บทส่งท้าย
เสียงร้องเพลงสื่อการเรียนการสอนดังเจี๊ยวจ๊าวทั่วลานโล่งของหมู่บ้านภายในหุบเขา เด็กน้อยก่อนวัยเรียนในชุดชาวเขาประจำเผ่าผุดลุกยืนมองรูปภาพสีสวยที่คุณครูถือโบกไปมาประกอบเพลง บ้างกระโดดโลดเต้นตามจังหวะรื่นเริง
สิ้นเสียงเพลงนั้น ทุกคนพร้อมใจกันปรบมือให้ตนเอง แสงอาทิตย์ทอดตรงกลางศีรษะดังสัญญาณบอกเวลาหมดคาบเรียน
แดดเริ่มแรงแล้ว หมดเวลาเรียนแล้วจ้ะเด็กๆ กลับบ้านกันดีๆ นะคะ
คูขา พุ่งนี้คูมาร้องเพลงอีกมั้ยค้า
มาสิจ๊ะ แล้วพรุ่งนี้ครูจะเอาดินสอสีมาให้ทุกคนด้วยนะ คุณครูเอ่ยอย่างรู้ใจว่าลูกศิษย์ตัวน้อยทั้งหลายชอบใช้ดินสอสีคัดการบ้านมากกว่า
เด็กๆ โห่ร้องยินดีเมื่อได้รับคำสัญญา ก่อนจะวิ่งแข่งแยกย้ายกันกลับบ้านซึ่งกระจายอยู่รอบหุบเขา
รุ่งทิพย์เก็บข้าวของอันได้แก่สมุดภาพและหนังสือนิทาน ก่อนเดินลัดเลาะไปตามรั้วไม้ไผ่ของบ้านผู้ใหญ่บ้าน
เดี๋ยว... คู อย่าเพ่อไป ชายวัยกลางคนร้องเรียกเธอขณะกำลังติดเครื่องรถจักรยานยนต์ เอานี่ไปกินนะ ขอบคูที่คูมาสอนเดะๆ ลูกหลานเรา
ขอบคุณค่ะ ลุงผู้ใหญ่ ฟักลูกใหญ่ดีจังนะคะ
คุณครูรับฟักลูกโตมาใส่ตะกร้าหน้ารถ เออหนอ ใครว่าเธอไม่ได้รับค่าเหนื่อยจากการมาสอนเด็กชาวเขาบนดอยซึ่งไม่มีโอกาสได้เข้าเรียนระดับชั้นอนุบาล เพื่อเตรียมความพร้อมพวกเขาก่อนขึ้นชั้นประถมศึกษา รุ่งทิพย์ขอเถียงสุดใจ เพราะเธอได้รับค่าเหนื่อยอันประเมินค่ามิได้ คือน้ำใจของพวกเขานั่นเอง
รถจักรยานยนต์แล่นห่างออกไป แมกไม้ครึ้มบดบังหมู่บ้านชาวเขาที่เธอเพิ่งจากมาจนแลดูกลมกลืนไปกับป่า
หญิงสาวนึกขันยามคิดว่าถ้าทุกคนที่เธอรู้จักได้มาเห็นเธอขี่รถจักรยานยนต์ขึ้นลงดอยเป็นว่าเล่นเช่นนี้ คงแปลกตาพวกเขาที่ผู้หญิงตัวเล็กๆ สามารถบังคับเครื่องยนต์ซึ่งหนักกว่าตนเท่าตัวได้ เมื่อนั้นความห่วงใยคงมาพร้อมกับการท้วงติง เรื่องนี้จึงกลายเป็นความลับต่อไป
สายลมเย็นจากความชุ่มชื้นของป่าสองข้างทางพัดมาปะทะใบหน้า รุ่งทิพย์สูดหายใจเอาอากาศบริสุทธิ์มาเก็บไว้ในอกดังของรักของหวง เส้นผมหลังหมวกกันน็อคชนิดครึ่งใบปลิวสยายตามแรงลม
หากพ้นโค้งหน้าไปแล้วก็เป็นอันสิ้นสุดถนนสองเลนลดเลี้ยวไปตามหุบเขา เข้าสู่ถนนสายหลักของตัวเมือง กระนั้นรถราก็ยังคงบางตา ส่วนใหญ่เป็นรถจักรยานยนต์ตามเศรษฐกิจของชาวบ้านในอำเภอนั้นๆ
รุ่งทิพย์ขี่ไปตามเส้นทางคุ้นเคย ผ่านโรงเรียนซึ่งมีเพียงอาคารสามชั้นหลังเดียวอ้อมไปยังด้านหลังอันเป็นบ้านพักครู เธอเข็นรถผ่านรั้วไม้ของบ้านเดี่ยวชั้นเดียวหลังหนึ่ง สถานที่ซึ่งเธอพักอาศัยอยู่กับคุณครูรุ่นพี่ผู้ใจดี
ทิพย์มาพอดี มากินข้าวซี พี่เพิ่งทำเสร็จเดี๋ยวนี้เอง
พี่หลินไม่น่าลำบากเลย ขายังเจ็บอยู่แท้ๆ เธอรีบช่วยรุ่นพี่ที่ยังคงรัดข้อเท้าด้วยผ้าสีน้ำตาลยกสำรับอาหาร
ค่อยยังชั่วแล้วล่ะ แค่ขาแพลงเท่านั้นเอง อาทิตย์หน้าก็ขึ้นไปสอนเด็กๆ กับทิพย์ได้แล้ว
เด็กๆ ก็ถามถึงครูหลินค่ะ นี่ลุงผู้ใหญ่ให้ฟักมาด้วย ลูกโตเทียว
จริงซี พี่เกือบลืม คนขาเจ็บกะเผลกไปหยิบซองจดหมายจากตู้หนังสือ มีซองขาวมาถึงทิพย์เมื่อเช้านี้จ้ะ จดหมายจากผอ. หรือผ้าป่าวัดไหนอีกแล้วก็ไม่รู้
หญิงสาวยิ้มขันกับถ้อยคำเย้าแหย่ คุณครูรุ่นพี่ผู้นี้ย่อมทราบดีว่าจดหมายที่เธอได้รับประจำนั้นมาจากผู้จ่าหน้าซองคนเดียวกัน กระนั้น เจ้าหล่อนยังคงรักษามารยาท ไม่ก้ำเกินสอบถามเรื่องส่วนตัว
รุ่งทิพย์อดใจวางซองจดหมายไว้ข้างตัวระหว่างรับประทานอาหาร ทั้งที่ใจอยากรู้เนื้อความข้างในเสียแต่เดี๋ยวนี้ นับวัน...จดหมายจากทางไกลนั้นได้สร้างอิทธิพลกับใจเธอเพิ่มขึ้นช้าๆ
จากคุณ |
:
ภาพิมล (thezircon)
|
เขียนเมื่อ |
:
20 ก.ย. 54 11:53:49
|
|
|
|