สุดท้าย......กว่าเราจะรักกัน (บทที่สี่-สองวิญญาณ)
|
 |
บทที่สาม (คำทำนาย ) http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11110579/W11110579.html
บทที่4 (สองวิญญาณ)
จากนาทีกลายเป็นชั่วโมง
จากชั่วโมงกลายเป็นวัน
และจากวันก็อาจกลายเป็น.....
บนทางเดินที่ขาวสะอาดผมรู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่หนักอึ้งผิดปกติของโรงพยาบาล มันอาจเกิดขึ้นตามปกติ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอากาศที่เย็นเยียบและบรรยากาศของโรงพยาบาล อีกส่วนหนึ่งก็คงอดยอมรับไม่ได้ว่าใจของผมที่ขลาดกลัวคงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้รู้สึกแบบนี้ ดูทำหน้าทำตาเข้า บอกแล้วให้กินผักเยอะๆ พี่บีที่มาเยี่ยมน้ำอุ่น พร้อมกันกับผมเอ่ยปาก พร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งที่ใครๆเห็นแล้วคงบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าน่ารัก แต่สำหรับผมมันน่า...... เอาเถอะละไว้ในฐานที่เข้าใจก็แล้วกัน
ทำไมเหรอพี่บี อ้าวก็เห็นทำหน้าเหมือนถ่ายไม่ออก หญิงสาวข้างตัวผมที่ฟังจากคำพูดอย่างเดียวใครๆคงนึกว่าผู้ชาย ทำเอาผมอดถอนหายใจเล็กน้อยไม่ได้ ถามจริงๆเถอะ....พี่เคยคิดมั่งมั้ยว่าเป็นผู้หญิง เอ....เมื่อเช้าส่องกระจกก็คิดว่าเป็นนะ แถมเห็นแตงโมสองลูก เธอเอาสองมือกอดอกแล้วดันอกขึ้นด้วยนัยยะว่ากะให้อึ๋ม แม้ว่ามันจะไม่มีอะไรให้ดันก็เถอะ ถ้าพี่เห็นว่าแตงโมเท่ากับถ้วยขนมครกแล้วล่ะก็ ผมว่าพี่ไปตัดแว่นเถอะ แกรู้ได้ไงยะ คิดว่าใครเก็บเสื้อในให้พี่ทุกเช้าล่ะ ผมตอบอย่างปลงๆ แกว่าไงนะ ผมไม่ตอบแต่มองไปที่ป้ายว่าเขตโรงพยาบาลห้ามใช้เสียง ทำเอาเธอฮึดฮัดอย่างไม่พอใจ ต่ำลงมามีป้ายเหล็กสีมอๆเขียนๆไว้ว่าห้องพักฟื้นผู้ป่วย
ผมเอื้อมมือเปิดประตูห้องออกไปโดยให้พี่บีเดินเข้าไปก่อน แสงสีทองที่อ่อนแรงลอดหน้าต่างห้องออกมา บ่งบอกว่ารัตติกาลใกล้จะมาเยือนเข้าไปทุกที ในห้องมีเตียงคนไข้ตั้งอยู่ในสุด ตรงกันข้ามมีกระจกบานใหญ่เท่าตัวคน น้ำอุ่นนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียง โดยที่พี่น้ำนิ่งนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ข้างเตียงก่อนจะพับเก็บ เมื่อเห็นว่ามีคนมาเยี่ยมน้องสาวตน
" น้องเป็นไงบ้างนายน้ำเน่า " พี่บีเอ่ยปากถามพร้อมกับเดินไปดูน้ำอุ่นข้างเตียง
" ยังไม่ฟื้นเลยยัยหมูบี " พี่น้ำนิ่ง เอ่ยด้วยน้ำเสียง ที่ฟังดูเยาะนิดๆในคำว่าหมู ทำเอาพี่บีแอบลูบพุง อย่างว่าล่ะ คำว่าอ้วนเป็นอะไรที่ฟังดูแสลงหูผู้หญิงอย่างแรง อีกอย่างเราพึ่งกินข้าวมาซะด้วย
"ดี มาพอดีเลย พี่ฝากดูน้องทีสิ พี่ยังไม่ได้กินข้าวมาตั้งแต่กลางวันแล้วหิวชมัด " พี่น้ำนิ่งลูบพุงประกอบไปด้วย
" อ้าว ทำไมไม่กินล่ะครับ " ผมเอ่ยถามด้วยความแปลกใจมากกว่าต้องการคำตอบจริงๆ
" ไม่มีใครมาเปลี่ยนน่ะ เดี๋ยวยัยตัวเล็ก ตื่นมาแล้วไม่เจอใครแล้วจะแย่ " พี่น้ำนิ่งตอบคำถามผมก่อนจะหันไปมองร่างบางที่นอนอย่างไม่รับรู้อะไรมากว่าครึ่งเดือนด้วยสายตาที่อ่อนโยน
"นี่นาย โง่อยู่แล้วไม่ต้องแกล้งโง่ก็ได้ย่ะ น้องนายไม่อ่อนแอขนาดนั้นหรอกน่า" พี่บีพูดขึ้นมาก่อนจะตบไหล่ฝ่ายตรงข้ามดัง ปุ ปุ (เหมือนผู้ชายชมัด )
พี่น้ำนิ่งไม่ตอบอะไร เพียงแต่หันไปมองคนข้างตัวก่อนจะส่งยิ้มไปให้ แล้วพูดแบบไม่ออกเสียงว่า ขอบใจนะ แล้ว.......ทิ้งสายตาค้างเติ่งที่ใบหน้าเธออยู่อย่างนั้น
" อ....อะ..อะไร " ผมมองเห็นสีชมพูขึ้นที่ข้างแก้มพี่สาวผมอย่างน่าประหลาด ผมเห็นพี่บีก้าวถอยหลังก่อนจะตัวแข็งอย่างน่าตลกเมื่อ พี่น้ำนิ่งยื่นมือไปสำผัสหูพี่บี
" กินข้าว ยังไงให้ติดหู " พี่น้ำนิ่ง พูดแบบยิ้มๆ
" อ...อะ..ไอ้บ้า " พลั่ก!! ปลายรองเท้าผ้าใบสีขาวกระทบหน้าแข้งพี่น้ำนิ่งอย่างจังก่อนที่จะเจ้าตัวจะออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว
พี่น้ำนิ่งที่ยกหน้าแข้งขึ้นมากุมด้วยความเจ็บหันมาถามผม
"พี่ทำอะไรผิดเนี่ย "
ผมยักไหล่ด้วยความไม่เข้าใจเหมือนกัน ผู้หญิงยังไงก็เข้าใจยากอยู่แล้ว พี่น้ำนิ่งขอตัวไปหาอะไรกินที่โรงอาหารโรงพยาบาล ก่อนจะทิ้งให้ผมอยู่กับน้ำอุ่นเพียงสองคน ผมเดินไปที่ข้างเตียง ก่อนจะลูบหน้าผากมนเบาๆ
" เมื่อไหร่จะตื่นนะ ยัยตัวยุ่ง ใครก็ๆกังวลไปหมดแล้ว " ผมพูดไปทั้งที่รู้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าไม่รับรู้ กว่าครึ่งเดือนแล้วที่เธอไม่ยอมลืมตาขึ้นมาอีกเลย ท่ามกลางการกังวลและรอคอยของทุกคน โดยที่หมอบอกเราว่าเธอไม่เป็นอะไร สภาพร่างกายเธอปกติดีทุกๆอย่างแต่ทว่ากลับหาสาเหตุที่เธอไม่ยอมลืมตาขึ้นไม่เจอ จึงต้องนอนโรงพยาบาลอยู่อย่างนี้มากว่าครึ่งเดือน แต่ทว่า
" อือ..... " เสียงดังจากคนที่อยู่บนเตียง ทำเอาผมลุกจากเก้าอี้แทบจะในทันทีที่สัมผัสมัน ดวงตากลมขยับเบาๆ แล้วลืมตาขึ้น เป็นไงมั่งยัยบ๊อง ผมเดินไปจับข้อศอกเธอเบาๆ ที่นี่ที่ไหนเนี่ย เธอเอาข้อมือบางมาปิดดวงตาที่ไม่ได้เจอแสงมากว่าครึ่งเดือน โรงพยาบาลน่ะ ผมตอบเธอ เหรอ ชนกันแรงขนาดนั้น แต่ไม่เจ็บอะไรเลยแฮะ ปาฏิหาริย์ใช่ไหมเนี่ย จำได้ครั้งสุดท้ายก็แค่เบรกรถใช้ไม่ได้แล้วแสงไฟสว่างจ้า แล้วก็มีเสียงดังน่าดู ตื่นมาก็อยู่ที่นี่แล้ว หา... เท่าที่ผมจำได้ ตอนนั้นมันแค่ตอนบ่ายนี่นา ถึงจะใกล้จะหกโมงก็เถอะแต่มันก็ไม่ได้มืดจนต้องเปิดไฟนี่นา ชนกัน ล้อเล่นรึเปล่ายัยบ๊องพี่ ดึงเราออกมาก่อนจะชนซะอีกนะ
หา... เธอเอามือออกจากดวงตาก่อนลุกขึ้นยืนครึ่งตัว ก่อนจะอ้าปากค้างอย่างน่าตลก ไอ้หมาเถื่อน แกมาอยู่ที่นี่ได้ไง ไอ้หมาเถื่อนเหรอน้ำอุ่นไม่เคยเรียกผมอย่างนี้เลย มีก็แค่คนเดียวคือไอ้หมอนั่น คู่อริผมตั้งแต่ชาติปางก่อน ก็มาเยี่ยมเราน่ะสิ
แต่ทว่าเธอกลับไม่ตอบอะไร แต่กลับยกมือซ้าย มือขวาโบกไปมา สายตาจ้องเขม็งอยู่หน้ากระจกที่ตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับเตียง เธอก้าวลงมาอย่างทุลักทุเล จนผมต้องเข้าไปประคอง เธอเอามือลูบหน้าตัวเอง ที่ฉายอยู่บนกระจก แล้วลูบคลำๆตัวเอง จนผมสงสัย
ทำไมฉันถึงได้มี เธอคลำที่หน้าอกตัวเอง เป็นอะไรไปน้ำอุ่น ผู้หญิงก็มีกันทุกคนนั่นล่ะ ผมอดตอบแบบขำๆไม่ได้ แต่ทว่า เธอมองกลับมาด้วยสายตาที่หวาดหวั่นพรั่นพรึงอย่างคนที่เจออะไรที่น่ากลัวสุดขีด ฉันไม่ได้ชื่อน้ำอุ่น ฉันชื่อ แบร์ และฉัน...เป็น ....ผู้ชาย "
to be next time (คืนนี้ดึกๆอัพเร็วกว่าเดิม ชดเชยครับ คราวที่แล้วไม่ได้มาอัพ) มาแล้วครับ บทที่5 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11124428/W11124428.html
แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 54 23:54:30
แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 54 13:54:43
จากคุณ |
:
sillfai
|
เขียนเมื่อ |
:
27 ก.ย. 54 13:33:36
|
|
|
|