Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เรื่องเล่าจากสวนอ้อย (ชีวิตที่ไม่ได้เลือก) ติดต่อทีมงาน

เรื่องเล่าจากสวนอ้อย

ชีวิตที่ไม่ได้เลือก

วันก่อนจะถ่ายรูปหนังสือ ที่รวมเล่มเองด้วยกระดาษ เอ.๔ เจอเรื่องเก่าแก่ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๓๔ ชื่อ ชีวิตที่ไม่ได้เลือก ก็นึกขึ้นมาถึงชีวิตของตนเองอีกครั้งหนึ่ง เรามีชีวิตที่เป็นไปตามกรรมจริง ๆ

เราเกิดมาจากไหนก็ไม่รู้ ไม่ได้เลือกว่าจะมาเกิด เมื่อไร ไม่ได้เลือกว่าจะมาเกิดเป็นผู้ชาย ไม่ได้เลือกว่าจะมาเกิดเป็นลูกครูทั้งพ่อทั้งแม่ เกิดมาแล้วเขาก็บันทึกทะเบียนบ้านว่าเกิด วันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๔๗๔ แต่แม่บันทึกไว้ว่า เกิดวันขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๕ ปีมะแม เป็นวันพฤหัสบดี ตามปฏิทิน ๑๐๐ ปี ตรงกับวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๔๗๓

พอโตมาจะมีอายุครบสิบปี ในเดือน มีนาคม ๒๔๘๓ เขาดันยกเลิก การขึ้นปีใหม่จากเดือน เมษายน ให้ขึ้นปีใหม่เดือนมกราคม พ.ศ.๒๔๘๓ เป็น พ.ศ.๒๔๘๔ เดือน มกราคม มีนาคม เมษายน ๒๔๘๓ เลยหายไปจากปฏิทิน กลายเป็นสิบขวบ มีนาคม ๒๔๘๔ และครบเกษียณอายุราชการ พ.ศ.๒๔๓๔ ไปด้วย ช่างมันเถอะปล่อยผ่านไปเลย เพราะเหตุการณ์แบบนี้คงไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว คนที่สูญเสียวันเกิดไปสามเดือนอย่างเราก็อาจเหลืออยู่ไม่กี่คนแล้ว
ภาพนักเรียน


เมื่อเป็นเด็กเรียนหนังสืออยู่ที่ปากตรอกโรงเรียนนายร้อยทหารบก ก็ชอบเครื่องแบบทหาร อยากเป็นทหารบก แต่สุดท้ายเรียนไม่จบ ม.๖ เข้านายร้อยไม่ได้ หันไปหาโรงเรียนจ่าทหารเรือ เพราะบ้านตรงข้ามเป็นจ่าโทเรือดำน้ำ เคยพาไปลงดูในท้องเรือดำน้ำ แต่ก็ว่ายน้ำไม่เป็นอีก

ได้เข้ามาเป็นกรรมกรใช้แรงงานในกรมพาหนะทหารบก แต่ไม่ชอบเลย เพราะยังไม่รู้ว่ากองพาหนะทหารบก เคยไปรบในสงครามโลกครั้งที่ ๑ ถึงยุโรป ก็เลยอยากเป็นนักเขียน แต่เขียนอยู่เกือบสิบปี ก็ไม่พ้นน้องใหม่ เขียนฟรีสักที พอดีถึงคราวต้องเกณฑ์ทหาร แม่ป่วยหนักต่องขอผ่อนผันเพื่อดูแลหาเลี้ยงแม่ได้หนึ่งปี แม่ก็จากไป ปปีถัดมาจึงเข้าไปรายงานตัว ขณะนั้นทหารไทยกำลังมีชื่อเสียงในสงครามเกาหลี ก็อยากเป็นทหารราบ จะได้อาสาไปสงครามเกาหลี

ก็ได้รับการคัดเลือกเป็นทหารราบจริง แต่เป็นหน่วยที่มีอยู่กองร้อยเดียว มีหน้าที่เป็นลูกมือทำงานโยธาให้กองบัญชาการ กองทัพภาคที่ ๑ อดไปเกาหลี เป็นทหารฝึกหนักอยู่หนึ่งปี เลยเป็นไส้เลื่อนอักเสบต้องผ่าตัดทำงานหนักไม่ได้อย่างน้อยหกเดือน พอดีเขารับนักเรียนนายสิบ ก็เลยรีบสมัครเพราะเมื่อสำเร็จแล้วมีงานทำ ดีกว่าปลดแล้วกลับไปเป็นลูกจางใช้แรงงานที่เก่า

ก็เรียนตามเพื่อน ๆ ที่มีอยู่ร้อยกว่าคน เวลาสอบดันได้ที่ ๘ คะแนน ๘๐ กว่าเปอร์เซ็นต์ เลยอดเป็นสิบตรี ได้ติดสิบโทแทน ตอนคัดเลือกหน่วยที่จะบรรจุ อยากอยู่ กองพันทหารสื่อสาร จะได้มีความรู้ทางวิทยุ โทรศัพท์ แต่ผู้มีพระคุณชวนให้ไปอยู่แผนกพลาธิการ ก็จำต้องรับปากโดยไม่ชอบเลย แต่พอบรรจุจริง มีคนวิ่งเต้นไปแทน ตัวเรากลับไปอยู่แผนกกำลังพล มีงานหลักคือการบรรตุบุคคลเข้ารับราชการ การเลื่อบำเหน็จ เลื่อนยศ การย้ายนายทหารนายสิบ การปลดทหารออกจากราชการ ซึ่งมันก็คืองานสารบรรณแขนงหนี่งนั่นเอง ตัวเราก็คือเสมียนพิมพ์ดีดในหน่วยนี้ ไม่เคยเรียนพิมพ์ดีดก็ พิมพ์ด้วยนิ้วกลางทั้งสองมือจนใช้งานได้

ความอยากที่จะเป็นนักเขียนนักประพันธ์ ก็ผุดขึ้นมาใหม่ คราวนี้เขียนให้นิตยสารของหน่วยเป็นงานราชการตลอดเวลาสามสิบกว่าปีจนชำนาญ และหน้าที่ราชการก็ก้าวหน้าไปพร้อม ๆ กัน

สมัยนั้นทหารปลดเกษียณยศจ่าสิบเอกก็อยู่ได้มีพอกินพอใช้ แต่พอรับราชการมาได้ ๑๕ ปี ก็เข้าสอบเพื่อเลื่อนเป็นนายทหารได้ จึงใช้ความรู้จากหลักสูตรนายสิบอาวุโส ที่เรียนมาหมาด ๆ เข้าแข่งขันอย่างไม่มีหวังสักเท่าไร เพราะมีผู้เข้าสอบ ๒๐๐ คน แต่จะได้เป็นนายทหาร ตั้งแต่ที่ ๑ ถึงที่ ๕ เท่านั้น แต่ก็ท่องตำราที่เป็นภาษาไทยอย่างหนัก ส่วนภาษาอังกฤษยังไงก็ตกแน่ เลขก็เรียนมาแค่ถอดกรณฑ์สองเท่านั้น และลืมไปหมดแล้วด้วย

ช่วงเวลา ๗ วันที่เข้าสอบ แต่ละวิชาเพื่อนที่เรียนเก่งก็ออกมาวิจารณ์กันที่หัวกองร้อย ว่าใครตอบอย่างไร เปิดตำราดูแล้วก็รู้ว่าใครถูใครผิด เราไม่เข้าไปร่วมวงด้วย เอาเวลาไปท่องวิชาต่อไปดีกว่า ผลปรากฏว่า เราได้คะแนนวิชา ทหารสื่อสาร แผนที่ ภาษาไทย แต่งไทย ย่อไทย เกือบเต็มทั้งหมด เลขกับภาษาอังกฤษก็ไม่ถึงกับตก กลุ่มที่นั่งวิจารณ์กัน ก็หันมามองว่ไอ้หมอนี่มันเส้นใครหว่า

ท่านที่เขาหาว่าเราเป็นเด็กของท่านนั้น ท่านสัมภาษณ์เราว่า

“ถ้าสมมติลื้อสอบได้ลื้ออยากจะเป็นนายทหารตำแหน่งอะไร”

เราตอบว่า “ ถ้าได้เป็นนายทหารกำลังพลก็จะเหมาะดีครับ “

ท่านก็ว่า “ ไอ้ลื้อมันก็เป็นได้แค่นั้นเอง “

ท่านยังไม่เชื่อเลยว่าเราสอบข้อเขียนได้ที่ ๑


เมื่อเราได้เป็นนายทหาร เงินเดือนของจ่าสิบเอกขั้นทะลุ ก็อยู่ในระดับร้อยโท จึงติดยศร้อยตรีเพียง ๖ เดือน แล้วก็เลื่อนเป็นร้อยโท ทั้งสิบโท และร้อยโท เราก็ไม่ได้นึกเลย มันเป็นชีวิตที่ไม่ได้เลือกทั้งคู่ ใครเป็นคนเลือกก็ตอบไม่ยาก

กรรมนั่นเอง ที่เป็นผู้กำหนด เราจึงอยากจะเรียกว่า”ชีวิตที่ถูกกำหนด” มากกว่า “ชีวิตที่ไม่ได้เลือก”

 
 

จากคุณ : เจียวต้าย
เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 54 09:31:21




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com