คุณเมย์คะ..คุณเมย์
เมธิกาสะดุ้งเฮือกกับเสียงของคนรับใช้ที่เรียกอยู่หน้าประตู ก่อนผุดลุกขึ้นนั่ง เหลือบมองเวลาที่บ่งบอกว่าใกล้จะเที่ยงวันเข้าไปแล้ว..และเสียงเรียกจากด้านนอกก็ดังขึ้นอีกครั้ง
คุณเมย์คะ
จ้า ฉันตื่นแล้ว..เดี๋ยวนะ
หญิงสาวรีบลงจากเตียงหมายพาร่างเปลือยเปล่าของตนไปหยิบเสื้อคลุมมาสวม แล้วก็แทบทรุดลงไปกับพื้นเมื่อรู้สึกว่าสองขามันเปลี้ยแทบไม่มีแรงเอาเสียเลย กล้ามเนื้อก็ยังหลงเหลืออาการปวดตึงไปหมด แต่รีบปัดอาการเหล่านั้น เพื่อหยิบเสื้อคลุมมาสวมให้เรียบร้อยก่อนเปิดประตูรับคนรับใช้ ซึ่งเอ่ยถามทันที
กลางวันนี้คุณจะทานอาหารบนห้องหรือลงไปทานข้างล่างคะ เพราะเมื่อเช้านายหนุ่มสั่งไว้ก่อนไปทำงานว่าไม่ให้ใครขึ้นมาปลุกนายหญิงตอนเช้า เพราะเธอไม่สบายต้องการพักผ่อน แต่ถ้าใกล้เที่ยงแล้วยังไม่ตื่นก็ให้ขึ้นมาปลุก
เอ่อ..เดี๋ยวฉันลงไปทานข้างล่างพร้อมอาม่าดีกว่าจ้ะ
ค่ะ
หลังจากที่คนรับใช้เดินจากไปแล้ว เมธิกาก็ปิดประตูและก้าวเข้าห้องน้ำ พลางคิดทบทวนด้วยความสงสัย..ครั้งแรกที่นอนกับเขาในคืนที่ถูกถ่ายคลิปไม่เห็นจะมีอาการอะไรหลงเหลือให้ได้รู้สึกกันเลย แต่ในครั้งนี้ เธอควรจะไม่รู้สึกเจ็บแล้วอย่างที่เคยได้ยิน ได้รู้มา แต่มันกลับตรงกันข้ามไปหมด เพราะนอกจากจะรู้สึกเจ็บแทบตายแล้ว ตอนนี้ยังหลงเหลืออาการระบมเป็นเครื่องยืนยันว่าเหตุการณ์เมื่อคืนเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่ความฝันเลื่อนลอย
แต่คิดเท่าไหร่ก็ยังหาคำตอบไม่เจอสักที สงสัยงานนี้ ท่าจะถูกคนแก่หลอกเสียแล้วเรา..
หลังทานอาหารกลางวัน เมธิกาคิดอยากจะนั่งเป็นเพื่อนอารดา แต่ก็ถูกไล่ขึ้นห้อง เพราะนางสังเกตเห็นอาการเหม่อลอย ป้ำเป๋อของเธอ จึงคิดว่าคงเป็นเพราะพิษไข้ตามที่ลูกชายบอกยังคงหลงเหลือถึงทำให้หญิงสาวมีอาการแปลกๆ จึงอยากให้ขึ้นมาพักผ่อน
หญิงสาวจึงเดินตัวปลิวขึ้นห้องนอนมากอดก่ายตุ๊กตาหมีตัวโปรดที่คนรับใช้เก็บมาให้จากระเบียง พลางอมยิ้ม เมื่อใบหน้าของอชิรลอยเข้ามาในหัวให้คิดถึงว่าป่านนี้เขากำลังทำอะไร จะคิดถึงเธอบ้างหรือเปล่าจนอยากให้ถึงเวลาที่เขากลับบ้านเร็วๆ เพื่อเธอจะได้เห็นหน้า ได้ยินเสียง ได้ซุกตัวในอ้อมแขน รวมทั้งอยากถามเรื่องที่ค้างคาใจให้กระจ่างด้วย เพราะไม่อยากถามทางโทรศัพท์ ซึ่งเขาอาจจะกำลังยุ่งอยู่กับการทำงานก็เป็นได้
และฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือที่ชาร์ตแบตทิ้งไว้จึงรีบไปคว้ามาดู เมื่อเห็นว่าเป็นเพื่อนสาวจึงกดรับน้ำเสียงเริงร่า หวัดดีจ้ะ เพื่อนเลิฟ
พิมพ์กมลนิ่วหน้า แหม ทีงี้ล่ะเสียงใสเชียวนะแม่คุณ ไม่เห็นเหมือนเมื่อคืนเลยล่ะ เสียงยังกะคนใกล้ตาย..แบบนี้ก็แปลว่าไม่เลิกกับคุณอชิรแล้วใช่มั้ย
เมธิกายิ้มแฉ่ง ไม่แล้วล่ะ แล้วก็จะอยู่กับเขาจนกว่าจะแก่ตายกันไปข้างหนึ่งเลย
เห! คนฟังนิ่วหน้าฉงน แผนยั่วสวาทของนังบีมมันได้ผลเรอะ
ใครบอกล่ะ แผนนังบีมไม่ได้เรื่องสักอย่าง ขนาดยาที่มันให้มาน่ะยังใช้ไม่ได้ผลเลย ฉันก็เลยโยนทิ้งไปแล้ว
โห อย่าบอกนะว่าที่คุณอชิรตกหลุมที่ขุดล่อไว้น่ะ เป็นเพราะเสน่ห์ของแกล้วนๆ
อะ แน่นอน แล้วก็หัวเราะคิกจนคนฟังเบ้ปากหมั่นไส้ แต่ก็ร่วมดีใจไปกับเพื่อนที่ได้สมหวังในความรักเสียที
เออ งั้นก็ดูแลคุณสามีของตัวเองให้ดีๆก็แล้วกัน อย่าให้มคปด.อย่างที่นังบีมมันพูดล่ะ เพราะฉันไม่อยากมาปวดหัวกับปัญหาผัวๆเมียๆของแกอีกแล้ว
เมธิกาก็ยิ่งหัวเราะเสียงใส
ไม่ต้องมาหัวเราะเลยนะ พิมพ์กมลติงน้ำเสียงเบื่อหน่าย ก่อนจะถามกลับไปด้วยความอยากรู้บ้าง แล้วเมื่อคืนเขาง้อแกยังไงล่ะ เล่าให้ฟังบ้างดิ เพราะนึกวาดภาพบุคลิกเคร่งขรึมอย่างอชิรยามง้องอนเพื่อนสาวไม่ออกจริงๆ
และอีกฝ่ายก็ตอบมาแบบเขินๆ เขาบอกว่าจะขอเปลี่ยนสัญญาฉบับใหม่ให้ฉันอยู่กับเขาไปตลอดชีวิต แล้วเขาก็จะซื่อสัตย์กับฉันคนเดียว
เหรอ แล้วเขาบอกรักแกมั้ยอะถามด้วยความตื่นเต้นตาม
กระซิบบอกกันข้างหูเลย..
และเมื่อได้ยินเพื่อนตอบกลับมาดังนั้น คนรอฟังก็กรี๊ดชอบอกชอบใจ แหม ไม่น่าเชื่อนะ เห็นขรึมๆแบบนั้น บทจะหวานก็เป็นกับเขาด้วย
ฉันก็เพิ่งได้รู้เนี่ยล่ะ..แบบนี้รักตายเลย
แล้วสองสาวก็พากันหัวเราะคิกคักพูดคุยไปตามประสา แต่เมธิกาก็ไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องที่ตนสงสัยให้เพื่อนฟัง เพราะเห็นว่ามันเป็นเรื่องบนเตียงที่ควรจะเป็นความลับระหว่างเธอกับสามีเท่านั้น ต่อให้พิมพ์กมลจะสนิทกับเธอมากแค่ไหนก็คิดว่าไม่สมควรที่จะพูดไป
และเมื่อพิมพ์กมลวางสายจากเพื่อนรักแล้ว แวบหนึ่งกลับนึกไปถึงศรา หากว่าเขาตกอยู่ในสถานการณ์เหมือนกับพี่ชาย เขาจะมีวิธีง้องอนผู้หญิงแบบไหนกันนะ..เคลิ้มไปได้ไม่เท่าไหร่ ก็รีบสลัดภาพในหัว
บ้าจริง! ไปคิดถึงอีตานั่นทำไม
แล้วก็กดโทรศัพท์หาธนภัทร ส่งต่อเรื่องของเมธิกาให้เขาได้กรี๊ดกร๊าดร่วมยินดีด้วยอีกคน
เมธิกาขลุกอยู่บนห้องนอนอีกไม่นานก็ลงมาในครัว ดูว่าเย็นวันนี้กิมไน้จะทำกับข้าวอะไร และเห็นนางกำลังนวดแป้งเพื่อทำบัวลอยน้ำขิง หญิงสาวก็รีบเข้าไปช่วยอย่างสนใจ และเมื่อรู้จากกิมไน้ว่า เป็นของหวานที่อชิรชอบ เธอก็ยิ่งบรรจงปั้นแป้งเป็นลูกกลมๆหวังให้เขาได้ทานขนมที่เธอมีส่วนร่วม และคิดว่าจะให้เขาได้ทานในค่ำคืนนี้ให้จงได้
ทว่า..ยังไม่ถึงเวลาอาหารเย็นด้วยซ้ำ อชิรก็กลับมาแล้ว และเมื่อรู้จากเด็กรับใช้ว่าภรรยาของเขาอยู่ในครัว ร่างสูงเพรียวก็หันเดินเรียบเรื่อยไปหา และยืนมองร่างบางกำลังง่วนกับการปรุงอาหารตามที่กิมไน้บอกอย่างขะมักเขม้น เพียงครู่ สองสาวต่างวัยก็หันมาเห็นเขา
และเมธิการู้สึกได้ถึงความปิติยินดีพร้อมๆกับอาการร้อนผ่าวแล่นซ่านภายในกาย สืบเนื่องมาจากตัวเขา ไม่ใช่จากความร้อนของอากาศรอบตัวใดๆ ..วันนี้กลับมาเร็วจังนะคะ
กลับมาเอาของน่ะครับ เดี๋ยวก็ต้องออกไปแล้ว
เหรอคะ.. หญิงสาวตอบรับพร้อมรอยยิ้มแกนๆ เพราะไหนๆเขาก็กลับมาให้เห็นแล้ว จึงไม่อยากให้ออกไปไหนอีก ก่อนก้มหน้าหยิบผักมาหั่น ในขณะที่อชิรเดินเข้ามาใกล้ มองเสี้ยวหน้าเนียนใสชุ่มเหงื่อประปรายตามไรผมริมขมับและเกาะพราวบนปลายจมูกโด่งรั้นเพียงครู่ ก็หันไปทางกิมไน้
อี๊ไน้ ชงกาแฟแล้วเอาไปไว้ในห้องทำงานให้อั๊วหน่อยสิ
หญิงสูงวัยละมือจากงานของตน ตอนนี้เลยหรือคะ
ตอนนี้เลย
เมื่อได้ยินดังนั้น นางก็หันไปล้างมือจัดแจงชงกาแฟร้อน และยกออกไปจากห้องครัว
เมธิกาเงยหน้าขึ้นมาหมายจะพูดกับเขา พลันชะงักงัน เมื่อคนที่ยืนข้างกายโน้มใบหน้าลงทาบทับริมฝีปาก ดื่มด่ำล้ำลึกเพียงครู่ ก็ผละห่างเพียงเล็กน้อยเพื่อกระซิบเตือน เมธิกา ช่วยวางมีดลงหน่อย
หญิงสาวเพิ่งจะนึกได้ จึงวางมีดที่เผลอกำแน่นเมื่อครู่ลงบนโต๊ะ ก่อนที่เขาจะประทับลงมาอีกครั้ง วงแขนแกร่งโอบรอบกอดตรึงให้เธอแหงนเงยรับรสสัมผัสจากเขาอย่างเต็มเปี่ยม จากความอ่อนหวานแปรเปลี่ยนเป็นกระหายใคร่กลืนกินเธอเสียตรงนี้ให้ร่างในอ้อมแขนสะท้านเยือก จนกระทั่งเขาผละห่างอย่างเชื่องช้า เธอก็ยังมึนงงไม่หายจากรสเสน่หา
ชายหนุ่มอมยิ้ม ไล้ปลายนิ้วบนเรียวปากอิ่มชุ่มเรื่อที่ยังเผยอค้าง ผมจะไปอาบน้ำแล้ว คุณช่วยขึ้นไปเลือกชุดใหม่ให้หน่อยสิครับ
และไม่รอคำตอบรับ ชายหนุ่มหันเดินพร้อมจูงมือของเธอพาร่างก้าวตามมาด้วย
เอ่อ..ฉันมีเรื่องอยากถามหน่อยค่ะ เมธิกาเอ่ยถามเมื่อขึ้นมาอยู่ภายในห้องนอน ปรายตามองสามีที่เริ่มปลดกระดุมเสื้อเชิ้ต
เรื่องอะไรครับ
คือ.. และพยายามเรียบเรียงคำพูด เรื่องคลิปที่คุณใช้ขู่ฉันน่ะ..มันเป็นการจัดฉากใช่ไหมคะ
เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอมเทาถูกถอดออกจากร่างกำยำ และโยนลงตะกร้าก่อนเจ้าของร่างจะหันกลับมาเลิกคิ้วมองผู้พูดเพียงครู่ก็หยัดยิ้ม พลางถอดเข็มขัดพาดบนพนักเก้าอี้ก่อนปลดกระดุมกางเกงให้ผู้เฝ้ามองเผลอกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เมื่อความคิดซุกซนดันปลุกจินตนาการให้เตลิดไปไกล
ทำไมคุณคิดว่าเป็นการจัดฉากล่ะ
คราวนี้ดวงหน้าเนียนเริ่มแดงก่ำ ก็.. แล้วก็งึมงำปรายตามองคล้ายจะค้อน..เพราะอาการจากการกระทำของเขาเมื่อค่ำคืนมันยังหลงเหลืออยู่เลยน่ะสิ..แต่เธอก็ไม่ได้พูดออกไป ได้แต่รวบรัดตัดตอนเสียดื้อๆ ไม่รู้ล่ะ..ฉันมีเหตุจูงใจให้น่าสงสัยก็แล้วกัน
อชิรเท้าสะเอวนิ่วหน้ามองเพียงครู่ก็พอจะเดาได้ จึงแสร้งทอดหายใจ เฮ้อ ถูกจับจนได้
คนฟังหน้าบึ้งตึง คุณทำแบบนั้นทำไม รู้มั้ย ฉันเสียใจแทบตาย ร้องไห้เสียน้ำตาไปตั้งหลายปี๊บแน่ะ แล้วก็ต้องถอยกรูดจนติดผนัง เมื่อเขาก้าวเข้าใกล้ ก่อนถือจังหวะนี้กักตัวเธอไว้ด้วยสองแขนที่ยันผนัง..ตัวเขาเองในตอนนั้นก็ คล้ายๆกับอาการของคนหิวน้ำใจแทบขาด และมีน้ำมาวางตรงหน้าให้ดื่มชิมได้เพียงเล็กน้อย แต่ไม่สามารถดื่มได้ทั้งหมด ความกระหายใคร่ดื่มกินก็ยิ่งทวีคูณ สร้างความทรมานรุ่มร้อนจนแทบทนไม่ไหวเหมือนกัน
ก็อุตส่าห์จีบแล้ว แต่มาเรียกเราว่าลุงเสียได้ มันก็ออกอาการเคืองกันนิดๆล่ะ เขาว่ายิ้มๆ แล้วอีกอย่าง ผมไม่มีเวลาตามจีบด้วย ขืนปล่อยไว้คนอื่นคงมาคาบคุณไปกินแน่ พร้อมกับโน้มใบหน้าต่ำลงเรื่อย จนเมธิกาจิตใจเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ยกแขนขึ้นกันร่างเขาด้วยแรงต้านทานที่เหลือเพียงน้อยนิด พลางคิดว่าเมื่อได้รู้ความจริงแล้วจะรู้สึกโกรธ..อาจจะสักนิดนึง..แต่ก็เปล่าเลย เธอกลับยินดีเสียด้วยซ้ำ ที่ตอนนี้ได้กลายมาเป็นภรรยาของเขาเต็มตัว
ดะ..เดี๋ยวสิคะ ฉันยังถามคุณไม่หมดเลย
คำตอบของคุณรอได้ แต่ความต้องการของผมรอไม่ได้แม้แต่นาทีเดียว กระซิบชิดพวงแก้มนุ่ม ลากเลยมาจูบเม้มใบหูเล็ก ก่อนวกกลับหาเรียวปากอิ่ม โอบกอดเรือนร่างนุ่มละมุนพาไปยังเตียงนอน และสอนบทเรียนใหม่ที่ไร้ความปราณีให้เธอประจักษ์ลึกซึ้งในอารมณ์ปรารถนาเข้มแรงของเขา
...........................................................................................
จบตอนค่ะ
โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ >///<
จากคุณ |
:
ระรินใจ
|
เขียนเมื่อ |
:
12 ก.ย. 54 12:46:24
|
|
|
|