Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
หนุ่มไม้ขวดกับสาวไม้ดอก ติดต่อทีมงาน


“นี่คือปลาทับทิมนึ่งมะนาวหรือเจ้าคะ อร่อยดี” หญิงสาวผู้มาเยือนยามเย็นพูดไม่หยุดขณะทานอาหารเย็น เอกรัตน์ยอมยกข้าวและกับข้าวที่มีให้หญิงสาวผู้มาจากต่างดินแดนส่วนตัวเขายอมกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเอง “ท่านพ่อเคยบอกกับลิเซียว่า คนที่ชอบทำอาหาร รักเสียงเพลง และรักต้นไม้ไม่ใช่คนเลว ลิเซียจึงไม่กลัวท่านทำมิดีมิร้ายอย่างไรละเจ้าคะ” ว่าแล้วเจ้าหล่อนก็ตักข้าวคำโตเข้าปาก

ผู้หญิงคนนี้ชื่ออลิเซีย เจ้าหล่อนอ้างว่ามาจากดินแดนอื่นด้วยเวทมนตร์อะไรสักอย่าง เขาไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับเวทมนตร์มากนักแต่หญิงสาวสามารถทำให้ต้นไม้เติบโตได้อย่างรวดเร็ว เขาจึงยอมหาวิธีเพาะพันธุ์ต้นกุหลาบแก้วตามความต้องการของหล่อนเพื่อแลกกับการเร่งการเติบโตให้กล้วยไม้ เพราะชุดที่หญิงสาวนำมาจากต่างโลกเป็นผ้าดิบทอมือ ด้วยเนื้อผ้าและลักษณะตะเข็บที่ไม่เหมือนกับเสื้อผ้าในยุคปัจจุบันเขาจึงให้ยืมเสื้อกับกางเกงเก่าๆใส่ไปก่อน

“แอ้วอ้าน...ท่านปลูกต้นไม้ใส่ขวดขายหรือเจ้าคะ” อลิเซียกลืนข้าวลงคออย่างยากเย็น

“บอกให้เรียกชื่อ ประเดี๋ยวก็มีคนสงสัยหรอก” เอกรัตน์พยายามให้หญิงสาวทำตัวเหมือนคนบนโลกนี้โดยเริ่มตั้งแต่การพูดก่อน “เขาเรียกการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เป็นการเอาเนื้อเยื่อเล็กๆของต้นไม้มาปลูกบนอาหาร วุ้นที่ใช้เลี้ยงจะมีสารอาหารเหมือนดินแต่สะอาดกว่า ไม่เหมือนกับการปลูกด้วยดินในกระถาง”

“ท่าทางจะง่าย ขอลองทำได้ไหม” หญิงสาวเขี่ยก้างปลาไปรวมกันที่ขอบจาน

“ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก ถ้าทำไม่สะอาดพอจะมีเชื้อโรคเข้าไปอยู่ข้างในขวดด้วย และก็จะแย่งอาหารของเนื้อเยื่อพืชไปหมด” เจ้าของบ้านเก็บจานเตรียมออกไปแช่รอล้าง เขายังไม่เชื่อใจให้อลิเซียทำงานบ้านในตอนนี้ โชคดีที่หล่อนพกกำไลทองคำมาเพื่อเปลี่ยนเป็นเงินในโลกนี้อยู่แล้วจึงหมดปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย “พรุ่งนี้จะพาไปซื้อเสื้อผ้ากับเครื่องใช้ที่ตลาดนัดในเมือง ขอเวลาขนของหน่อย จะให้นอนในห้องเก็บของ”

ในที่สุดเอกรัตน์ก็ขนสิ่งของและสมบัติบ้าส่วนหนึ่งจากห้องเก็บของไปวางไว้ในห้องพระจนได้ที่ว่างมากพอให้หญิงสาวนอนได้ โชคดีที่ก่อนช่วงสงกรานต์เขาทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่จึงไม่ค่อยมีฝุ่นมากนัก ภายในห้องเก็บของเล็กๆถูกปูด้วยเสื่อและฟูกเก่าๆให้หลับนอนได้อย่างไม่ติดขัด เพราะผ้าห่มของหญิงสาวเป็นผ้าหนาไม่เหมาะกับอากาศเดือนเมษาเขาจึงหาผ้าห่มผืนใหม่ให้

“เขาเรียกว่าไฟฟ้าหรือ ในดินแดนของลิเซียไม่มีของแบบนี้หรอก” อลิเซียเปิดปิดสวิตช์ไฟเล่นอย่างสนุกสนาน เจ้าของบ้านคิดว่าจะต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะสอนให้หญิงสาวทำงานบ้านได้โดยไม่ต้องใช้เวทมนตร์ให้คนอื่นสงสัย

“พรุ่งนี้จะสอนวิธีใช้เครื่องดูดฝุ่นให้ จดไว้แล้วใช่ไหมว่าใครถามว่าเป็นใครให้ตอบอย่างไร” เอกรัตน์แอบขนกองหนังสือนิยายเก่าๆไปไว้ในห้องเพราะอยากอ่านซ้ำขึ้นมา

“จำได้แล้วเจ้าค่ะ ลิเซียมาจากอเมริกา เป็นเพื่อนทางจดหมายของเอก มาเพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมของไทย ชอบต้มยำกุ้งกับผัดไทยมาก” หญิงสาวพูดตามที่เขาบอกให้พูดได้ทั้งหมด “แล้วอเมริกามันใหญ่แค่ไหน ต้มยำกุ้งมันอร่อยมากไหมเอก”

“เดี๋ยวพรุ่งนี้ทำต้มยำปลาทับทิมให้กินก็ได้ เหมือนต้มยำกุ้งแต่อร่อยกว่า” พรุ่งนี้เป็นวันพระเขากำลังคิดอยู่พอดีว่าจะทำอะไรไปวัด “ใช้ห้องน้ำกับตู้เย็นเป็นแล้วใช่ไหม เอกจะเข้าห้องแล้วนะ” ชายหนุ่มรีบไปตรวจดูประตูบ้านว่าปิดล๊อกเรียบร้อย เจ้าดัมมี่ก็ถูกจับให้นอนข้างนอกแล้ว ตอนนี้ก็ใกล้สามทุ่มเข้าไปทุกที ได้เวลาคุยกับวรรณวิศาอีกครั้งก่อนวางแผนงานพรุ่งนี้แล้วเข้านอน...


เช้าวันรุ่งขึ้นเริ่มต้นด้วยความวุ่นวายเกินเหตุ จะว่ายุ่งกับการเตรียมของทำบุญก็ไม่ใคร่ถูกนัก เนื่องจากอลิเซียซึ่งตื่นเช้าเช่นกันมายืนดูว่าคุณเจ้าของบ้านกำลังทำอะไรอยู่ ประเดี๋ยวก็ตักข้าวใส่ขันเงินใบย่อมๆ ประเดี๋ยวก็หันไปตักกับข้าวใส่หม้อ อีกเดี๋ยวก็วิ่งไปตัดดอกไม้ที่ลานหน้าบ้าน ความจริงหญิงสาวไม่ได้เข้ามาถามให้เสียเวลาแต่เจ้าหล่อนคอยเดินตามไปดูให้รู้สึกรำคาญเท่านั้น

“เขาเรียกว่าทำบุญ ศาสนาของเอกเขาว่าเราควรทำบุญเพื่อทำให้จิตใจสงบ ที่โลกของลิเซียไม่มีศาสนาหรือ” เอกรัตน์ตรวจของในตะกร้าทำบุญแล้วรีบไปหยิบที่กรวดน้ำมาใส่เพิ่ม

“ไม่มี ดินแดนที่ลิเซียอยู่ทำพิธีบูชาเทพตอนช่วงเพาะปลูกกับเก็บเกี่ยวเท่านั้น ยกเว้นผู้วิเศษที่จัดงานฉลองตอนขึ้นฤดูใบไม้ผลิด้วย”

“เดี๋ยวเอกจะกลับมาตอนเข็มสั้นชี้เลขเก้าเกือบเลขสิบ” เอกรัตน์ตักข้าวให้สาวน้อยแล้วสอนวิธีดูเวลาให้อย่างคร่าวๆ “ห้ามออกไปจากบ้าน ห้ามใช้เวทมนตร์ ห้ามทำอะไรแผลงๆ” ชายหนุ่มเสริมแล้วเข็นจักรยานยนต์ออกไปข้างนอกเพื่อไปยังวัดใกล้ๆ...

เมื่อกลับมาจากทำบุญเอกรัตน์ก็ต้องกุมขมับ อลิเซียไม่ได้ทำอะไรเละเทะเหมือนดัมมี่ สิ่งที่หญิงสาวทำก็แค่ใช้เวทมนตร์ทำความสะอาดห้องนอนจนสะอาดไร้กลิ่นอับแม้แต่รอยเปื้อนที่กำแพงก็ยังหายไปด้วย โชคดีที่เวทมนตร์ของหญิงสาวไม่ส่งเสียงและไม่มีแขกมาเยี่ยมเยียนในเวลาดังกล่าว

“ที่บอกว่าไม่ให้ใช้เวทมนตร์เพราะเดี๋ยวคนอื่นจะสงสัย คนในโลกนี้เหมือนสัตว์ป่านะ ถ้าคนอื่นรู้ว่าใช้เวทมนตร์ได้ก็จะหลอกให้ทำในสิ่งที่เขาต้องการโดยไม่ได้รับสิ่งตอบแทน อย่างเปลี่ยนเหล็กให้เป็นทอง ฆ่าคนที่ไม่ชอบหน้า หรือไม่ก็ถูกจับผ่าสมองดูว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า”

“แต่เอกก็ให้ลิเซียอาศัยอยู่ด้วยแถมยังจะช่วยเพาะต้นกุหลาบแก้วให้อีก เอกเป็นคนดีออก”

“ถึงได้ขอกำไลทองไปขายเป็นค่าใช้จ่ายอย่างไรละ นี่ก็กำลังจะสอนวิธีทำงานบ้านแบบคนในโลกนี้ให้...ไม่รู้สึกเสียดายกำไลทองอันนั้นหรือ” เอกรัตน์มุ่ยหน้า ตกลงสาวน้อยคนนี้ใสซื่อหรือกร้านโลกกันแน่

“ตอนก่อนลิเซียเดินทางมาที่นี่ ท่านพ่อของลิเซียนำกองทัพไปปราบโจรภูเขา สมบัติส่วนหนึ่งที่ริบมาได้ถูกแจกจ่ายไปยังผู้คนยากไร้ อีกส่วนหนึ่งที่ได้รับการทดสอบแล้วว่าปลอดภัยถูกเก็บเข้าคลังหลวงและมอบให้เหล่าเจ้าหญิง นอกจากกำไลอันนั้นแล้วลิเซียยังมีอย่างอื่นอีกนะที่ริบมาได้ จะเอาบ้างไหมลิเซียไม่เสียดายหรอก”

เอกรัตน์ยิ้มแห้งๆ กำไลทองสูงค่าที่หญิงสาวขอให้นำไปแลกเป็นค่าใช้จ่ายนั้นตอนแรกคิดว่าคงเป็นสมบัติของพ่อหรือแม่ของหญิงสาว ที่ไหนได้เป็นของโจรที่พ่อของหล่อนริบมาได้นี่เอง มิน่าเล่าตอนที่เจ้าหล่อนมอบให้จึงไม่แสดงอาการเสียดายแม้แต่น้อย แต่ยิ่งสงสัยว่าพ่อของอลิเซียมีฐานะเป็นอะไรกัน ไปปราบจอมมารแถมยังนำกองทัพปราบโจรอีก เท่าที่เห็นอลิเซียเป็นคนมีไหวพริบ ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็รู้วิธีใช้เครื่องดูดฝุ่น ไม้ถูพื้น และการจัดการกับปลั๊กไฟได้แล้วแต่ยังดูกล้าๆกลัวๆเมื่อต้องกดปิดสวิตช์ปลั๊กสามตาเท่านั้น เมื่อสอนเกี่ยวกับทีวีเสร็จก็ถึงเวลาออกไปซื้อเครื่องใช้ให้อลิเซียเพื่อจะได้ซื้อมันฝรั่งมาเพิ่มด้วย

จะว่าเป็นโชคหรือเคราะห์ก็ไม่อาจรู้ได้ ไตรภพน้องชายของเขาขับรถมาเทียบหน้าบ้าน เป็นรถกระบะสีครีมที่น้องชายยืมไปใช้ทำงานเมื่อเดือนก่อน เอกรัตน์รีบคว้ากุญแจออกไปเปิดประตูรับน้องชาย หากมีรถใหญ่เขาย่อมพาอลิเซียไปซื้อของได้โดยไม่เป็นที่สังเกต ชายหนุ่มที่เพิ่งรับปริญญามาหมาดๆยิ้มเผล่ให้พี่ชายแล้วโยนกุญแจรถคืนแต่โดยดี

“มีแขกหรือพี่เอก...” น้องคนสุดท้องของบ้านทักก่อนจะก้มตัวลงไปลูบหัวหมาน้อยเล่น เอกรัตน์หันหลังมองผ่านประตูบ้านเข้าไป อลิเซียซ่อนตัวอย่างมิดชิดตามคำสั่งของเขาแน่ๆแล้วนี่นา “บอกหล่อนด้วยว่าพวกเมื่อคืนคงไม่กล้ามากวนอีกแล้ว มันจะส่งผลต่อสมดุลของโลกนี้อย่างยิ่งยวด เพราะฉะนั้นได้โปรดอย่าทำแบบนั้นอีก”

เอกรัตน์ถอนหายใจแล้วเดินกลับไปพาอลิเซียมาแนะนำตัว น้องชายของเขามีสัมผัสพิเศษมากกว่าคนอื่น ถึงแค่ครึ่งๆกลางๆแต่ไตรภพก็สามารถรับรู้เกี่ยวกับวิญญาณและคำโกหกได้ เขากับน้องสาวแทบไม่อยากเชื่อว่าคนที่มีสัมผัสพิเศษอย่างนี้จะไปเอาดีทางด้านวิศวกรรม

“เมื่อคืนมีอะไรหรืออลิเซีย ไหนบอกว่าหลับสบายดีนี่” เอกรัตน์กระซิบถาม

“ตอนลิเซียกำลังจะหลับได้ยินเสียงประหลาดๆรอบห้องแถมเห็นเงาดำท่าทางน่ากลัวอีก ลิเซียก็เลยเรียกซีซาร์มาช่วย” หญิงสาวร้องเบาๆอย่างร่าเริงทั้งที่เพิ่งพบปรากฏการณ์วิญญาณมา “ซีซาร์สามารถกินวิญญาณได้ พวกที่มากวนเห็นท่าไม่ดีเลยเผ่นกันวุ่น แล้วลิเซียก็หลับสบายจนถึงเช้า” เอกรัตน์ไม่รู้ว่าซีซาร์ที่ว่าเป็นตัวอะไรแต่คิดว่าจะถามทีหลัง

“มาจากอเมริกาหรือ ถ้าพูดแบบนั้นก็ต้องว่ากันตามนั้น” ไตรภพมองตาสีมรกตแล้วยิ้มอย่างเป็นกันเอง “แต่อย่าไปหลงใหลใฝ่ฝันสาวข้างบ้านนักนะพี่เอก ไหนๆมีหลงมาแล้วก็ทำตัวเป็นสมภารกินไก่วัดหน่อยเป็นไร”

เจ้าของบ้านปรามไม่ให้เสียมารยาทกับแขกคนสำคัญก่อนจะไล่น้องชายคนสุดท้องให้กลับบ้านเสียแต่โดยดีเขาจะได้เอาเวลาไปทำมาหากินต่อ เผื่อวรรณวิศามาเห็นจะได้ไม่เข้าใจผิดเรื่องเขากับอลิเซียด้วย ตอนนี้ในใจของเขามีแต่สาวร้านขายต้นไม้เท่านั้น

“ค่าปิดปากล่ะพี่เอก” ไตรภพยิ้มแป้นเหมือนเด็กน้อยกำลังอ้อนขอขนมจากพี่ชาย แววตาขี้เล่นฉายประกายออกมาเหมือนเด็กๆ “คงยังไม่อยากให้เรื่องนี้รู้ไปถึงหูของพี่วีกับแม่ใช่ไหมเอ่ย”

“จะเอาสร้อยทับทิมหรือกำไลทองล่ะ” อลิเซียโผล่งออกมาทันควันแต่ไตรภพส่ายหัวช้าๆ

“ไปนั่งรถเล่นด้วยกันไหม” คำตอบของไตรภพทำให้คุณเจ้าของบ้านกระอักกระอ่วนใจพิกล มีคนช่วยพาหญิงสาวไปซื้อของเป็นเรื่องดีแต่ปัญหาก็คือตัวอลิเซียที่ยังไม่คุ้นกับโลกที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีอย่างนี้ แถมถ้าคนนอกรู้เรื่องเวทมนตร์คงกลายเป็นเรื่องใหญ่แน่

“แค่เอาไปเป็นตุ๊กตาหน้ารถหรอกน่า รับรองว่าไม่พาไปทำอะไรแปลกๆเด็ดขาด ถ้าอยากได้อะไรก็จะซื้อให้ทุกอย่าง”

“จะไปไหมอลิเซีย เจ้านัทไว้ใจได้อยู่หรอก”

สุดท้ายเอกรัตน์ก็ยอมให้น้องชายพาอลิเซียไปซื้อของแค่สองคน เขาหวังว่าเงินที่ให้ไปคงพอซื้อของที่จำเป็นได้และความลับของหญิงสาวคงไม่แตกออกมา หากคนอื่นรู้ความลับของอลิเซียคงมีแต่คนหวังใช้ประโยชน์จนจุดหมายของเขาต้องล่าช้าลงแน่ คิดแล้วเขาก็ยกมือไหว้ศาลพระภูมิขอให้อลิเซียมาพักอยู่ที่นี่อย่างปลอดภัยและสงบสุข เผื่อเกิดเหตุการณ์ทางวิญญาณแบบเดิมอีกสาวเจ้าจะได้ไม่หนีกลับบ้านไปเสียก่อน

หลังจากเก็บล้างจานเสร็จเอกรัตน์ก็เปลี่ยนน้ำให้สัตว์เลี้ยงก่อนไปทำงานประจำต่อ เขาจะต้องเตรียมอาหารเลี้ยงสำหรับกล้วยไม้และกุหลาบเพิ่มเพราะของเก่าใกล้หมดแล้ว เมื่ออลิเซียกลับมาจากซื้อของจะได้เริ่มการเตรียมวุ้นอาหารเลี้ยงกล้วยไม้ได้ทันที...


บ่ายสามโมงกว่าๆงานเตรียมสต๊อกอาหารเลี้ยงสำหรับกล้วยไม้และกุหลาบก็เสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์ ขวดสีชาสามขวดที่ติดป้ายไว้เรียบร้อยถูกเก็บไว้ในตู้แช่สารโดยเฉพาะ พอดีกับรถกระบะคู่ใจของเขาแล่นมาเทียบหน้าประตูบ้านพร้อมรถยนต์อีกคันหนึ่ง

“เอาดัมมี่ออกมาได้เลยใช่ไหม” ไตรภพอุ้มหมาน้อยออกจากคอกกั้นข้างรั้วบ้านหลังจากถอยรถเข้ารั้วบ้านมาแล้ว “ไปก่อนนะดัมมี่...ไปก่อนนะครับพี่เอก แล้วเจอกันนะลิเซีย” ชายหนุ่มบอกลาพี่ชายและหญิงสาวก่อนรีบออกไปขึ้นรถยนต์ที่รออยู่นอกรั้ว ถามได้ความว่านั่นเป็นรถของเพื่อนที่มารอรับไปเลี้ยงฉลองเนื่องจากเขาได้งานทำ

“ไตรภพพาไปเที่ยวที่ร้านอะไรสักอย่างด้วย เพื่อนของไตรภพตกใจใหญ่เลยตอนที่เห็นลิเซีย” อลิเซียหอบถุงพลาสติกและถุงผ้าออกมาจากเบาะหลัง “แต่เขาไม่ให้อลิเซียพูดอะไรเลย วางใจได้”

“ซื้อมันฝรั่งมาหรือเปล่า” เอกรัตน์ไปช่วยหญิงสาวถือของแล้วมองหาสิ่งที่ฝากซื้อ เกือบทั้งหมดเป็นสิ่งของของอลิเซีย มีตั้งแต่แปรงสีฟัน ผ้าเช็ดตัว เสื้อผ้า รวมไปถึงชุดชั้นในและผ้าอนามัย “สมกับเป็นเจ้านัท แม้กระทั่งแปรงสีฟันก็ยังซื้อมาให้ด้วย” เขาแหวกปากถุงดูของข้างในจนเจอสิ่งที่ต้องการ มันเทศสามกิโลกับกล้วยหอมสองหวี ความจริงเขาสั่งไปหวีเดียวแต่บางทีอลิเซียอาจอยากกิน

“เขาสอนลิเซียแปรงฟันกับใส่เสื้อชั้นในด้วย ยังบอกให้ลิเซียใส่ให้เอกดูด้วยนะ เป็นคนลามกแต่ตลกดี” หญิงสาวอุ้มหมาน้อยแล้วขยี้ขนสีดำยุ่งเหยิงอย่างมันมือ “แถมยังพาลิเซียไปขายกำไลอีก ขายไปแค่สองวงได้เงินมาเป็นฟ่อนเลย...แต่ไตรภพบอกให้ลิเซียเก็บไว้เองสักครึ่งหนึ่งเอกจะได้เอาไปถวายสาวข้างบ้านไม่ได้” ว่าแล้วสาวน้อยก็ควักปึกแบงค์พันออกมาจากกระเป๋ากางเกงทำเอาเจ้าของบ้านอ้าปากค้างไม่อยากเชื่อว่าแค่กำไลทองสองอันจะขายได้เงินเยอะขนาดนี้

“สองหมื่นหกพันบาท...ต้องนั่งหลังขดหลังแข็งตัดเสียบลงขวดเป็นเดือนกว่าจะได้เท่านี้” คุณเจ้าของบ้านนับจำนวนเงินที่ได้รับมาเป็นค่าใช้จ่ายแล้วถอนใจ อาจเป็นเพราะราคาทองคำสูงขึ้นจึงขายได้มากขนาดนี้ “อยากได้หรืออยากกินอะไรก็บอกถ้าพอหาได้จะหาซื้อมาให้ เพราะในโลกนี้เงินคือพระเจ้า” ชายหนุ่มตกลงใจไม่เอาเงินของหญิงสาวไปใช้จ่ายนอกลู่นอกทาง หากหญิงสาวรู้เข้าเขาคงต้องจบชีวิตน้อยๆลงเป็นแน่

“เนื้อย่าง” อลิเซียนั่งแหมะบนโต๊ะรับแขกแล้วหยิบของออกจากถุงพลาสติกทีละอย่างๆ “ลิเซียชอบกินเนื้อย่างมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว ท่านพ่อของลิเซียก็เคยเล่าว่าตอนท่านแม่ท้องลิเซียท่านอยากกินเนื้อย่างมากที่สุด”

“เอาไว้ตอนเย็นจะไปซื้อมาให้” เขานึกถึงร้านขายอาหารปิ้งย่างที่เคยไปกินอยู่เนือยๆ “ตอนนี้เอาของไปเก็บเสียก่อน เสื้อผ้าเอาไปใส่ไว้ในตะกร้าเดี๋ยวจะสอนวิธีใช้เครื่องซักผ้า ส่วนแปรงสีฟันเอาไปเก็บในห้องน้ำ อย่าใช้สับกันล่ะ”

ชายหนุ่มนำเงินที่ได้รับไปเก็บไว้ในห้องนอนแล้วกลับไปทำงานต่อ เขารีบปอกมันฝรั่งจากนั้นก็สับก่อนนำไปปั่นด้วยเครื่องปั่น กล้วยหอมสุกก็มีชะตากรรมที่จะต้องถูกปั่นเป็นชิ้นเล็กๆเหมือนกัน ในระหว่างที่เขาเดินไปทำอาหารกล้วยไม้ในห้องทำงานหญิงสาวที่จัดของเสร็จแล้วก็เดินมาดูอย่างสงบว่ากำลังทำอะไรอยู่

“เอกกำลังทำอาหารเลี้ยงสำหรับกล้วยไม้ มันต้องใช้มันฝรั่งกับกล้วยหอมด้วย” เอกรัตน์รีบชั่งน้ำหนักของสองอย่างให้ได้ตามสูตรแล้วโยนลงเหยือกพลาสติกขนาดหนึ่งลิตร จากนั้นก็เติมน้ำมะพร้าวและน้ำตาลทรายตามลงไปเหมือนทุกครั้ง

“ทำอะไรกินหรือ ท่าทางน่าอร่อย” อลิเซียทำให้เขาเบ้หน้า สิ่งที่อยู่ในเหยือกพลาสติกมีสีน้ำตาลอ่อนๆไม่มีความน่ากินแม้แต่น้อย

“ก็บอกว่ากำลังทำอาหารเลี้ยงกล้วยไม้” คุณเจ้าของบ้านเทน้ำและหย่อนแท่งแม่เหล็กตามลงไปก่อนจะยกเหยือกไปตั้งไว้บนแท่นแม่เหล็กที่ไว้ใช้คนสาร ของเหลวเจือจางในเหยือกหมุนวนอย่างรวดเร็วทำให้หญิงสาวมองไม่ละสายตา “อาหารกล้วยไม้พิเศษกว่าอย่างอื่นตรงที่ต้องใส่น้ำตาล น้ำมะพร้าว มันฝรั่ง และกล้วยหอมด้วย...ส่วนแท่นนั่นจะช่วยคนของเหลวในเหยือกให้ตลอดเวลาจะได้ไม่ต้องคนเอง”

เอกรัตน์หยิบสต๊อกอาหารสำหรับกล้วยไม้และสารเคมีในตู้แช่ออกมาวางเรียงแล้วเริ่มการตวงสารให้ได้ปริมาณตามสูตรที่แปะไว้บนผนังห้อง หญิงสาวเอ่ยปากถามทุกครั้งที่เขาเทสารแต่ละอย่างลงในเหยือกแต่คุณเจ้าของบ้านรำคาญจึงไม่ยอมตอบ

“ทั้งหมดนี่มีสารอาหารมากพอให้กล้วยไม้เจริญเป็นต้นได้ ต้องใส่ไปตามสูตรถึงจะได้ผล” ชายหนุ่มรำคาญจนเลิกรำคาญและยอมเปิดปากในที่สุด “เดี๋ยวต้องใส่ผงถ่านให้รากงอกได้ แล้วต้องปรับความเข้มข้นด้วย” เขาตอบเลี่ยงๆเพราะขี้เกียจอธิบายสารทีละตัวและเรื่องการปรับค่าความเป็นกรดด่างในขั้นตอนเกือบสุดท้าย

เวลาผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมงกว่าเขาจะปรับค่าความเป็นกรดด่างเสร็จ ความจริงแล้วหลังจากใส่ผงถ่านจะต้องทิ้งช่วงประมาณ 15 นาที แต่ที่ทำให้ใช้เวลานานคือขั้นตอนการปรับค่าความเป็นกรดด่าง หญิงสาวจ้องมองเขาจนหยดสารปรับค่ามากบ้างน้อยบ้างกินเวลาไปอีก 15 นาทีกว่าจะได้ใส่น้ำให้ปริมาตรครบหนึ่งลิตร

“นี่คือผงวุ้น อลิเซียเคยกินวุ้นไหม” เขาหันไปคุยกับหญิงสาวก็พบว่าเจ้าหล่อนยังจ้องของเหลวสีดำคล้ำในเหยือกตาไม่กระพริบ “ใส่วุ้นแล้วเอาไปอบให้วุ้นละลายเดี๋ยวก็เสร็จตรงนี้แล้ว”

เอกรัตน์เทผงวุ้นลงไปในเหยือกแล้วใช้ที่คีบดึงเอาแท่งแม่เหล็กออกมา หญิงสาวลองจับแท่งแม่เหล็กอย่างกล้าๆกลัวๆ คุณเจ้าของบ้านอาศัยช่วงเวลาที่อีกฝ่ายเผลอยัดเหยือกเข้าไปในเตาอบไมโครเวฟแล้วรีบกดตั้งเวลาเพื่อหลีกเลี่ยงคำถามเกี่ยวกับเจ้าเครื่องนี้ ในระหว่างที่รอวุ้นละลายเขาก็ยกเครื่องมือต่างๆทั้งที่คีบและมีดผ่าตัดมาให้หญิงสาวลองจับดู ในระหว่างนั้นเขาขนขวดแก้วขนาดกลางออกมาวางเรียงรายต่อจากที่ทำตอนใส่ผงถ่านจนนับได้สามสิบสองขวด

ผ่านไปสิบนาทีการแอบคนและแอบตรวจการละลายของวุ้นก็สิ้นสุดลง สารละลายสีดำร้อนๆเหลวๆในเหยือกพลาสติกถูกเทใส่ในขวดแก้วใบย่อมๆจนครบ อลิเซียที่สนใจถามทุกขั้นตอนช่วยปิดฝาขวดอย่างสนุกสนาน เมื่อนำขวดทั้งหมดใส่ถุงพลาสติกขนาดใหญ่แล้วก็นำไปนึ่งฆ่าเชื้อ เขายอมใช้เครื่องนึ่งอัตโนมัติเก่าๆแทนที่จะใช้หม้อนึ่งขนาดใหญ่เพราะอลิเซียอาจคิดทำอะไรแผลงๆด้วยเวทมนตร์ของเจ้าหล่อน

“อีกนานกว่าจะเสร็จไม่ต้องไปนั่งเฝ้าหรอก” เอกรัตน์เก็บขวดสารเคมีไว้ในตู้เย็นแล้วชวนหญิงสาวให้ออกไปนั่งเล่นนอกห้องทำงาน “ออกไปซื้ออะไรให้กินเดี๋ยวมา ห้ามไปยุ่งกับเครื่องนั่นเด็ดขาด” เอกรัตน์เสริมแล้วลากรถมอเตอร์ไซด์เก่าๆออกไปหาซื้อของในเมือง...


ผ่านไปเกือบชั่วโมงคุณเจ้าของบ้านก็บึ่งรถมอเตอร์ไซด์เก่าๆกลับถึงบ้าน ปรากฏว่าหญิงสาวผล็อยหลับอยู่หน้าเครื่องนึ่งเครื่องนั้น เอกรัตน์ปลุกหญิงสาวเบาๆด้วยความระแวงว่าจะถูกสาปเป็นกบ จนหญิงสาวค่อยๆปรือตาขึ้นหาวหวอดพึมพำว่าเผลอหลับไปนิดเดียว

“อยากรู้ว่าเลขบนหน้าจอจะเพิ่มไปถึงไหนเลยนั่งดูอยู่ตลอด ลองกดดูก็ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้นเลย นี่ลิเซียเผลอพักตาหน่อยเดียวเอง” อลิเซียขยี้ตาแล้ว จ้องมองตัวเลขสีเขียวที่บอกอุณหภูมิภายในเครื่องนึ่ง “ขอบคุณมาก แต่นี่มันเรียกว่าอะไรหรือ”  

“บาร์บีคิว เป็นการย่างเนื้อพร้อมกับพริกหยวก หอม และสัปปะรด ลองกินดูสิ” ชายหนุ่มคิดถูกแล้วที่เลือกให้เป็นระบบอัตโนมัติไม่อย่างนั้นอาจต้องเสียเงินค่าซ่อมเครื่องแน่ หญิงสาวหยิบอาหารเย็นออกมาไม้หนึ่งแล้วลองเล็มชิ้นหมูย่างอย่างกล้าๆกลัวๆ “อร่อยไหม”

“เหมือนเนื้อมาอุน ที่ดินแดนของลิเซียเลี้ยงไว้เพื่อกินเนื้อโดยเฉพาะ”

“แล้วกินได้ไหม ถ้าไม่ชอบจะได้ไปหาอย่างอื่นมาให้ลองกิน” เอกรัตน์คิดว่าตัวมาอุนที่ว่าคงเหมือนกับหมูในโลกนี้นั่นละ

“อร่อยดี ขอกินทุกวันเลยได้ไหม” หญิงสาวพูดไปยัดเนื้อและพริกหยวกเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ แทบไม่เหลือเค้าความน่ากลัวของหญิงสาวคนเมื่อวานอยู่เลยแม้เศษเสี้ยว

“ไม่คิดจะกินอย่างอื่นบ้างเลยหรืออลิเซีย”

“ก็เอกถามว่าชอบอะไรลิเซียก็ตอบแล้วไงว่าชอบเนื้อย่าง” บาร์บีคิวชุดใหญ่สองไม้หายเรียบในพริบตา โชคดีที่เขาซื้อมาให้ห้าไม้ไม่อย่างนั้นคงไม่พออิ่ม

“พรุ่งนี้กินปลาทับทิมทอดไหม เดี๋ยวสอนทอดปลาด้วย”

“ขอดูก่อนว่าวิธีทำเหมือนกับที่โลกของลิเซียไหม ตอนอยู่บ้านเก่าลิเซียชอบทำอาหารที่สุดเลย คนที่ทำอาหารเก่งที่สุดในบ้านก็คือท่านพ่อกับลิเซียนี่ละ” หญิงสาวยัดไม้ที่สามเข้าปากอย่างรวดเร็วจนปากเลอะซอสที่ใส่มาด้วย “ยิ่งมาอยู่ในที่แบบนี้ลิเซียยิ่งอยากรู้ว่าเขาทำอาหารกันอย่างไรโดยไม่ใช้เวทมนตร์ ถ้าไม่ยากก็จะขอลองทำดูด้วย”

“เดี๋ยวสอนหุงข้าวด้วยดีไหม ตอนนี้ขอเอกไปทำธุระก่อนนะ” เอกรัตน์ค่อยๆถอยหลังออกจากห้อง แล้วรีบฉวยถุงบาร์บีคิวอีกถุงหนึ่งไปข้างบ้านทันที ตอนนี้เพิ่งหกโมงเย็นบางทีหวานใจของเขาอาจยังไม่กินข้าวเย็น...


วรรณวิศายังไม่ได้ทานข้าวอย่างที่คาด เอกรัตน์จึงใช้บาร์บีคิวที่ไปซื้อมาเพิ่มคะแนนให้ตัวเองอย่างชาญฉลาด วันนี้วรรณวิศามัวแต่ปักชำกุหลาบอยู่จึงไม่มีเวลาออกมาคุยด้วย แถมอาจารย์ว่าที่พ่อตายังติดงานสัมมนาจะกลับตอนดึกๆงานทั้งหมดจึงถูกถ่ายโอนให้หญิงสาวทั้งการขายของและการทำของขาย

“ไปถึงวังน้ำเขียวโน่น กว่าจะกลับถึงบ้านก็ประมาณสี่ทุ่มนั่นแหละ” สาวข้างบ้านส่งรอยยิ้มแสนประทับใจมาให้เช่นทุกครั้งที่เคยเจอกัน มือบอบบางคู่นั้นคงต้องใช้ถุงมือหนังหนาๆเพื่อไม่ให้มีบาดแผลจากการทำงาน “ขอโทษที่ไปกินด้วยไม่ได้นะ เผื่อพ่อโทรมาสั่งงาน”

“ไม่เป็นไร เอกเริ่มเอาฝักกล้วยไม้มาเพาะแล้วนะ ใช้อาหารสูตรพิเศษอีกไม่นานก็งอก” เขาคิดว่าอาหารสูตรพิเศษที่ว่าคงจะอยู่ในบ้านอย่างสงบไม่ทำให้หวานใจของเขาเข้าใจผิด

“ถ้าลูกของแม่อุษาแสดออกดอกสวยๆเยอะๆคงจะดีนะ” หญิงสาวชะงักชั่วครู่ก่อนหัวเราะกลบเกลื่อน “พ่อเขาพูดพล่ามวันละเป็นสิบรอบ แม่อุษาแสดสวยอย่างนั้นสวยอย่างนี้ ลูกของแม่อุษาแสดจะต้องได้รางวัลแน่”

“ชื่อดีนี่ สีสันคงเจิดจ้ามากเลย” เอกรัตน์เหลียวมองเข้าไปในบ้านก็พบว่าอลิเซียเปิดไฟในบ้านแล้ว ไม่ช้าก็เร็วคงต้องสารภาพกับวรรณวิศาว่ามีผู้หญิงอีกคนมาอาศัยอยู่ในบ้าน หญิงสาวจะฟังเขาหรือไม่ว่าอลิเซียเป็นแค่เพื่อนจริงๆ เจตนาแอบแฝงของเขาคือการให้อลิเซียเร่งการเติบโตของกล้วยไม้ให้เท่านั้น แต่เรื่องนี้จะบอกได้อย่างไรกัน

แล้วสิ่งที่ชายหนุ่มกลัวก็เกิดขึ้น อลิเซียเดินออกมาจากตัวบ้านเพื่อมาหาเขาพร้อมกับเจ้าดัมมี่ ดูจากระยะเวลาแล้วเครื่องคงทำงานเสร็จและส่งเสียงร้อง เจ้าหล่อนเลยออกมาตามเขาให้กลับไปดูว่าควรทำอย่างไรกับเครื่องนั่นต่อ

“เด็กคนนั้นใครหรือเอก” วรรณวิศาร้องทักด้วยน้ำเสียงแปลกใจ ดวงตาสีดำขลับหรี่ลงเหมือนน้ำเสียงที่เย็นเยียบ เขารู้ว่าควรตอบอย่างไรแต่หัวเกิดหมุนติ้วจนคิดอะไรไม่ออกเสียอย่างนั้น ในระหว่างนั้นอลิเซียกับหมาน้อยก็เดินมาถึงตัวเขาพอดี

“เครื่องนั้นมันดังแล้วเอก ไปดูหน่อยสิ” อลิเซียหยุดมองสาวข้างบ้านด้วยสีหน้าประหลาดใจก่อนจะพูดในสิ่งที่คุณเจ้าของบ้านสอนไว้ “สวัสดีค่ะ อลิเซียเป็นเพื่อนทางจดหมายของเอกและมาจากอเมริกาค่ะ” คงน่าเชื่อถือกว่านี้ถ้าน้ำเสียงของหล่อนไม่เรียบลื่นเหมือนท่องจำมาทั้งคืน…

แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 54 08:38:58

จากคุณ : Lazy return
เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 08:33:30




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com