Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
จันทร์เร้นใจ...บทที่ ๑ ติดต่อทีมงาน

ก่อนจะลงนิยายให้อ่านกัน ขอทักทายพูดคุยก่อนนะคะ บางคนอาจจะไม่รู้จักเพราะจะว่าไปก็ห่างหายจากถนนนักเขียนนานเหลือเกิน
ปกติจะโพสต์ที่บล็อกกับที่เวบตัวเอง แต่เพราะไม่ได้เขียนหนังสือมาเสียนาน (เท่ากับอายุลูกสาวบวกช่วงเวลาเก้าเดือนตอนท้อง
ก็ประมาณสี่ปีกว่าๆ ได้) พอมาเขียนอีกครั้ง...เหมือนเด็กเริ่มหัดเดิน เลยอยากเอามาให้อ่านกันเล่นๆ น่ะค่ะ

จริงๆ แล้วกำลังเขียนอีกเรื่อง แต่มันติดๆ ขัดๆ เลยเปิดเรื่องใหม่ ซึ่งก็คือเรื่องนี้มาคั่นเวลา เรื่องนี้จะเป็นแนวรักโรแมนติก...
กะว่าน่าจะไม่ยาวมาก แต่อาจจะต้องรออ่านกันนานนิดนึง...เพราะไม่มีสต็อกเลยค่ะ ^^'

เขียนบทแรกนี่จบเมื่อวันก่อนนี้เอง แหะๆ

แรงบันดาลใจจากเรื่องนี้มาจากซิตคอมเรื่อง เป็นต่อ น่ะค่ะ เลยมาต่อยอดเอาเองว่า
จะเป็นยังไงถ้าหญิงชายคู่หนึ่งซึ่งเคยรักกันและเกือบจะแต่งงานกันอยู่รอมร่อ ต้องมาเปลี่ยนสถานะจากแฟนมาเป็นเพียงเพื่อน
ในสายตาของคนรอบข้างรู้สึกว่าทั้งคู่ยังคงมีใจรักกันอยู่ แต่ทำไมเมื่อยังรักกันแล้ว...ถึงไม่กลับมาคบกัน จะฝืนใจกันทำไม...



จันทร์เร้นใจ
บทที่ ๑

สายตาหวานฉ่ำของหญิงสาวโต๊ะใกล้เคียงที่คอยชำแลเลืองมาทำให้คนมองอดหันไปค้อน ‘ตัวต้นเหตุ’ มิได้
เริ่มรู้สึกว่าตนคิดผิดที่ชักชวนให้มาด้วยกัน รู้อย่างนี้ปล่อยให้เฝ้าบ้านเสียก็ดีหรอก เขมิกาคิดพลางส่ายหน้าอย่างระอาใจ
ในความเจ้าชู้ของพี่ชาย พอดีกับเจ้าตัวหันมาเห็นเข้าจึงดักคออย่างรู้ทัน

“อะไร...เหม่ง” เขมเรียกฉายาของน้องสาวที่ตนเรียกมาแต่เล็กพลางตีหน้าซื่อแก้ตัว
“ก็เห็นอยู่ว่าพี่นั่งเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย”
 
“แหม...” คนเป็นน้องลากเสียงยาวอย่างหมั่นไส้เต็มที “นั่งเฉยๆ แต่สายตางี้...หวานซ้า...หยึย!!!”
คนพูดทำท่าขนลุกขนพองประกอบคำอุทานสุดท้าย
 
“เกินไปๆ เหม่ง”
 
“ไม่เกินไปหรอก...พี่ชายเข็ม...ทำไมเข็มจะดูไม่ออก นี่เผลอๆ ยายนั่นคงละลายติดเก้าอี้ลุกไม่ขึ้นเสียล่ะมั้ง...”
 
“พูดอย่างกับเคยถูกมองจนละลายนะเหม่ง” คนเป็นพี่แกล้งแซว ดวงตาเป็นประกายวิบวับอย่างล้อเลียน
 
“ก็ต้องมีบ้างล่ะ คนมันมีแฟนแล้วนี่” เขมิกายักไหล่พลางยอมรับดื้อๆ “นั่นไง...พูดถึงก็มาพอดีเลย”
น้ำเสียงดีอกดีใจนั้นทำให้คนฟังหมั่นไส้ขึ้นมาบ้างทั้งที่หันไปส่งสายตาหวานกับหญิงสาวโต๊ะเดิมแล้ว
แต่เสียงอุทานต่อมาของคนเป็นน้องทำให้เขาหันขวับกลับมาแทบจะทันที “อ้าว...พี่พริมก็มาแล้ว”
 
“พริมมาด้วยเหรอ...ไม่เห็นบอกพี่เลย” เขมรำพึง
 
“ถ้าบอกจะไม่มา...งั้นสิ?” เขมิกาย้อน
 
“เปล่า!”
 
คำตอบของพี่ชายทำให้หญิงสาวยิ้มตรงมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์แสนกลขณะกวักมือเรียกชายหนุ่มและหญิงสาวที่เพิ่งเดินผ่าน
ประตูร้านเข้ามาหย็อยๆ
 
“พี่ก้อง พี่พริม ตรงนี้ค่ะ”
 
ก้องภพเบี่ยงตัวให้หญิงสาวที่เจอกันตรงหน้าประตูเดินนำเข้าไปก่อนพลางถาม
 
“พริมเพิ่งมาถึงเหมือนกันเหรอ?”
 
“จ๊ะ ก้อง...กว่าจะหารถแท็กซี่ได้แทบแย่แน่ะ ยืนรอตั้งนาน...”
 
“รถพริมล่ะไปไหน” ก้องภพถามอย่างแปลกใจเพราะรู้ว่าพริมามีรถยนต์ส่วนตัว “หรือว่าเสีย...”
 
“ไม่ได้เสียหรอก ยายเข็มน่ะสิ บอกว่าไม่ต้องเอารถมา จะได้ไปคันเดียวกัน ไม่เปลืองน้ำมัน” ก้องภพฟังแล้วก็ยิ้มตรงมุมปากอย่าง
รู้ทันความคิดของหญิงสาวคนรักเพราะเมื่อมองไปที่โต๊ะเห็นเจ้าหล่อนนั่งอยู่กับผู้ชายอีกคนซึ่งไม่ใช่ใคร...แต่เป็นพี่ชายแท้ๆ นั่นเอง
 
ความพยายามของเขมิกาที่จะทำให้พริมาและเขมกลับมาคบหากันดังเดิมนั้น คนใกล้ชิดทุกคนไม่เว้นแม้กระทั่งเขมซึ่งเป็นพี่ชายต่างก็รู้ดี
คงจะมีเพียงพริมาเองนั่นล่ะที่ตามไม่ทัน และมักหลงติดกับในแผนที่เขมิกาวางไว้นับครั้งไม่ถ้วน กระนั้นความเพียรพยายามก็ยังไม่ประสบ
ผลสำเร็จเสียที จนผ่านมาห้าปีเข้าไปแล้ว แต่เขมิกาก็ไม่เคยละความพยายาม
 
พริมายิ้มให้หญิงสาวรุ่นน้องแล้วเผื่อแผ่ไปให้ชายหนุ่มที่นั่งตรงกันข้ามพลางทักอย่างแปลกใจ
 
“เขมมากับเค้าด้วยเหรอ?” หญิงสาวทำท่าจะทรุดนั่งตรงที่นั่งข้างเขมิกา ทว่ากลับถูกก้องภพยื้อแขนไว้พลางรุนหลังให้หล่อนไปนั่งเก้าอี้
ตัวข้างๆ เขมแทน เขมิกายิ้มอย่างชอบใจที่คนรักรู้ทันแผนหล่อน ขณะที่เขมยิ้มพลางส่ายหน้าระอา
 
“พริมนั่งตรงนั้นแล้วให้ผมนั่งข้างเข็มดีกว่า”
 
เขมลุกขึ้นพลางเลื่อนเก้าอี้ให้หญิงสาวขณะมองสบตาคนเป็นน้องอย่างรู้ทัน เขาตอบคำถามที่พริมาถามไว้ยิ้มๆ

“มาสิ...พริมก็ถามแปลกๆ”
 
“แปลกตรงไหน...เมื่อวานวันศุกร์ไม่ใช่เหรอ คืนวันศุกร์เขมเคยกลับบ้านเร็วที่ไหนล่ะ”
 
คำตอบของพริมาเรียกรอยยิ้มจากทั้งเขมิกาและก้องภพเมื่อสีหน้าของเขมเจื่อนไป พริมาพูดถูกเพราะเมื่อคืนกว่าเขาจะกลับถึงบ้านก็เกือบตีสองเข้าไปแล้ว
 
“ไม่มีใครรู้จักเขมดีไปกว่าพริมจริงๆ” เขาพูดพลางยื่นหน้าเข้าไปทำตากรุ้มกริ่มใส่พริมา อาการดังกล่าวทำให้หญิงสาวโต๊ะใกล้ๆ กันนั้นหน้าเสีย
ไปนิดหนึ่ง เจ้าหล่อนค้อนขวับสะบัดหน้าไปทางอื่นทันที พริมาเห็นเข้าก็ยิ้มออกมาอย่างคนมีแต้มต่อ หญิงสาวออกแรงดันหน้าชายหนุ่มเบาๆ
ให้หันไปทางอื่นพลางบอกเสียงหวาน
 
“ก็เพราะพริมรู้จักเขมดี...ถึงได้ไม่ตกหลุมเสน่ห์เหมือนสาวโต๊ะนั้นไงจ๊ะ”
 
อาการต่อปากต่อคำของทั้งคู่อยู่ในสายตาของชายหนุ่มหญิงสาวที่นั่งโต๊ะเดียวกันโดยตลอด ทั้งคู่ลอบสบตากันหลายครั้งและก็อดหัวเราะไม่ได้
เมื่อได้ยินประโยคสุดท้ายของพริมา เขมิกาลอบถอนหายใจเบาๆ พลางนึกอยากตีแขนพี่ชายจอมเจ้าชู้ของหล่อนเสียสักเผียะสองเผียะโทษฐาน
ที่ชอบหว่านเสน่ห์ให้เสียเรื่อง
 
“พริมจะให้เขมทำไงล่ะ...น้องเค้าเป็นฝ่ายมองก่อนนี่น่า” เขมออกตัวข้างๆ คูๆ พลางลูบหน้าข้างที่ถูกหญิงสาวผลักเบาๆ
รอยสัมผัสอย่างไม่ตั้งใจของอีกฝ่ายกลับทิ้งร่องรอยอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
 
“เขมก็เป็นเสียอย่างนี้ พูดจาอะไรไม่ให้เกียรติผู้หญิงบ้างเลย”
 
“น่า...พริม น้องเค้าไม่มีทางมาได้ยินหรอก เดี๋ยวก็แยกๆ กันไปแล้ว”
 
“จริงเร้อ...” พริมาถามล้อๆ ท่าทางไม่เชื่อถือคำพูดของชายหนุ่มนัก
 
“เหม่ง...จะไปไหนก็รีบๆ ไป มัวแต่นั่งยิ้มอยู่ได้...” เขมหันมาไล่เบี้ยกับน้องสาวบ้าง แทนที่จะโกรธเขมิกากลับยิ้มอย่างชอบใจ
น้อยครั้งหรอกที่จะเห็นคนเป็นพี่ถูกไล่ต้อนจนมุมแบบนี้ ก็เพราะเหตุนี้อย่างไรหล่อนจึงอยากให้คนคู่นี้กลับมาเป็นแฟนกัน ไม่มีผู้หญิงคนไหน
จะเหมาะสมกับพี่ชายจอมเจ้าชู้ของหล่อนมากไปกว่าผู้หญิงที่รู้เท่าทันทุกฝีก้าวของเขาอย่างพริมาหรอกน่า...แฟนคนต่อๆ มาของเขม
ถ้าไม่เปรี้ยวจี๊ดจนเข็ดฟันและขี้หึงจนไร้เหตุผล ก็เรียบร้อยยิ่งกว่าผ้าที่พับไว้แถมยังซื่อเสียจนน่าสงสาร
 
แต่พริมาไม่ใช่อย่างนั้น...ไม่เปรี้ยวจี๊ดแต่ก็ไม่ได้ซื่อเสียจนตามพี่ชายหล่อนไม่ทัน เขมิกาเชื่อว่าพริมาจะจัดการพี่ชายของหล่อนได้อย่าง
อยู่หมัด แม้ว่าตอนที่คบกับพริมาพี่ชายจะเคยเฉไฉแต่ไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง กระนั้นเขมิกาก็รู้ว่าเรื่องเฉไฉของพี่ชายก็ทำให้พริมาเสียใจไม่น้อย
และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ทั้งคู่ตกลงที่จะหยุดยั้งความสัมพันธ์เอาไว้แค่เพื่อน แต่จากวันนั้นถึงวันนี้ร่วมห้าปีแล้ว พริมายังคงเข้านอกออกในเสมือน
เป็นสมาชิกคนหนึ่งของครอบครัวเอมปรีดิ์ สมัยที่คบกับพี่ชาย พริมาก็สนิทสนมกับเขมิกาอยู่แล้ว หญิงสาวทั้งคู่มีวัยใกล้เคียงกันจึงพูดคุยกันถูกคอและ
เข้าคู่กันได้เป็นอย่างดี ว่ากันตามจริงเขมิการู้สึกราวกับว่าพริมาเป็นพี่สาวของหล่อนจริงๆ ไม่ใช่แค่แฟน...หรือ อดีตแฟนของพี่ชายอย่างปัจจุบัน

เขมิกาเชื่อว่าระหว่างพี่ชายของหล่อนกับพริมานั้นยังมีลุ้นอยู่ หลายครั้งที่สายตาของพี่ชายที่มองอดีตคนรักมีร่องรอยความรู้สึกบางอย่างฉาบฉาย...
เป็นความรู้สึกที่มากกว่าคำว่าเพื่อนอย่างที่พี่ชายมักเอ่ยปากบอกอยู่บ่อยๆ เขมิกาจึงไม่เคยละความพยายามในการหาทางทำให้ทั้งคู่กลับมาคืนดีกัน
แม้ก้องภพจะเคยเตือนหลายครั้งว่าเรื่องราวระหว่างคนสองคนก็ให้เป็นเรื่องระหว่างคนทั้งคู่ดีกว่า...

แต่เขมิกายอมไม่ได้...หญิงสาวกลัวเหลือเกินว่าพี่ชายจะไปพลาดท่าเสียทีให้กับผู้หญิงที่หล่อนรับมาเป็นพี่สะใภ้ตัวเองไม่ไหว แม้จะรู้ก็เถอะว่า...
คนอย่างพี่ชายหล่อนนั้นเห็นทีจะพลาดยาก...มีแต่ทำให้คนอื่นเสียท่าตนเองเสียล่ะมาก...

“ไปก็ได้...ไปไหนดีล่ะ...”ประโยคหลังเจ้าตัวหันไปถามคนข้างๆ เหมือนขอความเห็น เขมที่ทำท่าจะลุกถึงกับร้องเสียงหลง ก่อนทรุดลงนั่งเหมือนเดิม

“เหม่ง...ไหนว่าแพลนไว้หมดแล้วไง...”

“ก็แพลนไว้...” เจ้าตัวพูดอุบอิบ...กลืนประโยคต่อมาลงคอ...แพลนไว้แค่ว่าพอเจอกันปุ๊บหล่อนก็จะหาทางชิ่งหนีไปกับพี่ก้องน่ะสิ...

“เร็วเข้า...จะไปไหน...ฮึ...เหม่ง” เขมเร่งเร้าเมื่อเห็นท่าทางอึกอักของน้องสาว

“ก็...ก็...” เขมิกาหันซ้ายหันขวาเลิ่กลั่กเหมือนหาตัวช่วย “พี่พริม...อยากไปไหนคะ...”

“อ้าว...น้องเข็ม ทิ้งภาระให้พี่เหรอคะ?”

“เอางี้...ไหนๆ นี่ก็ยังไม่ถึงสิบโมงดี...เราขับรถไปหาอะไรกินกันแถวพัทยาหรือบางแสนดีมั้ย?” ก้องภพเสนอความเห็น

“ดีค่ะ...ดี” เขมิกาตอบรับเป็นคนแรก ก่อนหันไปถามพี่ชายกับพริมาอย่างกระตือรือร้น “พี่ๆ ว่าไงคะ...”

เขมยักไหล่...ก่อนตอบแบ่งรับแบ่งสู้ ตัวเขาเองไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เขาห่วงแต่ว่าพริมาอาจจะไม่สะดวกใจ

“พี่ยังไงก็ได้...”

“พี่พริมล่ะคะ”

“ไปสิ...วันนี้พี่ว่าง ก็เข็มให้พี่เคลียร์คิวเตรียมไว้นี่นา” พริมาพูดกลั้วหัวเราะ

“งั้น...พี่พริมไปรถพี่เขมละกัน เข็ม ไปกับพี่ก้อง...โอเคนะคะ” พูดจบเจ้าตัวก็ลุกพรึบคว้าแขนคนรักเดินนำไปทันที ทิ้งให้พี่ชาย
กับพริมามองตาม เขมอ้าปากค้างตะโกนตามหลัง...

“เหม่ง...แล้วค่ากาแฟล่ะ...” เขมิกาหันหลังมายิ้มจนแก้มฉีก

“เลี้ยงน้องแค่นี้ ขนหน้าแข้งพี่เขมไม่ร่วงหรอกน่า”

เขมส่ายหน้าหากไม่ได้ว่าอะไร พริมายิ้มอย่างเห็นขัน เวลาหลายปีทำให้รู้จักพี่น้องคู่นี้ดี...ถึงจะทำท่าเบื่อหน่ายระอา แต่ก็เป็นเพียงเปลือกนอกเท่านั้น
เนื้อแท้ของพี่น้องคู่นี้คือความรัก ห่วงใย และเอื้ออาทรที่มีให้กัน เขมเรียกบริกรมาเพื่อให้คิดเงิน เมื่อจ่ายค่ากาแฟเสร็จเรียบร้อย เขาจึงขยับลุกขึ้นยืน
โดยมีหญิงสาวที่นั่งเก้าอี้ข้างๆ ขยับตัวลุกตาม เขมเลื่อนเก้าอี้ออกให้อย่างเอาใจใส่ กิริยานั้นทำให้หญิงสาวโต๊ะใกล้ๆ ที่ชายหนุ่มเคยส่งสายตาหวานให้
ค้อนควักอีกครั้ง ซึ่งก็ไม่พ้นสายตาของพริมาไปได้ หล่อนจึงหันไปบอกชายหนุ่มเสียงเบา

“เขมจะไม่ไปทักทายสาวโต๊ะนั้นหน่อยเหรอ...เขามองมาใหญ่แล้ว”

เขมหัวเราะในลำคอ เลิกคิ้วพลางถามกลับ

“พริมไม่ว่าเขมเหรอ” มือที่จับเก้าอี้เลื่อนมาแตะข้อศอกหญิงสาวอย่างทะนุถนอมอ่อนโยน

“บ้า! พริมจะไปว่าอะไรเขมล่ะ” พริมาหัวเราะ...ไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้น หากประโยคต่อมาของอีกฝ่ายทำให้หล่อนนิ่งงันไปอย่างพูดไม่ออก

“ไม่เอาล่ะ...ผู้หญิงคนไหนก็ไม่สำคัญไปกว่าพริมหรอก” พร้อมกันนั้นมือซึ่งแตะที่ข้อศอกก็เลื่อนไปแตะข้างหลังในลักษณะโอบเอวแต่ก็เพียงผิวเผิน
พริมาเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นแววตาของเขม...ไม่มีร่องรอยหยอกเย้าอย่างเช่นทุกครั้ง หัวใจของหล่อนกระตุกด้วยความรู้สึกประหลาดก่อนเปลี่ยนเป็นเจ็บแปลบ
แววตาของหญิงสาวมิได้ปิดบังความรู้สึกและเขมก็อ่านมันออกในทันที แววตาของเขาฉายแววปวดร้าวขึ้นมาแวบหนึ่ง มือที่โอบเอวไว้ตกลงเล็กน้อย...

“พริมไม่อยากมีปัญหากับคนแถวนี้นะเขม” พริมาเป็นฝ่ายเอ่ยขัดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง จนเขมตามไม่ทัน...เขาถามด้วยความแปลกใจ

“อะไร...”

“ผู้หญิงโต๊ะนั้นมองจนตัวพริมจะทะลุแล้ว” หญิงสาวบุ้ยใบ้ไปทางด้านหลัง เขมชำเลืองไปมองเห็นสาวสวยที่เขาเคยส่งสายตาหวานไปให้กำลังเขม้นมอง
อย่างเอาเป็นเอาตาย ชายหนุ่มหัวเราะออกมาเบาๆ แต่แทนที่จะลดแขนลง เขากลับกระชับร่างหญิงสาวยิ่งกว่าเดิม คราวนี้พริมาจึงตกอยู่ในอ้อมแขนของเขมเข้าจริงๆ
มิใช่แค่โอบเอวเพียงผิวเผินดังแต่แรก

“เขมอยู่ทั้งคน ไม่ปล่อยให้พริมเป็นอะไรหรอกน่า” เขาพูดพลางกลั้วหัวเราะเสียงสดใส บอกกับตนเองให้ทิ้งอดีตไว้เบื้องหลัง และคิดถึงแต่ปัจจุบันเท่านั้น...
เวลานี้ ตอนนี้ พริมาอยู่กับเขา...และเขาจะใช้เวลานี้ให้คุ้มค่า แม้ว่าระหว่างกันจะมีเพียงคำว่า ‘เพื่อน’ เท่านั้น

เป็นแค่เพื่อน...ที่มีค่ายิ่งกว่าผู้หญิงคนใด!

คำพูดที่เขาพูดกับพริมาเมื่อครู่ออกมาจากใจจริงทีเดียว...



(มีต่อค่ะ)

แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 54 23:22:22

แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 54 23:21:50

แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 54 23:56:14

จากคุณ : คีตาญชลี
เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 23:40:58




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com