Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เพียงเพื่อนใจ (บทที่ 4 ณภัทร์) ติดต่อทีมงาน

บทที่ 4 ณภัทร์

“นี่ฉันหาหนังสือเกี่ยวกับกฎหมายภาษีอากรไม่เจอเลยน่ะดาว...” ช่อทิพย์บอกเสียงเหนื่อยอ่อนขณะทรุดนั่งลงบนโต๊ะพร้อมกับกองหนังสือหลายเล่ม กิ่งดาวหยิบหนังสือที่คนเป็นเพื่อนหามาได้ก่อนหันไปมองหนังสือที่ตัวเองเพิ่งไปค้นมาเมื่อครู่

“ขาดแค่เรื่องกฎหมายสำหรับภาษีอากรอย่างเดียว...” กิ่งดาวจุ๊ปาก อาจารย์ในคณะต่างก็สั่งให้ทำรายงานรวมๆ แล้วก็หลายเรื่องพอดู เพื่อนๆ ทั้งสี่ต่างก็รีบค้นหาหนังสือในห้องสมุดเพื่อมาเขียนรายงานกันอย่างขมักเขม้น “แล้วไอ้ภัทร์ว่าไง...” จบคำร่างเพรียวลมของชายหนุ่มร่างบางก็ปรากฎอยู่เบื้องหลังกิ่งดาวพร้อมกับหอบหนังสือกองโต

“ไม่เจอเหมือนกันนั่นแหละดาว แล้วกว่าจะต่อคิวใช้อินเทอร์เน็ตได้ก็คงอีกนาน” คนพูดชำเลืองไปที่กลุ่มโต๊ะยาวที่ตั้งคอมพิวเตอร์ราวสิบเครื่องไว้แต่ละเครื่องล้วนมีคนจับจองไว้หมดแล้ว “สงสัยคงได้ออกไปค้นที่ห้องสมุดประชาชนหรือไม่ก็คงต้องเป็นร้านหนังสือ...”

“ถึงขนาดต้องเสียเงินซื้อหนังสือเลยเหรอ?” ช่อทิพย์เลิกคิ้วสูง

“ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอกทิพย์ ฉันถามพี่บรรณารักษ์แล้ว แกบอกว่าเห็นมีอยู่สองสามเล่ม” กิ่งดาวบอก

“แล้วทำไมไม่ให้เขามาหาให้ล่ะ?” ณภัทร์บุ้ยปากว่าก่อนที่ช่อทิพย์จะค้อนใส่

“ก็พี่เค้าไม่ว่างนี่จ้ะ พอดีมีหนังสือเข้ามาให้ตั้งเยอะแยะ พวกเจ้าหน้าที่ก็กำลังวุ่นๆ ลงทะเบียนหนังสือกันอยู่...” คนพูดเอนสายตาไปทางกลุ่มคนที่กำลังห่อหนังสือที่เพิ่งสั่งซื้อเข้ามาใหม่

“เดี่ยวฉันจะลองไปหาอีกที” กิ่งดาวบอกกับเพื่อนทั้งสองพร้อมกับลุกจากเก้าอี้ พิณภัทร์ถอนหายใจยาวก่อนยกหนังสือขึ้นอ่านในขณะที่ร่างระหงตรงไปยังชั้นหนังสือที่อยู่เกือบสุดห้องสมุด

“เดี๋ยวผมหาช่วยนะครับ...” เสียงทักที่ดังขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยทำเอากิ่งดาวต้องเอามือทาบอกอย่างตกใจ

“นี่นาย...ฉันตกใจหมดเลยรู้มั้ย” หญิงสาวหันไปเอ็ดให้คนที่ค่อยๆ เคลื่อนกายออกมาจากแถวหนังสืออีกฝั่งก่อนจะเดินมายังเธอ

“ใจลอยคิดถึงผมอยู่ใช่มั้ยล่ะ?” เทพพิพิธฉีกยิ้มกวนๆ

“ฝันไปเถอะย่ะ” กิ่งดาวสะบัดหน้าใส่ก่อนหันไปที่ชั้นหนังสือ เอานิ้วไล่ไปทีละเล่มอย่างตั้งใจ

“หาหนังสือเรื่องอะไรเหรอครับ?” เทพพิพิธกระเถิบกายเข้ามาใกล้ ใช้นิ้วไล่ไปยังสันหนังสือบนชั้นตามหญิงสาว

“ไม่ต้องมายุ่งได้มั้ย” กิ่งดาวว่าเสียงห้วนขณะที่ฝ่ายเคลื่อนกายเข้าไปใกล้เรื่อยๆ

“ผมรู้ว่าคุณกำลังหาหนังสือกฎหมายภาษีอากรอยู่ใช่มั้ยล่ะ...นี่ไง เจอแล้ว !” เสียงร้องอย่างดีใจของเทพพิพิธฉุดให้ดวงหน้าเนียนขาวต้องสะบัดมาอย่างรวดเร็วก่อนที่ปลายจมูกจนชนเข้ากับแก้มขาวสะอาดของชายหนุ่ม ริมฝีปากเกือบชนแก้มของเทพพิพิธเข้า...

ความร้อนรุ่มแผ่ซ่านทั่วร่างกายกิ่งดาวขึ้นมาในฉับพลันขณะที่เทพพิพิธค่อยๆ ผินหน้ามาหาฝ่ายตรงข้ามช้าๆ สองสายตาสบประสานกันและกัน

“เอ่อ...คือ...” หญิงสาวก้าวถอยหลังไปนึงก้าว อ้ำๆ อึ้งๆ อยู่กับที่ขณะที่ทั้งหน้าแดงระเรื่อขึ้นมา

เทพพิพิธอมยิ้มแถมยังมองอีกฝ่ายด้วยสายตาหวานฉ่ำก่อนที่หนังสือเล่มนึงจะหล่นฮวบลงใส่ศีรษะเขาอย่างแรง “โอ้ย...” เสียงร้องของชายหนุ่มทำให้คนทั้งห้องสมุดต้องหันมามองเป็นตาเดียว แต่ยังดีที่มีแผงหนังสือบังร่างของทั้งสองไว้ กิ่งดาวป้องปากหัวเราะอย่างชอบใจขณะที่ชายหนุ่มเอามือกุมศีรษะพร้อมกับทำปากซี๊ด

“สมน้ำน่า...” หญิงสาวซ้ำเติมเสียงพลิ้วก่อนที่ชายหนุ่มจะเบิกตาขึ้นมองดวงหน้าหวานละมุนที่คลายยิ้มกว้างอย่างชอบใจ

“นี่ครับ...” กิ่งดาวก้มลงมองหนังสือที่ชายหนุ่มยื่นให้

“ขอบใจนะ” หญิงสาวรับมาไว้พร้อมกับยิ้มขอบคุณอย่างจริงใจ เทพพิพิธจ้องมองสองตาของหญิงสาวแน่นิ่ง ยามที่เธอยิ้มยิ่งน่ารักเข้าไปอีก...

“ขอตัวก่อนแล้วกัน...” กิ่งดาวตัดบทก่อนแทรกกายออกจากแผงหนังสือตรงสู่โต๊ะตัวกลมที่มีเพื่อนๆ ทั้งกลุ่มรออยู่

หนังสือที่กลอยใจถืออยู่นั้นแทบจะฉีกขาดออกเป็นชิ้นๆ ด้วยแรงกดจากปลายนิ้วหญิงสาว เสียงหัวเราะ แววตาและรอยยิ้มที่เทพพิพิธมีให้กิ่งดาว... มันทำให้เธออยากจะเข้าสั่งสอนน้องสาวตัวดี แต่ก็ทำได้เพียงยืนมองพวกเขาทั้งสองอยู่ห่างๆ ได้แต่เก็บความผิดหวัง เจ็บใจไว้เท่านั้น...

กล่อมแก้วมาถึงห้องสมุดช้าไปกว่าครึ่งชั่วโมงภายหลังจากอยู่เคลียร์งานที่ชมรมตั้งแต่เที่ยง หญิงสาวค่อยๆ ทรุดนั่งลงข้างกิ่งดาวในขณะที่เทพพิพิธนั่งมองทั้งกลุ่มอยู่อีกฟากของห้องสมุด กิ่งดาวเห็นเขาแต่ก็ทำเป็นไม่สนใจส่วนณภัทร์กับช่อทิพย์กับมัวแต่นั่งเขียนรายงานกันอย่างขมักเขม้น

กล่อมแก้วก้มหน้าเขียนรายงาน พยายามบอกตัวเองว่าไม่ให้เงยหน้าขึ้นมองสายตาหวานๆ ของเทพพิพิธที่ส่งให้กิ่งดาวแต่ใจเจ้ากรรมก็อดให้เธอหันมาถามผู้เป็นเพื่อนในสิ่งที่อยากรู้ไม่ได้

“ดาว...” กล่อมแก้วเรียกคนข้างๆ เสียงกระซิบ เอนสายตาไปหาณภัทร์และช่อทิพย์แวบนึง

“มีอะไรเหรอแก้ว” กิ่งดาวถามกลับขณะที่สายตายังคงจ้องอยู่ที่ตัวหนังสือ กล่อมแก้วเบิกตาขึ้นไปจ้องมองเทพพิพิธก่อนหลุบตาลงต่ำ

“คือ...เธอ...คิดยังไงกับเทพเหรอ?...” น้ำเสียงที่ได้ยินแผ่วเบา แต่มันทำให้ปลายปากกาของกิ่งดาวต้องหยุดนิ่งลง สองตากลมใสเบิกขึ้นมองสองเนตรคมคายของชายหนุ่มที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เมื่อเห็นว่ากิ่งดาวมองมาเทพพิพิธก็ยิ่งฉีกยิ้มกว้างกว่าเดิม
กิ่งดาวก้มหน้างุดก่อนเสหันไปมองตัวหนังสือบนกระดาษ “ก็...ไม่ได้คิดอะไรนี่” คำตอบที่ได้ยินนั้นเหมือนน้ำฝนที่สาดลงกลางหัวใจที่กำลังแห้งผากของกล่อมแก้ว หญิงสาวจุดยิ้มอย่างไม่รู้ตัวในขณะที่ณภัทร์กับช่อทิพย์หันไปสบสายตากันก่อนเอนหน้ามามองกล่อมแก้วและกิ่งดาวสลับไปมา...


เสียงหน้าแข้งกระทบกับลูกกลมๆ ดังสลับกับเสียงเฮกระหึ่มและเสียงโห่ร้องของนักฟุตบอลในสนามหญ้าขนาดใหญ่ของวิทยาลัยที่ได้ยินทำให้ณภัทร์ต้องยืนหลบทำใจอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่ก่อนสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ

ชายหนุ่มกัดฟันเดินเข้าไปหาโค้ชที่นั่งดูการซ้อมบอลของเหล่านักเตะในสนาม เทพพิพิธที่กำลังวิ่งไล่ตามลูกบอลจากคพเพลิงหันมามองผู้มาเยือนคนใหม่แวบนึง

“สวัสดีครับโค้ช...” ณภัทร์เอ่ยทักพร้อมยกมือไหว้ ชายวัยสี่สิบในชุดวอร์มยกมือไหว้เช่นกัน “ผมชื่อภัทร์ คือ...”

“อ้อ... ลูกคุณภูมิใช่มั้ย?” อีกฝ่ายว่าเสียงดังพร้อมผายยิ้มก่อนที่ณภัทร์จะพยักหน้าและสำรวจมองชายหนุ่มตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า “อืมม์...เตรียมตัวมาดีนี่ ลงซ้อมกับเพื่อนๆ เค้าเลยเป็นไง...” ณภัทร์มองชุดกีฬาที่ตัวเองสวมใส่และรองเท้าสตั๊ทที่คับและหนักก่อนจะทำหน้าเหย

“ขอผมดูเพื่อนๆ เค้าซ้อมซักพักก่อน...”

“ไม่ต้องดูหรอกไอ้หนุ่ม ลงเตะกับเพื่อนเค้าเลย ครูบอกพวกนั้นไว้แล้วหละว่าวันนี้นายจะมา” ณภัทร์ฝืนยิ้มฝืดๆ ก่อนก้าวขาลงสนาม... ตนไม่เคยชื่นชอบการเล่นกีฬากลางแจ้งแบบนี้เลย พวกนักบอลในสนามก็ไม่มีใครสักคนเลยที่สนิทกัน แต่ทว่า...การมาของเขากลับเรียกความสนใจจากนักเตะทุกคนได้เป็นอย่างดี

ลูกบอลกลมๆ กลิ้งมาหยุดอยู่ตรงหน้าของณภัทร์ เขาหันไปมองซ้ายขวาก่อนจะเตะส่งไปให้อีกทีมหนึ่งและวิ่งไล่ตามไป “คนของทีมข้านะโว้ย...” เสียงแหบห้าวของคพเพลิงดังก้องทั่วสนามฟุตบอล สองตาบนวงหน้าคมเข้มหันมามองณภัทร์แวบนึงก่อนสะบัดไปมองเจ้าลูกกลมๆ ต่อ

ณภัทร์วิ่งตรงเข้าไปหมายจะแย่งลูกบอลจากฝ่ายตรงข้ามแต่ก็ถูกชนจนล้มกลิ้งไปบนพื้น แรงเสียดสีทำให้แขนซ้ายถลอกจนเลือดซิบส่วนคนชนที่ไม่ขอโทษแถมยังหันมายิ้มกวนๆ ใส่ “ไปเล่นกระโดดยางที่บ้านดีกว่ามั้ย?” เสียงหัวเราะเย้ยหยันและสายตาดูแคลนที่จ้องมองมานั้นทำให้ร่างบางต้องยืนนิ่งอยู่กลางสนาม บอกตัวเองไว้ว่าให้อดทน อดทนเอาไว้ณภัทร์...

ณภัทร์สะบัดตัวรีบเดินหนีเสียงหัวเราะและคำดูถูกของคนพวกนั้นก่อนที่ลูกบอลจะพุ่งมาใส่กลางหลังจนทำให้ทั้งร่างล้มฟุบลงกลางสนามอีกครั้ง เขาดีดตัวลุกขึ้นด้วยความโกรธตรงไปที่เจ้าลูกกลมๆ ก่อนเตะมันไปอย่างแรง... ลูกฟุตบอลลอยไปกลางอากาศพร้อมกับรองเท้าสตั๊ทข้างขวา เสียงหัวเราะของเหล่านักฟุตบอลดังลั่นทั่วสนามหญ้าท่ามกลางฝนที่เริ่มลงเม็ด

นายภูมิยืนมองความไม่เอาไหนของลูกชายอยู่ริมสนามก่อนกัดฟันแน่น พวกนักบอลรีบวิ่งเข้าขอบสนามเพื่อเก็บสัมภาระและรีบกลับบ้านในขณะที่ร่างเพรียวลมเดินโซซัดโซเซมาพิงรั้วกั้นริมสนามบอล

“แกทำอะไรของแก... ทำตัวอ้อนแอ้น ไม่เข้มแข็งแบบนี้คนอื่นก็หัวเราะเย่าะเอาน่ะสิ...” เสียงตะคอกของบิดาทำให้ผู้เป็นลูกชายต้องกำมือแน่น

“ภัทร์บอกพ่อไปแล้วนี่ว่าภัทร์ไม่ชอบเตะบอล พ่อก็ยังจะมาบังคับภัทร์อีก...”

“แกมาอย่าเถียงฉันนะ” นายภูมิชี้หน้าลูกชายที่เชิดมอง “ถ้าแกไม่เลิกเป็นแบบนี้ อย่ามาเรียกฉันว่าพ่อ”

“เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าภัทร์เพื่อนของดาวเป็นลูกชายคุณภูมิสปอนเซอร์ใหญ่ของเราด้วย...” เทพพิพิธบุ้ยปากว่าขณะเปลี่ยนเสื้ออยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่ในขณะที่คพเพลิงเอาแต่จ้องมองคนที่อยู่อีกฟากของสนามอย่างไม่คลาดสายตา

“ไอ้พวกนั้นมันก็ทำเกินไป ไปแกล้งเค้าซะแบบนั้นน่ะ...” ชานนท์ท้วงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในสนามก่อนที่คพเพลิงจะถอนใจยาว “เดี๋ยวข้ากลับก่อนนะ” เทพพิพิธโบกมือลาเพื่อนทั้งสองหลังจากที่จัดการทุกอย่างเสร็จสรรพ ชานนท์เดินมาตบไหล่คพเพลิงเบาๆ ก่อนกระซิบที่ข้างหู

“แกมองอะไรของแกวะไอ้คพ...พ่อลูกเค้ากำลังเคลียร์กันอยู่ อย่าไปยุ่งเลยน่า...” ชานนท์มองตามสายตาของคนเป็นเพื่อนก่อนยกยิ้มและเดินจากไป

ณภัทร์ลุกขึ้นยืนก่อนปาดน้ำตาออกอย่างลวกๆ มองไอ้เจ้าลูกกลมๆ นั้น รีบวิ่งเข้าไปหามันเตะเข้าไปเต็มแรง สายฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา สายฟ้าร้องเปรี้ยงปร้างอย่างน่ากลัวบนฟากฟ้า...

ร่างเพรียวบางทรุดนั่งลงกลางสนามที่เจิ่งนองด้วยความเจ็บใจ หยดน้ำตาที่รินไหลถูกชะล้างด้วยเม็ดฝนที่กระเซ็นสาด ไหล่เล็กๆ ทั้งสองข้างสั่นเทิ้มสะอึกสะอื้น ดวงหน้าขาวซีดแหงนมองท้องที่มืดครึ้ม สองมือกำผืนหญ้าไว้แน่น...

คพเพลิงเดินลัดเลาะตามร่มไม้จนมาถึงกระเป๋าสะพายของณภัทร์ เขารีบยกมันมาไว้แนบอกเพราะกลัวว่าหนังสือข้างในจะเปียกฝน

“ไม่กลับบ้านกลับช่องรึไงครับ...” ชายหนุ่มตะโกนฝ่าเสียงฝนออกไป พลันนั้นร่างเพรียวลมที่นั่งสะอื้นไห้อยู่ก็หันขวับมา สองตาแดงก่ำจ้องมองคพเพลิงอย่างฉงนฉงาย

“อย่ามายุ่ง...” ณภัทร์ตวาดกลับไปทั้งน้ำตา

“ตากฝนนานๆ แบบนี้เดี๋ยวจะไม่สบายเอานะ ฉันว่ารีบเข้าร่มเถอะนะ เก็บน้ำตาไว้ไปร้องไห้ที่บ้านก็ได้” ข้อเสนอกวนๆ ที่ได้ยินทำให้ร่างเพรียวลมเบ้ปากก่อนดีดตัวลุกขึ้นและเดินดุ่มๆ ตรงเข้ามาหา

คพเพลิงมองอีกฝ่ายแล้วก็แค่นหัวเราะ สภาพคนตรงหน้าไม่ต่างอะไรกับลูกหมาตกน้ำ “พ่อนายกลับไปนานแล้ว...นี่กระเป๋า” ชายหนุ่มยื่นกระเป๋าส่งให้คนที่ยืนตัวเปียก

ณภัทร์รับสัมภาระของตัวเองมาก่อนสะบัดหน้าหนี สายลมหวีดหวิวที่พัดมากระทบทำให้ทั้งร่างหนาวสะท้านขึ้นมา คพเพลิงได้ยินเสียงไรฟันกระทบกันจึงถอดเสื้อแขนยาวส่งให้

“ไม่ต้อง...” คนที่ยืนตัวสั่นปฏิเสธเสียงแข็ง

“กว่าฝนจะหยุดตกก็คงอีกนาน ยืนตัวเปียกแบบนี้จะพลอยเป็นปวดบวมนะ” จบคำคนที่เพิ่งหยุดร้องไห้ก็สะบัดหน้าหันมาขึงตาใส่ก่อนจะแทรกกายวิ่งฝ่าสายฝนออกไปต่อหน้าคพเพลิง


กิ่งดาวนั่งมองสายฝนในยามเย็นที่กระเซ็นสาดลงมาจากหลังคาบ้านด้วยความเหม่อลอย จู่ๆ ภาพใบหน้าของใครคนนึงก็ฉายแวบขึ้นมาในหัวก่อนที่เสียงรถยนต์คันงามจะดังเข้ามาใกล้และจอดลงหน้าบ้านเธอในที่สุด

ฝนเริ่มซาลงมากจนหยุดตกไปในที่สุด บุรุษหนุ่มคุ้นหน้ากระโดดลงจากรถกระบะสีดำเข้มก่อนเดินนำหน้าคนเป็นบิดามายังบ้านของกิ่งดาว

“นายเทพพิพิธ...” หญิงสาวรำพึงเสียงค่อยอย่างตกใจ รีบดีดตัวลุกจากเก้าอี้และวิ่งลงไปยังชั้นล่างของบ้าน

“สวัสดีครับคุณแม่...” นางทับทิมที่เปิดประตูต้อนรับแขกผู้มาเยือนรับไหว้ชายหนุ่มคราวลูกก่อนที่นายทรงยุทธ์จะเอ่ยทักบ้าง

“สวัสดีครับ พอดีว่าผมกับลูกชายผ่านมาทำธุระแถวนี้น่ะครับ ไอ้เจ้าเทพก็เลยคะยั้นคะยอให้พามาทำความรู้จักกับพ่อแม่หนูกิ่งดาวเอาไว้...” ชายวัยสี่สิบกว่าที่อยู่ในคราบเสื้อเชิ้ตบุคลิกภูมิฐานทำให้นางทับทิมวางตัวไม่ถูก ไม่คิดว่าพ่อหนุ่มที่ได้เจอวันก่อนจะไม่ได้เป็นลูกชาวไร่ชาวนาธรรมดาทั่วไป

“งั้นเชิญข้างในก่อนนะคะ...” นางทับทิมผายมือก่อนวิ่งดุ่มๆ เข้าไปในบ้านเรียกหากอบกุลให้เอาน้ำท่ามาต้อนรับแขก ฝ่ายเทพพิพิธก็เอาแต่เมียงมองหาร่างกิ่งดาวจนกระทั่งเดินไปถึงห้องรับแขกขนาดย่อม

สองพ่อลูกทรุดนั่งลงบนโซฟาก่อนที่เทพพิพิธจะยื่นถุงขนมส่งให้หญิงคราวมารดา “ขนมนะครับแม่ ผมซื้อมาฝาก” เขาบอกพร้อมคลี่ยิ้มให้นางทับทิมนุ่มนวล

“ขอบใจมากนะพ่อหนุ่ม ที่ช่วยยัยดาวไว้วันนั้นน้าก็ยังไม่ได้ขอบคุณเลย” หญิงวัยสี่สิบบอกพร้อมรอยยิ้มก่อนหันมาหานายทรงยุทธ์ “เอ่อ..ไม่ทราบคุณ...”

“อ๋อ ผมชื่อทรงยุทธ์ครับ บ้านอยู่ในตัวเมือง คุณคงไม่คุ้นหน้าสักเท่าไหร่”

“ค่ะ...หวังว่าคงไม่รังเกียจนะคะที่ได้รู้จักกัน บ้านนี้อาจจะหลังเล็กไปหน่อย”

“อย่าพูดอย่างนั้นเลยครับ...” นายทรงยุทธ์บอกเสียงนุ่มก่อนหันมาหาลูกชาย
“ปกติแล้วถ้าไอ้เจ้าเทพมันจะคบใครเป็นเพื่อนก็มักจะบอกทางผู้ใหญ่ให้รู้ด้วยน่ะครับ เวลาไปไหนมาไหนจะได้ตามตัวถูก...”

“ดีค่ะ... เด็กๆ สมัยนี้ตามตัวยาก ถ้าเราได้มารู้จักกันไว้ก็พอจะวางใจไปได้ครึ่งนึง” นางทับทิมคลี่ยิ้มให้สองพ่อลูกอย่างอิ่มเอม “อ้าวกุล...ช่วยไปตามกิ่งดาวลงมาข้างล่างหน่อยสิ” เอ่ยสั่งลูกสาวคนสุดท้องที่นั่งอ่านหนังสืออยู่บนโต๊ะอีกตัว กอบกุลรีบลุกจากเก้าอี้และเดินดุ่มๆ ขึ้นบ้านไป

“อ้าว...พี่ดาวมายืนอยู่นี่เอง คุณแม่เรียกแน่ะค่ะ” กอบกุลตะโกนเสียงจนคนในห้องรับแขกได้ยิน เทพพิพิธชะโงกหน้าไปทางบันไดพร้อมกับอมยิ้ม

“จ้ะ...เดี๋ยวพี่ลงไป” กิ่งดาวบอกน้องสาวเสียงค่อย รีบก้มลงมองสำรวจร่างกายก่อนสูดหายใจเข้าปอดและเดินลงจากบันไดไปในที่สุด

“สวัสดีค่ะ” กิ่งดาวยกมือไหว้นายทรงยุทธ์ก่อนหย่อนตัวลงนั่งข้างมารดา เมื่อได้เห็นรอยยิ้มกวนๆ ของชายหนุ่มก็ทำตาเขียวใส่ทันที... ไม่คิดว่านายนี่จะกล้าพาพ่อมาหาถึงที่บ้านเธอแบบนี้ได้

กอบกุลเฝ้าแต่แอบมองพวกผู้ใหญ่นั่งคุยกันในห้องรับแขกโดยไม่รู้เลยว่ามีพี่สาวคนโตของเธออีกคนที่ยืนแอบดูอยู่ในห้องครัว หากว่าวันนี้นายเจตต์ไม่มีกิจธุระต้องไปทำที่บ้านลุงผู้ใหญ่ป่านนี้คงได้มาทำความรู้จักกับพ่อของเทพพิพิธแล้วเป็นแน่... การที่ชายหนุ่มพาบิดามาทำความรู้จักกับผู้เป็นแม่ถึงที่บ้านแบบนี้ย่อมแน่ใจได้ว่าเขาคิดจริงจังกับกิ่งดาวแน่นอน... ความฝัน ความหวังของเธอหมดสิ้นพังทลายลงแล้วกลอยใจเอ๋ย นับจากนี้ไปอย่าได้คิด ได้หวังในสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้อีกเลย...


กล่อมแก้วและช่อทิพย์ต้องแปลกใจที่เห็นรถยนต์คันงามจอดอยู่หน้าบ้านของกิ่งดาว วันนี้ทั้งกลุ่มนัดทำรายงานกันที่บ้านของหญิงสาวแต่สงสัยอีกฝ่ายคงมีติดรับแขกสำคัญกระมัง

เมื่อสองสาวเดินผ่านซุ้มประตูเข้ามาแขกทั้งสองที่มาเยือนก็ลุกจากโซฟาและเดินดุ่มๆ ออกมาจากบ้านโดยมีนางทับทิมและลูกสาวตามมาส่งพอดี

ช่อทิพย์ส่งยิ้มกรุ้มกริ่มให้กับกิ่งดาวที่ยืนเคียงข้างมารดาขณะบอกลานายทรุงยุทธ์กับลูกชายส่วนกล่อมแก้วก็เอาแต่จ้องมองคนทั้งกลุ่มอย่างไม่กระพริบตา

เมื่อร่ำลากันเสร็จสรรพเทพพิพิธก็ไม่ลืมหันมายิ้มทักทายกล่อมแก้วและช่อทิพย์ตามมารยาทก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินตามบิดาตรงสู่รถยนต์ไป

“ดาว...นี่นายเทพถึงขนาดพาผู้ใหญ่มาหาเธอถึงที่บ้านเลยเหรอ?” ช่อทิพย์ฉีกยิ้มกว้างอย่างตื่นเต้นก่อนที่กิ่งดาวจะเดินนำทั้งคู่ไปยังแคร่ตัวใหญ่ใต้ต้นมะขาม

“ก็ใช่น่ะสิ...ไม่รู้ว่านายนั่นคิดอะไรอยู่” พูดแล้วก็หน้าแดงขึ้นมา กล่อมแก้วเอาแต่มองตามรถกระบะสีดำคันนั้นไปจนลับสายตา

“ฉันว่านะ...นายนั่นคงเอาจริง” ช่อทิพย์ย้ำเสียงหนัก

“ฉันว่าเราเลิกพูดเรื่องนี้กันดีกว่า” กิ่งดาวรีบเปลี่ยนเรื่องเพื่อกลบเกลื่อนอาการเขินอายบนใบหน้า “เดี๋ยวฉันไปเอาหนังสือบนห้องมาก่อนนะ” พูดพร้อมมองช่อทิพย์กับกล่อมแก้วที่มีสีหน้าคล้ายเหม่อลอยก่อนเดินเข้าบ้านไป


สุทธิดามองบัตรนักศึกษาที่ดึงออกมาจากกระเป๋าเงินที่หญิงสาวคนนั้นทำหล่นเอาไว้ภายหลังที่เดินชนเธอหน้าห้างสรรพสินค้า วันนี้หลังจากที่ชานนท์ซ้อมฟุตบอลเสร็จเธอก็รีบคะยั้นคะยอให้เพื่อนสนิทหนุ่มนำของสำคัญชิ้นนี้ไปคืนแก่ผู้เป็นเจ้าของทันที

“เธอชื่อกิ่งดาว แถมยังเรียนที่เดียวกันกับเราด้วยนะนนท์” สุทธิดาว่าเสียงใสขณะที่สารถีหนุ่มขับรถนำเธอเข้าสู่หมู่บ้านหนองคำมิ่ง

“ชื่อกิ่งดาวเหรอ?... จะใช่คนเดียวกันกับที่ไอ้เทพมันตามจีบรึเปล่า?” จบคำสุทธิดาก็ยื่นบัตรนักศึกษาส่งให้ชายหนุ่มดู

“ใช่จริงด้วย...” ชานนท์บอกเสียงดังก่อนที่สุทธิดาจะดึงมือกลับ ชายหนุ่มขับรถไปตามทางที่ชาวบ้านชี้บอกจนถึงที่หมายในที่สุด

หญิงสาวรูปร่างสมส่วนในชุดนักศึกษารีบก้าวลงจากรถทันที สุทธิดาเดินไปหน้าประตูรั้วของบ้านก่อนร้องเรียกหากิ่งดาว “ขอโทษนะคะ...นี่ใช่บ้านกิ่งดาวรึเปล่า?” เมื่อได้ยินเสียงร้องเรียกที่หน้าบ้านกิ่งดาวก็รีบดีดตัวลุกขึ้นจากแคร่ทันที ร่างบางวิ่งดุ่มๆ ตรงไปยังประตูรั้วก่อนจะเลิกคิ้วเมื่อได้เห็นหน้าหญิงสาวที่ยืนรออยู่

“นี่กระเป๋าเธอจ้ะ...มันหล่นตอนที่เราเดินชนกันหน้าห้างฯ” สุทธิดายื่นกระเป๋าเงินส่งให้ผู้เป็นเจ้าของในขณะที่กล่อมแก้วและช่อทิพย์ค่อยๆ เดินเข้ามาหากิ่งดาว

“ขอบใจมากนะจ้ะ...นึกว่าจะไม่ได้คืนซะแล้ว” กิ่งดาวรับมาพร้อมกับถอนหายใจอย่างโล่งอก คลายยิ้มกว้างขอบคุณคนตรงหน้าด้วยความซาบซึ้งใจในขณะที่ชายหนุ่มบนรถรีบก้าวขาลงมาเมื่อเห็นร่างอรชรสองคนเดินตรงมายังกิ่งดาว

ช่อทิพย์เบิกตากว้างเมื่อได้เห็นชานนท์อีกครั้ง ชายหนุ่มจ้องมองเธอพร้อมรอยยิ้มอันอบอุ่นเหมือนเคยหากแต่ว่าคนที่ยืนอยู่ข้างกายเขากลับทำให้ช่อทิพย์ฝืนยิ้มกลับไปไม่ออก

แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 54 16:14:56

จากคุณ : ผีเสื้อสีดำ
เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 15:47:45




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com