Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
จันทร์เร้นใจ บทที่ ๒ ติดต่อทีมงาน

สวัสดีค่า...เอาตอนใหม่มาส่งแล้วค่ะ ที่จริงจะโพสต์ตั้งแต่เมื่อคืน มัวแต่จัดหน้า...จัดไปจัดมา...อ้าว! เข้าวันใหม่แล้ว พันทิปปิดนี่นา เลยชวดซะ!

ดีใจที่ได้เจอหลายๆ คนที่คุ้นเคยนะคะ ดีใจด้วยที่ได้กลับมาเขียนหนังสืออีกครั้ง หลายปีที่ผ่านมา เวลาไปงานหนังสือแล้วไม่มีหนังสือออกกับเค้า มันโหวงเหวงชอบกลค่ะ ปีนี้ก็ยังไม่มีหนังสือออกอยู่ดี (เพราะส่งพี่บอกอไม่ทัน) แต่ก็หวังว่าปีหน้าจะมีแน่นอน (ลูกเข้าเรียนแล้วค่ะ แม่ต้องขยัน...ฮาาาาา)

เวลาผ่านไปไวมากๆ ค่ะ จากเบบี๋นอนเบาะไปไหนไม่ได้ ตอนนี้วิ่งปรู๊ดแล้ว ยังรู้สึกเหมือนเมื่อวานนี้อยู่เลย

สำหรับคนที่มาอ่านตอนแรกไม่ทัน ติดตามอ่านตอนเก่าได้ตามลิงก์ด้านล่าง ที่บล็อก และที่เวบส่วนตัวค่ะ (ลิงก์ของเวบมีโพสต์ในบล็อกนะคะ)

จันทร์เร้นใจ บทที่ ๑

ขออนุญาตโพสต์ไปลบไปนะคะ ขี้เกียจตามลบตอนเก่าๆ ตอนจบเรื่องน่ะค่ะ ส่วนที่บล็อกนั้นตอนนี้ยังเข้าไปอ่านได้อยู่ค่ะ แต่อาทิตย์หน้าจะเริ่มใส่กุญแจ และเปิดให้ขอพาสเวิร์ดได้นับแต่บัดนี้เป็นต้นไปค่ะ ส่งหลังไมค์ หรือทิ้งเมลไว้ที่กระทู้นี้ก็ได้ค่ะ




บทที่ ๒

ตลอดทางที่ขับไปจนถึงบางแสน เขมมิได้ทำท่ากรุ้มกริ่มอีกเลย หากแต่ชวนพริมาคุยเรื่องสัพเพเหระเรื่อยเปื่อย
เพื่อให้หญิงสาวคลายความอึดอัด กระนั้นยามหล่อนเผลอไผลเขมก็อดทอดมองดวงหน้ายามที่ความคิดล่องลอย
ไปไกลของอีกฝ่ายมิได้ ชั่วขณะหนึ่ง...เขารู้สึกถึงความสงบสุขอย่างประหลาด


ถ้าหยุดเวลาไว้ได้...เขมก็อยากหยุดมันไว้ ณ เวลานี้...ตรงนี้ และเดี๋ยวนี้...

ตลอดเวลาห้าปีที่ผ่านมาเขาล่องลอยไปเรื่อย ควงผู้หญิงเปลี่ยนหน้ายิ่งกว่าเปลี่ยนเสื้อผ้า มีหลายครั้งที่คิดว่าเจอ
คนที่ใช่แล้ว และอยากจะหยุด แต่พอเอาเข้าจริงๆ มันก็มีบางอย่างที่สะกิดใจ หลายต่อหลายครั้งที่เขาบอกเลิก
ผู้หญิงไปเพราะไม่แน่ใจในหัวใจของตนเอง สุดท้ายเขาก็ยังคงลอยชายทำตัวไม่ต่างจากชายโสดทั้งหลาย...

เหตุนี้แหละที่ทำให้เขมิกาห่วงใยเขาเป็นพิเศษ เขารู้ว่าน้องสาวคงกลัวว่าสุดท้ายเขาคงลงเอยกับผู้หญิงที่อาจไม่
เหมาะจะเลือกมาเป็นคู่ครอง เขมิกาถึงได้คอยลุ้นให้เขากลับไปคืนดีกับพริมา

ไม่ใช่ว่าเขมไม่เคยคิดถึงเรื่องกลับไปคบกับพริมา...จะว่าไปพริมาคือคนที่ใช่สำหรับเขาที่สุด พริมาเป็นคนเดียวที่
รู้จักเขาดีชนิดที่ว่าบอกในสิ่งที่เขาคิดได้นั่นล่ะ...แต่เขมกลับไม่แน่ใจตัวเอง...ไม่แน่ใจว่าเขาจะเป็นคนที่ดีพอ
สำหรับหล่อนหรือไม่...เขาไม่อยากทำให้พริมาเสียใจซ้ำเป็นครั้งที่สอง...

ฉะนั้นเมื่อนึกจะกลับไปคบหากับพริมาทีไร...ความคิดดังกล่าวก็หยุดลงที่คำว่า...เพื่อน...ทุกที!

และเขมก็รู้ด้วยว่าพริมาจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเขา...ตลอดไป ระยะเวลาห้าปีที่ผ่านมาก็ได้พิสูจน์แล้วว่าหล่อน
อยู่เคียงข้างเขาเสมอในยามที่เขาอ่อนแอ...หรือไม่มีใคร ฉะนั้นเขาควรจะพอใจและรักษาความเป็นเพื่อนนี้ไว้ให้ดี
ที่สุด เพราะหากวันหนึ่งเขาต้องสูญเสียเพื่อนคนนี้ไป...เขาคงจะเสียใจอย่างที่ไม่เคยเสียใจมาก่อน...

แต่เขมก็รู้ดีว่าวันหนึ่งทุกอย่างคงจะต้องเปลี่ยนไป...โดยเฉพาะวันใดที่พริมามีใครเข้ามาในชีวิต ความสำคัญของ
เพื่อนอย่างเขาคงต้องลดลงจนกระทั่งอาจไม่เหลือความสำคัญใดๆ อีกเลย...ก็เป็นได้

นั่นเป็นวันที่เขมไม่อยากให้มาถึงที่สุด!

เขมกับพริมาไปถึงบางแสนเมื่อเกือบจะบ่ายโมงแล้ว เมื่อไปถึงร้านอาหารทะเลซึ่งเป็นสถานที่นัดพบก็พบว่าเขมิกา
กับก้องภพนั่งรอกันอยู่ก่อนแล้วเขมิกาบ่นครวญไม่จริงจังนัก

“มาถึงช้าจัง” หญิงสาวเก็บประโยคต่อมาไว้เพียงในใจเมื่อสังเกตเห็นระยะห่างระหว่างพี่ชายกับพริมาที่เหมือนจะ
ตีวงกว้างขึ้นมาอีก ผิดกับก่อนที่จะแยกกันขึ้นรถลิบลับ อาการดังกล่าวทำให้เขมิกานึกอยากรู้เหลือเกินว่ามันเกิดอะไร
ขึ้นบ้างระหว่างทางที่มาบางแสน ชั่วเวลาประมาณสามชั่วโมงเศษๆ ทำให้ท่าทีของทั้งคู่เปลี่ยนแปลงไปได้มากมาย
ถึงเพียงนี้เชียว ฉะนั้นเมื่อสบโอกาสตอนที่พริมาขอตัวไปเข้าห้องน้ำ เขมิกาจึงฉวยโอกาสซักไซ้ไล่เรียงพี่ชาย เจ้า
หล่อนยื่นหน้าข้ามโต๊ะไปถาม

“พี่เขม...ทะเลาะอะไรกับพี่พริมหรือเปล่า?”

“เปล่านี่!” เขมปฏิเสธ ขณะยกแก้วน้ำขึ้นดื่มดับกระหาย

“ไม่ได้ทะเลาะกัน...แล้วทำไมดูห่างเหินกันจัง” คนขี้สงสัยยังคงซักต่อเมื่อได้คำตอบที่ไม่พอใจนัก

“ห่างเหินยังไง...ก็ปกตินี่” เขมยังคงยืนกราน แต่คนเป็นน้องไม่เชื่อ

“ก็ตอนก่อนมาพี่เขมกะพี่พริมยังสวีตหวานกันอยู่เลย”

“โธ่เอ๊ย...เหม่ง คิดอะไรมาก พี่กับพริมเป็นเพื่อนกัน...เล่นกันบ้าง...ก็เท่านั้นแหละ...อย่าคิดมาก” เขมวางแก้วน้ำลง
พลางยื่นมือไปตบไหล่น้องสาวคนเดียวเหมือนปลอบเมื่อเห็นสีหน้าผิดหวังของอีกฝ่าย

“พี่เขมอะ...ทำให้เข็มผิดหวังมาก...” เจ้าหล่อนลากเสียงยานคาง “รู้บ้างไหม...”

“พี่กับพริมเป็นเพื่อนกันอย่างนี้ก็ดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ...ดีกว่าคบกันแล้ว พริมต้องเสียใจเพราะพี่...อีก” ประโยคหลัง
เหมือนคนพูดจะรำพึงกับตนเองมากกว่าอย่างอื่น แววตาของเขามีร่องรอยร้าวรานฉาบฉายอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเลือน
หายไป...เพียงชั่ววินาที กระนั้นก็นานพอให้ก้องภพซึ่งเป็นผู้ชายด้วยกันมองเห็น...

ก้องภพสงสัยมาตลอดว่าสาเหตุที่ทำให้เขมและพริมาเปลี่ยนสถานะความสัมพันธ์จากคนรักมาเป็นแค่เพื่อน ทั้งที่
ทั้งคู่วางแผนจะแต่งงานกันอยู่แล้วนั้น...น่าจะมีเหตุผลอื่นมากกว่าแค่การทำตัวลอยชาย...จีบคนโน้นคนนี้เอาสนุก
ของเขม แม้ว่าก้องภพจะไม่ทันตอนที่ทั้งสองคนคบหากัน แต่จากที่ได้ฟังเขมิกาเล่าเขาก็พอรู้ว่า...เขมตอนนี้ กับเมื่อ
ก่อนโน้น...ต่างกันลิบลับ...

เมื่อก่อนโน้นเขมอาจจะไม่อยู่กับร่องกับรอยบ้าง แต่ก็เหมือนเส้นตรงที่เฉไปเฉมา...หากสุดท้ายจุดหมายก็ยังอยู่...ที่เดิม
นั่นคือ...พริมา

ผิดกับตอนนี้...ขนาดผู้ชายด้วยกันเองอย่างเขา ยังดูออกว่าเขมไม่จริงจังกับใครเลย แม้จะมีบางคนที่เข้ามาในชีวิตและ
ดูเหมือนว่าน่าจะลงเอยกันได้ด้วยดี แต่สุดท้าย...เขมเองนั่นล่ะที่ทำให้มันจบลง

บางที...สิ่งที่เขมิกาคิดอาจจะถูกต้อง

ที่หมายเดิมของเขม...ยังอยู่ที่พริมา...ไม่เปลี่ยนแปลง!

แต่อะไรกันเล่า...ที่ทำให้ทั้งคู่ชะงักงัน กลายเป็นต้นไม้ที่แคระเกร็น...ไม่โต แต่ก็ไม่ตาย!

ที่สำคัญ...เหมือนทั้งคู่กำลังเผชิญกับความเจ็บปวด และยอมที่จะมีชีวิตอยู่กับมันโดยที่ไม่แม้แต่จะดิ้นรนหาทางออก

พริมาเดินกลับมาพอดี เขมิกาจึงต้องหยุดคำถามที่กำลังจะพรั่งพรูไว้เพียงนั้น...เอาเถิด อย่างไรเสียหล่อนก็เชื่อเต็มหัวใจ
ว่าสิ่งที่เห็นและเกิดขึ้นเมื่อก่อนหน้านี้ไม่ใช่แค่การเล่นสนุกของพี่ชายแน่นอน หล่อนมั่นใจว่าพี่ชายยังคงรักพริมาอยู่เหมือน
กับที่พริมาเองก็ยังไม่ลืมพี่ชายของหล่อนนั่นล่ะ

ผู้หญิงหน้าตาดี เพียบพร้อมอย่างพริมามีผู้ชายเข้ามาจีบมากมาย คนดีๆ ก็มีเข้ามาไม่น้อย แต่พริมากลับไม่เลือกใครเลย
สักคน แล้วอย่างนี้จะไม่ให้เขมิกาคิดว่าเป็นเพราะพริมายังคงรักพี่ชายหล่อนอยู่ได้อย่างไร...

คนที่ไม่รู้ตัวว่าถูกพาดพิงถึงทรุดลงนั่งบนเก้าอี้ตัวข้างๆ เขมด้วยทีท่าผ่อนคลาย หญิงสาวหันไปยิ้มให้ชายหนุ่มที่นั่งด้าน
ข้างก่อนหันไปถามหญิงสาวที่เยื้องกันว่า

“รอพี่เหรอคะ...ทีหลังไม่ต้องรอหรอก ทานกันได้เลย กับข้าวเย็นหมดแล้ว มา...น้องเข็มทานไรดี...” เจ้าตัวตั้งท่าจะตัก
กับข้าวให้ แต่เขมิการีบบอก

“ไม่เป็นไรค่ะ พี่พริม...เข็มตักเองได้ค่ะ พี่พริมจัดการตักให้คนข้างๆ พี่พริมเถอะค่ะ นั่งเหม่ออยู่นั่นแหละ”

เขมเลิกคิ้วเหมือนจะตั้งคำถามกับแม่น้องสาวคนดีที่พยายามทำตัวเป็นกาวสมานใจว่าเขาไปนั่งเหม่อตั้งแต่เมื่อไร แต่อีกฝ่าย
ทำไม่รู้ไม่ชี้แล้วหันไปตักกับข้าวให้คนข้างกายแทน เขาไม่มีโอกาสแก้ตัวหรือโต้แย้งเมื่อเสียงหวานใสของพริมาถามขึ้นอย่าง
ห่วงใย

“เขมเป็นอะไร...ง่วงล่ะสิ...พริมบอกแล้วให้พริมขับรถเองก็ได้ เขมจะได้นอนพัก”

“พริมก็ไปเชื่อยายเหม่งมัน...เขมไม่เป็นไรสักหน่อย” เขมยิ้มอ่อนโยนเมื่อตอบคำถามอีกฝ่าย เขาเห็นแววห่วงใยจริงใจใน
สายตาทั้งคู่นั้นชัดเจน แค่นี้...ก็ชื่นใจนักหนาแล้ว...

แค่ได้รู้ว่า...พริมายังห่วงใยเขาอยู่เท่านั้น!

พริมายังคงสบตาอีกฝ่ายนิ่งเหมือนจะให้แน่ใจว่าเขมมิได้โกหกก่อนจะหันไปตักต้มยำโป๊ะแตกใส่ถ้วยใบเล็กมาวางไว้ตรง
หน้าเขา

“เอ้า...นี่ จะได้ตาสว่างๆ” หญิงสาวบอกไม่ได้มีความหมายอะไรพิเศษมากไปกว่าให้อีกฝ่ายหายง่วง แต่หญิงสาวอีกคนที่
นั่งเยื้องๆ กลับตีความไปคนละอย่าง...จึงเปรยออกมาเสียงไม่เบานัก

“ใช่...จะได้ตาสว่างสักที”

เขมหัวเราะหึๆ เมื่อได้ยินคำพูดน้องสาว เขายกถ้วยต้มยำมาถือไว้ก่อนรับช้อนที่พริมาเช็ดและส่งให้มาตักน้ำต้มยำที่ส่งกลิ่น
จัดจ้านชวนหิวใส่ปากซดสองสามที แล้วตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังพลางมองสบตาน้องสาวนิ่งๆ

“พี่น่ะ...ตาสว่างนานแล้ว”

เขมิกาย่นจมูกใส่พี่ชายอย่างหมั่นไส้นึกอยากบอกเหลือเกินว่าถ้าตาสว่างแล้วทำไม๊...ทำไมถึงไม่ทำอะไรสักที จะปล่อยให้
มันเป็นอย่างนี้ไปถึงเมื่อไร...พริมาซึ่งสาละวนกับการตักต้มยำโป๊ะแตกให้ก้องภพเงยหน้าขึ้นมองสองพี่น้องสลับกันไปมา
อย่างสงสัย เขมจึงหันมายิ้มกลบเกลื่อนพลางบอก

“ดูสิ...พริม ยายเหม่งไม่ยอมเชื่อว่าเขมไม่ง่วง”

“เอาน่า...เข็ม ลองเขมกินต้มยำโป๊ะแตกหมดถ้วย รับรองพี่ว่าหายง่วงแน่ๆ แซบได้ใจจริงๆ เข็มลองสิ” ก้องภพช่วยอีกแรง
เขารับถ้วยต้มยำใบเล็กจากพริมามาวางตรงหน้าเขมิกา

พริมาหัวเราะเบาๆ หญิงสาวหยิบถ้วยใบสุดท้ายขึ้นมาตั้งใจตักต้มยำให้ตัวเอง แต่กลับถูกเขมแย่งทัพพีไปจากมือ

“มาให้เขมบริการเองดีกว่า”

“พริมตักเองก็ได้ เขมทานเถอะ” หญิงสาวครวญเสียงเบา แต่อีกฝ่ายไม่ฟัง...ตั้งใจตักต้มยำโป๊ะแตกใส่ถ้วยโดยเลือกแต่เนื้อๆ
แล้ววางตรงหน้าพริมา จากนั้นเขาก็หันไปหยิบแก้วน้ำซึ่งพร่องไปครึ่งหนึ่งของหล่อนมาเติมน้ำแข็งและน้ำจนเต็ม

“เอ้า...ลองชิมดู อร่อยนะ แต่ระวัง...” เขาพูดยังไม่ทันจบประโยคดี คนที่ตักต้มยำเข้าปากก็เบิกตาโตเพราะความร้อนและ
รสชาติจัดจ้าน ทั้งเปรี้ยว เค็ม หวาน และเผ็ด...เผ็ดชนิดที่ส่งเข้าปากคำแรกก็แทบร้องนั่นล่ะ “ระวังร้อน...และก็เผ็ดมาก...
เขมบอกไม่ทัน...ลวกปากหรือเปล่า” ชายหนุ่มรีบยื่นแก้วน้ำส่งให้ตามด้วยกระดาษทิชชู่

“แกล้งกันใช่ไหม?” หล่อนละล่ำละลักบอกก่อนคว้าแก้วน้ำจากเขมมาดื่มอักๆ อีกมือก็คว้ากระดาษทิชชู่มาถือไว้ ผิวขาวผ่อง
เริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพูจัดเพราะพิษพริกขี้หนูที่น่าจะหอบกันมาทั้งสวน

“ไม่ได้แกล้ง...ไม่เห็นเหรอว่าตักแต่เนื้อให้ แล้วยังจะไปตักน้ำมันมาซดอีก” เขมส่ายหน้าพลางยิ้ม

พริมาไม่กินเผ็ดมาแต่ไหนแต่ไร...ผิดกับเขาที่ชื่นชอบรสจัดและกินเผ็ดมากจนหญิงสาวเคยค่อนว่าเขาจะพ่นไฟได้อยู่แล้ว
เขมมองดวงหน้าเรื่อสีชมพูที่เริ่มมีเม็ดเหงื่อผุดพราวบริเวณขมับและจมูกแล้วอดยิ้มมิได้ เขาหยิบกระดาษทิชชู่ส่งให้อีก
หลายแผ่นพลางหัวเราะเบาๆ พริมาจึงตีเผียะที่ต้นแขน

“ทีหลังจะเตือน...ก็ให้มันเร็วๆ หน่อย ไม่ใช่กินไปแล้วค่อยบอก...”

“โธ่ๆ ใครจะไปนึกว่าพริมจะหิวจัด ควันขึ้นฉุยขนาดนี้...แสดงว่ามันต้องร้อนอยู่สิจ๊ะ ทำไมไม่เป่าก่อน...” เขมเอ่ยด้วยน้ำเสียง
อ่อนโยน

“พี่พริมเอาน้ำส้มเย็นๆ สักแก้วไหมคะ...เดี๋ยวเข็มสั่งให้” เขมิกาถามอย่างห่วงใยเมื่อเห็นอาการปากแดงหน้าแดงและเหงื่อซิก
ของพริมา

“ไม่เป็นไรค่ะ...ดีขึ้นเยอะแล้ว ตะกี้มันทั้งร้อนทั้งเผ็ด”

“ดีนะคะที่ไม่สำลัก พี่เขม...ตั้งใจแกล้งพี่พริมใช่ไหม?” เขมิกาไล่เบี้ยกับพี่ชายที่กำลังทอดสายตามองดวงหน้าของคนที่
นั่งเคียงข้างไม่วางตาพลางยิ้มอย่างอารมณ์ดี เจ้าตัวสะดุ้งเมื่อถูกน้องสาวหาความ

“เอาแล้วไงเหม่ง...หาเรื่องให้พี่อีกแล้ว เดี๋ยวพริมงอน ทิ้งให้พี่ขับรถกลับคนเดียว  เราต้องมานั่งกับพี่แทนนะ”

“เรื่องไร...เข็มมากับพี่ก้องก็ต้องกลับกับพี่ก้องสิ ถ้าพี่เขมง้อพี่พริมให้กลับไปด้วยกันไม่ได้ ก็อย่ามาเป็นพี่ชายเข็มเลย”

“พอเลยๆ พี่น้องคู่นี้ หาเรื่องเถียงกันได้ตลอด พี่ไม่เป็นไรค่ะน้องเข็ม เขมเองก็ไม่ได้แกล้ง...แค่บอก...ช้าไปนิด” ประโยคหลัง
เจ้าตัวเน้นเสียงพูดพลางปรายตามองค้อนคนข้างกาย

“น่าน...โดนอีกดอกจนได้ ไม่เอาล่ะ...กินข้าวดีกว่า เดี๋ยวจะได้มีเวลาไปเที่ยวต่อ” เขมตัดบทแล้วตั้งท่าจะจัดการกับอาหาร
ที่สั่งมามากมายหลายรายการตรงหน้า กระนั้นก็ยังไม่ลืมที่จะตักกับข้าวอื่นๆ ซึ่งไม่เผ็ดนักใส่จานให้พริมาก่อนอย่างเอาใจ
เขมิกาซึ่งมองอยู่ยิ้มจนตาหยีพลางสำทับ

“น่ารักมากค่ะพี่ชาย...เอาใจพี่พริมของเข็มมากๆ นะคะ”

เขมเหลียวไปมองน้องสาวพลางทำปากมุบมิบลอยหน้าลอยตาเลียนแบบท่าทางและคำพูดของคนเป็นน้องอย่างหมั่นไส้
เต็มที ก่อนหันไปลงกับก้องภพ

“ก้อง...ว่างๆ ก็อบรมดูแลแฟนให้ดีๆ หน่อย...”

ทั้งก้องภพและพริมาส่ายหน้าแทบจะพร้อมกัน...ทั้งขำทั้งระอากับพี่น้องคู่นี้

(มีต่อค่ะ)

แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 54 21:26:50

จากคุณ : คีตาญชลี
เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 54 10:26:51




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com