทสะ มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ปรายตามองมือที่กำจอกสุราแน่นจนซีดขาวของอีกฝ่าย

“ฝูจาง...ซู่เอ๋อ...นั่นคือน้องรองของข้า จางเมิ่งซงบุตรชายของแม่รองเอี้ยงยี่จวนรู้จักกันเสียน่ะ” พูดจบเจ้าตัวก็ขยับตัวเดินต่อ แต่ปากยังบ่นพึมพำต่อไป “พวกเราไปพักผ่อนกันดีกว่า ข้าเดินทางติดต่อกันมาตั้งหลายวัน เนื้อตัวสกปรกไปหมด ข้าอยากอาบน้ำเต็มที”

พ่อบ้านตงซ่วนอ้าปากค้าง คิดไม่ถึงว่าคุณชายจางเหวินอี้ที่มีข่าวว่า มีความสามารถในการเจรจาการค้ายอดเยี่ยมจะทำเรื่องผิดมารยาทจนไม่น่าให้อภัยขนาดนี้

การแนะนำให้รู้จักกันนั้น มีแต่ต้องแนะนำบ่าวไพร่ผู้ต่ำศักดิ์ให้รู้จักกับผู้สูงศักดิ์กว่า แต่คุณชายกลับทำสิ่งที่ตรงข้ามกับมารยาททั่วไป ซึ่งการกระทำเช่นนี้เท่ากับเป็นการหมิ่นเกียรติของคุณชายรองยิ่งกว่าการตบหน้าด้วยฝ่ามือเสียอีก

“เหวินอี้! ทำไมเจ้ากับน้องสาวไม่รีบตายไปพร้อมๆ กับแม่ของเจ้า”

คนที่กำลังเดินชะงักฝีเท้าหันกลับมามอง แม้ริมฝีปากที่ยังมีรอยยิ้มบางๆ แต่สายตาเยือกเย็นที่มองคนพูดกลับทำให้คนถูกมองคอแข็ง

“เจ้าเสียใจหรือที่ข้าสองคนพี่น้องยังมีชีวิตรอดจนมาถึงวันนี้” น้ำเสียงที่ถามเรียบเย็น ขยับไหล่ให้หลุดจากมือของผู้คุ้มกันที่เอื้อมมาจับเพื่อเตือนสติ “พวกข้าสองคนพี่น้องคงไม่ค่อยถูกกับอากาศของอู่ซื่อเท่าไร ทำให้ตั้งแต่เกิดมาจึงล้มป่วยหนักครั้งแล้วครั้งเล่า หมอคนไหนๆ ก็ไม่เคยรักษาหาย แต่พอพวกข้าไปอยู่ที่ซูโหยว สุขภาพกลับดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่เคยล้มป่วยหนักอีกเลย เมิ่งซง...เจ้าคิดว่าเรื่องนี้มันแปลกหรือไม่”

“มันจะแปลกอะไร ก็แค่พวกเจ้ามันเกิดมาอ่อนแอกันเอง เจ้าเอาเรื่องนี้ขึ้นมาพูดถึงทำไม มันเกี่ยวอะไรกับข้า”

“นั่นสิน่ะ... มันเกี่ยวอะไรกับเจ้าด้วย” คนพูดมองอีกฝ่ายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ก่อนจะกระตุกยิ้มที่ทำให้อีกฝ่ายถึงกับหน้าแดงกล่ำ มือกำเข้าหากันแน่น

“คุณชายเจ้าค่ะ” เสียงเรียกร้อนรนปนกระแสอ้อนวอนแผ่วๆ ที่ดังอยู่ข้างตัว ทำให้คนถูกเรียกละสายตาจากคู่สนทนากลับมามองคนเรียก “คุณชายเดินทางมาไกล ไปพักผ่อนด้านในเรือนก่อนเถอะเจ้าค่ะ”

“เข้าไปด้านในเถอะ...คุณชายเหวินอี้” ผู้คุ้มกันหนุ่มช่วยพูดอีกแรง ทำให้คนถูกอ้อนวอนยอมพยักหน้า ปรายตามองคนในศาลาอีกครั้งก่อนจะหันกายเดินตรงเข้าเรือนไม้ตรงหน้า  

พ่อบ้านประจำตระกูลมองคุณชายจางเมิ่งซงที่กวาดไหสุราทั้งหมดบนโต๊ะลงพื้น ก่อนจะผุดลุกขึ้น สะบัดหน้าเดินจากไปด้วยใบหน้าแดงกล้ำจากเพลิงโทสะ แล้วถอนหายใจออกมาด้วยความหวาดหวั่น เมื่อรู้ว่าคนอย่างคุณชายรองย่อมไม่ยอมให้เรื่องจบลงเพียงแค่นี้แน่นอน

(ยังมีต่อ)

แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 54 00:49:51

จากคุณ : w_panda
เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 54 00:44:37




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com