Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เล่ห์รักโนราห์ [นิยายจากมือใหม่หัดเขียน] ตอนที่ ๗ ติดต่อทีมงาน

ความเดิม  ดาราวลีเป็นลูกสาวโนราห์ดวงดาว เข้ามาเรียนต่อในกรุงเทพฯ โดยอาศัยบ้านอาประเทือง กับอา
เดือนเต็ม ซึ่งมีลูกสาวชื่อตวงพร  ครอบครัวของอาประเทืองสนิทกับครอบครัวคุณสุรีย์ ที่มีลูกสาวชื่อพรศิริ
คุณสุรีย์แต่งงานใหม่กับนักธุรกิจ มีลูกชายคนหนึ่งคือพีรวิชญ์ เมื่อสองครอบครัวสนิทสนมกัน

ช่วงปิดเทอม ดาราวลีกลับบ้านต่างจังหวัด ทั้งสาม ตวงพร, พรศิริ และพีรวิชญ์ จึงเดินทางมาเที่ยวพร้อมกันนี้ด้วย
วันแรกดาราวลีพาเด็กสาวทั้งสองไปลุยตลาดกระบี่

ดาราวลีมีงานเข้า เมื่อสูหยา เพื่อนบ้านเก่าแก่ในอดีตของตาเทพมาจ้างให้ไปรำในงานรื่นเริงที่เกาะกลางทะเล
เช้านี้ทุกคนเลยเตรียมตัวเพื่อไปยังเกาะที่สวยงาม ขึ้นชื่อติดอันดับโลก



คัดมาจากช่วงท้ายตอนที่แล้ว


“ตื่นเช้าหน่อยค่ะ เราต้องลงเรือเก้าโมง ปกติแม่เป็นคนตื่นเช้ามาก เพราะแม่ชอบใส่บาตร ที่นี่จึงจะมีอาหาร
ตั้งแต่เช้า มีข้าวหุงในหม้ออุ่นไว้ตลอด ส่วนกับข้าวดูได้ในตู้ ไมโครเวฟมีวิธีใช้เขียนติดไว้ เพราะบ้านเรามีเด็กๆ
มาเรียนหลายรุ่น ก็เลยทำไว้อย่างนี้เสมอ ส่วนอาหารเช้าประเภท กาแฟ หรือขนมปัง ในครัวจะจัดโซนแยกไว้
คงพอผ่านๆ ตากันบ้างแล้วมั้ง”

“ครับผม ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นค่อยว่ากัน นึกว่าพรุ่งนี้จะมีโปรแกรมไปเที่ยวที่ไหนเป็นพิเศษหนะ”

“ไม่แน่ค่ะ ให้ลีทำงานคืนนี้ก่อน งานของลีเป็นขั้นตอนแรก ไม่อยากให้สูเค้ารอนาน ถ้าคืนนี้เสร็จ พรุ่งนี้อาจไปเดิน
เล่นกันหลังอาหารเช้า ตรงสวนของกรมทรัพย์  ไปดูไม้โกงกางกับนกหลายชนิดที่ชอบมาจับปลาแถวๆ  นั้นค่ะ
เสร็จแล้วก็ไปท่าเรือให้ทันแปดโมงสี่สิบห้าก็ใช้ได้หละ”

“โดยประมาณกี่โมงหละคะ พี่ลี ตวงจะได้เตรียมตัวไว้”

“ก็ไม่ต้องเช้ามาก สักหก เจ็ดโมงก็ได้ ถ้าอยากไปเดินป่าโกงกาง”

“โหย หก เจ็ด โมงเนี่ยนะ ไม่เช้า”   ดาราวลีหัวเราะ แววตาเป็นประกาย คนที่ลอบมองยิ้มตามส่วนคนที่มองคนที่
แอบมองอีกทีอย่างพรศิริก้มมองพื้นด้วยสายตาหม่นเศร้าทุกคนแยกย้ายกันไป ทิ้งให้ชานเรือนว่างเปล่า แมลง
กลางคืนร้องระงม


เชิญติดตามตอนต่อไปได้แล้วค่ะ

***************************




เล่ห์รักโนราห์ ตอนที่ ๗



“ไม่รู้เป็นไง วันหยุดต้องตื่นแต่เช้าทุกทีเลย”  เสียงอู้อี้ๆ ของตวงพร ซึ่งนั่งงัวเงียอยู่บนโซฟาหน้าบ้านตอบเมื่อ
ได้รับการสะกิดจากเพื่อนรัก

“อ๋อ อย่างนี้เค้าเรียกตื่นเช้าเหรอ”  พรศิริหัวเราะ ท่าครึ่งนั่งครึ่งนอนของเพื่อน

“ไปกินอาหารเช้ากัน พี่ลีจะพาไปเที่ยว”  พรศิริหัวเราะดังกว่าเก่าเมื่อเพื่อนเด้งจากท่าทางสลึมสลือมายิ้มแป้นแร้น

“จริงดิ ไปๆๆ ไปไหนหละ” เธอลุกขึ้น จูงมือเพื่อนเดินลงมาจากบนเรือน

“เห็นว่าพาไปเดินดูป่าชายเลน เป็นป่าโกงกางกลางใจเมืองกระบี่นี่เอง เอารถไป น้าชาติไปส่งแล้วประมาณแปดโมง
ครึ่งจะพาไปส่งท่าเรือ เพื่อนั่งเรือต่อไปที่เกาะ..”  เธอเอ่ยชื่อเกาะที่งามเลื่องลือระบือนามระดับโลก

“เจ๋งเลย จัดกระเป๋าเสร็จตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ไปสองคืนใช่ปะ”

“เห็นว่าอาจจะค้างเที่ยวต่อ แต่ไม่เป็นไร ที่นั่นมีบริการซักผ้าไม่ต้องขนไปเยอะก็ได้ สำคัญๆ อย่างชุดว่ายน้ำ กับชุด
เดินเที่ยวชายหาดก็พอไหว”

“ไม่เป็นไร ชุดนอนชุดเที่ยว ชุดว่ายน้ำ ของเราชุดเดียวกันได้ ฮ่าๆๆๆ”    ตวงพรหัวเราะร่าอย่างเด็กอารมณ์ดี ร่างกาย
อวบท้วม สูงร้อยห้าสิบสามเซนติเมตรของเธอ กับใบหน้ากลมบ็อก ผมบ็อบสีดำขลับเปิดหน้าผากกว้าง เครื่องหน้า
หมดจดสะอาดสะอ้าน ผิวขาวเหมือนสาวชาวกรุง เดินไปปะปนกับนักท่องเที่ยว ใครๆ อาจจะคิดว่าเป็นเด็กเกาหลี
ก็เป็นได้

เปรียบเทียบกับคนที่เดินเคียงกันมา สูงโปร่ง ผมบ็อบหน้าม้ายาวเลยติ่งหูมาหลายเซนติเมตรแล้ว เพราะมอปลาย
อาจารย์ให้ไว้ผมยาวได้ แต่ต้องรวบให้เรียบร้อยเมื่อไปโรงเรียน แต่อยู่บ้านเธอปล่อยให้มันระต้นคอสบายๆ

พรศิริสวยเหมือนแม่ เธอได้เค้าหน้าคุณสุรีย์มาเหมือนจะก็อบปี้กันมา หากโตกว่านี้เธอต้องเป็นสาวสวยที่มีหนุ่มๆ
หันมามองจนเหลียวหลังแน่ๆ

ดาราวลี พีรวิชญ์ นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร ยิ้มรับน้องสองคนที่เดินเข้ามา  ตวงพรถามหาตาเทพ ดาราวลีตอบว่าออก
ไปหว่านเมล็ดถั่วเขียวบดในบริเวณที่ตาทำทุกวันยามเช้าๆ ตาเลี้ยงนกแบบนี้มาตั้งแต่ถูกดาราวลีปล่อยนกในกรงเสีย
เกลี้ยง สองกรง  “กรงไม่ใช่บ้านของนกนะตา”  ดาราวลีจำได้เธอทั้งกล่อม ทั้งขู่  สุดท้ายตาก็ยอมเพราะคำ คำนี้
กรงไม่ใช่บ้านของนก


ตวงพรมายืนเกาะที่เก้าอี้ของดาราวลี

“อิ่มแล้วหรือคะพี่ลี”  เธอพยักหน้า

“จ้ะ”  ตอบโดยไม่หันมามอง

“พี่วิชญ์หละคะ”  เธอหันมาทางพี่ชายซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้าม เขาก็พยักหน้าก่อนจะตอบ

“อิ่มแล้วเหมือนกัน  พี่จะไปเก็บเสื้อผ้าเพราะเมื่อคืนนอนเพลิน เดี๋ยวมานะ”  เขาลุก แจกยิ้มให้สาวๆ แต่ยังยืนรีๆ รอๆ
ไม่ได้เดินไปในทันที

“ค่า”  ตวงพรกับพรศิริรับคำ ส่วนดาราวลียิ้ม เธอเตรียมตัวเสร็จหมดแล้ว แถมยกลงมาไว้ข้างล่างเรียบร้อยแล้วด้วย
ขยับเก้าอี้เบาๆ  ตวงพรถอยออกห่างให้พี่สาวลุกขึ้นยืน แล้วมองไป พูดด้วยสายตาว่านั่งตรงนี้ก็แล้วกัน ปากก็พูดว่า

“กินอะไรดีตวง ข้าวต้มหรือขนมปัง”  ตวงพรส่ายศรีษะตอบอากัปกิริยาของพี่สาว

“ข้าวต้มค่ะพี่ลี ไม่ต้องบริการนะเดี๋ยวตวงไปจัดการเอง ส่วนกระเป๋าจัดเสร็จแล้วตั้งแต่เมื่อคืน เอาไปไม่เยอะ
ตวงไม่มีเสื้อผ้ามากหรอกค่ะ”  พูดจบทำท่าเดิน ดาราวลีพยักหน้าให้พีรวิชญ์กับพรศิริซึ่งยืนอยู่ใกล้ๆ กัน

“อื้ม เอาสิ ไป ไปตักข้าว"  สองพี่น้องเดินเข้าครัว เสียงคุยกันดังมาได้ยินชัดเจน

"พี่ยกลงมาข้างล่างแล้วนะ เดี๋ยวอีกประมาณสิบห้านาที น้าชาติจะมารับ พี่ว่าจะพาไปเดินดูป่าโกงกาง สักพัก
จากนั้นค่อยไปท่าเรือ เราจะไปเที่ยวสิบโมงครึ่งนะ ถ้าไปเดินเล่น ไปเที่ยวแรกเ้ก้าโมงไม่ทัน ก็ถึงเกาะประมาณ
เที่ยงนั่นแหละ”

“พี่ลีจะรำคืนนี้เลยหรือเปล่าคะ” พรศิริส่งเสียงถาม คนเป็นพี่หยุดเดินหันมาตอบ ตวงพรเดินล่วงหน้าโดยไม่รอ

“เป็นคืนพรุ่งนี้จ้ะ ไปเตรียมเวทีก่อน ส่วนเอกสารแจกในงาน สูหยาสั่งพิมพ์แจกแล้วประมาณร้อยห้าสิบแผ่น”

“ถือว่าคนเยอะหรือน้อยคะนี่”  ตวงพรเดินเข้าตักอาหารเสร็จแล้วมานั่งรับประทานที่โต๊ะ ร่วมวงสนทนาด้วย

“เยอะเหมือนกันนะ ได้ยินว่าเวทีไม่ใหญ่มาก บริเวณก็ไม่กว้างมากนัก แต่เป็นเวทีแบบเปิดริมหาด ดังนั้นอาจจะมี
คนมากกว่านี้ แต่เป็นคนไทย ไม่ใช่ต่างชาติ ก็คือชาวบ้านบนเกาะที่เขาชอบดูงานบันเทิง”

“อืม..ค่ะ ศิริไปยกกระเป๋าดีกว่า เดี๋ยวน้าชาติมาจะได้ไม่ต้องรอเรานาน”

“ดีจ้ะ”

“เดี๋ยวเรายกของตวงมาด้วย ไม่ต้องห่วงนะ”

“ใจจ้า”  ตวงพรยิ้มแป้นแร้น น่ารัก

“พี่ไปจัดการจานชามก่อน ตวงรีบทานนะ เดี๋ยวน้าจะมาแล้ว”

“ค่า”  

ทุกคนแยกย้ายกันไป
-----

[ยังมีต่อค่ะ]

แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 54 20:56:10

จากคุณ : สีน้ำฟ้า
เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 54 19:53:42




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com