Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
หัวใจมันส์หวาน ตอน 1..Who are you? คุณคือใคร ใครคือคุณ ติดต่อทีมงาน

นิยายหัวใจมันส์หวาน...ตอนที่ 1....Who are you

ทีวีพลาสม่า จอใหญ่ถูกรายล้อมด้วยสาวๆ วัยสดใสนั่งระกะเต็มห้องนั่งเล่น สามสาวนั่งเอนตัวสบายๆบนโซฟาสีสด อีกห้าสาวนั่งที่พื้นบ้าง เท้าแขนบ้าง บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน เมื่อหนึ่งสาวที่นั่งอยู่ด้วยปรากฏตัวบนจอทีวี

“แทยอนๆๆ ดูเธอกับสามีสิ”

แทยอนขยับแว่นตาอันใหญ่บนดั้งจมูกยิ้มรับ คำล้อเลียนของเพื่อน วันนี้เป็นวันออกอากาศวันสุดท้ายของรายการวาไรตี้ We Got Marride ที่เธอไปร่วมแสดง

สาวร่างโปร่งบาง เดินเข้ามาในห้องอย่างช้า สองมือของเธอประคองถาดใหญ่ใส่มันเทศอบร้อนๆ มีควันเป็นสาย ส่งกลิ่นยั่วจมูก

“พี่ๆ มาแล้วค่ะมาแล้ว”
“ฮยอนมาเร็วๆ มานั่งดู กัน วันนี้วันสุดท้ายแล้ว”

ซอฮยอนยิ้มรับ ค่อยๆเอาถาดไปวางบนโต๊ะรับแขก แล้วมานั่งร่วมวงด้วย สาวๆแย่งกันหยิบมันเทศนึ่งกันหมุบหมับ

“อร่อยจัง ใครจะอบมันหวานอร่อยเท่าฮยอนเป็นไม่มี” ซูยอง สาวร่างโย่งพูดทั้งที่มันเต็มปาก

“ย่ะ มันอร่อยเพราะถ้าฮยอนไม่ทำก็ไม่มีคนทำใช่มั้ย”

ทิฟฟานี่พูดขัดขึ้น ทุกคนพากันหัวเราะ เพราะรู้ดีว่าเมนูนี้เป็นเมนูโปรดของซอฮยอน น้องเล็กของวง ที่รักสุขภาพเป็นที่สุด..

ใช่แล้ว พวกเธอคือ เกิร์ล กรุ๊ปส์ ที่ดังที่สุดของเกาหลีในยุคนี้. ทุกคนพูดคุยกันสนุกสนาน พร้อมกับดูทีวีไปด้วย ต่างซาบซึ้งกับการลาจากบทภรรยาสมมติของแทยอน หัวหน้าวง กับ ดอน ดอน นักแสดงตลกชื่อดัง น้องเล็กของวง ซอฮยอน นั่งเท้าคางมองดูบทบาทของพี่สาวอย่างตั้งใจ ก่อนจะเอ่ยถามไปว่า

“พี่รู้สึกอย่างไรบ้างคะ ที่ไปออกรายการนี้”
“เออ นั่นสิ จนจบแล้ว หวั่นไหวไปกะอีตาดอนดอนมั่งมั้ย”
เจสสิกา สาวเสียงใสถามมั่ง
“ไม่มีทางหรอก พี่เค้าไม่หล่อ จ้างให้ยัยนี่ก็ไม่สน”
ยุนอาพูดขึ้นบ้าง แทยอนหัวเราะร่า
“บร้า มันเป็นงานย่ะ งาน แล้วก็อย่างที่เธอว่า พี่เค้าไม่หล่อ ฉันก็เลยทำใจให้เป็นงานได้”
คราวนี้ทุกคนหัวเราะประสานเสียงดังลั่น
“งั้นหมายความว่า ถ้าสามีของพี่เป็นดาราหน้าตาดี อย่างฮยอนจุง สามีของพี่ ฮวางโบ พี่คงจะชอบเขาจริงเหรอคะ?”
น้องเล็กยังสงสัย
“ไม่หรอกฮยอน มันเป็นงาน เราต้องแบ่งแยกความรู้สึก ถึงแม้การจัดฉากอะไรจะทำให้เคลิ้มไปบ้างน่ะ แต่..ถ้าเกิดหลงไปตรงนั้นจริงๆ เราจะเสียใจ”
แทยอนพูดเป็นการงาน เพื่อนๆทุกคนพยักหน้าหงึมหงำเห็นด้วย

“แต่..เฮ้อ เสียดาย ทำไมเค้าไม่จับคู่ฉันกับฮยองจุนน่ะ เฮ้อ..คนอารายหล่อชะมัดยาดเลย เออ ว่าแต่เธอนะ ไม่คิดจะเปิดรับใครมาเป็นแฟนมั่งเหรอ พี่เห็นหนุ่มๆจ่อป้ายส่งไมตรีกับเป็นแถวๆ”

คราวนี้ทุกคนหันมามองที่ซอฮยอนกันหมด รอคำตอบ ซอฮยอนหัวเราะเสียงใส

“แหมพี่คะ พวกเขาก็แกล้งทำไปอย่างนั้นแหละ ได้จริงจังอะไร” หญิงสาวหมายถึงหนุ่มบอยแบนด์ในวงการเพลงเดียวกัน ขยันหยอดลูกผ่านรายการต่างๆผ่านเธอเป็นประจำ

“แล้วหนูก็ยังไม่คิดอะไร ยังไม่อยากมีแฟนด้วย”
“อืมม..อยากเห็นแฟนซอฮยอนจัง “
ฮโยยอน สาวรุ่นพี่คนสนิทที่เป็นรูมเมดทำหน้าฝัน แล้วเอามือไปจิ้มแก้มซอ ฮยอนเบาๆอย่างเอ็นดู
“ช่างเลือกขนาดนี้ จะเฟอร์เฟ็กซ์ขนาดไหนน้า”
ซอฮยอนยิ้ม
“หนูก็ไม่รู้ค่ะ ไม่มีสเป็ค ไม่มีผู้ชายในฝันอะไรเลย รอเหมือนกันว่าคนคนนั้นจะเป็นอย่างไร"
น้องเล็กกุมสองมือไว้ใต้คางแล้วทำตาฝันอย่างน่ารัก ทำให้พี่สาวทั้งแปดมองเอ็นดู.. น้องเล็กของพวกเราช่างน่ารักจริงๆ ...................................................................................

อีกมุมหนึ่งในกรุงโซล ห้องพักไม่ใหญ่นัก แออัดไปด้วยหนุ่มห้าคน รุมพิซซ่าถาดใหญ่ที่วางกลางโต๊ะ

“โอ๊ะๆๆ พี่ แทยอนๆ สาวคนโปรดของพี่มาแล้ว”
จองชินเอาศอกสะกิดยงฮวา ที่กำลังหันไปรินโค๊กใส่แก้วแจกทุกคนอยู่
“ไหนๆ อ้อ มาแล้ว วันนี้ลาจอแล้วนี่”
ห้าหนุ่มเพ่งความสนใจไปที่ทีวี พร้อมกับเคี้ยวพิซซ่าไปด้วย

“รายการนี้ตลกดีเนอะ เข้าใจคิดให้คนมาทดลองเป็นแฟนกัน มีอะไรสนุกให้ทำร่วมกันด้วย”

มินฮยอกพูดบ้าง อีกหนึ่งหนุ่ม จงฮยอนไม่พูดอะไร ฟังเงียบๆตามสไตล์เขา
“ไม่แน่นะ พวกนายอาจได้ไปร่วมรายการนี้ก็ได้ เพราะพวกนายกำลังจะดังใหญ่”

หนุ่มร่างท้วมกล่าวขึ้น ก่อนจะยกแก้วน้ำในมือซดอั้กๆแล้วเอามือเช็ดริมฝีปาก เขาคือผู้จัดการ ชองจองกิว และแน่นอน หนุ่มทั้งสี่คน คือวง CN Blue

“555 งั้นต้องเป็นพี่ยงฮวาสิ ดังสุด ตอนนี้ คังชินวูกำลังดังระเบิดอยู่ด้วย”
จองชินพูดยิ้ม
“เฮ้ย ไม่หรอกน่า ถ้าเราจะดัง เราก็ดังไปพร้อมๆกัน”
ยงฮวาพูดขัดขึ้นมา
“แหม คุณพี่ พวกเราไม่ได้ว่าอะไร ถ้าพี่ดังก็ดีสิ พวกเราจะได้พลอยดังไปด้วยเนอะ”
“แน่นอน เพราะพวกเรา ซีเอ็นบลู ดังเป็นแพ๊คอยู่แล้วไอ้น้อง” คำให้กำลังใจนั้น เรียกรอยยิ้มจากเพื่อนร่วมวง และผู้จัดการ นี่แหละเป็นข้อดีที่น่ารักที่สุด ของ จองยงฮวา ลีดเดอร์ของวง.. ...................................................................................

“ลูกพี่ๆ ทางนี้” สาวร่างเล็ก ผมยาวปะบ่า ใส่แว่นหน้าเต๊อะ มองตามเสียงเรียก เห็นชายหนุ่มร่างผอมกวักมือไหวๆ หล่อนจึงเดินเข้าไป

“ทำไม มายืนตรงนี้ ไม่ไปรอในห้องประชุม”
“จะมาบอกว่า ให้เตรียมรับศึกให้ดี ตะกี้ผมเห็น นายอีชินวา เข้าไปคุยกับบอสในห้องประชุมด้วย

“เออ เขาจะคุยกันแล้วเกี่ยวไรกับฉัน”
“เกี่ยวสิลูกพี่ จำไม่ได้เหรอ ทีมเรากับทีมนั้นแย่งส่งโปรเจคว่าใครจะได้ช่วงเวลานี้น่ะ แล้วตอนนี้สถานการณ์รายการกำลังแย่ เบื้องบนอาจกำลังจะมีแผนเปลี่ยนใจอะไรก็ได้ อย่าวางใจนะครับ คุณP.D โอแทอา”
โอแทอาแสยะยิ้ม
“ฉันไม่เคยกลัวนายอีชินวาสักนิด นายไม่ต้องกลัวอะไรล่วงหน้าไป ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ฉันเชื่อว่าฉันรับมือได้แน่นอน ไปกันเถอะ ปาร์คซึงโจ” ...................................................................................

แฟ้มปึกใหญ่ถูกโยนโครมลงกลางโต๊ะ
“เรตติ้งตกกราวรูด นี่มันอะไรกันคุณโอ” คนที่โยนแฟ้มทำหน้าดุบนหัวโต๊ะ

“เราก็กำลังมีแผนจะปรับปรุงรายการอยู่ค่ะ หัวหน้า นี่เพิ่งจบไปคู่หนึ่ง เรากำลังจะ..”

“แต่เรตติ้งนี่มันแพ้คู่แข่งมาสามอาทิตย์แล้วน่ะ เกิดอะไรขึ้น กับรายการที่เป็นอันดับหนึ่งมาตลอดหกเดือน”

โอแทอากำลังจะอ้าปากตอบ แต่ถูกขัดจังหวะด้วยใครคนหนึ่ง ที่นั่งมุมห้อง ไม่ได้อยู่ในโต๊ะ ร่วมประชุม

“คนอาจเบื่อมุขเดิม คอนเซ็ปต์เดิมๆก็ได้ครับ หัวหน้า ต้องลองของแปลกใหม่”

โอแทอาหันขวับไปมองคนพูด ส่งสายตาเย็นเฉียบส่งไปให้

“เรามีแผนรองรับตรงนั้นอยู่แล้ว คุณอี คงไม่ต้องรบกวนให้คนละทีมคนละฝ่ายมาชี้แนะให้” อีชินวายิ้มมุมปากนิด ผู้หญิงคนนี้อวดดีเสมอ ต้องยั่ว

“ไหนๆเราก็อยู่บริษัทเดียวกัน ถ้ามีใครเพรี่ยงพรำ ก็ต้องพร้อมใจกันช่วย”

“เชอะ หาโอกาสเสียบล่ะไม่ว่า”

ปาร์คซึงใจ พึมพำ แต่เสียงดังไปไหน อีชินวา หันมาทำหน้าเคร่ง “นายพูดอะไรมิทราบ”
“แต่ฉันว่าเขาพูดมีเหตุผล”
โอแทอาส่งสายตาท้าทายอย่างไม่กลัว
“นี่คุณผมหวังดีนะ”
“ใครจะรู้เจตนาแท้จริง”
สองหนุ่มสาวคงเถียงกันไม่จบ ถ้าคนที่เป็นหัวหน้าไม่ห้ามทัพ
“เอาล่ะๆ สองคนนี้เป็นอะไร อยู่บริษัทเดียวกัน ไม่เคยพูดกันดีๆ เอาล่ะ คุณโอ ผมให้โอกาสคุณอีกครั้งหนึ่ง ปรับปรุงวาไรตี้นี้โฉมใหญ่ ถ้าเรตติ้งไม่ดีขึ้นละก้อ ผมจะเอาโปรเจคใหม่ของคุณอีมาทำแทน..จบการประชุม”

พูดจบหัวหน้าก็เดินอาดๆออกไปทันที ทิ้งบรรยากาศมาคุให้สองหนุ่มสาวจ้องตากันอย่างจะกินเลือดเนื้อ

“คงเป็นอีกครั้งสินะ ที่เราต้องมาพิสูจน์ตัวกัน”
อีชินวาพูดขึ้นก่อน
“แน่นอน และอย่าได้คิดว่าฉันจะยอมแพ้”
“ผมจะคอยดู”
อีชินวาค้อมศรีษะให้หญิงสาวก่อนจะเดินจากไปด้วยท่วงท่าสบายๆ แต่โอแทอา รู้สึกขัดใจเป็นที่สุด
“ฮึ ไอ้คนทรยศขี้แอ๊ค ฉันชนะนายได้อยู่แล้ว และตลอดไปด้วย” ...................................................................................

คนที่เปิดประตูเข้ามาชะงัก เมื่อเห็นร่างสูงยืนอิงหน้าตามองไปเบื้องล่าง ควันบุหรี่ที่ปลายนิ้วลอยเป็นสาย

“เฮ้ย ไม่กลับบ้านอีก เดี๋ยวเมียโทรให้พ่อตามาตาม จะยุ่งน้า ดูอะไรเพลินอยู่”

อีกฝ่ายเดินมาตบไหล่ แล้วชะโงกไปดูที่หน้าต่าง เห็นผู้หญิงหอบแฟ้มเต็มอ้อมแขนไปที่รถคันเล็กๆ
“อ๋อ..ส่องกิ๊กเก่าเรอะ
ผู้อาวุโสกว่าแซวยิ้มๆ
“รุ่นพี่..”
อีชินวา มีทีท่าเก้อเขินนิด “ไม่ใช่หรอกครับ ผมยืนคิดอะไรของผมไปเรื่อยเปื่อย “
“กับแทจา ไม่ยอมญาติดีกันอีกหรือ? ได้ข่าวว่าไปทะเลาะกันต่อหน้าหัวหน้าฝ่ายวันนี้”
หนุ่มรุ่นน้องถอนใจ
“ผมทำผิดกับเขาไว้เยอะ ก็แค่อยากจะช่วย อยากจะแก้ตัว แต่เขาไม่เปิดโอกาสสักนิด เห็นผมเป็นศัตรูตัวร้ายที่จ้องจะทำลายเขา” อีกฝ่ายตบบ่าอย่างเห็นใจ
“นายก็ต้องเห็นใจแทจาด้วย สิ่งที่นายทำมันทำร้ายจิตใจเขามาก เรื่องความรักระหว่างชายหญิง รักมากก็แค้นมาก”
“เราเหมือนกันเกินไป ถ้าแต่งงานกันไป ผมก็คิดว่าเราคงไปไม่รอด สู้เลิกรากันตั้งแต่แรกจะดีกว่า”
“แต่แทจาไม่ได้คิดแบบนั้น เขาคิดว่านายใช้สะพานทองอยู่ การที่นายแต่งงานกับลูกสาว ผ.อ.เนี่ย ใครๆก็คิดแบบนั้น”
“แม้แต่พี่เหรอครับ ทำไมไม่มีใครเชื่อว่าผมรักฮีจิน จริงๆ”
“ใช่แม้แต่ฉัน แต่ฉันเป็นพี่ของทั้งนาย และแทจา ฉันถึงต้องอยู่ตรงกลางนี่ไง ฉันรู้ว่านายพยายามจะช่วยแทจา อย่างเรื่องปรับผังรายการวันนี้ นายก็ไปขอร้องฝ่ายใช่มั้ยขอดูการปรับปรุงรายการเก่าก่อนจะเสียบ แต่นายควรจะหยุดน่ะ ยิ่งนายเข้าไปยุ่งแทจาจะยิ่งมุ่งมั่นเอาชนะ และถ้าเธอรุ้ทีหลังว่านายแอบช่วย แทจาจะเหลืออะไรในตัวเองให้ยืนได้อีก ในเมื่อเรื่องงานเป็นเรื่องที่แทจายึดได้อยู่สิ่งเดียว”

“พี่รู้ด้วยหรือ? ผมก็แค่อยากจะให้เขาได้ในสิ่งที่เขาต้องการ ความสำเร็จในหน้าที่การงานที่เขาอยากได้”
“ปล่อยเขาไปซ่ะ แทจาเข็มแข็งพอ ไม่งั้นคงลาออกจากบริษัทนี่ไปแล้ว เขาและนายอาจเข้าใจกันได้ในวันหนึ่งน่ะ ปล่อยเวลาจัดการทุกอย่างเถอะ หยุดซะ ฉันขอเตือน ความลับไม่มีในโลก ถ้ามันแตกขึ้นมาเผลอๆ นายจะเจอปัญหาครอบครัวด้วยเสียอีก”

รุ่นพี่ผู้ผ่านโลกมามาก เตือนด้วยความหวังดี จนอีกฝ่ายต้องนิ่งหยุดคิด.. จริงสินะ หรือว่าบางทีอาจจะดีกว่า ถ้าปล่อยให้มันผ่านไปเฉยๆ เวลาอาจช่วยทำให้ทุกอย่างดีขึ้นก็ได้ ถึงเวลาที่เขาควรจะเลิก..รู้สึกผิดเสียที ...................................................................................

ซอฮยอนนอนไม่หลับ สาวน้อยพลิกตัวไปมาบนเตียง จนฮโยยอน พี่สาวรูมเมทต้องส่งเสียงงัวเงียถาม

“ฮยอนทำไมไม่นอนอีกล่ะ ดึกแล้วน่ะ พรุ่งนี้มีงานไม่ใช่เหรอ?”

“ไม่รู้ทำตาแข็งค่ะพี่ พี่คะ....อืมม..เวลาที่คนเรามีแฟนนี่ มันจะต่างจากเดิมมั้ยคะ”
“ฮืมม..อะไรกัน มีอะไรดีๆเหรอ?”

ฮโยยอนเหมือนจะหายง่วง ผุดลุกขึ้นมานั่งหันมาทางสาวรุ่นน้อง

“ทำไม มีใครมาจีบ หรือว่าเธอชอบใครอยู่งั้นเหรอ? โอ๊ย น้องฉันจะมีแฟนแล้วงั้นสิ”
ซอฮยอนหัวเราะเบาๆ นึกขันพี่สาว

“เปล่าหรอกค่ะ เพียงแต่หนูนึกอะไรเล่นๆไปเรื่อยเปื่อย ว่าค้าเรามีแฟนมันจะเหมือนในเกมส์โชว์ที่เราดูวันนี้หรือเปล่า?”

“โธ่..เล่นเอาตกใจ ไอ้เราก็นึกว่าพอเป็นผู้ใหญ่ปุ๊ป จะมีแฟนปั๊ป”
“หนูอยากมีเหมือนกัน เพราะหนูอยากรู้ว่าเป็นไง พี่มีประสบการณ์เล่าให้ฟังบ้างสิคะ”

“ประสบการณ์อะไรที่ไหนกันเล่า” ฮโยยอนเขิน เพราะตอนนี้เจ้าหล่อนกำลังส่งสายอยุ่กับนักดนตรีนายหนึ่งที่อยู่สังกัดเดียวกัน แต่เป็นช่วงที่แอบๆส่งสายตา ยังไม่ได้ลงลึกถึงขั้นคบกัน..
“แหม..เขินทำไมคะ เมื่อก่อนใครมาจีบก็เล่าให้หนูฟังฉอดๆ แต่พี่จุนโมเนี่ยเก็บเงียบเลย..”

“ไม่รู้จะเล่าอะไรนี่นา ก็มันไม่มีอะไร”
“จริงอ่ะ”
ซอฮยอนทำหน้าล้อเลียน
“จริง เขาก็ยังไม่ได้อะไรสักหน่อย ไม่รู้พี่เป็นฝ่ายคิดฝ่ายเดียวหรือเปล่า?”
คราวนี้ฮโยยอนทำตาลอยๆ
“หนูว่าไม่น่ะ พอหนูเห็นพี่เค้าแอบมองพี่บ่อยๆ”
“จริงเหรอ? แต่ทำไมเขาไม่เข้ามาคุยสักที พี่ก็รออยู่”
คราวนี้ซอฮยอนหัวเราะ
“เขาจะเข้ามาคุยได้ไงคะ พอเขาเดินมาพี่ก็เดินหนี ทำไมทำงั้นละคะ”
ฮโยยอนยิ้มอายๆ บิดหมอนในมือไปมา
“ก็มันอายนิ”
“อารายยก๊านน หนูไม่เคยเห็นพี่อายสักทีเวลาคุยกับหนุ่มๆ”
“ไม่เหมือนกันนะฮยอน คนที่เราไม่รู้สึกอะไร เราจะพูดอะไรก็ได้ แต่คนที่เรามีพิรุธในใจกับเขาเนี้ย มันอายอ่ะ”

“แล้วพี่รุ้ได้ไงคะ ว่าพี่รู้สึกพิเศษกับเขา”

น้องน้อยผู้อ่อนด้อยในเรื่องรัก สงสัย
“ฮยอนคนดี เวลาเราเจอคนที่เราชอบ หัวใจเราจะเต้นแรง แรงแบบไม่มีเหตุผล แค่เขายิ้มเราก็ใจสั่น เขาพูดด้วย ก็ไม่รู้จะเอามือไม้ไปไว้ที่ไหน..มันเขินมากๆเลยนะ”

“อย่างงั้นเองหรือคะ? หนูชักอยากจะมีความรักดูมั่งแล้วสิ เอ๊ะ พี่คะ ถ้าเราชอบเขา แล้วเขาไม่ชอบเราล่ะ”

ฮโยยอนหัวเราะ

“ก็เป็นรักข้างเดียว เหี่ยวเหมือนกิมจิแช่แข็งไง ความรักนี่มันแปลกนะ บทมันจะรักมันก็รัก มันบอกอะไรกันไม่ได้ ดูอย่างเจ๊แทแทสิ ใครจะรู้ล่ะว่าเขากิ๊กกับแฮทึก ปิดกันตั้งนานพวกเรายังไม่รู้เลย เห็นมั้ย”
“นั่นสิคะ หนูถึงได้ว่า เวลาบริษัทมีงาน เห็นพี่แทแทที่ไหน ดูเหมือนพี่แฮทึกจะอยู่ข้างๆตลอดเลย แต่เขาก็ทำเนียนนะคะ จริงๆหนูนึกว่าเขาชอบพี่ยุนอาเสียอีก เห็นคุยกันหัวเราะกันบ่อยๆ”

“พี่ถึงได้บอกไง ถ้าเราไม่ชอบเราก็แสดงตัวตนเราได้ร้อยแปด แต่ถ้าเราชอบ เราก็อยากดูดีในสายตาของคนคนนั้น”

“ถ้าหนูมีแฟนนะ หนูจะเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด ถ้าเขาชอบหนู เขาต้องชอบทุกอย่างที่เป็นหนูสิ ไม่ใช่ต้องแกล้งทำเป็นคนอื่นให้เขาชอบ”
ซอฮยอนย่นจมูก
“ย่ะ แม่จิงจิงอี จอมขี้แย ว่าแต่ตอนนี้จะนอนได้หรือยัง? เดี๋ยวพรุ่งนี้ถ้าฉันขอบตาคล้ำเป็นหมีแพนด้าน่ะ ถ่ายรูปออกมาไม่สวย ฉันจะให้คุณอาลงโทษเธอ”

“นอนค่ะนอน แหม..ถ้าพี่เป็น หนูก็เป็นด้วยล่ะ อยู่ดึกด้วยกันนิ”

“ย่ะ สองสาวหัวเราะกันเบาๆ ก่อนจะล้มตัวนอนแล้วกล่าวราตรีสวัสดิ์กันเบาๆ ซอฮยอน หลับตา รอยยิ้มยังอยู่บนริมฝีปาก

“จะเป็นไงนะ ถ้าจะได้เจอกันคนคนนั้น แล้วเขาจะเป็นยังไงกัน ฉันอยากเจอเขาเร็วๆจัง คนที่พี่ฮโยยอนบอกว่าจะทำให้ฉันหัวใจเต้น..
...............................................................................

“ตื่นเต้นจังเลย"

สามหนุ่ม เดินไปมาอยู่ในห้องแต่งตัว พวกเขาอยู่ในชุดสุทการแสดงสีน้ำเงินเข้ม แต่ออกแบบให้แตกต่างกันไปแต่ละคน ยงฮวาอมยิ้ม มองดูน้องๆ แสดงอาการประหม่าต่างกัน จองชินเดินไปมาเอามือถุขมับ จองฮยอนเดินไปนั่งเท้าแขนโซฟา สักพักไปนั่งตรงอีกมุม ส่วนมินฮยอกหนักสุด เดินไปที่กระจกเช็คหน้าเช็คผมไม่รู้เป็นรอบที่เท่าไหร

“เอาน่า ทำใจเย็น สูดลมหายใจเข้าลึก”

“โอ๊ยพี่ สูดหลายรอบแล้ว..ไม่เห้นช่วยได้เลย ยิ่งสูดยิ่งหอบ”

จองชินเถียง ตอนนี้เขาหยุดถูขมับ แต่กำมือสองข้างมาย้ำเบาๆตรงข้างแก้ม ที่เขาบอกว่ามันเป็นพัลจา(รอยย่น)

“มันจะต้องออกมาดี เชื่อฉัน”

“ใช่แล้ว”
ชองจองกิว ผู้จัดการส่วนตัวเปิดประตูเข้ามา

“ออกมาดีแน่ๆ รู้มั้ย พวกสื่อมาเพียบ แขกวีไอพี ก็มาเพียบบบ นี่ จางกึนซอกมาแล้ว ปาร์คชินเฮมาแล้ว รุ่นพี่ปาร์คยองฮา ก็มาน่ะ”

“ฮ้า พี่เขามาจริงๆด้วย”
หนุ่มๆBlue ตื่นเต้น เพราะเขาเจอกับรุ่นพี่นักแสดงคนนี้ที่ญี่ปุ่นจนสนิทสนมคุ้นเคยกันดี
“ใช่ พอดีเขามาเทสต์ซีรีย์เรื่องใหม่ในเกาหลี เดี๋ยวพอจบรายการเขาจะมา เขาอยากเจอพวกนายมาก เห็นว่าจะพาไปฉลองด้วยนะ”

“โอ๊ยๆๆดีใจ” มินฮยอกเต้นไปรอบๆ ประตูเปิดมาอีกรอบ คราวนี้ชายหนุ่มห้าหกคนเดินเข้ามา
“ยงฮวา ยินดีด้วยน้า” ลี
ฮงกิ ยิ้มกว้าง เดินเข้ามาสวมกอดยงฮวา
“ขอบใจเพื่อน”
ยงฮวายิ้มรับ พร้อมทักทายหนุ่มๆ วง F.T.Island คราวนี้ทั้งห้องเลยเต็มไปด้วยเสียงเซ็งแซ่ จนชองจองกิว ต้องยกมือห้าม

“หยุดๆๆ ทักทาย พอแล้ว ฮงกิ พวกนายไปนั่งด้านหน้าไป๊ สื่อจะได้ทำข่าว เขามาแบบนี้เจ้าพวกนี้สมาธิแตกซ่านกันพอดี”

ลีฮงกิหันมาพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะหันมา
“เออ ยงฮวา พี่ผู้กับกับก็มานะ มากันเกือบครบทีมล่ะฉันเจอเขาตะกี้นี เดี๋ยวจบการโชว์ของนาย เขาจะเขามาหา น่าอิจฉาชะมัดเลยว่ะ สื่อมากันเพียบบ เพราะนายเดบิวต์นี่มีแต่แขกดังๆทั้งนั้น โดยเฉพาะฉัน ฮ่าฮ่าฮ่า”

ทุกคนพากันระเบิดเสียงหัวเราะ ขำลีฮงกิ ยงฮวาอมยิ้ม “หวังว่าการเดบิวท์ครั้งแรกของพวกเราจะผ่านไปด้วยดีน่ะ”

 
 

จากคุณ : หนูธันย์
เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 00:18:21




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com