ทรีตเมนต์คือเรื่องย่อแบบลงรายละเอียดแบบแบ่งย่อยเป็นตอนๆ เพื่อให้ควบคุมทิศทางของนิยายได้ดีขึ้น ป้องกันการออกทะเลและยืดเรื่องครับ
จะยกตัวอย่างที่สนพ. แต่งขึ้นตอนทำโครงการมาก็หาไม่เจอ อันนี้เป็นตัวอย่างลองทำจากนิยายแปลของผมฮะ (เรื่อง Legend of the Jumi แต่งโดย Mana Priestess)
บทนำ
เด็กหญิงคนหนึ่งอ่านหนังสืออยู่ในความมืด หนังสือเล่าถึงตำนานของเผ่าจูมิที่มีหัวใจเป็นอัญมณีฝังอยู่กลางอก ว่าได้รับพรจากองค์เทพเจ้าให้มีน้ำตาที่รักษาบาดแผลและความเจ็บป่วยของผู้อื่นได้ (โดยปันพลังชีวิตของตนมาเป็นอำนาจเยียวยา) แต่เมื่อมนุษย์เห็นว่าจูมิมีน้ำตาเยียวยา และมีชีวิตยาวนานเป็นร้อยปี ก็ไล่ล่าแย่งชิงผลึกชีวิตของเผ่าจูมิ เพราะคิดว่าถ้าได้ผลึกมา ตัวเองจะมีชีวิตยืนยาวได้เช่นกัน สุดท้าย เผ่าจูมิจึงหนีไปหลบซ่อนอยู่ในเมืองห่างไกล และสูญเสียอำนาจเยียวยาจนมีจูมิเพียงไม่กี่คนที่ใช้น้ำตาเยียวยาได้ แต่ชาวจูมิก็ยังหวังว่าสักวันเทพเจ้าจะกลับมาช่วยเหลือตนอีกครั้ง
เด็กหญิงอ่านหนังสือจบแล้วก็วางลง และคลายคอเสื้อของตน เผยให้เห็นผลึกบนอก เธอรู้ว่าตัวเองเป็นเผ่าจูมิ แต่ก็ไม่เคยเห็นนครอัญมณีของเผ่าจูมิเลยสักครั้ง
- - - - -
บทที่ 1
ฉาก 1 นักบวชสาวคนหนึ่งกำลังจะหนีออกจากวิหาร แต่เธอพบชายนักเดินทางถูกทำร้ายอยู่บนเส้นทางบนผา เขามีแผลยาวบนศีรษะ และที่อกก็มีผลึกสีฟ้าติดอยู่ นักบวชสาวจึงรู้ว่าเขาคือเผ่าจูมิ เธอได้ยินเสียงของคนที่ตามหาเธอ และเรียกชื่อเธอว่า "ซานดร้า" ดังอยู่แว่วๆ เพื่อช่วยชีวิตชายจูมิ ซานดร้าจึงล้มเลิกการหนี และตั้งใจว่าอยู่ช่วยชีวิตชายหนุ่ม ไม่ให้ใครรู้ว่าเขาเป็นเผ่าจูมิเด็ดขาด
ฉาก 2 เล่าว่าชายจูมิคนนั้นใช้เวลาฟื้นตัวอยู่หลายวัน แล้วก็ตื่นขึ้นมาคุยกับซานดร้า (สวมชุดนักบวชสีขาว ปิดหน้า เห็นแต่ดวงตา ส่วนชายคนนั้นผมสีดำ ตาสีฟ้าสว่าง) เขาบอกว่าตนชื่อเอลาซัล เป็นนักเดินทางพเนจร ซานดร้าทำเป็นไม่รู้ว่าเอลาซัลเป็นชาวจูมิ และพูดเล่นให้เอลาซัลหายกังวล ด้านเอลาซัลก็ไม่บอกความจริงออกไป แต่ชมว่าซานดร้าเป็นหมอที่เก่งมาก หลังจากนั้นไม่กี่วัน เอลาซัลก็เก็บของเดินทางออกไปโดยไม่บอกใคร รวมทั้งซานดร้า
ฉาก 3 ซานดร้าคิดถึงเรื่องของเอลาซัลกับนครอัญมณี สุดท้ายเธอก็เขียนจดหมายสั้นๆ จ่าหน้าซองถึง "เอ. เรย์นาร์ด" ทิ้งท้ายบทว่าสามปีผ่านไป ก่อนซานดร้ากับเอลาซัลจะไ้ด้พบกันอีกครั้ง
- - - - -
บทที่ 2
ฉาก 1 ในนครอัญมณีของเผ่าจูมิ ตอนดึกสงัด เอลาซัลเดินเล่นอยู่เพียงลำพัง พร้อมกับคิดถึงสภาพของเมืองที่เงียบเหงา มีผู้คนลดน้อยลงเพราะล้มตายจากโรคภัยหลังขาดแคลนอำนาจเยียวยา และความไม่สงบใจของตัวเขาเองที่เคยออกไปจากเมืองเพราะไม่ต้องการยอมรับผู้พิทักษ์ (แทรกข้อมูลเรื่องระบบสังคมจูมิ การจับคู่ผู้พิัทักษ์กับอัศวิน) จู่ๆ เขาก็รู้สึกได้ว่ามีคนสะกดรอยตามตนมา จึงหันไปพบเด็กหนุ่มคนหนึ่ง โพกผมแต่งตัวเหมือนโจร เอลาซัลถามว่าเขาเป็นใคร ทำไมจึงสัมผัสถึงผลึกชีวิตไม่ได้ เด็กหนุ่มคนนั้นบอกว่าเขาชื่ออเล็กซ์ ส่วนผลึกของเขานั้นตอนกลางคืนจะไม่ส่องแสงและมีพลังน้อยลง เด็กหนุ่มบอกว่าเขาเพิ่งกลับเข้าเมืองมาได้ไม่นาน ต้องการเรียนดาบกับเอลาซัลเพื่อทดสอบเป็นอัศวิน เอลาซัลรับจะสอนใ้ห้ แม้จะดูไม่สนใจเท่าไร
ฉาก 2 เวลาผ่านไปหลายเดือน เอลาซัลเริ่มสนิทกับอเล็กซ์มากขึ้นเพราะเห็นอีกฝ่ายมุ่งมั่นตั้งใจ วันหนึ่งเอลาซัลไปพบอเล็กซ์นอนแผ่กลางลานซ้อมเพราะเป็นตะคริว เลยเข้าไปคุยด้วย อเล็กซ์เล่าให้ฟังว่าเขาฝันประหลาด เห็นตนเองอยู่ในหอคอยกับพ่อ พ่อบอกเขาว่านี่คือหอคอยต้องห้าม ชื่อหอคอยเลย์เรส เข้าได้เฉพาะผู้ที่ได้รับเลือก ในตอนนั้นมีเทวดาปีกขาวถือดาบที่มีเปลวไฟปรากฏขึ้นมา เอลาซัลบอกว่ามีหอคอยชื่อนั้นอยู่จริง อเล็กซ์จึงได้คิดว่าพ่อของเขาอาจจะเคยไปที่นั่น และเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง จึงได้เก็บมาฝัน เอลาซัลเริ่มนับถือความมุ่งมั่นของอเล็กซ์มากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่าอเล็กซ์เป็น... (ละเอาไว้)
ฉาก 3 เอลาซัลชวนอเล็กซ์ออกเดินทางไปยังโลกภายนอก แต่อเล็กซ์บอกว่าเขายังไม่ได้ทดสอบเป็นอัศวิน เอลาซัลจึงบอกว่าจะให้อเล็กซ์ไปทดสอบในเดือนนี้ การทดสอบยากอยู่ และรูเบ็นส์ที่เป็นหัวหน้าสภาอัศวินก็ตรวจผลเข้มงวด แต่อเล็กซ์จะต้องผ่านแน่ อเล็กซ์จึงถามว่า "ท่านหญิงแบล็คเพิร์ล" จะทดสอบเขาด้วยไหม เอลาซัลแปลกใจ แต่ตอบว่าคงไม่ เพราะท่านหญิงมีงานยุ่งอยู่แล้ว อเล็กซ์บอกว่าเขาอยากพบท่านหญิงแบล็คเพิร์ล เพราะได้ยินว่าเธอเป็นจูมิที่มีอายุยืนยาวที่สุดในเมือง แต่กลับดูสาวเหมือนอายุเพียงยี่สิบกว่าๆ เท่านั้น
นอกจากนี้อเล็กซ์ยังบอกว่าเขาอยากทดสอบเป็นอัศวินชั่วคราวของเจ้าหญิงฟลอริน่า องค์คลาริอุส หรือผู้หลั่งน้ำตาเยียวยาคนสำคัญของเผ่า เนื่องจากแบล็คเพิร์ลที่เป็นอัศวินของเธอมีภารกิจนอกเมือง เอลาซัลบอกว่าจะทดสอบดูก็ได้ อเล็กซ์พึมพำว่าเขาได้ยินว่าเจ้าหญิงกำลังจะตาย เอลาซัลจึงรับเรียบๆ ว่าคงใช่ แต่พยายามไม่คิดอะไรกับปัญหาที่เขาแก้ไขไม่ได้นัก แม้อเล็กซ์จะบอกว่าไม่ยุติธรรม เอลาซัลก็บอกว่าต่อให้เจ้าหญิงกำลังจะตาย ผู้ที่ใช้น้ำตาเยียวยาได้ก็ยังมีน้อยจริงๆ เจ้าหญิงจึงต้องรักษาตำแหน่งต่อไป อเล็กซ์จึงบอกว่าเจ้าหญิงมีใจดีงามนัก และเอลาซัลที่ไม่อยากพูดเรื่องนี้ก็หันมาถามว่าอเล็กซ์จะออกไปกับเขาไหม
เมื่ออเล็กซ์ตอบรับ เอลาซัลก็นึกถึงเรื่องในอดีตวันหนึ่ง ซึ่งเขาไปหาอเล็กซ์ที่บ้าน และถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไป (ชาวจูมิไม่มีขโมย เลยไม่จำเป็นต้องล็อกประตู) เขาไม่พบอเล็กซ์ แต่เห็นจดหมายฉบับหนึ่งวางอยู่ จ่าหน้าถึงซานดร้า เขียนว่า
"อัศวินจูมิตาสีฟ้าของเธอกลับถึงนครอัญมณีแล้ว ฉันได้พบเขาด้วย เขาหล่อดี แต่เธอคงไม่ได้ชอบเขาจริงๆ ใช่ไหม เธอก็รู้ว่าเราสองคนสมกันดีออก"
จดหมายนั้นลงท้ายชื่อ เอ. อาร์. เอลาซัลจึงได้แต่ตั้งคำถามว่าอเล็กซ์เป็นใคร รู้จักกับซานดร้ายังไง และมาที่นี่เพื่ออะไร นอกจากนี้อเล็กซ์คิดยังไงกับนครอัญมณีของเผ่าจูมิที่ใกล้สิ้นสูญ จะคิดว่าเป็นนครแห่งความพินาศที่ส่องแสงแพรวพราวหลอกตาหรือเปล่า
(จบบท 2 ต่อบทที่ 3...)
- - - - -
ตัวอย่างก็ประมาณนี้ครับ ใส่รายละเอียดสำคัญและทิศทางฉากให้ตัวเราเข้าใจ หรือถ้าทำงานร่วมกับบก. หรือมีเพื่อนช่วยวิจารณ์็ก็พวกเขาเข้าใจด้วย มันจะช่วยให้คุมเนื้อเรื่องได้มากกว่าเขียนตะลุยไปเรื่อยๆ และทำให้หาจุดตัดจบตอนแบบลุ้นได้ดีขึ้นครับ
จากคุณ |
:
Anithin
|
เขียนเมื่อ |
:
9 ก.ย. 54 15:28:01
|
|
|
|