Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เซลล์มรณะ ติดต่อทีมงาน

ภายในห้องทดลองของศาสตราจารย์.อัสนีในขณะนี้  หมอกสีขาวขุ่นจากตู้ทดลองกำลังมวนตลบออกมาเมื่อเขาเปิดมันออก  แสงไฟบนเพดานส่องจับเข้าไปในตู้  ศาสตราจารย์.อัสนีขยับแว่นตาบนจมูกให้เข้าที่  เขาก้มลงจ้องมองเข้าไปในตู้ทดลองซึ่งมีรูปทรงสี่เหลี่ยมขนาดเท่าเครื่องอบไมโครเวฟ และอย่างช้าๆ  นักวิทยาศาสตร์วัยกลางคนก็เผยยิ้มออกมาด้วยความดีใจสุดชีวิต
       
“เราทำสำเร็จแล้ว!” เขาร้องตะโกนขณะหันหน้าไปยังหน้าต่างห้องทดลอง  นอกกระจกที่กั้นอยู่นั้น  มีลูกศิษย์ของเขาอีกสองคนกำลังยืนป้องตากับหน้าต่างและเพ่งมองเข้ามาด้วยสายตากระหายใคร่รู้  ศาสตราจารย์.อัสนีส่งยิ้มให้ลูกศิษย์ทั้งสองพลางพยักหน้าช้าๆและส่งสัญญาณให้พวกเขาเข้ามา
       
“เป็นยังไงบ้างครับ อาจารย์?” ดร.ชาญชัยผู้เป็นลูกศิษย์ถามขณะเดินนำ ดร.ตะวันนักวิทยาศาสตร์รุ่นน้องเปิดประตูเข้ามาในห้อง  “การเจริญเติบโตของไมโตคอนเดรียคงจะไม่-”
       
“พวกคุณดูเอาเองเถอะ”ศาสตราจารย์อัสนีตอบด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นพลางผายมือไปยังตู้ทดลอง  ลูกศิษย์หนุ่มทั้งสองรีบก้าวปราดๆอย่างรวดเร็ว  พวกเขาหยุดยืนอยู่หน้าตู้ซึ่งยังคงมีหมอกสีขาวขุ่นลอยคลุ้งออกมา  ดร.ชาญชัยและดร.ตะวันก้มลงมอง และก็ต้องร้องออกมาด้วยความประหลาดใจทันที
       
“พวกเราทำได้สำเร็จแล้วใช่มั้ยครับ!!!”ดร.ชาญชัยหันมาถามผู้เป็นอาจารย์ขณะดร.ตะวันยังยืนจ้องมองสิ่งที่อยู่ในตู้ด้วยความตะลึงงัน  
       
“ใช่  เราทำสำเร็จแล้ว!”ศาสตราจารย์อัสนีตอบพร้อมกับเดินมาสมทบกับลูกศิษย์ทั้งสอง “เราสามารถสร้างมุนษย์จอมพลังที่เป็นยิ่งกว่าซูเปอร์แมน  แข็งแกร่งยิ่งกว่าฮัค มนุษย์ตัวเขียวในการ์ตูนเสียอีก  อีกหนึ่งสัปดาห์ รอให้ “ลูซิเฟอร์ 1”ของเราโตสมบรูณ์เสียก่อน เราจะจัดงานแถลงข่าว ทั่วโลกจะต้องตกตะลึง!!!”
       
แล้วอาจารย์กับลูกศิษย์ก็ระเบิดเสียงหัวเราะขึ้นพร้อมกัน  พวกเขาพากันก้มมองเข้าไปในตู้ทดลองด้วยสายตาเป็นประกายระยิบระยับ  สิ่งที่อยู่ในตู้ท่ามกลางหมอกขาวขุ่นในตอนนี้กำลังเต้นตุบๆราวกับมีชีวิต  มันเป็นเพียงก้อนเนื้อสีน้ำตาลขนาดเท่ากำปั้นก้อนหนึ่ง  บางครั้งมันก็เปลี่ยนสีผิวเป็นสีแดงและสีอื่นๆอย่างรวดเร็วเมื่อมันพยายามเปลี่ยนแปลงรูปทรงของตัวเอง
       
ไม่มีใครรู้เลยว่า หายนะครั้งใหญ่กำลังก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ

----------------------------------


แสงแฟลชจากกล้องถ่ายรูปสว่างวูบวาบจนตาลายเมื่อดร.อัสนีและลูกศิษย์ทั้งสองคนทรุดกายลงนั่งบนเก้าอี้ที่โต๊ะแถลงข่าวบนเวที  นักข่าวทั้งไทยและเทศจำนวนหลายร้อยคนพากันมาในหอประชุมใหญ่ของมหาวิทยาลัยชื่อดังซึ่งใช้เป็นสถานที่จัดแถลงข่าว  ในมือของแต่ละคนมีกล้องถ่ายรูป เครื่องมือบันทึกเสียง และยังมีกล้องถ่ายทอดสดตั้งอยู่ตามจุดต่างๆอีกด้วย  การแถลงข่าวครั้งนี้มีถ่ายทอดสดให้คนไทยทั้งประเทศได้รับชม เช่นเดียวกับฝั่งอเมริกาที่รายงานสดโดยสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นประจำประเทศไทย
       
“ศาสตราจารย์.อัสนีครับ  มนุษย์จอมพลังที่อาจารย์ทดลองสร้างขึ้นมาอยู่ไหนล่ะครับ?”นักข่าวจากหนังสือพิมพ์ชื่อดังยกมือขึ้นถามทันทีเมื่อเห็นว่าผู้แถลงข่าวนั่งกันเรียบร้อยแล้ว  ขณะนักข่าวทุกคนที่นั่งอยู่ด้านล่างเวทีพากันกราดสายตามองเลิกลั่กไปทั่วหอประชุม “แล้วจริงหรือเปล่าครับที่อาจารย์บอกว่า มนุษย์จอมพลังคนนี้สามารถทำลายกองทัพได้ทั้งกองในเวลาเพียงไม่กี่นาที?”
       
“มันก็แค่ในทฤษฏีเท่านั้นแหละ  คุณนักข่าว”ศาสตราจารย์อัสนีตอบด้วยเสียงแจ่มใส  ใบหน้าของเขากำลังยิ้มแย้มขณะกล่าวต่อ “แต่ถ้าเป็นในทางปฏิบัติผมก็ไม่รู้เพราะยังไม่เคยลอง และไม่คิดจะลองด้วย  ไม่แน่ “ลูซิเฟอร์ 1”ของผมอาจจะล้มทั้งกองทัพในเวลาแค่นาทีเดียวก็ได้”
       
เสียงฮือฮาจากบรรดานักข่าวดังขึ้นก้องหอประชุมทันทีที่ศาสตราจารย์.อัสนีกล่าวจบ  ดร.ชาญชัยหัวเราะเล็กน้อยขณะเห็นอาการตกตะลึงของนักข่าว ส่วนดร.ตะวันซึ่งนั่งอยู่ข้างๆไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น  เขากำลังพูดคุยผ่านไมค์สื่อสารที่ติดบนปกเสื้อกับทีมงานหลังเวทีเพื่อจัดคิวเตรียมการเปิดตัวให้กับ ลูซิเฟอร์ 1ต่อหน้าสื่อมวลชน
       
“แค่ได้ยินพวกคุณยังตะลึงขนาดนี้”ดร.อัสนีพูดพลางลุกขึ้นยืน ผายมือไปยังด้านหลังซึ่งมีม่านสีดำขึงกั้นเอาไว้ “งั้นขอเชิญทุกคนพบกับ มนุษย์จอมพลัง...ลูซิเฟอร์1!!!”
       
ดร.ตะวันก้มหน้าลงกระซิบใส่ไมค์สื่อสาร  วินาทีต่อมา  ม่านดำที่กั้นเป็นฉากหลังก็ค่อยๆรูดเปิดออกพร้อมไฟในหอประชุมที่ค่อยๆหรี่ลงจนมืดสนิทในจังหวะเดียวกัน  เหลือเพียงสปอร์ตไลท์ดวงเดียวเท่านั้นที่สาดแสงส่องจับร่างทะมึนร่างหนึ่งบนเวที  
       
ร่างนั้นสูงกว่าหกฟุต  ใบหน้าหล่อเหลา  ศีรษะโล้นเลี่ยน  สีผิวขณะยืนอยู่เฉยๆเป็นสีน้ำตาลเข้ม แต่เมื่อร่างนั้นเริ่มก้าวเดิน  สีผิวก็เปลี่ยนแปลงกลายเป็นสีส้ม  ร่างนั้นเคลื่อนมาหยุดลงตรงโต๊ะแถลงข่าว  ศาสตราจารย์อัสนีขยับกายเดินเข้าไปหา  ใบหน้าของร่างทะมึนเผยยิ้มขณะศาสตราจารย์เอื้อมมือจับแขนที่กำลังกลับคืนเป็นสีน้ำตาลเข้มดังเดิมชูขึ้นสูงกลางอากาศ      
       
“นี่คือ ลูซิเฟอร์1!”ศาสตราจารย์อัสนีตะโกนก้อง  ดร.ชาญชัยกับดร.ตะวันลุกขึ้นยืนปรบมือนำเป็นคนแรก ก่อนที่เสียงปรบมือจากบรรดากองทัพสื่อมวลชลจะดังขึ้นอย่างอื้ออึง  ไฟในห้องประชุมค่อยๆสว่างขึ้นอีกครั้งเมื่อเสียงปรบมือเริ่มเบาบางลง
       
มนุษย์จอมพลังที่ศาสตราจารย์อัสนีตั้งชื่อไว้ว่าลูซิเฟอร์1เงยหน้ามองแสงไฟบนเพดาน  มันเอียงคอมองหลอดไฟด้วยความสงสัย พลัน ลูซิเฟอร์1ก็ต้องสะดุ้งโหยงเมื่อเหล่านักข่าวระรัวนิ้วลงบนชัตเตอร์จนแสงแฟลชจากกล้องถ่ายรูปวูบวาบละลานตา

จากคุณ : ทะเลเดือดพันธุ์ร็อค
เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 18:59:28




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com