อืมชายคนนี้หรือเปล่าฆาตกรตัวจริง
-ที่จริงอย่าว่าแต่เธอเลย แม้แต่ตัวเขาเองก็สับสน ไม่ใช่สับสนกับเสียงเรียกร้องของหัวใจที่รุนแรงขึ้นทุกวันนี้หรอก หากสับสนกับความปรารถนาที่เหมือนจะก่อตัวขึ้นอย่างกระทันหัน รู้ดีว่านี่ไม่ใช่ความใคร่ ไม่ใช่อย่างแน่นอน แต่เป็นความรู้สึกที่ล้ำลึกกว่านั้นมาก เธอคือความอ่อนหวานและละเมียดละไมในหัวใจ เป็นสิ่งงดงามและเปราะบางที่สุดที่เคยสัมผัส ความรู้สึกนี้อยู่เหนือความต้องการทางกายซึ่งทิ้งร้างและห่างเหินมานานหลายปี และเขาก็ต้องการให้เป็นเช่นนี้ต่อไป เซรีบริสุทธิ์ทั้งกายและใจเสียจนเขาไม่กล้าหักหาญมากไปกว่านี้ ===>กะทันหัน
-เซรีพึมพำอย่างเกรงอกเกรงใจขณะเดินตามมาข้างหลัง เธอไม่กล้าเดินเคียงไปกับเขาด้วยเกรงว่าจะมีคนรู้จักมาเห็นเข้า ความรู้สึกเวลานี้เปลี่ยนไป ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ เมื่อคิดว่าเขาคือผู้รักษากฎหมายของเมือง และว่าไปแล้วเธอคือชาวเมืองคนหนึ่ง การแสดงออกว่าสนิทสนมกับเขานั้นไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใด แต่เวลานี้เมื่อเข้าใจอะไรๆ ดีขึ้นแล้ว กลับรู้สึกเหมือนตัวเองมีชะนักปักหลัง เธอคิดว่าต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น แม้แต่เดินผ่านร้านอาหารซึ่งเปิดขายเฉพาะช่วงกลางวันถึงเย็น เธอยังอดมองเข้าไปภายในอย่างสำรวจตรวจตราไม่ได้ เผื่อจะมีใครรู้จักนั่งอยู่ในนั้นแล้วมองออกมาเห็นเข้าเขาจะเดือดร้อน เธอห่วงเขามากกว่าห่วงตัวเอง เขาเป็นคนมีครอบครัว เป็นเจ้าหน้าที่ของเมือง มีตำแหน่งหน้าที่การงานและชื่อเสียงที่ต้องรักษาไว้ ในขณะที่เธอไม่มีอะไรเลยสักอย่าง ===>ชนัก
-ยิ่งผู้ชายคนนั้นใกล้เข้ามาเท่าไร เธอก็ยิ่งเดินช้าลงเท่านั้น จนร่างสูงใหญ่ที่เดินนำอยู่ข้างหน้าเริ่มห่างออกไปเสียไกล จนเขาผิดสังเกต จึงได้หยุดเดินแล้วหันมาดู ใบหน้าคมคายสะท้อนแววกังขา ทำท่าจะย้อนกลับมาหา แต่พอดีกับผู้ชายคนนั้นเข้ามาถึงตัว มีการทักทายกันสั้นๆ เธอได้ยินเพียงแว่วๆ ว่าเป็นการไต่ถามสารทุกข์สุขดิบกันตามมารยาท ที่น่าแปลกคือดูออกว่าผู้ชายคนนั้นมีกิริยาอาการประดักประเดิดอย่างไรชอบกล ===>สารทุกข์สุกดิบ
-คำถามนั้นมาอย่างกระทันหันราวเขาอ่านใจเธอได้ ===>กะทันหัน