Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
บ้านอุ่น...ล้อมรั้วรัก บทที่ ๕ สิ่งที่บอกไป ติดต่อทีมงาน

บทที่ ๔ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11013550/W11013550.html หรือติดตามตอนเก่าๆ จากบล็อกนะคะ


บทที่ ๕ สิ่งที่บอกไป


ต้นไม้ใบหญ้าเขียวขจีสองข้างทางที่รถเก๋งสีขาวคันนี้แล่นผ่าน หลังจากออกนอกเขตตัวเมืองมาได้ไม่นาน ทำให้คนที่อดตาหลับขับตานอนเพื่อแก้ไขแบบให้เสร็จทันเวลาผล็อยหลับไปได้ไม่ยาก หลังจากเจ้าตัวส่งสายตาผ่านกระจกออกไปทักทายด้านนอกอยู่พักหนึ่ง

พีรภาสเหลือบมองผู้โดยสาร แล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ถือว่าโชคดีไม่น้อย เมื่อเธอเริ่มก้าวเข้ามาในรถ ก็ไม่ได้หันมาคุยกับเขาสักเท่าไร สาวเจ้ามัวแต่สนใจสิ่งต่างๆ ข้างทางมากกว่า

ชายหนุ่มยื่นมือมาดีดนิ้วใกล้หูคนข้างๆ เพื่อทดสอบให้แน่ใจว่าผู้ร่วมทางหลับสนิทจริงๆ เขาโบกไม้โบกมือตรงหน้าเธออีกรอบเพื่อความมั่นใจ เมื่อไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้คุณชายจึงได้เผยยิ้มออกมา เป็นตัวของตัวเองได้เสียทีสินะ ทำไมหนอที่ผ่านมาแกล้งคนอื่นไว้เสียก็เยอะ ไม่ยักจะเคยรู้สึกผิด แต่กับภาพของเด็กปีสองที่วาดไว้เพื่อส่งอาจารย์แถมยังได้คะแนนซีบวก กลับทำให้เขาต้องวุ่นวายใจได้ขนาดนี้

โชคดีที่วันนี้เอาตัวรอดได้อีกครั้ง เมื่อคำถามที่ทำให้เขาเลือกได้เพียงสองตำตอบที่ว่า ‘เหมือนเดิม’ หรือ ‘ไม่เหมือนเดิม’ ยังไม่ได้พูดออกไป เขาเกือบสารภาพออกไปแล้วว่ามันไม่เหมือนเดิม แต่ตัวช่วยอย่างคุณหมอพีรญาก็กลับถึงบ้านทันเวลาพอดี

มีหรือคุณชายพีรภาสจะปล่อยให้โอกาสหลุดมือ เรื่องเบี่ยงเบนประเด็นเขาเคยเชี่ยวชาญชนิดหาตัวจับยาก หลังจากเดินไปเชื้อเชิญผู้มาใหม่ให้ทานข้าวเช้าด้วยกัน เขาก็ส่งสายตาหวานซึ้งให้กับพี่สาวราวกับพูดออกไปจากก้นบึ้งหัวใจว่า ‘ปูนรู้สึกรักพี่แป้งมากก็วันนี้แหละ’ มิหนำซ้ำหลังจากทานข้าวเสร็จก็ยังทำตัวเป็นสุภาพบุรุษขันอาสานำจานไปล้าง แล้วทิ้งให้สองสาวพูดคุยกันอย่างสบายใจอีกด้วย


ในที่สุดการเดินทางก็มาถึงจุดหมาย พีรภาสเอื้อมมือไปแตะไหล่คนหลับเบาๆ แต่คุณเธอก็ขี้เซาใช่เล่นแตะแขนเบาๆ ไม่ยักจะตื่น ถ้าเป็นยายป่อยล่ะก็ จะแกล้งเอาน้ำแข็งใส่ในเสื้อเสียให้เข็ด คิดแล้วก็อยากจะลงมือกับคนตรงหน้าเสียจริงๆ

“น้องฝัน” พีรภาสเขย่าแขนเธอแรงขึ้น คนขี้เซาจึงได้งัวเงียขยี้ตามองดูรอบๆ เมื่อหันไปมองพลขับหน้าขรึม เขาก็เพียงตอบกลับมาว่า “ถึงแล้ว”

ภาพฝันส่งสายตาสำรวจพื้นที่โล่งทันทีที่ก้าวลงจากรถ ที่แห่งนี้กว้างประมาณหนึ่งไร่เศษ มีกอหญ้าเล็กๆ ขึ้นปกคลุมอยู่ประปราย บ้างก็ขึ้นเป็นหย่อมใหญ่ แต่คงไม่มีหย่อมไหนโดดเด่นไปกว่าผักบุ้งทะเล ที่จับกลุ่มเป็นเกาะตั้งอยู่ตรงกลาง พร้อมแผ่ขยายอาณาเขตออกไปเรื่อยๆ บนพื้นที่โล่งแห่งนี้ ราวกับประกาศให้ผู้มาเยือนได้รับรู้ว่า ถิ่นนี้ใครใหญ่

ด้านหลังของเธอเป็นหาดทรายสีขาวละเอียด กำลังรอน้ำทะเลใสๆ ซัดสาดเข้ามา ภาพผืนน้ำกับผืนฟ้ามาบรรจบกันช่างน่ามอง ท้องฟ้าสีครามไร้ม่านเมฆมาบดบัง ระลอกคลื่นเล็กๆ บนพื้นน้ำที่ฉาบไว้ด้วยสีเขียวอมฟ้านั้นอีกเล่า กำลังกระเพื่อมขึ้นรับแสงพระอาทิตย์ยามบ่าย ทุกสรรพสิ่งรอบข้างต่างโดนขับกล่อมด้วยลมทะเลหวีดหวิวและจังหวะเสียงคลื่นที่คืนซัดเข้าหาฝั่ง

แม้จะเคยท่องเที่ยวทะเลมาก็เยอะ แต่ทะเลก็ยังเป็นทะเล แค่ได้กลิ่นของไอเหนียวเธอก็อยากจะอ้าแขนรับบรรยากาศเหล่านี้ทุกครั้งที่ได้สัมผัส

ไม่นานก็มีรถอีกคันค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาจอดด้านหลัง เมื่อประตูรถถูกเปิดออกก็ได้ยินเสียงทักทายมาทันที “ไงหนูฝัน หน้าไม่ค่อยสดใสเลย พี่ปูนเค้าแกล้งอะไรเราหรือเปล่า”

คำทักทายนั้น ทำเอาอีกคนหันขวับกลับมามองคนที่กำลังยกมือไหว้พ่อกับแม่ของเขา อยากจะบอกไปจริงๆ เลย ไอ้ที่หนูฝันของแม่ทำหน้าบูดหน้าบึ้งอยู่นี่ เป็นเพราะว่าเพิ่งตื่นต่างหาก คิดแล้วก็เริ่มชักจะหมั่นไส้ขึ้นมาตงิดๆ หายไปสามปีครอบครัวนี้ได้ลูกสาวคนใหม่มาอีกคนแล้วจริงๆ

“พ่อครับ ผู้รับเหมาเขาบอกว่าจะเริ่มได้เมื่อไหร่” คุณชายเรียกร้องความสนใจ โดยการทำตัวเป็นงานเป็นการขึ้นมาทันที

“อาทิตย์หน้าก็จะเริ่มลงเสาเข็มแล้ว เอ้อ...ปูน ดูแบบแล้วยัง มีอะไรต้องแก้อีกหรือเปล่า ถ้าไม่มีอะไรต้องแก้จะได้เอาไปให้ผู้รับเหมาเลย” ปีณัฐหันไปตอบ ก่อนจะตั้งคำถามกลับ

“ยังเลยพ่อ แต่ก็เพิ่มมาจากเดิมนิดเดียวเองไม่ใช่เหรอ”

“ใช่ค่ะ ส่วนที่เพิ่มขึ้นมาไม่เกี่ยวกับรูปแบบตัวอาคารที่สร้าง ผู้รับเหมาสามารถสร้างตามแบบเก่าได้เลยค่ะ” ภาพฝันหันไปตอบคุณชาย ก่อนนำแบบออกจากกระบอกแล้วยื่นให้กับปีณัฐ “ลุงปิงคะ นี่คืออีกส่วนที่ให้ฝันไปเพิ่มค่ะ ตรงลานที่เหลืออยู่ ฝันว่าน่าจะเพิ่มเป็นลานกล้วยไม้ขึ้นมา คือฝันเห็นลุงปิงเลี้ยงกล้วยไม้ไว้เยอะ เลยคิดว่าเวลาลุงมาอยู่ที่นี่ ได้เลี้ยงกล้วยไม้ไปด้วย ดูแลรีสอร์ทไปด้วย ลุงปิงน่าจะชอบ”

หนุ่มใหญ่มองภาพจำลองที่อยู่ในมือ แล้วเผยยิ้มให้กับคนออกแบบ “สวยมากเลยเจ้าฝัน แต่มีต้นไม้ใหญ่ๆ บ้างก็ดีนะ กล้วยไม้จะได้มีที่เกาะ และก็ดูร่มรื่นด้วย”

“ค่ะ ฝันคิดว่าน่าจะปลูกต้นไม้ที่ให้ร่มและให้ดอกได้ด้วยค่ะ อย่างพวกแก้วเจ้าจอม ชมพูพันธุ์ทิพย์ หรือตะแบกก็ได้นะคะ ที่ดินแถวนี้ไม่รู้จะปลูกได้หรือเปล่า แต่ต้นไม้ของลุงปิงทุกต้นก็ชอบแย่งกันโตอยู่แล้วนะคะ” ภาพฝันนำเสนอพร้อมส่งยิ้มให้กับปีณัฐ เธอไม่เคยเห็นต้นไม้ของลุงปิงแห้งเหี่ยวเลยสักต้น

“แน่นอนอยู่แล้วเจ้าฝัน” หนุ่มใหญ่ได้ทียืดอกภูมิใจ “แต่ลุงว่าไอ้สองอย่างหลัง มันจะสูงเกินไปนา”

“ถ้าสูงเกิน ก็ตัดแต่งเอาแค่ประมาณสี่ห้าเมตรน่าจะได้นะคะ” ภาพฝันนำเสนออีกครั้ง

พีรภาสเฝ้ามองคุณสถาปนิกของรีสอร์ทไม่ละสายตา เธอพูดได้ฉะฉาน คล่องแคล่ว ช่างรู้ใจและเอาใจดีอย่างนี้นี่เอง พ่อกับแม่ถึงได้หวงนักหวงหนา ชายหนุ่มมองเธอด้วยแววตาชนิดที่เรียกว่า เริ่มจะขวางโลก เมื่อรู้สึกว่าคุณชายของบ้านกำลังเข้าข่ายตกกระป๋อง

“แล้วอิฐพวกนี้จะทำขึ้นทำไมล่ะ ลุงว่าน่าจะเป็นพวกม้าหิน หรือม้านั่งที่เป็นไม้จะดีกว่านะ”

“พวกม้านั่งสีขาวจะวางอยู่ตรงพื้นหญ้า ทางลงทะเลอยู่แล้วค่ะ” ภาพฝันใช้ด้ามดินสอชี้ไปที่จุดสีน้ำตาลบนแบบ “อิฐพวกนี้ เราจะตกแต่งเป็นแบบกำแพงเตี้ยๆ เหมือนวัดเก่าในอยุธยาค่ะ ฝันว่ามันตัดกับหญ้าสีเขียวดี และก็มีประโยชน์หลายอย่างด้วย ไว้สำหรับแขวนกล้วยไม้ก็ได้ อาจจะปล่อยว่างเอาไว้ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูป หรือเราจะใช้เป็นตัวแบ่งโซนก็ได้ค่ะ ส่วนพวกม้าหินหรือม้านั่ง ฝันอยากให้ที่นั่งเป็นเสื่อปูบนพื้นหญ้าจะดีกว่านะคะ เวลาแขกมาเป็นครอบครัวจะได้อารมณ์เหมือนมาปิกนิกไปในตัวด้วย”

“แบบรีสอร์ทเป็นสไตล์โมเดิร์นทรอปิคอลนะครับ แต่รอบข้างมีสวนกล้วยไม้ตกแต่งแบบวัดเก่าในอยุธยา มันจะเข้ากันหรือครับ” หลังจากเฝ้ามองอยู่นานพีรภาสก็แย้งขึ้นบ้าง

สิ่งที่เธอนำเสนอมา ใช่ว่าเขาจะไม่เห็นด้วยเสียทีเดียว แต่ทำไงได้...ก็แค่อยากจะขัด ปล่อยให้เลยผ่านสายตาวิศวกรจบใหม่ดีกรีนักเรียนนอกไปได้อย่างไร

“พี่ปูน ตัวอาคารเป็นแบบโมเดิร์นทรอปิคอลก็จริง แต่สองโซนนี้ถูกแยกกันด้วยสระน้ำนะ อีกอย่างมันก็ไม่ขัดกันเสียทีเดียว เพราะอิฐพวกนี้ก็ยังคงสไตล์ทรอปิคอลอยู่” พีรศิลป์สนับสนุนเพื่อนรัก

“ใช่ค่ะพี่ปูน ต้นไม้ที่ปลูกมีแค่สี่ห้าต้น ไม่ทึบมากค่ะ มีพื้นที่โล่งคงคอนเซ็ปเดิมอยู่ แต่จะเน้นพื้นหญ้ากับกำแพงเตี้ยๆ มากกว่า การที่เสริมกล้วยไม้เพิ่มมาจะทำให้สวนดูมีชีวิตชีวาขึ้นค่ะ” ภาพฝันพยายามอธิบายให้ชัดเจนขึ้น

“แม่เห็นด้วยนะกับแบบนี้ ยิ่งเติมพวกรากไม้เก่าแขวนกล้วยไม้ยิ่งดีใหญ่” คุณนายอรพินเห็นด้วยกับภาพฝันอีกคน

“แต่บางสิ่งบางอย่าง มันก็ทำให้สิ้นเปลืองนะครับ ถ้าเราสามารถตัดค่าใช้จ่ายส่วนเกินไปได้ ก็จะดีไม่ใช่หรือแม่” พีรภาสไม่ยอมลดละ

การทำรีสอร์ทเป็นความฝันของทุกคนในครอบครัว พวกเขาคิดวางแผนกันตั้งแต่คุณชายเริ่มเข้ามหาวิทยาลัย ทุกคนร่วมกันเก็บหอมรอมริบ เพื่อที่จะทำให้ความฝันนี้เป็นจริงขึ้นมา บ้านอินธารักษ์ไม่ได้ร่ำรวยมีเงินถุงเงินถังให้ใช้ชนิดที่คิดอยากจะทำอะไรก็ได้ ทุกอย่างล้วนมาจากน้ำพักน้ำแรงของทุกคนในครอบครัวทั้งนั้น เงินที่เก็บไว้ก็ใช่ว่าจะพอ จำเป็นจะต้องกู้ธนาคารเพิ่มอีกส่วนหนึ่งด้วย

เพราะฉะนั้นในการลงทุนครั้งนี้ พีรภาสคิดว่าควรจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปมากกว่า แม้แต่การเปิดบริษัทรับออกแบบก่อสร้างซึ่งเป็นความฝันของเขานั้น คงจะต้องรอเงินทุนอีกสักสองถึงสามปี

“เรื่องสวนที่เพิ่มขึ้นมา ค่าใช้จ่ายมันไม่ได้เพิ่มขึ้นกว่าเดิมซักเท่าไหร่หรอกพี่ปูน อีกอย่างฝันทำประเมินราคาให้แล้ว ค่าใช้จ่ายมันน้อยกว่าสร้างลานกีฬา หรือพวกสปอร์ตคลับซะอีกนะพี่” พีรศิลป์นำเสนออีกครั้ง

“แต่...” พีรภาสอยากเถียงต่อ แต่ก็มีเสียงหนึ่งขัดขึ้นมาเสียก่อน

“เอาน่าปูน อันนี้เป็นส่วนต่อเติมเป็นลำดับสุดท้าย ถ้าปูนอยากจะเปลี่ยนอะไร ก็ลองนำเสนอมาดูแล้วกัน แต่อย่าช้านะเพราะต้องรีบลงต้นไม้ไว้ก่อน บ่ายกว่าแล้วไปกินข้าว” ปีณัฐหันไปตบไหล่ลูกชายเบาๆ ก่อนจะหันมาทางภาพฝัน “ลุงกับป้ามีเรื่องจะคุยกับเราด้วยเจ้าฝัน”

ว่าแล้วทุกคนก็แยกย้ายกันไปที่รถ ทิ้งให้คุณชายอ้าปากค้างเพราะอยากจะเถียงต่อ ยิ่งเมื่อเห็นคุณนายอรพินโอบไหล่ภาพฝันขึ้นรถ แล้วทิ้งให้เขาต้องขับรถคันนี้ไปคนเดียว มันชวนให้รู้สึกตงิดๆ เสียจริง

ไอ้เราเพิ่งกลับมาแท้ๆ แต่ไม่เห็นจะสนใจกันบ้างเลย

จากคุณ : pormare
เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 54 17:14:05




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com