ตะวันคืนใจ ตอนที่1... เธอคือ ดาว ดาวตะวัน
|
 |
1
กรี๊ง......กรี๊ง....... เสียงโทรศัพท์ดังรัวขึ้นมา ทำให้ดาวตะวันละจากหนังสือกองโตที่หล่อนขะมักขะเม้นตั้งใจอ่านมาตั้งแต่เช้า ลุกเดินไปที่รับโทรศัพท์ทันที ฮัลโล ตะวันเหรอ? นี่พี่รัชพูดนะ แกทำอะไรอยู่น่ะ ถึงได้มารับช้าอย่างนี้ ดาวตะวันยิ้มกับโทรศัพท์ กรอกเสียงตอบไปอย่างร่าเริง เมื่อรู้ว่าปลายสายคือ รัชตะ สาธรบุตร ผู้กำกับชื่อดังและเป็นเจ้าของบริษัททีวี-วีดีโอที่หล่อนเป็นนักแสดงในสังกัดนั่นเอง พี่รัช สัวสดีค่ะ อย่างเพิ่งมู๊ดดี้ซิคะ หนูก็กำลังอ่านหนังสือเตรียมสอบเหมือนเคยแหละค่ะ พี่รัชมีธุระอะไรกับหนูหรือเปล่าละคะ เอ...หรือว่าโทรมาคุยเฉยๆเพราะคิดถึงหนู หล่อนแกล้งเย้า เฮ้ยๆ.....น้อยๆหน่อยนะแม่คุณ ประเดี๋ยวเมียฉันได้ยิน ฉันก็ตายพอดี รัชตะโวยวายมาตามสาย ทำให้ดาวตะวันหัวเราะคิก เพราะหล่อนรู้ดีว่าวัลภาภรรยาของรัชตะนั้น มีกิตติศักดิ์ความขี้หึงที่เลื่องลือไปทั่ววงการ เสียงเขายังพูดต่อไปว่า ธุระนะมีแน่ เออนี่ตะวัน แกอ่านหนังสือพิมพ์กรอบบ่ายหรือยังล่ะ มีข่าวแกด้วยนะ แต่เป็นข่าวไม่ค่อยดีเท่าไหร่ รัชตะทอดเสียงนุ่มคล้ายจะปลอบโยนหญิงสาวรุ่นน้องอยู่ในที เรื่องคุณชัยยะอีกใช่ไหมคะ ดาวตะวันถามต่อไป อย่างพอจะรู้คำตอบ หล่อนอดถอนหายใจเฮือกใหญ่ไม่ได้ แม้ว่าจะยังไม่ได้เห็นเนื้อข่าว แต่หล่อนก็พอจะเดาได้ว่ามันจะออกมาเป็นรูปใด หลายเดือนมาแล้วที่นักข่าวไร้จรรยาบรรณคนนี้ พยายามเขียนสาดโคลนใส่หล่อนว่า เป็นดาราสาวที่มีผู้อุปถัมภ์ พูดง่ายๆก็คือ มีเสี่ยเลี้ยงนั่นเอง เสี่ยคนนั้นก็คือ คุณชัยยะ เจ้าของสนามกอลฟ์กรุงเทพฯกรีน ผู้ที่หล่อนเคยพบหน้าแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ในงานเลี้ยงเปิดตัวสนามกอลฟ์ เพราะคุณมณฑิรา กรรมการผู้จัดการของสถานีโทรทัศน์ช่องสิบเจ็ดรู้จักสนิทสนมกันดีกับคุณชัยยะ เธอจึงเกณฑ์ให้เหล่าดาราในบริษัทลูกของสถานีไปร่วมงาน และดาวตะวันก็เป็นคนหนึ่ง จะโชคดีหรือโชคร้ายไม่รู้ได้ เมื่อคุณมณฑิราสั่งให้หล่อนเป็นผู้ไปมอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีให้แก่คุณชัยยะในค่ำคืนนั้น และแน่นอนว่ามันก็กลายเป็นภาพข่าวซุบซิบในเช้าวันรุ่งขึ้น นั่นแหละ เจ้าทวนดำตัวแสบ มันโกรธอะไรแกนักว่ะ ถึงได้จองล้างจองผลาญแก กัดไม่ปล่อยจริงๆ รัชตะถามอย่างสงสัย ก็ตั้งแต่คราวที่เขาชวนหนูไปงานวันเกิดเขาที่พัทยาไงคะพี่ พอหนูไม่ไป เขาก็โกรธ หาว่าหนูไม่ให้เกียรติเขา เขาว่าที่เขาดังมาได้ทุกวันนี้ก็เพราะเขา ฉะนั้นเขาจะทำให้หนูดับก็ได้ เขาว่างั้นน่ะพี่รัช โธ่......ไอ้บ้าเนี่ยเค้าก็รู้กันทั่ววงการว่ามันน่ะ ชอบเคลมดาราสาวๆ ใครน่ะ หลงคารม เชื่อมันที่ว่ามันจะเชียร์ให้ดัง เสร็จมันทุกราย นี่มันคงโกรธแกมากจริงๆ นี่ก็ตั้งปีกว่าเข้าไปแล้ว มันยังไม่เลิกปั่นข่าวอีก ช่างเขาเถอะค่ะ เขาอยากจะเขียนอะไรให้เขาเขียนไป หนูไม่สนใจ หนูไม่อยากจะไปทะเลาะกับใคร ดาวตะวันพูดอย่างปลงๆ เออ.........ดีแล้วล่ะแก ประเดี๊ยวข่าวมันก็เงียบไปเอง รัชตะปลอบใจ แล้วตกลงพี่รัชมีธุระอะไรกับหนูคะ หรือว่าโทรมาบอกเรื่องข่าวเฉยๆ มีซิมี.....เรื่องงานนั่นแหละ คุณมณสั่งให้แกลงละครเรื่องใหม่ จะเปิดกล้องเดือนหน้านี่แหละ เพราะตั้งแต่แกได้รางวัลรามสูรเมื่อปีที่แล้ว แกยังไม่ได้ลงละครอีกเลยนี่ ห้าเดือนเข้าไปแล้ว ดาวตะวันนึกถึงรางวัล รามสูร ในฐานะนักแสดงดีเด่นฝ่ายหญิงทางโทรทัศน์จากเรื่อง เพียงจันทร์ฉาย ที่ทำให้หล่อนโด่งดังเป็นพลุแตก นับว่าเป็นปีแห่งความสำเร็จของหล่อนจริงๆ ตะวัน เสียงรัชตะทำให้หล่อนตื่นจากภวังค์ ขา หล่อนขานรับ พรุ่งนี้แกเข้าบริษัทนะ จะได้คุยกันเรื่องรายละเอียด สิบโมงเช้าเหมือนเดิม ค่ะพี่รัช เอ....แล้วคราวนี้หนูเล่นกับคู่กับใครค่ะ พี่หนึ่งอีกหรือเปล่า? ดาวตะวันหมายถึง ศรชัย เทพชัย พระเอกที่เล่นคู่กับหล่อนหลายเรื่องจนแฟนละครยกให้เป็นคู่ขวัญทางจอแก้วประจำช่องสิบเจ็ดไปเสียแล้ว ไม่ใช่หรอก เจ้าหนึ่งมาเล่นไม่ได้ มันติดสัญญากับค่ายเทป เอส.อาร์. แล้วไอ้ค่ายเทปเวรนี่ก็ดันไปสังกัดช่อง สิบสาม เสียด้วย มันเลยไม่ยอมปล่อยตัวไอ้หนึ่งมาเลยให้ช่องเรา เจ็บใจจริงๆ รัชตะบ่นอย่างหัวเสีย เพราะเขาเป็นคนที่ชักนำศรชัยให้มาเล่นละครเป็นคนแรก เพราะเขาเองรู้จักกันดีกับศรศักดิ์นักแสดงอาวุโส ผู้เป็นบิดาของพระเอกหนุ่ม เขาทั้งผลักทั้งดันจนชายหนุ่มโด่งดังเป็นพระเอกแถวหน้าของวงการ แต่เมื่อศรชัยหันไปออกเทบสังกัดบริษัทหนึ่งซึ่งเป็นบริษัทพันธมิตรกับสถานีคู่แข่งอย่างช่องสิบสาม ทำให้เขาไม่อาจที่จะมารับงานบริษัทที่เปรียบเสมือนผู้ปลุกปล้ำให้เขาในวงการบันเทิงขึ้นมาได้ เรื่องนี้ทำให้รัชตะและคุณมณทิราโมโหอยู่นานนับเดือน เป็นพระเอกใหม่น่ะ ตะวัน พรุ่งนี้แกได้เจอแน่ๆ อย่าลืมนะตะวัน สิบโมง อย่าลืม เขากำชับดาราสาวอย่างหนักแน่น ค่ะพี่รัช พรุ่งนี้เจอกัน ดาวตะวันวางสายอย่างกระตือรือล้น เมื่อรู้ว่างานใหม่ของหล่อนกำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่ช้า ดาวตะวันลงมาข้างล่าง เมื่อบ่ายคล้อย หล่อนพบคุณดวงดาวนั่งเหม่ออยู่ที่ระเบียงหลังบ้าน สีหน้าสีตาเป็นกังวลของมารดา ทำให้หล่อนสาวเท้าเข้าไปหา แม่ แม่ไม่สบายหรือคะ ดูซิ หน้าเซียวเชียว ดาวตะวันเอามืออังหน้าผากมารดา เอ....ตัวก็ไม่ร้อนนี่นา คุณดวงดาวยิ้มตอบลูกสาว พร้อมกับจับมือบางคู่นั้นไว้ ก็แม่ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อยนี่ ไม่จริงหรอกคะ แม่ดูท่าทางกังวลใจ มีอะไรหรือเปล่าคะ บอกหนูบ้างได้หรือเปล่า นางดวงดาวถอนใจเบาๆ แค่ไม่สบายใจนิดหน่อย เรื่องอะไรคะ หญิงสาวตะแคงคอมองมารดาอย่างสงสัย แล้วพลันนึกขึ้นได้ อ้อ..หนูรู้แล้ว....แม่อ่านหนังสือพิมพ์กรอบบ่ายแล้วใช่ไหมค่ะ โธ่....แม่ขา ดาวตะวันบีบมือมารดาเบาๆ แม่ก็รู้ว่ามันไม่จริงสักหน่อย แม่รู้ลูก แม่รู้ แต่ว่าคนอื่นเขาไม่รู้ไม่เข้าใจ เขาจะหาว่าหนู....... ช่างเถอะค่ะแม่ ดาวตะวันพูดขัดขึ้นมา หนูไม่สนใจ ขอแค่แม่ พ่อ แล้วก็นายจันทร์ เข้าใจหนู รู้ว่าเป็นอย่างไรหนูก็พอใจแล้ว หล่อนหมายถึงตามจันทร์น้องชายคนเดียวของหล่อน แม่อย่าคิดมากไปเลยนะคะ ดูที่ตัวหนูเอง อย่าไปฟังใคร นะคะแม่ ดาวตะวันเอนศีรษะไปซบไหล่มารดาอย่างประจบ จ๊ะ คุณดวงดาวรับคำลูกสาว พวกนักข่าวเขาคงไม่เห็นใครดีกว่าลูกหลานเขาอยู่แล้ว ใช่ไหมลูก ดาวตะวันหัวเราะเสียงใสกับคำรำพันของมารดา หล่อนสวมกอดมารดาแน่น พึมพำว่า หนูรักแม่ที่สุดเลยค่ะ
ร่างสูงสง่าในเครื่องแต่งกายสุภาพ ก้าวขึ้นมาบนสำนักงานทีวี วีดีโอ ด้วยรูปร่างหน้าตาอันหล่อเหลาบวกกับบุคลิกภาพสง่างามตามธรรมชาติ ทำให้สาวๆ หลายคนบนสำนักงานแอบชำเลืองมองอย่างสนใจ บางคนอดไม่ได้แอบกระซิบกระซาบกับเพื่อนข้างๆ นี่ๆ เธอช่วยดูพ่อรูปหล่อคนนั้นซิ ดาราคนไหนเหรอ? ไม่รู้ซิ ใช่ดาราหรือเปล่า? แต่เขาดูดีจังนะเธอ อีกฝ่ายหนึ่งกระซิบตอบ ชายหนุ่มผู้ตกเป็นเป้าของการสนทนาเดินตรงไปที่ประชาสัมพันธ์สาวเพื่อสอบถาม เขายิ้มสุภาพให้หล่อนผู้นั้น ซึ่งยิ้มหวานรอรับอย่างเต็มอกเต็มใจ มีอะไรให้รับใช้หรือค่ะ เจ้าหล่อนถามเสียงอ่อนหวานพลางส่งสายตาฉ่ำเยิ้มเชิญชวน พิระภัทรเอ่ยถามด้วยเสียงทุ้มเบา ครับ ผมมาพบกับคุณรัชตะครับ นัดไว้ตอนสิบโมงเช้า อุ้ย..คุณพิระภัทรใช่ไหมค่ะ พี่รัชส่งติ๋มไว้แล้วค่ะ หล่อนลุกขึ้นโดยเร็วขัดกับเรือนร่างอันอวบท้วม แล้วผายมือ เชิญทางนี้ค่ะ แม่สาวติ๋ม เดินย้ายสะโพกด้วยลีลาที่คิดว่าเซ็กซี่ที่สุด ส่งสายตาให้เขาเป็นระยะๆ พิระภัทรนึกขันเต็มที่ แต่ก็ยิ้มตอบหล่อนไปนิดหนึ่งตามมารยาท ชายหนุ่มเดินตามตามหล่อนเข้าไปในห้องประชุมเล็กก่อนจะหยุดที่หน้าประตูห้องหนึ่ง เคาะประตูเบาๆ ได้ยินเสียงคนข้างในร้องออกมาว่า เชิญ รัชตะรอเขาอยู่แล้ว อ้าว
คุณแพน เชิญๆ แหม..มาก่อนเพื่อนเทียวน่ะครับเนี่ย พิระภัทรยิ้มเขินๆ ก่อนจะยกมือไหว้ผู้กำกับหนุ่ม ผมตื่นเต้นน่ะครับ คุณรัชตะ ไม่เป็นไร รอแป็ปหนึ่งนะครับ รัชตะตบไหล่ชายหนุ่มเบาๆ มากันแล้วหลายคน แต่ไปกินอะไรกันที่แคนทีนน่ะ แล้วนี่คุณล่ะ กินอะไรมาหรือยัง เรียบร้อยแล้วครับ ถ้างั้นนั่งรอนี่ก่อนก็ได้ครับ ไม่นานหรอก อ้อ..ถ้าจะให้ดีน่ะ เรียกผมว่าพี่รัชก็ได้ ใครๆก็เรียกแบบนี้กันทั้งนั้น ครับ งั้นพี่รัชก็เรียกผมว่าแพนเฉยๆดีกว่า อย่าเรียกคุณเลยครับ พิระภัทรยิ้มกว้างกับความเป็นกันเองของผู้กำกับหนุ่ม ดีๆ เพราะเราจะต้องร่วมงานกันอีกหลายเดือน อ้าว
ยัยติ๋ม รัชตะหันไปเห็นประชาสัมพันธ์สาวยังยืนยิ้มหวานอยู่หน้าประตูไม่ขยับ ยังไม่ไปอีกเรอะ งานการไม่มีหรือไง อุ้ย..ติ๋มไปแล้วค่ะพี่รัช สาวช่างฝันถึงกับสะดุ้ง ยิ้มแหยๆให้สองหนุ่ม ก่อนจะถอยกรูดออกไป รัชตะส่ายหัวดิกๆ ไม่ไหวยัยคนนี้ เห็นคนหน้าตาดีๆ ล่ะทำพิกลแบบนี้เป็นประจำ นี่สงสัยจะเมาความหล่อแพนเข้าให้แล้ว พิระภัทรยิ้มเฉย ไม่ตอบอะไร รัชตะหันไปค้นกุกกักตู้เอกสารมุมห้อง หยิบกระดาษปึกใหญ่มาส่งให้พิระภัทร เอ้า..แพน อ่านบทไปเรื่อยๆก่อนก็แล้วกันน่ะ ผมเห็นจะต้องขอตัวสักแป็ป หนึ่ง สั่งงานที่โรงถ่าย พอพูดจบเขาก็เดินออกจากห้องไปทันที ทั่วทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบสนิท จนได้ยินเสียงเครื่องปรับอากาศทำงานเบาๆ พิระภัทรมาทรุดตัวนั่งที่เก้าอี้ วางบทละครไว้บนโต๊ะ ค่อยๆพลิกๆ ดูอย่างตั้งใจ เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ เขาจึงละสายตา เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ในท่าสบาย หลับตาลง ปล่อยความคิดให้ล่องลอยไร้จุดหมาย
รอยยิ้มผุดขึ้นที่ริมฝีปากได้รูปอย่างชาย อดนึกขันตัวเองไม่ได้ที่คิดจะมาเล่นละครกับเขาบ้าง ทั้งๆที่เป็นเรื่องที่เขาเองไม่เคยคิดเคยฝันมาก่อน... พิระภัทรนึกย้อนไปเมื่อหกเดือนก่อนที่เขาได้กลับมาเยี่ยมบ้านที่เมืองไทย หลังจากที่มหาวิทยาลัยที่อังกฤษปิดภาคเรียน ซึ่งเขาเองไม่เคยได้กลับมาเลยเกือบห้าปีตั้งแต่ไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ
คุณพรรณี มารดาของเขาตื่นเต้นดีใจยกใหญ่ เธอพาเขาไปเดินสายตะเวนไปสวัสดี ญาติพี่น้อง คุณป้า คุณน้า คุณอา จนเขาเหนื่อย แต่พอเห็นมารดามีความสุข เขาก็ไม่อยากจะขัดใจ วันต่อมา คุณพรรณีก็พาเขาไปเยี่ยมเยือนคุณมณทิรา สุขสม เพื่อนรักเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม คุณมณทิราผู้เป็นกรรมการผู้จัดการของสถานีโทรทัศน์ช่องสิบเจ็ดนั่นเอง นอกจากหน้าที่ระดับผู้บริหารแล้ว คุณมณทิรายังทำหน้าที่เป็นแมวมองหาดาราหน้าใหม่ให้สถานีอีกด้วย ป้ามณ สวัสดีครับ พิระภัทร ทำความเคารพอย่างนอบน้อม ต้าย
ตาแพนกลับมาเมื่อไหร่เนี่ย ไม่ได้เจอกันไม่กี่ปี ดูหนุ่มขึ้นหล่อขึ้นเป็นกองเทียว คุณมณทิราเพ่งมองเขาอย่างพิจารณาถี่ถ้วน ด้วยสายตาคมกริบ จนเขานึกกระดาก ก็ตั้งแต่วันที่ฉันพามาลาไปเรียนที่ลอนดอนไงล่ะ มณ มารดาเขาตอบแทนยิ้มๆ ใช่ซินะ กี่ปีมาแล้วล่ะ เกือบห้าปีแล้วครับป้ามณ คิดดูซิ น่าหยิกไหมล่ะ ไม่ยอมกลับบ้านเลย เวลาเราคิดถึงก็ต้องบินไปหา อ้างแต่ว่าทำงาน ทำงาน คุณพรรณีค้อนลูกชายที่นั่งอมยิ้มวงใหญ่ แม่เชื้อไม่มีคิดถึงหร๊อก โธ่ คิดถึงซิครับ คุณแม่ทั้งคน ผมอยากหาประสบการณ์นี่ครับ ที่บ้านก็ไม่มีอะไรให้ทำ นอกจากงานที่บริษัท พี่พอลเค้าก็รับผิดชอบอยู่แล้ว ชายหนุ่มแก้ตัวยิ้ม จากนั้นการพูดคุยก็ผูกขาดอยู่กับสตรีสองคน ปล่อยให้เขาเป็นผู้นั่งฟัง นี่..ณี ตาแพนนี่หน้าตาดีน่ะ ถ้าฉันจะขอให้มาเล่นละครสักเรื่องหนึ่ง เธอจะว่าไง คุณมณทิราเอ่ยขึ้นช่วงหนึ่งของการสนทนา อาไร้ มณ..อยู่ดีๆจะให้หลานไปเล่นละครละเม็งอะไรก็ไม่รู้ คุณพรรณีอุทาน แล้วหันไปมองบุตรชาย ก่อนจะหัวเราะออกมาเต็มเสียง ส่วนพิระภัทรเอง ก็อดที่จะมองหน้าคุณมณทิราอย่างแปลกใจไม่ได้ นี่ นี่ เธอ ไม่ตลกนะยะ ฉันพูดจริงๆ รูปร่างหน้าตาของแพนเขาเป็นดาราได้สบายๆ เชียว เชื่อตาฉันเถอะน่า คุณมณทิราหันมาทางชายหนุ่ม แพนล่ะลูก ว่าไง สนใจไหม? ป้ามณจะให้ผมเล่นบทอะไรครับ เป็นผู้ร้ายหรือเปล่า? พิระภัทรถามยิ้มๆ เมื่อคิดว่าคุณมณทิราคงจะล้อเล่น ไฮ้
หน้าตาแบบนี้ ต้องเล่นเป็นพระเอกซีจ๊ะ หลานป้า นี่ป้าพูดจริงๆน่ะ ไม่ได้ล้อเล่น คุณมณทิราตบแขนฃายหนุ่มเบาๆอย่างหยอกเย้า ตาแพนเนี่ยน่ะ มณ จะเล่นได้หรือลูก
แม่เห็นวันๆ แพนไม่ค่อยพูดค่อยจา คุณพรรณีเอียงคอมองบุตรชายอย่างพิจารณาบ้าง เธอ อะไรมันก็ไม่ได้เป็นมาจากในท้องทั้งนั้นแหละ ถ้าหากว่าจะเล่นจริงๆ ส่งไปเรียนแอ๊คติ้งสักสองสามอาทิตย์ก็ได้แล้ว ว่าไงล่ะจ๊ะ สนใจหรือเปล่า?
จากการพูดทีเล่นทีจริงในวันนั้น ทำให้พิระภัทรซึ่งให้สนใจในสิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ คิดอยากที่จะลองดูบ้าง แต่การแสดงนับเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยคิด และไม่เคยทำมาก่อน ดังนั้นเขาจึงไม่ค่อยจะแน่ใจนักกับการที่จะตัดสินใจลงไป ดังนั้นเขาจึงได้นำเรื่องนี้ไปปรึกษากับสมาชิกครอบครัววันหนึ่งหลังจากที่รับประทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อย พากันย้ายไปนั่งคุยกันที่ห้องนั่งเล่น เอาเลยค่ะพี่แพน โอ้โฮ้..เป็นพระเอกละคร โก้ดีจะตาย เผลอๆดังระเบิด ที่สำคัญได้กอดนางเอกฟรีๆด้วยนะ พิมรา น้องสาวคนเล็กทำหน้าทะเล้น ทำให้ทุกคนพากันหัวเราะขัน เว้นแต่คุณพรรณีผู้เป็นมารดาที่หันมาค้อนบุตรสาววงใหญ่ด้วยขวางความคิดแผลงๆตามประสาวัยรุ่น ดูพูดเข้า ยัยพิม เดี๊ยวแม่จะหยิกให้เนื้อเขียวเทียว แต่ก็จริงของยัยพิมนะคะ พี่แพน ถ้าหากว่าพี่เกิดดังขึ้นมาจริงๆ ก็จะมีคนรู้จักทั่วบ้านทั่วเมือง ต่อไปหันมาเล่นการเมืองยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ เพาพิไล น้องสาวคนรองสนับสนุนอย่างมีเหตุผล ทุกคนต่างรู้ดีว่า พิระภัทรใฝ่ฝันอยากที่จะเป็นนักการเมืองสักวันหนึ่ง ตามแบบคุณปู่ของเขาที่ล่วงลับไปแล้ว เนื่องจากเขานั้นมีความผูกพันกับคุณปู่ตั้งแต่เด็กๆ นั่นเอง พี่ก็ว่าไม่เสียหายอะไรนี่ ถ้ามันไม่เวิร์คจริงๆ แกก็กลับไปเรียนต่อให้จบ แล้วก็กลับมาลุยงานต่อไป ง่ายจะตายไป พาณี พี่ชายคนโต ตบไหล่เขาเบาๆเป็นการให้กำลังใจ แต่แม่ไม่อยากให้ลูกมายุ่งกับวงการนี้เลยน่ะ แม่อยากแพนตั้งหน้าตั้งตาเรียนให้สำเร็จ วงการมายามีแต่ข่างฉาวโฉ่ทุกวัน พวกดารานักร้องเต็นกินรำกิน คนระดับเราไม่น่าจะไปสุงสิงด้วยหรอกนะ แม่คิดว่า
คุณพรรณีเอ่ยค้านอย่างไม่เห็นด้วย เธอเป็นผู้มีพื้นนิสัยถือตัว เจ้าระเบียบ เพราะว่าเธอนั้นสืบสายมาจากวงตระกูลผู้ดีเก่าที่เธอแสนจะภาคภูมิใจ แหม..คุณแม่ พวกนั้นเขาก็เป็นคนเหมือนกันนะคะ ไม่เห็นจะต่ำต้อยตรงไหนเลย พิมราท้วงขึ้น ทำให้มารดาตาขุ่น เอ็ดเสียงเขียว พิมรา จะเอาใหญ่แล้วน่ะ แกจะรู้อะไรล่ะ พูดทะลุกลางป้องแบบนี้แม่ไม่ชอบน่ะ พิมราหน้ามุ่ย พูดเสียงอุบอิบในลำคอ ขอโทษค่ะคุณแม่ พิระภัทรอึ้งไปอึดใจ ก็หันไปทางคุณภัทระผู้เป็นบิตาที่นั่งเงียบเฉยฟังคนอื่นมาตลอด แล้วคุณพ่อล่ะครับ พ่อตามใจแพนน่ะ เพราะลูกก็โตแล้ว ตัดสินใจเอาเองน่ะ พ่อไม่ว่า จริงๆแล้ว ถ้าหากว่าทำได้ ผมก็อยากลองทำทุกอย่างที่มีโอกาสและเป็นเรื่องไม่เสียหาย..อืมม์..คุณแม่ครับ ถ้าหากว่าผมจะลองดูสักครั้ง คุณแม่จะว่าอย่างไร เขาหันมาถามมารดาในตอนท้าย แม่กลัวจะเสียการเรียนน่ะซิลูก ซัมเมอร์ครั้งหนึ่งแค่สองเดือนกว่าๆเอง คุณพรรณีนั้นไม่อยากให้บุตรชายตากหน้าเล่นละครเลย เธอเป็นกังวลไปทุกๆเรื่อง ถ้าผมจะรับรองว่า ไม่ให้เสียการเรียน ไม่ให้เสื่อมเสียมาถึงวงตระกูล คุณแม่จะว่าไงครับ มารดาอึ้งไป เมื่อลูกชายลงทุนให้คำมั่นขนาดนี้ เหลือบไปเห็นสามีก็เห็นเขาพยักหน้าน้อยๆ สายตาที่มองเธอก็เหมือนจะบอกว่า
..ให้ลูกลองเถอะ ไม่เสียหายอะไร
.. คุณพรรณีถอนหายใจเฮือกใหญ่ ดูเหมือนว่าคราวนี้เธอคงต้องยอมแพ้ เพราะพิระภัทรมีผู้สนับสนุนถึงสี่เสียง แล้วเธอที่เป็นฝ่ายค้านเพียงเสียงเดียวจะไปสู้อะไรได้ ตามใจ เธอตอบสะบัดๆเล็กน้อย แต่ต้องระวังตัว อย่าเป็นข่าวคาวให้เสียชื่อล่ะ ครับ คุณแม่ พิระภัทรดีใจที่มารดาไม่ออกโรงค้านเสียงแข็ง ผมจะทำให้ดีที่สุดเลยครับ
เมื่อหนทางโล่งปลอดโปร่ง พิระภัทรก็โทรศัพท์ไปหาคุณมณทิราทันที บอกเรื่องการติดสินใจรับเล่นละครแก่เธอ ป้าดีใจจริงๆที่แพนตกลง แต่แพนต้องไปลองเทสต์หน้ากล้องดูก่อนนะลูกน่ะ มันเป็นระเบียบของทางสถานี ป้าไม่อยากมีข้อครหา แต่คิดว่าแพนคงจะผ่านได้ไม่ยากหรอกน่ะ ครับป้ามณ ดังนั้นในวันต่อมา เขาจึงได้ไปทำการเทสต์หน้ากล้องที่โรงถ่ายของบริษัท ทีวี วีดีโอ
วันนั้นเอง ที่เขาได้พบกับรัชตะ สาธรบุตร ผู้กำกับและเจ้าของบริษัทนี้ซึ่งให้เขาทดลองแสดงอารมณ์พร้อมกับพูดบทสั้นหน้ากล้อง พิระภัทรพยายามกำจัดความประหม่าทิ้งไป แล้วตั้งใจแสดงออกอย่างดีที่สุด
อีกไม่เกินสองวันก็จะรู้ผลครับคุณแพน ว่าสกรีนเทสต์นี้จะผ่านหรือไม่ผ่าน แล้วผมจะโทรไปบอกน่ะครับ หวังว่าคงจะได้ร่วมงานกัน รัชตะบอกก่อนที่เขาจะลากลับบ้านอย่างอารมณ์ดี ครับ คุณรัชตะ ตลอดระยะเวลาของการรอคอยสองวันเต็ม พิระภัทรเต็มไปด้วยความกระวนกระวายใจด้วยท่าทางกระสับกระส่ายจนคนในครอบครัวสังเกตได้ ใจเย็นๆพี่แพน พิมว่าผ่านชัวร์ พิมราให้กำลังใจเขา นั่นซิลูกแพน ไม่เห็นจะต้องมากลุ้มอะไรเลย ไม่ได้ซิดีแม่ชอบ คุณพรรณีพูดหน้าตาเฉย โธ่คุณแม่ขา.. ก็ไหนว่าเห็นด้วยตามเสียงข้างมากไงคะ คุณแม่แพ้โหวตแล้วนะคะ พูดบั่นทอนกำลังใจพี่แพนเค้าหมด พิมราอุทธรณ์แทนเจ้าตัวที่นั่งนิ่งบนโซฟานุ่มตัวใหญ่ อ้าว
ก็ฉันพูดความจริงนี่น่า ผิดด้วยหรือ มารดาไม่ยอมแพ้ พิมราอ้าปากจะเถียง แต่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นก่อน หล่อนจึงเดินไปที่โต๊ะเล็กข้างไซด์บอร์ดเพื่อรับโทรศํพท์ ฮัลโล บ้านคุณหมอภัทระค่ะ ครับ ขอพูดกับคุณพิระภัทรหน่อยครับ ผมรัชตะ พิมราปิดกระบอกโทรศัพท์หันมาเรียกพี่ชายเบาๆ พี่แพนขา คุณรัชตะจะพูดด้วย พิระภัทรใจเต้นแรง ผุดลุกโดยเร็วรับโทรศัพท์มากรอกเสียงลงไป พิระภัทรพูดครับ คุณแพน ผลการเทสต์ผ่านแล้วนะครับ เตรียมตัวไว้ได้เลย ละครจะเปิดกล้องกลางเดือนหน้า พิระภัทรนิ่งขึ้ง พูดไม่ออกเป็นครู่ใหญ่ เอ้อ..เอ่อ
. วันจันทร์หน้าเข้ามาที่สำนักงานน่ะครับ ตอนสิบโมงเช้า เราต้องมาประชุมกันก่อน แล้วก็รับบท..มาถูกหรือเปล่าครับ อยู่หน้าถนนรามคำแหงซอยยี่สิบเอ็ดซ้ายมือครับ หาไม่ยาก ไปถูกครับ งั้นดีเลย อย่าลืมนะครับ สิบโมงเช้าวันจันทร์พบกันครับ รัชตะเตรียมวางสาย เดี๊ยวครับเดี๊ยวคุณรัชตะ พิระภัทรระล่ำระลักเรียกปลายสายไว้ มีอะไรครับ เอ้อ..คือ ผมอยากจะทราบว่าคุณรัชตะจะให้ผมเล่นเป็นตัวอะไรครับ พิระภัทรถามหลังจากที่ตั้งสติได้ เสียงหัวเราะของอีกฝ่ายดังขึ้น ก่อนที่เสียงพูดสั่นเพราะแรงหัวเราะจะเอ่ยขึ้นว่า โธ่..เป็นพระเอกซิครับ คุณแพน.. แล้วเล่นเรื่องอะไรครับ แล้วจะได้เล่นกลับใคร ชื่อเรื่องยังไม่สรุปครับ วันจันทร์คงรู้แน่นอน สำหรับนางเอกที่เราวางตัวไว้คือ ดาวตะวันครับ ดาวตะวัน ธัญญกร ดาวตะวัน พิระภัทรพึมพำ ครับ ดาวตะวัน ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมวางสายก่อนนะครับ สวัสดีครับ ครับสวัสดี รัชตะวางสายไปแล้ว แต่พิระภัทรยังยืนงงอยู่เป็นครู่ ก่อนจะเดินกลับมาที่วงสนทนาของครอบครัว
แก้ไขเมื่อ 15 ก.ย. 54 12:34:14
จากคุณ |
:
หนูธันย์
|
เขียนเมื่อ |
:
15 ก.ย. 54 00:08:54
|
|
|
|