Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเศร้า ตอนที่ ๖ my dilemma{แตกประเด็นจาก W11082325} ติดต่อทีมงาน

บันทึกวันที่ 3/9/2008

ช่วงเวลาในสัปดาห์ที่สาม ขอเรียกว่าเป็นช่วงcritical timeทั้งของเราทั้งคู่

เพราะความรู้สึกมันปริแล้วคะ
เหมือนอันเดอร์แวร์ที่เบ๊คแฮมใส่ในโฆษณาอาร์มานี่ยังไงยังงั้น คือมันล้นแล้ว

สิ่งที่กลัวก็ยังกลัวอยู่...สิ่งที่คิดก็ยังคิดอยู่...เหมือนรู้ดีว่าทางข้างหน้าเป็นเหว
แล้วจะเดินต่อไปทำเพื่อ



ตอนแรกๆนั้น คิสว่าเจสเปอร์เป็นผู้ชายที่ยิ่งคุยก็ยิ่งรู้สึกว่าแปลก

คิสค้นพบว่าจริงๆแล้วเค้าเป็นคนต้องการความรักและดูแลเอาใจใส่มากกว่าผู้ชายคนอื่นด้วยซ้ำ

เค้าไม่ได้เป็นผู้ชายที่เย็นชา แค่เป็นคนประเภทที่ไม่ให้ความสนใจในสิ่งที่เค้าไม่สนใจแม้แต่น้อย และเค้าเลือกที่จะแสดงออกถึงความไม่สนใจอย่างชัดเจน

นั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกสนใจเค้ามากยิ่งขึ้น




เจส "ผมว่าการที่เราได้มาเจอกันมันเป็นfateนะ"

ฉัน "คืออะไร ว่าฉันอ้วนหรอ เดี๋ยวก็บัญชีติดลบอีกหรอก"

เจส "ไม่ใช่ๆ คือเป็นพรหมลิขิตอะไรประมาณนั้น"

ฉัน "คุณอย่าใช้ศัพท์สูงกับฉันสิ ฉันเพิ่งเรียนภาษาอังกฤษได้ไม่นานเอง
ศัพท์ไม่ค่อยรู้เท่าไหร่ พูดได้เฉยๆ แต่สะกดไม่ค่อยได้"

เจส "ผมเองก็เหมือนกัน คุยกับคุณผมต้องเปิดดิคไปด้วย"

ฉัน "เมื่อกี้คุณบอกว่าพรหมลิขิตหรอ ฉันว่าเป็นกรรมมากกว่า"

เจส "กรรม...คืออะไร"

ฉัน "กรรมก็ผลของการกระทำไง เหมือนเวลาเราปาลูกบอลออกไป แล้วก็กระเด้งกลับมากระแทกหน้าอะไรแบบนั้น อ่า...นิฉันคงเคยไปทำอะไรผิดมากๆไว้แน่ๆเลย"

เจส "คุณหมายถึงศาสนาพุทธหรอ คุณเป็นคนพุทธสินะ"

ฉัน "ใช่แล้ว แต่ฉันก็เชื่อ แล้วก็สนใจไปซะทุกศาสนานั่นหละ แล้วคุณหละ"

เจส "ผมไม่มีศาสนา"

ฉัน "แล้วแบบนี้คุณเชื่อในอะไรหรอ"

เจส "ผมเชื่อในตัวเอง แต่ก็ไม่ได้แปลว่าผมไม่เชื่อคนอื่นนะ"

ฉัน "ทำไมหละ"

เจส "ผมมีเหตุผลของผม"

ฉัน "ก็ดีแล้วที่รู้ว่าตัวเองเป็นยังไง ส่วนฉันก็สนใจไปซะทุกอย่าง"

เจส "มีอะไรบ้างที่คุณไม่สนใจ"

ฉัน "อืมม ก็คุณไงหละ"

เจส "..."

ฉัน "ฉันล้อเล่น"

เจส "ผมยังไม่ได้ว่าอะไรเลย"

ฉัน "..."

เจส "ผมก็ล้อเล่นเป็นเหมือนกันนะ :)"

ฉัน "นิ แล้วล้อเล่น ภาษากวางตุ้งพูดว่ายังไงหรอ ถ้ายังคุยกันอยู่
ฉันก็ควรจะรู้คำๆนี้นะ ได้ใช้บ่อยแน่ๆ"

เจส "ก๋อง...ซิว"

ฉัน "ก๋อง...สิว สิวสิวที่แปลว่านิดหน่อยหรอ"

เจส "ไม่ใช่ คนละตัวกัน"

ฉัน "ยากจัง เรียนภาษาคุณคงลำบากมากเลย"

เจส "ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องลำบาก เราคุยภาษาอังกฤษกันก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรเลย"

ฉัน "นั่นสินะ"

เจส "ภาษาคุณก็ยากเหมือนกัน ผมเคยเห็นอยู่ เป็นกลมๆเล็กๆ น่ารักดีนะ"

ฉัน "เจสเปอร์"

เจส "เห"

ฉัน "ชื่อของคุณในภาษาไทยไงหละ เจสเปอร์"



แล้วเจสก็เปลี่ยนชื่อดิสเพลย์ของตัวเองเป็นคำว่า "เจสเปอร์"
แต่ก็เปลี่ยนอยู่แค่วันเดียว แล้วก็กลับมาเป็นภาษาอังกฤษเหมือนเดิม

ในตอนนั้นฉันก็แค่ขำ ไม่ได้คิดอะไร
แต่นั่นเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ฉันได้เห็นเค้าเปลี่ยนชื่อดิสเพลย์ตัวเอง

นับตั้งแต่วันนั้นจนถึงทุกวันนี้เป็นเวลาหนึ่งปีครึ่ง
เจสเปอร์ก็ไม่เปลี่ยนชื่อดิสเพลย์อีกเลย...ก็อดคิดไม่ได้ว่า...ในตอนนั้น
เจสเองก็อาจจะรู้สึกพิเศษกับฉันบ้าง...สิวสิว...เหมือนกัน





ฉัน "ฉันก็เป็นแบบนี้ สนใจทุกอย่าง แต่ไม่ได้เรื่องเลยสักอย่าง"

เจส "แล้วถ้าเป็นJesperlismละ"

ฉัน "ห๊า ๕๕ อะไรของคุณหนะ"


...

...

...

ตอนนั้นฉันแปลกใจมากๆที่เค้าพิมพ์คำนี้ออกมา

...

...

...


ฉัน "ไม่อยากจะเชื่อว่าคนแบบคุณจะคิดอะไรแบบนี้ออกมาได้ด้วย"

เจส "ทำไมหละ จริงๆแล้วผมเป็นคนโรแมนติกนะ"

ฉัน "เอ่อ ฉันว่าคำแบบนี้ไม่เหมาะกับคุณเลย"

เจส "กับคนที่ผมรัก ผมก็เรียกเค้าว่าที่รักได้นะ"

ฉัน "นั่นคือสิ่งที่โรแมนติกที่สุดที่เคยทำแล้วใช่มั๊ยอะ ที่รัก ใครๆเค้าก็พูดกัน แต่ก็นั่นหละ...คนอย่างคุณ แค่นั้นก็เพี้ยนมากแล้ว"

เจส "..."

ฉัน "นิ...ขอดูรูปที่รักของคุณหน่อยสิ"

เจส "แครอลหรอ"

ฉัน "มีกี่ล้านคนหละ"

เจส "ผมไม่ใช่คนเจ้าชู้นะ"

ฉัน "ฉันแค่ล้อเล่น แล้วคบมาแล้วกี่คนหละ"

เจส "สี่คน แคธเธอรีน เคนจิ เยน แครอล"

ฉัน "เยอะจัง"

เจส "แล้วคุณหละ"

ฉัน "สามเอง (แต่ถ้ารวมคนที่ฉัน"หลุด"ไปด้วยละก็
ก็คงจะไปตั้งทีมอเมริกันฟุตบอลพร้อมตัวสำรองได้)"



เจสส่งรูปแครอลมาให้ แครอลเป็นผู้หญิงที่เหมือนกับที่ฉันเคยนึกภาพไว้

ผู้หญิงฮ่องกงก็ต้องแบบนี้หละ ผิวพรรณดี ดูเป็นผู้หญิงสมาร์ท
นั้นก็เป็นอิมเมจที่แตกต่างกับผู้หญิงตะวันออก...รวมถึงผู้หญิงตะวันออกเฉียงใต้หน้าโง่อย่างฉันด้วย



ฉัน "เธอดูเป็นผู้หญิงเต็มตัวเลยนะ"

เจส "เค้าอายุมากกว่าผม"

ฉัน "อ๋อ ชอบคนแก่นิเอง"

เจส "ผมไม่ได้คบคนที่อายุซะหนอ่ย แต่ก็ไม่เคยคบกับเด็กเหมือนกัน"

ฉัน "เค้าดูสูงจัง เค้าคงสูงมากเลย"

เจส "ก็ธรรมดา เหมือนผู้หญิงที่นี่ทั่วๆไป"

ฉัน "แล้วผู้หญิงทั่วๆไปที่นู่น เค้าสูงเท่าไหร่กันหรอ"

เจส "ก็ประมาณ165 ประมาณนั้นหละ ไม่ได้สูงอะไรหรอก"

ฉัน "พระเจ้า!! ทำไมสูงกันแบบนี้หละ"

เจส "คุณสูงเท่าไหร่"

ฉัน "คุณบอกของคุณมาก่อนสิ"

เจส "ผม179ซ.ม."

ฉัน "ห๊า ทำไมสูงแบบนี้หละ ไม่บอกแล้ว"

เจส "ทำไม คุณเตี้ยมากเลยหรอ"

ฉัน "มาก ไม่น่าจะพ้นไหล่คุณแน่ๆ 156เอง"

เจส "ก็ไม่ได้เตี้ยอะไรมากมายนิ ถ้าไม่มั่นใจก็ใส่ส้นสูงก็ได้
ผมชอบผู้หญิงใส่ส้นสูงนะ ดูดีออก"

ฉัน "เอาไป1000000HKD เอาไปซื้อเค้กที่แม๊กซิมกินนะ"

เจส "เค้กแม๊กซิมหรอ ถ้าผมไม่มีทางเลือกเท่านั้นหละถึงจะกิน รสชาติไม่ได้เรื่อง"

ฉัน "จริงอะ!! มันดูดีมากเลยนะ"

เจส "คุณไม่เคยมาฮ่องกงจริงๆหรอ"

ฉัน "ไม่เคย แล้วก็คงจะไม่ได้ไปแล้วหละ
ถึงจะเคยไปอเมริกากับญี่ปุ่นมาสองครั้ง แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว"

เจส "ทำไมละ"

ฉัน "ฉันไม่ค่อยแข็งแรง ไม่สบายนิดหน่อย ไม่ได้ร้ายแรงอะไรหรอก
แต่พ่อแม่ฉันเป็นห่วง ไม่อยากให้เดินทาง"

เจส "แล้วหายรึยัง คุณเป็นอะไร"

ฉัน "โรคหัวใจ ๕๕ แต่ก็แข็งแรงปรกติดี มันเหมือนหวัดนิหละ
ถ้าเราดูแลรักษาตัวเองให้ดี ก็ไม่มีอะไร"

เจส "เสียใจที่ได้รู้แบบนี้นะ"

ฉัน "ทำไมหละ ฉันไม่ได้เป็นมะเร็งสักหน่อย ไม่อยากได้เป็นน้องสาวแล้วใช่มั๊ย"

เจส "ป่าว ผมแค่เสียใจที่รู้ ผมเป็นห่วง"

ฉัน "แค่ล้อเล่นอะ"

เจส "ล้อเล่น นิคุณล้อเล่นหรอเนี้ย"

ฉัน "๕๕ ก็มันไม่ได้เป็นอะไรมากมายซะหน่อย จะเป็นห่วงทำไมหละ"

เจส "อืมม...คุณมาฮ่องกงไม่ได้ แต่ผมไปหาคุณได้นะ"

ฉัน "แล้วจะมาทำไม ที่ฮ่องกงก็มีทุกอย่างที่เมืองไทยมีนั่นหละ"

เจส "แล้วคุณไม่อยากมาฮ่องกงหรอ"

ฉัน "อยากสิ อยากไปมานานแล้ว แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง พาสปอร์ตก็อยู่กับปะป๊า แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก สำหรับฉันที่ไทยก็มีทุกอย่างที่ฮ่องกงมีเหมือนกัน
อย่างต๋านทาร์ต*ที่นิก็อร่อยมากๆ คงไม่ได้ต่างกับที่นู่นมากหรอก"

*ทาร์ตไข่ ที่ร้านka nomอร่อยมากๆเลย แต่กินมากๆก็เลี่ยนเหมือนกันนะ


เจส "คุณนิเหมือนเด็กจริงๆด้วย คิดแต่เรื่องกิน"

ฉัน "แล้วฉันก็ไม่ใช่คนกวางตุ้งเหมือนคุณอีก"

เจส "มันเกี่ยวกันตรงไหน"

ฉัน "ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่...คุณคิดยังไงกับผู้หญิงไทยหรอ"

เจส "เพียว"

ฉัน "คือ..."

เจส "อินโนเซนต์"

ฉัน "นั่นคือคำจำกัดความของฉัน รึว่าของผู้หญิงไทย"

เจส "ของผู้หญิงไทยแบบคุณ"

ฉัน "คุณเอาคำว่าไร้เดียงสา มาอธิบายผู้หญิงอายุ23เนี้ยนะ"

เจส "คุณอายุ22นะ"

ฉัน "ก็เหมือนกันนั่นหละ ฉันคงจะดีใจที่ได้รู้ถ้าฉันอายุ14-15
แต่...ฉันอายุ22แล้ว ฉันไม่เด็กแล้วนะ"

เจส "ผมรู้แล้วว่าคุณเป็นผู้หญิง เป็นเลดี้ จะพูดให้ถูกต้องแบบนั้นใช่มั๊ยละ"

ฉัน "ถูก"

เจส "เด็กจริงๆด้วย"

ฉัน "บอกแล้วว่าไม่ และฉันก็คิดว่าฉันรู้ทุกอย่างพอๆกับคุณนั่นละ ยกเว้นแค่...."



((เนื้อหาด้านล่างไม่เหมาะสมนะคะ ถ้าเห็นว่าไม่ควรก็บอกนิดค่ะ เดี๋ยวลบออก -  -"))



เจส "นิคุณไม่เคยมีอะไรกับแฟนเก่าคุณหรอ"

ฉัน "อือ ก็ตอนนั้นที่ฉันคบกับเค้าฉันเพิ่งจะ19เองนะ ยังเด็กอยู่มากเลย"

เจส "เค้าอายุเท่าไหร่"

ฉัน "มากกว่าคุณหนึ่งปี เค้า1980"

เจส "ทำไมถึงไม่มีอะไรกับเค้าหละ"

ฉัน "พระเจ้า มันติดความได้ว่าฉันควรเสียดายที่ไม่ได้มีอะไรกับแฟนเก่ารึป่าวหนะ"

เจส "ไม่ใช่แบบนั้น ผมแค่สงสัยเฉยๆ ก็บอกว่าอยู่ด้วยกันไม่ใช่หรอ"

ฉัน "ใช่ เราอยู่ด้วยกัน กินข้าว ไปเที่ยว อาบน้ำ นอน แต่ไม่ได้ทุกคืน
เค้ามารับไปนอนบ้านเค้าบ้าง เค้ามานอนที่บ้านฉันบ้าง เวลาเราไม่ตรงกัน"

เจส "แปลกจริงๆ"

ฉัน "ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องมีอะไรกันเลย ตอนนั้นฉันยังเด็กอยู่จริงๆ
อายุไม่เด็กแล้ว แต่ฉันก็ยังทำใจไม่ได้ แต่...ฉันไม่ได้หัวอนุรักษ์นิยมอะไรหรอก ฉันมีความสุขกับการเมคเอาท์ เรื่องเซกซ์ก็คุยได้ แค่คิดว่ายังไม่ถึงเวลาของตัวเองเท่านั้นเอง"

เจส "อืมม"

ฉัน "ฉันไม่เหมือนคุณหรอกนะ"

เจส "ผมก็มีอะไรมาแค่คนเดียวเอง"

ฉัน "กับแครอลอะหรอ แล้วคิดยังไงหละถึงไปทำแบบนั้น"

เจส "ก็ไม่คิดยังไง เราผู้ใหญ่กันแล้วทั้งคู่ เรื่องธรรมดา เค้าพร้อม
ผมก็ไม่มีปัญหา ไม่ได้เรื่องแปลกอะไรเลย"

ฉัน "งั้นฉันก็แปลกหละสิ"

เจส "ก็นิดหน่อย สงสัยเหมือนกันว่าทำไม"

ฉัน "งั้นฉันต้องเดินกลับไปหาแฟนเก่าตัวเองแล้วมีอะไรกับเค้ารึป่าวหละ
จะได้ไม่แปลกในสายตาคุณหนะ"

เจส "ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้นซะหน่อย
ที่สงสัยก็เพราะว่า...ผมรู้สึกว่าคุณรักเค้ามาก
แล้วทำไมถึงไม่มีความสุขกับเค้า เพราะเซกซ์ไม่ได้เรื่องที่น่ารังเกียจ
เพราะกับคนที่เรารัก เซกซ์เป็นการแสดงออกถึงความรักที่ดีที่สุดเท่านั้นเอง
มันเป็นที่เข้าใจได้เฉยๆ คุณคิดแบบคุณ ผมคิดแบบผม
คุณคิดแบบนั้นก็คงเหตุผลของตัวเองเหมือนกัน ผมให้เกียรติคุณนะ"

ฉัน "อือ ขอโทษด้วย ก็นึกว่าว่าฉันว่าแปลก ฉันเองก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร
ฉันก็มีเหตุผลของฉันที่ยังไม่อยากมีอะไรกับใคร ก็เท่านั้นเอง"

เจส "ไม่เป็นไรหรอก ถึงเวลาของคุณ คุณก็เข้าใจมันเอง"


...

...

...


จริงๆแล้วคนเราทุกคนคงไม่อยากถูกมองว่าเด็กหรอก

แต่ผู้หญิงทุกคนคงมี"ความเป็นเด็ก"อยู่ในตัว พอมีความรักต่อมพิเศษต่อมนี้จะถูกปลุกให้ออกมาทำงานเป็นการเฉพาะกิจ

เหมือนกับกลไกธรรมชาติมันกำลังบอกว่าผู้หญิงต้องการได้รับการดูแลเอาใจใส่จากคนที่เรารักมากเป็นพิเศษละมั๊ง


((รูปเด็กชายเจสเปอร์))

 
 

จากคุณ : KissAhoLicGal
เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:55:45




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com