ชวาลกลับมาใช้ชีวิตประจำวันของตัวเองเช่นเดิมอีกครั้ง ทว่าในใจของชายหนุ่มก็รับรู้ดีแก่ใจว่ามันไม่มีทางเปลี่ยนกลับไป เป็นเหมือนเดิมได้อีกแล้ว และสิ่งที่ดีขึ้นในชีวิตของเขาตอนนี้ก็คือความสัมพันธ์กับมารดาเท่านั้นที่มีความเข้าอกเข้าใจ กันมากขึ้นกว่าในอดีตอย่างมากมาย
ตะวันลาลับขอบฟ้าไปนานโขแล้ว ชวาลเพิ่งจะกลับมาถึงบ้าน คงมีแต่การทำงานหนักเท่านั้นที่จะสามารถทำให้ชายหนุ่ม สามารถลืมแผลในใจอันแสนจะเจ็บปวดไปได้บ้าง แต่มันก็เป็นเพียงชั่วครู่ชั่วยามเท่านั้น เพราะเมื่อได้มองเห็นโต๊ะทำงาน ของกชกรทีไร ความเจ็บปวดทรมานใจก็ถาโถมเข้ามาทำร้ายอีกจนได้ เขาอยากจะย้ายมันออกไปให้ไกลสายตา แต่สุดท้าย ก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดต้องสั่งตัวเองให้เลิกล้มความตั้งใจนี้ไปทุกที
ความจริงบางอย่างที่ชายหนุ่มเพิ่งได้รับฟังจากปากของราตรี พนักงานสาวฝ่ายบุคคลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างบุษกร และกชกร ทำให้ความสงสัยเกี่ยวกับการกระทำทุกอย่างของกชกรที่ผ่านมากระจ่างขึ้นทันที พร้อมๆ กับความเจ็บปวดใจ ที่เพิ่มอย่างทวีคูณด้วยเช่นกัน
ตอนแรกราตรีก็แค่สงสัย แต่พอลองเช็คข้อมูลดูลึกๆ แล้ว ก็แน่ใจว่าน้องบุษกรและน้องกชกรเป็นพี่น้องกันจริงๆ ค่ะ เพียงแต่ใช่คนละนามสกุลกันเท่านั้น คำบอกเล่าของราตรีดังขึ้นในหัวของชวาลอีกครั้งในระหว่างที่ชายหนุ่มกำลังนั่ง คิดทบทวนเรื่องราวต่างๆ อยู่ที่สนามหญ้าหน้าบ้าน จากที่ชายหนุ่มเคยคิดจะกลับมาขอโอกาสแก้ตัวกับกชกรอีกครั้ง ทว่าเมื่อความจริงได้ปรากฏออกมาในรูปแบบนี้ ความตั้งใจที่จะกลับมาเริ่มต้นใหม่กับความรักที่มีต่อเธอก็จบลงไปด้วย
ที่แท้ทุกอย่างที่ผ่านมา คุณก็คงแค่ต้องการจะแก้แค้นให้กับพี่สาวของคุณใช่ไหมบัว แต่ยังไงผมก็อยากรู้ว่าผมผิดอะไร ทำไมคุณถึงทำกับผมแบบนี้ ชวาลรำพึงรำพันเบาๆ
มานั่งทำไมตรงนี้ฮึตาวาลูกแม่ เสียงของนางปานหยาดดังขึ้นทันทีที่เดินมาถึง ทำเอาคนที่นั่งใจลอยอยู่ถึงกับสะดุ้งน้อยๆ
อ๋อ คุณแม่ยังไม่ขึ้นข้างบนหรือครับ ชวาลหันมาหาคนที่เพิ่งเดินมาถึง
ผมกำลังนั่งคิดเรื่องงานนิดหน่อยน่ะครับคุณแม่
ช่วงนี้ลูกคงต้องเหนื่อยหน่อยนะ เพราะลูกคงต้องช่วยดูแลงานแทนหนูพายไปก่อนจนกว่าคดีจะจบลง เฮ้อ... คิดๆ ไปแล้ว แม่ก็ยังอดโทษตัวเองไม่ได้ที่พยายามจับคู่ระหว่างลูกกับหนูพายให้แต่งงานกัน คนกล่าวเดินมานั่งข้างๆ บนเก้าอี้ยาวตัวเดียวกัน
แม่มองคนแค่ภายนอกจริงๆ คิดแต่ว่าความเพียบพร้อมภายนอกจะทำให้ลูกของแม่สบายและมีความสุขได้ ตอนนั้นแม่คงจะตาบอดและขาดสติจริงๆ แม่ถึงลืมนึกถึงเรื่องจิตใจและความรู้สึกของคนอื่นไปเสียสนิท และแม่ไม่คิดว่าหนูพายจะกล้าทำเรื่องร้ายกาจแบบนั้นได้ลงคอ
ช่างมันเถอะครับคุณแม่ อย่าโทษตัวเองเลยครับ ไหนๆ เรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว อีกอย่างผมเองก็เข้าใจแล้วว่า ที่คุณแม่ทำไปเพราะคุณแม่รักผมมากจริงๆ
แม่บอกตรงๆ นะว่ากลัวมากตอนที่ได้ยินหนูพายพูดที่โรงพยาบาลว่าเธอสามารถฆ่าลูกและฆ่ากชกรได้ ตอนนั้นแม่นี่ใจสั่นไปหมดเลย
ชวาลเอื้อมมือมาจับเรียวมือของมารดาไว้เพื่อให้นางคลายจากความหวั่นกังวลจากเรื่องในอดีตลงบ้าง
คุณแม่เลิกกังวลได้แล้วนะครับ ตอนนี้ทุกอย่างมันผ่านไปแล้วครับ ผ่านไปได้ด้วยดี
คนฟังหันมามองหน้าบุตรชายแบบเต็มตา และการที่เขาหลบตาก็ทำให้นางรู้ดีว่าชวาลไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นเลย
แน่ใจเหรอตาวาว่าทุกอย่างมันจบลงด้วยดี
ชวาลถึงกับนิ่งไป เพราะไม่สามารถโกหกใดๆ ออกมาได้อีก
สิ่งที่แม่ทำมาทั้งหมด แม่ยอมรับแล้วว่าแม่ทำผิดมาตลอด และแม่ยินดีแก้ไขทุกอย่างนะตาวา ต่อไปนี้ไม่ว่าลูกของแม่ นั้นรักใคร แม่ก็ยินดีที่จะรักคนคนนั้นด้วย แม่ไม่สนแล้วว่าเธอคนนั้นจะเป็นใคร มาจากไหน ฐานะอะไร ขอเพียงเธอทำให้ลูกของแม่สุขใจที่ได้รักเธอก็พอ
ขอบคุณครับคุณแม่ แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันสายไปแล้วครับ ทุกอย่างมันจบลงแล้วครับ
ไม่มีคำว่าสายหรือจบหรอกนะลูกสำหรับคำว่ารักน่ะ นางปานหยาดพลิกมือเปลี่ยนมากุมมือของบุตรชายเอาไว้บ้าง
ที่ผ่านมา แม่ทำผิด แม่ยังได้โอกาสจากลูกเลยนี่นา ไม่ใช่เพราะความรักหรอกหรือที่ทำให้เรามีโอกาสเริ่มต้น ใหม่อีกครั้ง แล้วทำไมกับคนที่ลูกรักมากอีกคนอย่างกชกร ลูกจะให้โอกาสเธอไม่ได้
แต่มันไม่เหมือนกันนี่ครับคุณแม่ ผมรักแม่และแม่ก็รักผม ในขณะที่ผมรักคุณบัว แต่เธอ... เธอไม่ได้รักผม ทุกอย่างเลยเป็นไปไม่ได้ ชวาลค่อยๆ จับมือของมารดาออกจากมือของตนเองเบาๆ ก่อนจะลุกยืนขึ้นจากเก้าอี้
แม่ว่าลูกลองพยายามดูอีกสักครั้งดีไหม ลองพยายามเพื่อความรักของตัวเองอีกสักครั้งเถอะ
ไม่ล่ะครับคุณแม่ ผมพยายามมามากพอแล้ว แต่สิ่งที่ผมได้รับกลับมาก็เป็นเพียงคำว่ารักที่โกหกหลอกลวง ที่จริงแล้วเธอเห็นผมเป็นแค่ศัตรูเท่านั้นเอง"
แต่นั่นมันเมื่อก่อน แต่ตอนนี้ความจริงเปิดเผยแล้วว่าคนที่ทำร้ายบุษกรคือหนูพายต่างหาก ไม่ใช่ลูก
เมื่อไหร่ก็คงเหมือนกันครับ ถ้าในหัวใจของคุณบัวไม่มีผมอยู่เลย ไม่มีตั้งแต่แรก
นางปานหยาดไม่สามารถหว่านล้อมจิตใจบุตรชายได้อีกต่อไป ประโยคสุดท้ายของเขาแลดูจริงจังมากเหลือเกิน และเห็นทีว่าความรักครั้งนี้ของชวาลคงต้องปล่อยให้เป็นไปตามบุญตามกรรมแต่เพียงเท่านั้น และหากว่าผลความดี ของบุตรชายซึ่งนางคิดว่ามีอยู่เต็มเปี่ยมจะส่งผลช่วยเหลือได้บ้าง นางก็ขอภาวนาให้กชกรรักชวาลอย่างที่เขารักเธอ ด้วยเช่นกัน เพราะนางเองก็ต้องการเห็นบุตรชายที่แสนดีคนนี้ได้พบกับความสุขที่แท้จริงเสียที
********
กชกรนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจนกระทั่งอาการทางกายและใจค่อยๆ ทุเลาขึ้นมาก เธอจึงตัดสินใจที่จะออก จากโรงพยาบาลเสียที ด้วยเกรงว่าผู้เป็นบิดาที่เพิ่งได้ทราบความจริงจากการคาดคั้นเอาความจากสว่างและกำลัง เดินทางมากรุงเทพฯ จะรู้สึกเป็นห่วงและเป็นกังวลมากขึ้น
ระหว่างที่กชกรกำลังเก็บข้าวของเพื่อรออารยาและม่านเมฆมารับกลับบ้าน เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นก่อนที่ผู้กองนราธร และหญิงสาวคนหนึ่งจะก้าวเข้ามา
สวัสดีค่ะผู้กองนัด กชกรไหว้ทักทายผู้มีพระคุณ และหันไปมองหญิงสาวอีกคนด้วยสีหน้าแววตาสงสัย
คุณบัวครับ นี่คุณหมอเพชรอุมาครับ ผู้กองนราธรผายมือแนะนำ กชกรจึงประนมไหว้ทักทายตามมารยาท
คุณหมอเพชรอุมาเป็นจิตแพทย์ครับ
คำบอกเล่าทำให้กชกรรู้สึกแปลกประหลาดใจมากขึ้น ผู้กองนราธรพาจิตแพทย์มาทำไม...
นี่อย่าบอกนะคะว่าบัวต้องเช็คสภาพจิตของตัวเองก่อนออกจากโรงพยาบาลด้วย คนถามหัวเราะเบาๆ ตบท้ายประโยค แต่เมื่อได้เห็นสีหน้าของคนทั้งสองแล้ว พวกเขากลับไม่มีแม้รอยยิ้มเผยออกมาสักนิด ตรงกันข้ามสีหน้าที่ได้เห็นกลับแลดูจริงจังจนกชกรอดใจหายขึ้นมาไม่ได้
ไม่ใช่อย่างนั้นครับ เพียงแต่ผมและคุณหมอมีบางอย่างที่เป็นเรื่องสำคัญมากจะบอกคุณบัวให้ทราบครับ ผู้กองนราธรบอกด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจนัก
ความจริงอะไรคะ คนคิ้วผูกโบว์รีบถาม
เอ่อ... จากหลักฐานในไดอารี่ของคุณบุษกร ทางตำรวจได้พบกับเบอร์โทรตัวเล็กๆ ที่เขียนไว้ด้วยลายมือ คุณบุษกรเองเบอร์หนึ่ง และเมื่อเราลองโทรติดต่อไปก็พบว่าเป็นเบอร์ของคุณหมอเพชรอุมาครับ คนกล่าวบอกเล่าแล้วมองมาทางคุณหมอสาวผมสั้นซอยแค่ท้ายทอย
คุณบุษกรเคยมาปรึกษาดิฉันค่ะ คุณหมอเพชรอุมาบอกเสียงนุ่ม
นี่พวกคุณคงไม่ได้กำลังจะบอกบัวว่าที่จริงแล้วพี่บุษ...
ค่ะ คุณหมอสาวพยักหน้ารับ สีหน้าแลดูมีรอยกังวลอยู่ไม่น้อยด้วยไม่อาจคาดเดาได้เลยว่ากชกรจะรู้สึก อย่างไรกับข่าวที่ตนได้นำมาบอก
จากที่ดิฉันได้พบและคุยกับคุณบุษกรมาระยะหนึ่ง ซึ่งเป็นเวลาที่มากพอสมควรที่ทำให้ดิฉันมั่นใจว่าเธอ มีอาการหลายอย่างที่สอดคล้องกับโรคจิตเภท
โรคจิตเภท... กชกรตกใจมากและเผลอทวนชื่อนี้อีกครั้งเบาๆ แม้เคยได้ยินมาบ้าง แต่กชกรก็ไม่รู้ชัดเจนนัก ว่ามันร้ายแรงเพียงใด
จากคุณ |
:
ยาชมภู
|
เขียนเมื่อ |
:
14 ก.ย. 54 17:35:16
|
|
|
|