Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
บ้านอุ่น...ล้อมรั้วรัก บทที่ ๗ รอวันกลับ ติดต่อทีมงาน

บทที่ ๖ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11108909/W11108909.html หรือติดตามตอนเก่าได้จากบล็อกนะคะ


อาการของคุณชายนั้นภาพฝันพอจะดูออก ชายหนุ่มหน้าเจื่อนนิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ คำพูดก่อนหน้านี้เรียกได้ว่าจุดไต้ตำตอเข้าอย่างจัง เห็นแล้วก็อดขำเสียไม่ได้ เธอไม่ได้โกรธเพราะตาแก่ที่ว่านั่นไม่เจียมสังขารจริงๆ มีอย่างที่ไหนเมาได้ทุกวี่ทุกวัน แถมห้ามแล้วไม่เคยฟังเสียอีก ยังดีที่พอกลับไปถึงบ้านแล้วไม่ชวนคนอื่นทะเลาะด้วย ถ้าเป็นอย่างนั้นบ้านของเธอคงมีละครหลังข่าวให้ได้ดูกันไม่มีเบื่อ

หญิงสาวมองไปยังห้องฉุกเฉิน ก่อนจะหันไปพูดติดตลกกับคนข้างๆ “ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่ปูน ตาแก่คนนั้นไม่ได้ยินสักหน่อย”

“หึๆ” คุณชายได้แต่หัวเราะแห้งๆ ในลำคอ สีหน้ายังไม่คืนสู่ปกติ “พี่ว่า พี่ไปก่อนดีกว่า น้องฝันกลับเองได้ใช่ไหม”

“ได้ค่ะ ถ้าหมอให้พ่อกลับบ้านก็คงกลับแท็กซี่ แต่ถ้ากลับไม่ได้ก็คงต้องนอนที่นี่ทั้งสองคน”

“แต่คิดไปคิดมาทางเข้ามันลึกอยู่นะ แล้วเราจะประคองพ่อไหวเหรอ พี่ว่าขอหมอนอนที่นี่ก่อนสักคืนก็แล้วกันนะ” พีรภาสให้ความเห็น ก่อนเอ่ยปากชวน “พี่จะไปซื้อเสื้อใหม่ก่อน ไปด้วยกันไหม”

ภาพฝันก้มลงมองตัวเอง เสื้อผ้าที่ใส่มีฝุ่นเปื้อนอยู่เล็กน้อย ไม่ได้เปื้อนเลือดกลิ่นคาวคลุ้งเหมือนอย่างเสื้อของเขา และที่สำคัญเธอควรรอให้แน่ใจก่อนว่า คนเป็นพ่อไม่เป็นอะไรมากกว่าที่เห็น

“พี่ปูนไปเถอะค่ะ ของฝันคงไม่ต้องเปลี่ยน”

“ไม่คิดจะเปลี่ยนหน่อยเหรอ  ระวังเกลือจะขึ้นเอานา ตัวเองคนเดียวก็ไม่เท่าไหร่หรอกนะ” พูดเสร็จพีรภาสก็เอามือบีบจมูกตัวเอง ส่งเสียงอู้อี้ออกมา “แต่พี่สงสารคนรอบข้าง”

“ไม่ต้องเป็นห่วงคนอื่นหรอกค่ะ ฝันว่าพี่ปูนห่วงตัวเองดีกว่า สามทุ่มแล้วนะคะ”

“งั้นพี่ไปล่ะ อย่าลืมบอกคนอื่นให้ใส่หน้ากากอนามัยเวลาเข้าใกล้ด้วยนะ” ว่าแล้วคุณชายก็เอามือบีบจมูกตัวเองล้อเลียนเธออีกรอบก่อนเดินออกไป


เมื่ออีกคนคล้อยหลังไปได้สักพัก ภาพฝันจึงส่งสายตาไปยังห้องฉุกเฉินอีกครั้ง ภาพของพ่อที่นอนจมกองเลือดอยู่ตรงหน้าก่อนนี้ยังจำได้ติดตา ติดตาทั้งที่เธอก็เคยเตรียมใจไว้แล้วว่าสักวันจะต้องเกิดขึ้น

ชาทิตผู้เป็นพ่อเริ่มดื่มหนักมาตั้งแต่เธออยู่ชั้นประถม ภาพฝันจำได้ว่าตอนนั้นพ่อกับแม่ทะเลาะกันอย่างหนัก คนเป็นพ่อออกจากบ้านเพื่อดื่มเหล้าย้อมใจ ส่วนแม่ตั้งวงไพ่เพื่อหาเพื่อนแก้เหงา หลายครั้งที่เธอขอร้อง ให้ทั้งสองหันหน้าเข้าหากัน แต่มันก็ไม่เคยจะเป็นผล

อาจเพราะความเคยชินที่แปรเปลี่ยนเป็นความชินชา ทำให้เธอมองภาพเหล่านี้ผ่านเลยไปเหมือนไม่มีอะไรแปลกใหม่ ตื่นมาตอนเช้าเจอพ่อเมาหลับตากยุงอยู่นอกชาน กลับไปตอนเย็นเจอแม่ตั้งวงไพ่อยู่กลางบ้าน ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างมีชีวิตเป็นของตนเอง

หากแต่จะชินชาแค่ไหน ส่วนลึกในหัวใจของภาพฝันก็ไม่เคยปฏิเสธได้ว่า เธออยากให้ภาพนั้นแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มของทั้งสองยามหันหน้าเข้าหากัน

หวังไว้เพียงว่าสักวันจะได้เห็น...?

หวนนึกไปถึงภาพนั้นที่เคยวาดไว้เมื่อตอนเป็นนิสิตชั้นปีที่สอง ความรู้สึกถูกถ่ายทอดไปยังปลายพู่กันจนหมดสิ้น บ้านที่รอวัน ‘กลับ’ เพื่อกลับคืนสู่วันที่สวยงามอีกครั้ง แม้ลายเส้นอาจดูไม่ไหลลื่น อารมณ์จากส่วนลึกอ่อนไหวจนทำให้ปลายดินสอที่จรดลงไปไหวสั่น แสงเงายิ่งผิดๆ เพี้ยนๆ ไปกันใหญ่ ไม่น่าจะแปลก คะแนนที่ออกมาปรากฏเพียงอักษรซีและเครื่องหมายบวก

หากแต่ความหมายในภาพนั้นภาพฝันรู้ดีว่ามันคือ ทั้งชีวิต

เป็นที่น่าเสียดายเพราะหลังจากส่งภาพนั้นไป เธอก็ไม่มีโอกาสได้เห็นมันอีกเลย ในวันที่รับผลงานคืน เธอติดธุระสำคัญพอดิบพอดี จำเป็นต้องฝากให้เพื่อนสนิทอย่างพีรศิลป์เก็บไว้ให้ แต่เมื่อทวงคืนเพื่อนรักกลับบอกว่าได้ยกภาพนั้นให้คนอื่นไปแล้ว

แม้จะโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงเสียยกใหญ่ แต่เธอก็รู้สึกดีขึ้นเมื่อเพื่อนรักบอกว่าคนที่ขอภาพนั้น ต้องการแรงบันดาลใจเพื่อเปลี่ยนมุมมองความรักเสียใหม่ ภาพนั้นอาจเป็นทั้งชีวิต แต่หากมันได้เปลี่ยนความคิดของใครคนหนึ่งไปในทางที่ดี เธอก็ยินดีและเต็มใจที่จะยกภาพนั้นให้โดยไม่มีข้อแม้

แต่แล้วความคิดนั้นก็เปลี่ยนไป เมื่อเพื่อนรักหลุดปากประโยคนี้ออกมา

‘แกน่าจะดีใจนะ เพราะร้อยวันพันปีเราไม่เคยเห็นเขาสนใจศิลปะภาพวาดพวกนี้เลย แถมตอนแรกยังบอกว่าแกตีลังกาวาดรูปด้วยซ้ำ แต่มองไปมองมาอยากได้ภาพเฉยเลย’

คำพูดนั้นบอกได้ชัดเจนเลยว่า คนที่เอาภาพไปไม่ได้ใส่ใจในภาพนั้นจริงจัง ภาพที่มีคุณค่าทางจิตใจของเธอ ต้องกลับกลายเป็นสิ่งประดับไร้ค่าบนฝาผนังของคนไม่มีศิลปะในหัวใจ คิดแล้วช่างน่าเศร้า!

ซ้ำร้ายไปกว่านั้น เมื่อทวงคืนเธอก็ได้ยินเพื่อนรักบอกเพียงว่าจะได้ภาพนั้น ‘เร็วๆ นี้’ ประโยคซ้ำๆ ทุกสามเดือน แต่จนแล้วจนรอดมันก็ ‘เร็วๆ นี้’ มาได้ถึงสามปี จนกระทั่งเย็นวันนี้ ‘เร็วๆ นี้’ กลับกลายเป็นปลายเดือนหน้าไปโดยปริยาย


จนมาถึงตอนนี้การได้ภาพนั้นคืนก็ไม่รู้ว่า เธอจะรู้สึกยินดีกับมันอีกหรือไม่ การถูกปฏิเสธทุกครั้งเมื่อการรอคอยถึงวันสิ้นสุด มันทำให้เธอไม่กล้าหวังอะไรอีกต่อไป ก็คงเหมือนกับความหวังที่จะทำให้พ่อกับแม่หันหน้าเข้าหากัน...เธอคงไม่กล้าหวังอีกต่อไป


ผ่านไปเกือบชั่วโมง ที่ภาพฝันจ้องมองไปยังผู้ป่วยที่นอนอยู่บนเตียง อาการของผู้เป็นพ่อไม่ได้หนักมากนัก หากแต่คุณหมอไม่อนุญาตให้กลับบ้านได้ และคงไม่ต้องขอคุณหมอนอนที่นี่เหมือนอย่างที่คุณชายแนะนำ ไม่เช่นนั้นเธอคงลำบากใจไม่น้อย เพราะที่นี่คือโรงพยาบาลไม่ใช่โรงแรม จะได้เช็คอินขอนอนกันได้ง่ายๆ

ผ้ากอซสีขาวที่พันรอบศีรษะของพ่อเห็นแล้วก็อดใจหายไม่ได้ วันนี้โดนแค่นี้ แล้ววันหน้าหากทะเลาะกันอีกเล่า มันจะหนักหนากว่านี้หรือเปล่า


หลังจากรอจนชาทิตหลับสนิท ภาพฝันจึงลงมาสูดอากาศด้านล่าง กลิ่นในห้องนั้นทำเอาหายใจไม่ทั่วท้อง แน่นอนว่ามันไม่ได้วิกฤตเหมือนน้ำคลำในคลองทางเข้าบ้าน แต่กลิ่นนั้นช่างซ่อนอะไรเอาไว้มากมาย บรรยากาศอันน่าหดหู่ ผู้ป่วยเรียงรายอยู่เต็มห้อง เจ็บหนักบ้าง เบาบ้าง แต่อย่างไรเสียก็คือผู้ป่วย คิดแล้วก็อดนึกทึ่งบุคลากรที่นี่เสียไม่ได้ พวกเขาไม่รู้สึกเหมือนอย่างเธอบ้างหรือไงนะ

“เป็นห่วงคนอื่นเหรอ ถึงได้มานั่งทนกลิ่นตัวเองคนเดียวแบบนี้”

เสียงคุ้นเคยดังมาจากใกล้ๆ ภาพฝันก้มมองนาฬิกาข้อมือ ก่อนจะหันไปหาต้นเสียง เที่ยงคืนกว่าแล้วคุณชายพีรภาสจะกลับมาอีกทำไมกัน คนที่ยืนอยู่เปลี่ยนเสื้อเรียบร้อยแล้ว เสื้อเชิ้ตสีเทาขาวกลายเป็นเสื้อยืดคอวีสีน้ำตาลเข้ม แม้จะหลุดมาดคุณชายไปเล็กน้อย แต่ก็ยังเป็นคุณชายพีรภาสคนเดิม

“พี่ซื้อมาให้” ถุงกระดาษสีดำถูกยื่นมาตรงหน้า ภาพฝันปั้นคิ้วขมวดไล่สายตาตั้งแต่ถุงกระดาษไปยังใบหน้าชายหนุ่ม ซื้อมาให้ตอนเที่ยงคืนกว่า คุณชายคิดอะไรอยู่หรือ “เห็นว่าสงสารคนอื่นหรอกนะ เดี๋ยวคนป่วยจะเจ็บหนักไปอีก”

“เพิ่งรู้นะคะว่าพี่ปูนใส่ใจคนรอบข้าง ‘มาก’ ขนาดนี้” ดูเหมือนคำว่ามากจะย้ำชัดกว่าคำอื่นหลายเท่าตัว

ชายหนุ่มยิ้มจนตาหยี เพียงแต่ใบหน้านั้นตั้งใจจะกวนเสียมากกว่า มือหนึ่งบีบจมูกตัวเอง มือหนึ่งโบกอำลา “พี่ไปนะ”

คิดจะมาก็มา คิดจะไปก็ไป ดูสิเดินไปเฉยๆ ก็ไม่ได้ ยังจะฝากใบหน้ากวนอารมณ์ชวนให้หมั่นไส้ไว้อีก ภาพฝันได้แต่ส่งยิ้มส่ายหน้ามองตามไปจนลับสายตา ลืมไปชั่วขณะว่าใครคนนั้นเธอเคยอยากต่อว่าเขามากแค่ไหน

ยิ่งได้รู้จักกัน ก็ยิ่งรู้สึกว่าคำพูดของคนอื่นชักจะเป็นจริงเข้าไปทุกที

แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 54 20:24:03

จากคุณ : pormare
เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 54 19:45:12




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com