Bitter Sweet เพราะเธอ ..... หัวใจจึงพบรัก (ตอนที่ 7)
|
 |
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10941594/W10941594.html (ตอนที่ 1 ) http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10952213/W10952213.html (ตอนที่ 2) http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10965250/W10965250.html (ตอนที่ 3) http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10984889/W10984889.html (ตอนที่ 4) http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11025969/W11025969.html (ตอนที่ 5) http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11055621/W11055621.html (ตอนที่ 6)
เป็นเช้าแรกในรอบปีที่ฉันตื่นมาด้วยความกระฉับกระเฉง เดินลงมาชั้นล่างด้วยอาการปกติครบสามสิบสอง ไม่ง่วงเหงาหาวนอน ฉันมองนาฬิกา หกโมงห้าสิบนาที ฉันเดินไปที่ตู้ข้างๆ เก้าอี้ทำผม เมื่อคืนก่อนนอนเหมือนจะนึกอะไรออก สงสัยฉันจะเริ่มคิดเป็นหลังจากที่โง่มานาน เจ๊คนขายแชมพูเขารู้จักกับป้าที่ฉันเซ้งร้านต่อ เพราะฉะนั้นฉันก็น่าจะสามารถขอให้เจ๊ช่วยโทรติดต่อป้าคนนั้นได้ ฉันเจอเบอร์เจ๊แป๋วแล้ว แต่...ยังโทรไม่ได้สินะ เช้าเกินไป ฉันวางนามบัตรไว้บนโต๊ะ คิดถึงน้ำสมุนไพรร้านคุณยายขึ้นมา อยากชวนหมอนั่นไปด้วย เอาไงดี จะขึ้นไปเคาะประตูดีไหม
ครืดๆๆ เจ้านั่นดึงประตูลูกกรงขึ้นจากด้านนอกและไขประตูกระจกเข้ามา เอากุญแจมาจากไหน ฉันเสียงดัง ก็ฉันเก็บกุญแจไว้กับตัวตลอด เมื่อวานเธอคากุญแจไว้ ยัยบื้อ อ้าว งั้นเหรอ ไปไหนมา ฉันถาม ทายสิ เจ้านั่นเล่นยี่สิบคำถาม ไปทำงานให้เธอน่ะสิ ขณะที่เธอนอนอุตุ เราไปจัดการเรื่องต่างๆ มา มันว่าใครนอนอุดตูด จัดการอะไร ฉันงง
ตั้งสตินะเมษา....เรื่องที่จะพูดต่อไปนี้เธอต้องตัดสินใจเองว่าจะเอายังไง เจ้านั่นทำเสียงเครียด เราเห็นว่าเธอพูดถึงร้านขจิตฟลอร่า เราเลยไปหาข้อมูลมา มันเป็นร้านของคุณตาคุณยายคู่นั้นจริงๆ ซึ่งถ้าจะขอเช่าร้านตรงนั้น คุณตากับคุณยายก็คงคิดไม่แพงอยู่แล้ว ส่วนร้านนี้กับพวกเศษเหล็กต่างๆ เรายังนึกไม่ออกเลยว่าจะเอาไง ฉันชูเบอร์โทรศัพท์และบอกว่าเป็นของเจ๊แป๋วคนขายแชมพู ซึ่งอาจจะสามารถสาวถึงตัวเจ๊คนนั้นได้ เจ้านั่นพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้แล้วก็คว้าเอาเบอร์ไปเก็บไว้เอง แล้วถ้าไปเช่าที่ตรงนั้นกับซื้อของต่างๆ มันต้องเสียเงินมากไหม ฉันนึกถึงตัวเลขในบัญชีธนาคาร เจ้านั่นพยักหน้า เธอต้องมีเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยนะ โอย อยากเป็นลม จะเอาเงินที่ไหน..... ฉันอยากลองสู้ใหม่สักตั้งแบบที่นายบอกนะ แต่ว่าฉันไม่มีเงินจริงๆ เงินเก็บฉันหมดไปกับร้านนี้แล้ว ฉันสารภาพ หน้าตาฉันคงเหมือนลูกหมาถูกทิ้ง เจ้านั่นเอ่ยลอยๆ สร้อยของเธอไง สร้อยอะไร นึกเอาเองละกันว่าสร้อยอะไร แล้วจะเอาสร้อยไปทำอะไร เจ้านั่นน่าจะไปอยู่กับคุณไตรภพ คิดเกมส์เก่งเหลือเกิน ฉันทำหน้างง เราหมายถึงให้เธอเอาสร้อยไปจำนำน่ะเจ้านั่นกระซิบ ฉันอ้าปากค้าง ไม่ได้หรอก สร้อยนั้นมันของเธอ เขาบอกเสียงเบา มันเป็นของเธอเมษา เราให้เธอไว้เป็นเครื่องประกัน เธอเอามันไปจำนำก่อนก็ได้ ฉันพอจะเข้าใจอยู่แต่นึกไม่ออกว่าสร้อยราคา 199 บาทจะไปจำนำอะไรได้ หรือว่ามันมีค่ามากกว่านั้น นายแน่ใจเหรอว่าจะให้ฉันยืม ฉันอาจจะโกงนายก็ได้นะ ฉันเกรงใจเป็นเหมือนกันนะ เมษาโกงใครไม่เป็นหรอก เธอเหมือนพวกที่อยู่ล่างสุดของหัวโซ่อาหาร เจ้านั้นตั่งใจชมฉันจริงๆ
ฉันใส่แว่นดำไปยืนหลบๆ ซ่อนๆ หน้าโรงรับจำนำ เจ้าหมอนั่นยืนประชิดตัวอยู่ด้านหลัง เฮ้ย ตื่นเต้น ฉันไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน เธอใส่แว่นดำทำไมเจ้านั่นถามมาได้ คนไม่เคยเข้าโรงรับจำนำ ฉันอายคนเขาเหมือนกันนะ จะให้เดินโทงๆ เข้าไปได้ไง เราเข้าไปเองได้ เธอทำตัวเหมือนจะไปปล้นเขาเลย เจ้านั่นอาสา ไม่ได้....ไม่ได้ น่าเกลียดแย่ ยืมสร้อยเขามาจำนำ ยังจะให้เขาเดินเข้าไปให้ได้ไง เอ่อ เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันยืมก่อน ฉันถามย้ำ เจ้านั่นทำหน้าเอือมระอาอีกแล้ว ฉันเดินลอดม่านประตูของโรงรับจำนำเข้าไป
ฉันยื่นสร้อยให้คุณลุงเจ้าของตีราคา ลุงคนนั้นมองหน้าฉันหลังจากใช้แว่นส่องจี้นั้นด้วยเวลาไม่นาน ไม่สิ ตาลุงนี่มองเลยไปด้านหลังของฉัน เอ่อ จะเอาเท่าไหร่ ฉันทำหน้างงๆ ฉันเอาเท่าไหร่ก็ได้เลยเหรอ แสนห้า เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นด้านหลังฉัน เมษาเธอไปรอข้างนอกได้ไหม ไม่ได้ ฉันเสียงแข็ง รู้สึกว่ามีลับลมคมในอะไรเกิดขึ้น กลิ่นมันทะ:-)ๆ ชอบกล ออกไปรอข้างนอก เจ้านั่นทำตาดุใส่แถมเสียงก็เข้ม ฉันจำใจเดินออกไป
เจ้านี่แปลกมากๆ ตาลุงคนนั้นก็เหมือนกัน พอเห็นจี้อันนั้นก็ทำหน้าแปลกๆ ยิ่งพอเห็นหน้าเจ้านั่นก็ทำหน้าแปลกๆ อีก ฉันเริ้มรู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันแปลกแปล้กแปลก นี่ฉันรู้สึกตัวช้าไปหรือเปล่า อะไรๆ มันดูแปลกมากๆ ฉันควรจะทำบันทึกเรื่องแปลกไว้เลยดีมั้ย
เจ้านั่นเดินออกมาแล้ว ฉันเดินตามหลังไป นายมีอะไรจะสารภาพกับฉันไหม ฉันเอ่ย เจ้านั่นไม่ได้หยุดเดิน ฉันรู้สึกว่านายมีอะไรที่ไม่ได้บอกฉันเยอะแยะไปหมดเลย เจ้านั่นหยุดเดินแล้ว แต่ยังไม่หันหน้ามา เมษา ตอนนี้ปัญหาเธอยังไม่เยอะพอเหรอ เธอถึงได้สร้างปัญหาอีกน่ะ ฉันเดินไปประจันหน้า อ้าว ฉันมีสิทธิ์ที่จะได้รู้บ้างนะว่ามันเกิดอะไรขึ้น นี่มันก็ชีวิตของฉันเหมือนกันนะ เจ้านั่นทำหน้านิ่ง
เพื่อให้เธอไม่ต้องถามอะไรอีกนะ เมษา ..... เราเป็นพวกออกเงินกู้ แล้วตอนนี้เราถือว่าเธอยืมเงินเราแล้ว เราคิดดอกเธอร้อยละยี่สิบ ขอประกาศว่าบัดนี้เธอเป็นหนี้เราหนึ่งแสนห้าหมื่นบาทถ้วนพร้อมดอกเบี้ยร้อยละยี่สิบต่อเดือน เข้าใจรึยัง สมองฉันกำลังประมวลผลอยู่ หา.... อะไรนะ นี่พูดจริงเหรอ เจ้านั่นพยักหน้า นึกว่าฉันจะเชื่อเหรอ ฉันไม่เชื่อนายหรอก นายอย่ามาสร้างเรื่องหลอกฉันเลย บอกความจริงมา จริงๆ แล้วนายเป็นลูกคนมีเงินใช่ไหม แล้วที่มาทำดีกับฉันเพราะ........ อือ.... เพราะอะไร ฉันนึก เพราะ....... เออ..... ฉันคิดไม่ออก เจ้านั่นหัวเราะ ไปกันใหญ่แล้วเมษา ไม่ได้ใกล้เคียงเลย อ๋อ ฉันนึกออกแล้ว เธอเป็นลูกคนมีเงินแล้วก็อยากลองใช้ชีวิตธรรมดาๆ ติดดิน แบบตกระกำลำบากบ้างใช่ไหม เจ้านั่นหัวเราะจนหน้าแดง เมษา เธอเพี้ยนแล้ว น่าจะไปเอาดีทางเขียนนิยายนะ ทำไมหละ จี้นั่นคงเป็นสร้อยประจำตระกูลที่มีมูลค่ามหาศาล ตาลุงนั่นเลยทำหน้าตกใจขนาดนั้น เพี้ยนได้โล่จริงๆ เมษา เจ้านั่นเบี่ยงตัวหนีฉัน ฉันกางมือออก มันเรื่องจริงใช่ไหม เจ้านั่นยื่นหน้ามาใกล้ๆ อายคนเขาบ้างเมษา... ไม่อาย.... บอกมาก่อนว่าที่ฉันคิดเป็นเรื่องจริง เพี้ยนสนิทเลย........ เราแค่เข้ามาจำนำบ่อยแค่นั้นเอง เรียกว่าเป็นขาประจำของร้านนี้เลย ลุงเขาเลยจำได้ ก็แค่นั้นเอง ไปเหอะ อากาศร้อน เธอเพี้ยนแล้ว
ฉันยังคาใจอยู่ดี เจ้านั่นพาฉันไปติดต่อขอเช่าร้านกับคุณตาคุณยาย ซึ่งคุณยายนั้นดีใจมากเพราะร้านดอกไม้นั้นเป็นของแกเอง แต่แกทำไม่ไหวแล้ว เคยมีคนมาขอเช่าทำเป็นร้านขายอาหารแต่แกไม่ให้เช่าเพราะอยากให้เป็นร้านดอกไม้ที่แกรัก มานี่สิจ๊ะ หนูเมษา แกจูงฉันเข้าไปในบ้าน เดินเข้าไปในห้องด้านหลัง แล้วเปิดผ้าคลุมพลาสติกออก โห ดอกไม้ทั้งนั้นเลย ฉันตาโต พอยายทำไม่ไหวก็เลยขนอุปกรณ์ต่างๆ มาไว้ที่นี่ พวกกรรไกร ปีนกาวก็มีนะ ฉันหยิบโน่นจับนี่วุ่นวาย มีมารยาทหน่อยเมษา เจ้านั่นตามมารังควานความสุขเสียจริงๆ คุณยายหัวเราะ
เรา ฉันกับเจ้ารูปปั้นเดวิสน่ะสิ ไขกุญแจร้านขจิตฟลอร่าเข้าไป ข้างในร้านดูดีอย่างที่คิดไว้จริงๆ พอเปิดผ้าคลุมออก มีโซฟานุ่มนิ่มลายดอกไม้น่ารักตัวใหญ่มาก และตัวเล็กอีกตัวข้างๆ เข้าชุดกัน ฉันเดินสำรวจโน่นนี่อย่างมีความสุข ฉันเดินขึ้นไปชั้นบนซึ่งเจ้านั่นกำลังไขห้องอยู่ เอ............มีห้องนอนเดียวเหรอ ฉันกวาดตามอง ต้องทำความสะอาดเยอะเลย เจ้านั่นเอ่ย มีห้องนอนเดียวเองเหรอ ฉันถาม เจ้านั่นยิ้ม ทำไมล่ะ เราสองคนนอนด้วยกันก็ได้นี่ ฉันมองหน้าเจ้านั่น จะบ้าเหรอ........... หน้าฉันร้อนผ่าว เจ้านั่นหัวเราะลั่น แล้วเดินลงไปด้านล่าง
เวลาผ่านไปนานมาก ฉันทำความสะอาดจนเหนื่อยแทบจะหมดแรง เจ้านั่นหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ เมื่อกี้ยังช่วยฉันเช็ดกระจกอยู่ไวๆ ท้องฟ้าเริ่มจะมืดแล้วด้วย ฉันยกถังน้ำที่ถูพื้นไปเทรดพุ่มไม้ด้านหน้า ลมเย็นๆ แดดร่มๆ ชวนให้น่านั่งพักเหนื่อย ฉันมองร้านไม้สีขาวน่ารัก นี่เป็นเรื่องจริงใช่ไหม ฉันถามตัวเองเป็นครั้งที่แปด ฉันจะได้ทำอะไรที่ฉันพอทำได้ แต่มันก็ยังสรุปไม่ได้หรอกนะว่าฉันจะมีลูกค้า ยังคงต้องต่อสู้ ต้องล้มลุกอีกครั้ง เรื่องร้านเก่าก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง แต่ก็ยังดี ที่ฉันยังมีเจ้านั่น พอคิดถึงเจ้านั่น ฉันก็หงุดหงิดขึ้นมา ทำไมเขาต้องเข้ามาในชีวิต เข้ามาเจ้ากี้เจ้าการตั้งแต่แรกเจอ ทำไมต้องเข้ามาช่วยเหลือฉัน ทั้งๆ ที่เขาแค่เดินจากไปตอนที่ฉันลำบาก ก็สามารถทำได้ นี่เขาช่วยคิด ช่วยลงมือทำ ช่วยให้ฉันมีทางออก ฉันคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก ฉันไม่ใช่คนสวย ไม่ใช่คนที่สะสมกรรมดีจนพระเจ้าส่งเทพบุตรมาอยู่ข้างกาย ยิ่งคิดยิ่งงง เจ้านั่นต้องการจะจีบฉันเหรอ ก๊าก.......... จั๊กจี้หัวใจ เจ้านั่นทำให้ฉันร้อนวูบวาบก็จริงแต่เขาไม่ได้จีบฉันแน่ๆ ดูจากอัตราการด่าของเขาแล้ว ไม่ใช่การจีบแน่ๆ หรือว่าจริงๆ แล้วเจ้านั่นเป็นน้องชายที่พลัดพรากจากกันไปของฉันที่พ่อแม่ไม่ได้บอกไว้ ฉันพาลคิดไปถึงพ่อกับแม่แล้วก็ปวดหัวตุบๆ ป่านนี้ท่านจะคิดถึงฉันบ้างไหมนะ
นั่งรับลมสบายเลยนะ เจ้านั่นโผล่มาจากไหนอีกล่ะเนี่ย ฉันหันไปมอง เจ้านั่นหอบหิ้วของมาเต็มสองมือ เอ้า เสื้อผ้าเธอกับแมว หือ ฉันเปิดกระเป๋าดู เสื้อผ้าชั้นในชั้นนอกของฉันเต็มไปหมด เฮ้ย ฉันร้อง อาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนชุดซะ....เหม็นเหงื่อ เจ้านั่นบอก
นายถือวิสาสะหยิบชั้นในฉันได้ไง เจ้านั่นทำหน้านิ่ง อุตส่าห์ไปเอาชุดมาให้เปลี่ยน ขอบคุณสักคำก็ไม่มี เจ้านั่นเอียงหูมากระซิบ แขวนไว้เต็มห้องน้ำเลยหยิบมาให้หมดเลย เลือดฉีดหน้าฉันจนร้อนผ่าว
ฉันอาบน้ำสระผมแล้วก็เดินลงมาด้านล่าง เจ้านั่นกำลังเอาดอกไม้ปลอมเสียบไว้ในถังอลูมิเนียมสีเงินจนเต็มสี่ห้าใบ วัยหวานเดินสำรวจบ้านอยู่ไม่ไกล แจกันขนาดต่างๆ วางอยู่เต็มพื้น ฉันมองด้วยความสงสัย เจ้านั่นบอก เจอแจกันเต็มเลย ในชั้นวางของฉันนั่งลงกับพื้น หยิบแจกันชื่นชมทีละใบ แต่ละใบสวยๆ ทั้งนั้นเลย มีหลากหลายรูปทรง กลมบ้าง สี่เหลี่ยมบ้าง ใสบ้าง ขุ่นบ้าง เจ้านั่นนั่งลงข้างๆ เหยียดแข็งเหยียดขา กลิ่นน้ำหอมลอยมาปะทะจมูก เขาเอ่ยขึ้น เธอนอนที่นี่ก็แล้วกันนะ ฉันหันไปมองหน้าเจ้านั่น หรือว่าอยากให้เรานอนด้วย เออ ไม่ต้อง ฉันอ้ำอึ้งตอบ ฉันรีบหลบหน้า รู้สึกหน้าร้อนอีกแล้ว ฉันหมุนแจกันในมือ
เอ่อ.......... ขอบคุณนะ สำหรับทุกๆ อย่าง ฉันเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่อยากบอกเท่านั้น เรายังเป็นเจ้าหนี้เธออยู่นะ เจ้านั่นพูด ฉันหันไปมอง บอกได้ไหมว่าทำไมต้องทำแบบนี้ มันคาใจ มันอยากรู้ เจ้านั่นหันมา ยากจะบอกได้ว่าความหมายของสายตาคู่นี้คืออะไร ฉันตื้นเขินเกินกว่าจะแปลได้ ฉันรู้แต่ว่าฉันกำลังจะหยุดหายใจ อย่าทำแบบนี้นะ สมองฉันเริ่มจะเบลออีกแล้ว ฉันอยากรู้เหตุผล ฉันไม่ยอมเลิกราและจะไม่ยอมแพ้ เจ้านั่นยังคงใช้สายตาพิฆาตฉันอีก ด้วยความใกล้ขนาดนี้ ฉันมองเห็นคิ้วเข้มๆ กับตาคู่สวยได้ถนัดชัดเจน ฉันจะแย่อีกแล้ว สติจะหลุดลอย
เธอเคยทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลบ้างไหม เจ้านั่นเอ่ยเบาๆ ลมหายใจหอมสดชื่นลอยมาถึงตรงนี้ โอย เมษา โฟกัสให้ถูกเรื่องหน่อย ฉันตอบ ถ้าเป็นฉันน่ะต้องเคยแน่ ฉันทำอะไรไม่มีเหตุผลบ่อย แต่เธอ ฉันรู้ว่าเธอต้องมีเหตุผล เจ้านั่นยิ้ม เมษาเริ่มฉลาดขึ้นจริงๆ เจ้านั่นหงายตัวลงนอน นี่ เจ้าบ้า.....อย่าให้ฉันต้องเดาเองเลยนะ ฉันคิดไม่ออกแล้วก็เริ่มจะย้ำคิดย้ำทำแล้วด้วย นายบอกฉันมาเถอะ
เธอขโมยหัวใจเราไปตั้งแต่แรกเจอ................... เจ้านั่นพูดลอยๆ เสียงเบานุ่มนวล ฉันพยายามประมวลผลในสมอง เธอไม่รู้ตัวหรอกว่า เราแอบมองเธอมานานขนาดไหน ...........เราพยายามหาทางทำความรู้จักกับเธอ แล้วพอเรารู้ว่าเธอลำบาก เราก็เลยอยากช่วยเหลือเธอ......... อะไรกัน ฉันนั่งตัวแข็ง รู้สึกเหมือนหัวใจเต้นแรง เลือดสูบฉีดตรงใบหน้า มือเริ่มจะสั่น มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริงๆ ด้วยเหรอ ฉันไม่กล้าหันไปมองหน้าหมอนั่น รู้สึกร้อนวูบวาบไปหมด นี่คือการบอกรักงั้นเหรอ ทำไง ต้องทำยังไงต่อ หางตาแอบเห็นซิกแพคกระเพื่อม เจ้านั่นหัวเราะจนตัวสั่น ฉันค่อยๆ หันหน้าไปมอง มันกลั้นหัวเราะจนตัวสั่นไปหมด ไอ้เวรนี่ นายอยากตายใช่ไหม ฉันหยิบแจกันใบย่อมอยู่ในท่าเตรียมทุ่ม เธอน่าจะได้เห็นหน้าตัวเองนะ เมษา หน้าเธอตลกมาก ฉันยกแจกันขึ้นเหนือหัว
.........สักวันหนึ่งเราจะบอกเธอนะ เจ้านั่นเปลี่ยนอารมณ์อะไรจะกะทันหันแบบนี้ ดวงตาคู่สวยมีแววจริงจัง ฉันทำอะไรไม่ถูก ได้แต่กำแจกันแน่น เจ้านั่นชันตัวลุกขึ้น เรากลับไปนอนที่เมษาพาเพลินก่อนนะ หา จะไปแล้วเหรอ ฉันทำตาโต ฉันรำพึงในใจและเอ่ยเบาๆ เดี๋ยวค่อยไปได้ไหม เจ้าบ้าหัวเราะคิก เมษากลัวผีเหรอ ฉันนึก ฉันไม่ได้กลัวผี ฉันนอนคนเดียวได้ แต่ตอนนี้ฉันยังไม่อยากให้เขาไป เฮ้ย เมษา เธอเป็นอะไรของเธอ เจ้านั่นมองหน้าฉันแล้วก็ล้มตัวลงนอนท่าเดิม สงสัยจะแอบเห็นแววตาเว้าวอนของฉัน ถ้าเธอว่างเธอลองทำตัวอย่างแจกันดอกไม้ดูนะ เราจะได้เอาลงเว็ปไซด์เมษาพาเพลิน อย่ามาประชดนะ นายบอกเองนะว่าชื่อมันห่วย ตั้งชื่ออื่นสิ ฉันเอาผ้าถูแจกัน เราว่าดีแล้วนะ เมษาพาเพลินจริงๆ เจ้านั่นเอ่ยลอยๆ เอ... เจ้านี่จะมาไม้ไหนนะ ฉันหันไปมอง เขาทำสายตาแบบนั้นอีกแล้ว สายตาแบบที่คนโง่อย่างฉันแปลไม่ออก ไม่ออกเลยจริงๆ
ฉันลองนั่งเอาดอกไม้เสียบลงแจกันดู ง่วงก็ง่วง เพลียก็เพลีย แต่ก็อยากจะลองทำดู เจ้านั่นนอนเสียบหูฟังเพลงอยู่ไม่ไกล และเอาใบไม้ปลอมเขี่ยตัววัยหวานเล่นอยู่ ฉันจับดอกไม้เสียบสลับกับแอบมองเจ้านั่นไป สรุปฉันก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าเขามาทำดีกับฉันทำไม เข้ามาในชีวิตฉันทำไม หนุ่มหล่อ ท่าทางเนื้อหอมไม่ใช่เล่นมานอนกองเกยอยู่ข้างๆ ฉัน เลิกคิดดีกว่าว่าเจ้านี่ทำไปเพื่ออะไร มันปวดหัวเปล่าๆ จะว่าไปแล้วจับดอกไม้มาปักไปปักมาก็สนุกดีเหมือนกันนะ............
จากคุณ |
:
Sexy Peachy
|
เขียนเมื่อ |
:
26 ก.ย. 54 07:02:39
|
|
|
|