ไอสีขาวที่ลอยอยู่เหนือหม้ออลูมิเนียมกำลังส่งกลิ่นตลบอบอวลไปทั่วบริเวณ ภายในหม้อนั้นบรรจุข้าวต้มปลากะพงที่กำลังเดือดได้ที่ พีรญาปิดแก๊สเสร็จก็ใช้ทัพพีคนอีกสองสามรอบ ไอสีขาวเหนือหม้อค่อยๆ จางลง ก่อนข้าวต้มหอมกรุ่นจะถูกตักใส่ถ้วยเซรามิคใบย่อม
“วันนี้ไม่ทำงานเหรอครับคุณหมอ” เสียงทักจากน้องชายที่กำลังยืนพิงประตูห้องครัว ทำให้พีรญาหันไปมอง คนทักกำลังยิ้มหน้าทะเล้นให้ “กลิ่นหอมดีจัง”
“ยังไม่อาบน้ำแต่งตัวอีก ตื่นสายนะปูน” พีรญายิ้มแย้มทักทาย แม้หน้าปัดนาฬิกาบ่งบอกว่ายังไม่แปดโมง แต่บ้านนี้เกินเจ็ดโมงก็ถือว่าสายแล้ว
“เมื่อคืนนอนดึกไปหน่อย พอดีกำลังหาร้านวัสดุก่อสร้างใหม่น่ะ ปูนรู้สึกว่าร้านที่ผู้รับเหมาเสนอมามันแพงไป ค่าใช้จ่ายล็อตแรกจ่ายไปหลายอยู่เหมือนกัน” พีรภาสพูดพลางอ้าปากหาวหวอดๆ ก่อนยกข้าวต้มปลาไปยังโต๊ะอาหาร ไม่ใช่งานก่อสร้างรีสอร์ทอย่างเดียวเท่านั้นที่ทำให้นอนดึก แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขากำลังพยายามนำมันกลับมา และดูเหมือนจะใกล้เคียงความจริงเข้าไปทุกที
“ราคาแพงกว่า แต่คุณภาพอาจดีกว่าก็ได้นะ” พีรญาเสนอความคิดบ้าง แม้เธอจะไม่ถนัดเรื่องนี้ก็ตาม
พีรภาสส่งยิ้มให้พี่สาวเชิงรับรู้ ก่อนหันไปสำรวจรอบๆ “พี่แป้ง คนอื่นไปไหนกันหมดเหรอ ปูนว่าจะชวนปายไปช่วยต่อราคาหน่อย”
เมื่อคืนเขานอนห้องทำงานของปีณัฐ เมื่อกลับเข้าไปยังห้องนอนก่อนหน้านี้ น้องชายก็ไม่อยู่แล้ว
“พ่อกับแม่ไปทำงานตั้งแต่ก่อนพี่ตื่นซะอีก ปายก็ไปหาน้องฝัน ส่วนป่อย...”
“วันนี้ดีจัง ข้าวต้มปลาฝีมือคุณหมอ” ไม่ทันที่พี่สาวได้เอ่ยต่อ คนเป็นน้องก็ส่งเสียงแจ้วมาเสียก่อน
“ป่านนี้แล้วยังไม่ไปมหา’ลัยอีก” พีรภาสแหย่น้องสาว เมื่อสีหน้ายิ้มร่านั้นชวนน่าหมั่นไส้
“โฮะ วันนี้มีเรียนสิบโมงครึ่ง นี่ยังไม่แปดโมงเลย”
ใช่ยังไม่แปดโมง แล้วทำไมน้องชายจึงรีบออกจากบ้านตั้งแต่เช้า จะว่าไปคุยเรื่องงาน แบบรีสอร์ทก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว ยิ่งคิดยิ่งน่าสงสัย จะว่าไปเยี่ยมพ่อของเพื่อนก็ไม่น่าจะใช่ เพราะเลยผ่านมาเกือบสัปดาห์แล้ว น่าจะออกจากโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อย
ว่าแต่สาวเจ้าจะเป็นอย่างไรบ้าง คืนนั้นได้นอนหรือเปล่า
คิดแล้วพีรภาสต้องส่ายหน้าเบาๆ กับตัวเอง จะไปห่วงทำไมกันเล่า
“พี่แป้ง ปายบอกไว้หรือเปล่าว่าไปหาน้องฝันทำไม นี่ก็ยังเช้าอยู่เลย” พีรภาสหันไปถาม แต่พี่สาวทำหน้าราวกับจะถามกลับมาว่าจะอยากรู้ไปทำไม “ถ้าไปไหนไม่ไกล เดี๋ยวจะชวนไปที่ร้านด้วยกัน ไปหลายคนจะได้ช่วยกันดู” คุณชายให้เหตุผล
“ไม่ได้บอกไว้หรอก แต่ปายกับน้องฝันเค้าตัวติดกันประจำอยู่แล้ว”
“ประจำเลยเหรอ” พีรภาสหันไปสอบถามทันที
“พี่ปายกับพี่ฝันเป็นเพื่อนกันไปเที่ยวด้วยกัน ป่อยไม่เห็นว่ามันจะแปลกตรงไหน ถ้าพี่ปูนไปเที่ยวกับพี่ฝันสองต่อสองนี่สิ...แปลก” พีรณัฐหันไปตอบ พี่ชายยังไม่เลิกคิดเรื่องนั้นอีกหรือ
ปกติพี่ชายไม่ค่อยจะยุ่งเรื่องส่วนตัวคนอื่นสักเท่าไร ยกเว้นแต่ตั้งใจจะหาเรื่องแกล้งเท่านั้น แต่ทำไมเรื่องนี้ถึงอยากจะรู้นักหนา
“แล้วมาเกี่ยวอะไรกับพี่นี่” พีรภาสหันไปทำคิ้วขมวดใส่น้องเล็ก
“ก็เห็นพี่ปูนสนใจพี่ฝันมาก...” พีรณัฐลากเสียงยาว ก่อนจะเริ่มประโยคต่อไป “ป่อยก็นึกว่าพี่ปูนอยากมีเอี่ยวน่ะสิ ถ้าไม่บอก ป่อยยังแอบคิดเลยว่าพี่ปูนชอบพี่ฝันแหง”
“เปล่าซะหน่อย อาทิตย์หน้าว่าจะไปอยู่ที่ปราณฯ สักอาทิตย์ เลยจะชวนไปด้วยก็แค่นั้น พี่จะถามบ้างไม่ได้เหรอ เดี๋ยวพี่ปายของเราเค้าจะมีธุระปะปังกับเพื่อนสนิท พี่จะได้ไม่ไปขัดจังหวะไง”
“จริงเหรอพี่ปูน ให้ป่อยไปด้วยสิ เสาร์อาทิตย์ก็ยังดี นะๆ ป่อยอยากไปเที่ยวทะเล” คนเป็นน้องเปลี่ยนเรื่องได้ทันควัน เมื่อเอ่ยถึงทะเลขึ้นมา
“นี่ป่อย พูดถึงเรื่องเที่ยวไม่ได้เชียวนะ พี่ปูน พี่ปาย เขาไปทำงาน แล้วเราล่ะไปทำอะไร หรือว่าไปอวดหุ่นให้แมงกะพรุนดู” พีรญาเงียบอยู่นานพูดขึ้นมาที ก็แหย่น้องสาวเสียอย่างนั้น
“ไม่ให้ลงทะเลหรอกพี่แป้งสงสารแมงกะพรุน” พี่ชายทำท่าครุ่นคิดระหว่างส่งสายตาสำรวจน้องสาว “เดี๋ยวมันจะสับสน...ระหว่างคนกับกระดานโต้คลื่น”
พีรณัฐก้มลงมองหน้าอกตัวเอง ก่อนจะทำหน้าง้ำใส่พี่ชาย ก็จริงมันแบนราบ แล้วทำไมต้องเอามาล้อด้วยเล่า “เชอะ เพราะล้อน้องทุกวันแบบนี้ไง ถึงได้อกหักรักคุด ดวงกุดซ้ำซาก”
“กินไปเลยนะ พูดมากเดี๋ยวไม่พาไปหรอก”
พูดไปพูดมา ชักจะเข้าตัวเสียนี่ อกหักรักคุดไม่เท่าไร แต่ดวงกุดนี่สิแย่หนัก ยิ่งนึกไปถึงกระดาษสีขาวที่ลอยอยู่ในอ่างน้ำพุตอนนั้นแล้ว บอกตัวเองได้คำเดียวว่า ‘ซวย’ และชีวิตของเขาก็เข้าข่าย ‘ซวยซ้ำซวยซ้อน’ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ชายหนุ่มสะบัดหัวตัวเองเบาๆ อีกครั้งเพื่อลบภาพนั้นทิ้งไป ก่อนหันไปชวนพี่สาว
“ไปด้วยกันไหม พี่แป้ง ไปสองวันเหมือนไอ้ป่อยก็ได้”
“ไปไม่ได้หรอก เสาร์อาทิตย์นี้พี่มีเวรทั้งสองวัน” พีรญาหันมาตอบน้องชาย ก่อนจะหันไปยิ้มหวานให้กับหน้าจอมือถือที่กำลังส่งเสียงเข้ามา
พีรญาเอ่ยคำทักทายอ่อนหวาน ก่อนเดินเลี่ยงออกไปคุยนอกบ้าน ท่าทางของพี่สาวก่อนรับโทรศัพท์ดูแล้วช่างเอียงอายขวยเขินนั้น ทำให้พีรภาสและพีรณัฐหันมามองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย ขมวดคิ้วเชิงตั้งคำถามเหมือนกันว่า ‘ใครโทรมา’
“แกว่ามีอะไรหรือเปล่า ยายป่อย” พีรภาสเปิดประเด็นขึ้นมาก่อน
“เรื่องพี่ฝันกับพี่ปายไม่สนับสนุน แต่ท่าทางพี่แป้งป่อยว่าแปลก” คนเป็นน้องหันมากระซิบตอบ ก่อนจะหันไปมองหน้าบ้าน “แฟนพี่แป้งแหง ทำไมป่อยไม่เคยรู้”
“ไหนแกบอกว่า รักกันห่วงกัน ก็ไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่องไง เว้นระยะให้กันบ้าง”
“หรือพี่ปูนไม่อยากรู้”
“อยาก!”
“นั่นไง แล้วมาทำเป็นไม่อยากยุ่ง อย่างพี่ปูนนะอ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้ว” คนเป็นน้องหันมายักคิ้วใส่ ก่อนทั้งสองจะก้มหน้าก้มตาทานข้าวต้มอย่างเงียบกริบ เมื่อเห็นพี่สาวเดินยิ้มหน้าบานเข้ามานั่งที่เดิม
จากคุณ |
:
pormare
|
เขียนเมื่อ |
:
29 ก.ย. 54 19:45:55
|
|
|
|