Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เซรีญา The Dragon's Gate (7) ติดต่อทีมงาน

###

http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/01/W10109516/W10109516.html
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/01/W10161148/W10161148.html
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/01/W10183691/W10183691.html
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/06/W10737872/W10737872.html
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/07/W10823758/W10823758.html
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10933375/W10933375.html

###

คุณ Draconia @ ว่าไปอีกที เมราลอาจจะกำลังแก้กรรมที่ทำกับเซรีไว้อยู่ก็ได้นะขอรับ...

ทินา @ ดี ๆ ตื้บมันเลย

เป้ @ ใช่แล้ว เซรีเจ๋งสุด >w<

คุณ Sudiarill @ ก็เป็นตัวร้ายนี่นา...

คุณ scottie @ นั่นสิเนอะ

คุณ Cororin @ ทัคคุงมันเป็นจังค์ฟู้ดเน่อ

คุณ pinupaong @ หุหุหุ

คุณซาลาสซา @ ลอร์คเหมาะกับกำลังภายนอกเส้าหลิน  มากกว่ากำลังภายในแบบบู๊ตึ้งน่ะค่ะ
ส่วนตาทัคแกก็เหมาะเป็นพระเอกตบจูบดีเนอะ

หน่าจัง @ เห็นด้วยยิ่ง

คุณนริน @ สู้ ๆ >w<

คุณ Canossa @ ใจเย็น ๆ ขอรับ

พี่โร @ ฉากนั้นคงอีกสักพักนะตัวเอง

เจรามี @ ก็เป็นตัวร้ายนี่...

คุณ chaiyanun @ อ่านต่อเลยค่า

คุณอมราวตี @ อา...บางทีมันก็ซับซ้อนเนอะ

คุณ runaway guy @ แกก็โตมาแบบสปอยล์แบรดน่ะตัวเอง - -'

คุณ Anithin @ รอดูสิงโตต่อไป

คุณ river @ ส่งไปอย่างด่วนขอรับ

คุณ penwings @ โอเค ส่งไปเลยจ้า

###

๗.

เกจมองออกนอกหน้าต่าง

ที่นี่เป็นห้องกลางของเรือนรับรองสิปา   คนอื่น ๆ ก็อยู่ด้วย   แน่นอนว่าผู้ชายอยู่รวมกันหลายคน  หัวข้อย่อมออกไปทางรบราฆ่าฟัน  ที่จริง...หัวข้อวันนี้ก็ไม่จืดทีเดียว

"พ่อเธอกีดกันข้า!"

"พี่ชายของคนที่ข้ามองก็เหมือนกัน!"

"ยายแม่สาดน้ำใส่ข้า!"

หลังจากนั้นหัวข้อการถูกกีดกันโดยหมู่ญาติก็ยาวต่อไปเป็นหางว่าว   ฟังไม่จบไม่สิ้นสักที  สุดท้ายเลยลงเอยที่ข้อสรุปของวิเทน

"ฉุดเลยแล้วกัน"

คนที่เหลือต่างเฮโดยพร้อมเพรียง  เกจหันไปทางผู้เฒ่าซีเกที่คุมพวกตนมา  เห็นเขากำลังยกมือปิดหน้าอยู่พอดี

ว่ากันตามตรง สถานการณ์ของพวกโคแรนบนเกาะสิปาก็ไม่ใคร่ดีจริง ๆ

มันไม่ใช่ไม่ดีทำนองว่าถูกทำร้ายหรือถูกเหยียดหยาม  เพราะพวกคนสิปา...ยกเว้นแต่ที่หัวรุนแรงมาก ๆ  ล้วนมีธรรมชาติค่อนข้างสุภาพ  ตั้งแต่จ้าวเกาะลงมาต่างต้อนรับเขาอย่างดี  จัดที่ทางให้อยู่อย่างเรียบร้อย  มีน้ำใจเชิญชมสถานที่สำคัญต่าง ๆ ของเกาะ  ทั้งยังอนุญาตให้ไปไหนก็ได้ตามใจชอบ  อย่างไรก็ตาม หลังจากขึ้นเกาะได้สักสองสามชั่วโมง  โคแรนนิอิดทุกคนล้วนสัมผัสได้ว่ามีคลื่นใต้น้ำ   เรือนรับรองของพวกเขาดีมาก  แต่กลับห่างตัวเมืองจนน่ากลุ้มใจ   มีเกจคนเดียวเท่านั้นที่ดีใจว่าได้อยู่ที่นี่   เพราะมันอยู่กลางนาขั้นบันได มองไปทางไหนก็เห็นแต่นา

"ผู้หญิงอยู่ไหน" วิเทนซึ่งมีความหวังสูงส่งประท้วงขึ้นมาเป็นคนแรก

ใช่ ไม่มีผู้หญิงหรอก

หรือพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ  ไม่ว่าสามอาทิตย์จะเพียงพอสำหรับเกี้ยวสาวหรือไม่  คนสิปาก็ไม่คิดจะปล่อยให้คนโคแรนนิอิดมีโอกาสได้   ผู้หญิงทุกคนที่ยังไม่ได้แต่งงาน  และอายุอยู่ในเกณฑ์แต่งงานได้ล้วนถูกเก็บเข้าบ้าน  ที่เรือนรับรองมีแต่คนดูแลผู้ชาย  กับท่านป้าอายุห้าสิบกว่าปีสองสามคน  ยิ่งไปกว่านั้น คราวใดที่พวกโคแรนนิอิดเข้าเมืองได้  พวกเขาก็มักพบว่าสิปาราวกับเกาะพ่อม่าย  มองไปทางไหนก็เห็นแต่ผู้ชาย ผู้ชาย และผู้ชาย

"อย่างน้อยข้าก็เจริญสัมพันธไมตรีได้ดีพอสมควร" ผู้เฒ่าซีเกเอ่ยขึ้น

ผู้เฒ่าเป็นคนเฉย ๆ  เป็นผู้ใหญ่  เพราะเขามีนิสัยนิ่ง  เมราลจึงขอให้เป็นผู้นำพวกชายหนุ่มมา   อย่างไรก็ตาม แม้ผู้เฒ่าจะพอใจในผลงานของตัวเอง  พวกวิเทนก็ไม่ใคร่พอใจเท่าไร

"ข้าอุตส่าห์หาที่ที่พวกนั้นจะไปซักผ้าจนเจอ" เพื่อนเกจอีกคนอุบอิบ "แล้วรู้อะไรไหม  ข้าเกือบถูกฆ่าตาย"

"ก็พวกเรามันประหลาดเกินไป"

พอพูดอย่างนี้ขึ้นมาแล้ว  บางคนก็เกาหัว  บางคนก็ถอนใจ  พวกเขาเป็นชายหนุ่มมีความสามารถ  เวลาอยู่เผ่าก็ใช่ว่าจะไร้โอกาส   แต่พอออกมานอกเผ่าครั้งแรกแบบนี้  จึงค่อยตระหนักว่าที่จริงตัวเองไม่เหมือนเผ่าอื่นเขาตรงไหนบ้าง   ความรู้สึกว่าแตกต่าง  แถมยังถูกตัดสินจากรูปร่างหน้าตาและประวัติเผ่าที่เล่ามั่ว ๆ แบบปากต่อปาก ก็ทำให้รู้สึกเจ็บปวดใจ

"พวกนั้นไม่รู้จักโคแรนนิอิดสักหน่อย" อีกคนพูดขึ้นมา

"ท่านเมราลก็บอกแล้วว่าต้องใช้เวลา" เกจบอก

"เฮอะ ว่าแต่เจ้าเถอะเกจ" วิเทนหมั่นไส้ "ข้าเห็นเจ้าไปหาพวกชาวนา  ตั้งใจจะตะล่อมขอลูกสาวชาวนาใช่ไหมเล่า"

"ไม่หรอก" หัวหน้าโรงปลูกพืชหัวเราะ "เขาก็ไม่ให้ข้าได้เจอผู้หญิงที่ยังไม่ได้แต่งงานเหมือนกัน"

แต่ว่ากันตามตรง  จริง ๆ เกจก็ไม่ได้สนใจ  เขาไม่สนใจเรื่องแต่งงานเลย  บางทีส่วนหนึ่งอาจเพราะมาจากครอบครัวบ้านแตก  จึงทำให้รู้สึกไม่ค่อยอยากสร้างครอบครัวใหม่   และอีกอย่างหนึ่ง ทุกครั้งที่เขาคิดถึงผู้หญิง ชายหนุ่มก็ยังคิดถึงอีกคนหนึ่ง...ด้วยความรู้สึกหลากหลาย   ผู้หญิงที่จะทำให้เขาสนใจได้  คงต้องทำให้เขาลืมเธอกระมัง

เมื่อไม่สนใจเกี้ยวผู้หญิงเหมือนเพื่อน ๆ  เกจที่มีนิสัยชอบผจญภัยแบบหมาป่าโดดเดี่ยวมาแต่แรกจึงออกไปตามท้องนา  เขาสนใจนาขั้นบันไดเหล่านั้น  รู้สึกทึ่งที่เห็นวิธีก่อคันลดหลั่นกันไปตามลาดหุบเขา   สนใจวิธีชักน้ำและกักน้ำ เมื่อเดินไปไกลเข้าก็ได้พบพวกชาวนาสิปา  เมื่อแรกคนพวกนั้นตกใจที่เห็นชายหนุ่มสีผิวประหลาด  หน้าตาประหลาด  แรก ๆ ที่เขาแนะนำตัวว่าเป็นใครก็ยังถูกระแวงอยู่บ้าง  เกจต้องใช้เวลาพอสมควรจึงผูกมิตรได้   เขาสวมหมวกปีกกว้างบังแดดแรงไม่ให้แผดเผาผิวที่อ่อนแอ  นั่งคุยกับพวกชาวนาซึ่งล้วนนุ่งผ้าเพียงผืนเดียว  เปลือยอกสีทองแดงแข็งแกร่ง  ตลอดเวลานั้น เกจไม่ได้เห็นผู้หญิงอายุต่ำกว่าห้าสิบหรือยังไม่ได้แต่งงานสักคนเดียว   เขาคิดว่าพวกเธอคงถูกเอาไปซ่อนเหมือนในเมืองนั่นเอง  แต่ชายหนุ่มไม่ได้สนใจ

ระยะหลัง พวกชาวนาเริ่มสนิทใจกับเขามากขึ้น  ก็เล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้ฟัง  เกจสนใจจะเรียนรู้  จึงตั้งใจฟัง  เขาทำท่ามาเรียนเต็มที่  บางวันหากมีเวลายังยินดีช่วยงานให้เปล่า ๆ พวกชาวนาจึงค่อนข้างชอบใจ  บางคนยังถามว่าเจ้าไม่ได้มาร่วมพิธีจันทร์เพ็ญหรอกหรือ  ไม่เห็นสนใจผู้หญิงคนใด  ชาวสิปาส่วนใหญ่ไม่เป็นชาวนาก็เป็นชาวประมง  เกาะไม่มีเส้นทางการค้าผ่าน  ไม่มีสินค้าสำคัญ  ตัวเมืองจึงไม่ใหญ่โตนัก  ผู้คนก็ยังไม่ใคร่ซับซ้อนเท่าไร

"ข้ายังไม่คิดเรื่องนั้น" ชายหนุ่มยักไหล่

"ทำไม  เพราะเจ้าไม่มีสีหรือ" พวกชาวนาเดากันไป "อย่าเสียใจไปเลย  ที่สิปา คนไม่มีสีเป็นคนพิเศษ รู้ไหม  เชื่อกันว่าเป็นคนมีเวทมนตร์คาถา  มีอำนาจ  เป็นลูกของมังกรท้องฟ้า"

"ข้าไม่มีเวทมนตร์" เกจหัวเราะ "คนโคแรนนิอิดไม่มีตำนานเรื่องมังกร  มีแต่เรื่องงู"

คืนนั้น พวกคนหนุ่มยังอยู่คุยกันต่อ  ผู้เฒ่าซีเกขอตัวไปนอนแล้ว  จึงมีคนเริ่มเปิดเหล้าที่แอบเอามาจากในเมือง  เกจดื่มไปแก้วสองแก้วแล้วก็บอกขอตัว

"จะออกไปดูนาอีกแล้วหรือไง" เพื่อนสัพยอกเขา "ไอ้คนบ้านา"

"ช่างข้า" ชายหนุ่มโต้  สวมเสื้อคลุมเดินออกจากเรือนไป

...

เกจเดินไปตามคันนา   บริเวณเกือบทั้งหมดในหุบเขานั้นล้วนเป็นนา ข้าวใกล้ถึงเวลาเก็บเกี่ยวเห็นเป็นต้นสีขาว ๆ ในแสงจันทร์  บางครั้งก็โอนเอนตามสายลม  เกจเสียดายนิดหน่อยว่าตนไม่ได้อยู่ถึงช่วงเก็บเกี่ยวจริง ๆ   เวลานี้จึงได้แต่ดู

บรรยากาศเช่นนี้  ชวนให้นึกถึงเรื่องที่พวกชาวนาเล่าให้ฟัง   คนเหล่านั้นพอพูดถึงมังกรฟ้าก็อดไม่ได้   คนหมู่เกาะลาตาชอบเรื่องสนุก  ไม่ช้าจึงมีคนเอากรับมา  บอกจะร้องเล่านิทานให้เกจให้ฟัง  คนอื่น ๆ บอกเขาว่าถ้าหากมาในช่วงเทศกาล  จะได้เห็นการเต้นรำที่ลานกลางหมู่บ้าน  มีการใส่หน้ากากใหญ่สีสันแพรวพราวด้วย  

...กาลก่อนนี้โลกมีแต่ท้องฟ้ากับผืนน้ำ  ต่อมามีมังกรสองตัวเกิดขึ้น

มังกรทะเลหลับใหลเสมอ  ไม่เคยตื่นขึ้นมา   มังกรฟ้าไม่เคยอยู่นิ่ง   ท่องไปทั่วทั้งเหนือและใต้  สร้างพระอาทิตย์ พระจันทร์  สร้างดวงดาว  สายฟ้า  ก้อนเมฆ  ครั้นสำรอกสายรุ้งออกมาเป็นอย่างสุดท้ายก็ตาย

มังกรฟ้าตายแล้ว  ร่างร่วงสู่ผืนน้ำ  กลายเป็นหมู่เกาะลาตา  ต่อมาวันหนึ่ง มังกรทะเลตื่นขึ้น  เลื้อยจากทะเลสู่เกาะสิปา  คืนนั้นเป็นคืนจันทร์เพ็ญ   มังกรทะเลพบมังกรแห่งป่า   นางเป็นธิดาของมังกรฟ้า  ทั้งสองก็สมรสกัน

มังกรป่าสำรอกบุตรธิดาออกมาทางปาก  เป็นมังกร-มนุษย์  ชื่อสิวาและปารัง  สิวาและปารังสมรสกัน  มีลูกชายห้าสิบคน ลูกสาวห้าสิบเอ็ดคน  คนสมัยก่อนเชื่อว่าหมู่เกาะลาตามีเกาะทั้งหมดห้าสิบเกาะ  บรรพบุรุษแต่ละเกาะล้วนเป็นบุตรชายบุตรสาวของสิวากับปารัง

เมื่อพวกลูกชายลูกสาวโตแล้ว   พวกเขาต่างแยกจากบิดามารดา   ไปอยู่ตามเกาะต่าง ๆ เป็นคู่ ๆ  ผู้ชายกลายเป็นนก  ผู้หญิงกลายเป็นปลา  สร้างเกาะแต่ละเกาะจนเจริญรุ่งเรือง  มีลูกหลายมากมาย  มีเพียงบุตรสาวคนสุดท้ายที่ไม่มีคู่  นางไปยังเกาะปีศาจ  และกลายเป็นงูสีขาว

นางเป็นทั้งงูบกและงูทะเล  สืบทอดทั้งโลหิตของมังกรทะเลและมังกรป่า  แต่เชื่อกันว่านางมีพลังอำนาจของมังกรท้องฟ้าเช่นกัน  จึงมีอำนาจมากและมีผิวสีขาวเหมือนก้อนเมฆ  นางให้กำเนิดหญิงอีกสิบสองคนเป็นบริวารของตน  ก่อนนี้บนเกาะปีศาจจึงมีแต่นักบวชหญิงที่นับถือมังกรฟ้า   อำนาจของนางงูขาวสืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น  พวกนางไม่แต่งงาน  เพียงจับคู่กับผู้ชายให้ตั้งครรภ์  หากเป็นลูกสาวก็นำกลับเกาะ  หากเป็นผู้ชายก็ยกให้บิดา  เชื่อกันว่าไม่ว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง  บุตรธิดาของพวกนางงูขาวล้วนมีอำนาจ   อำนาจนั้นสืบทอดกันมาจนถึงวันที่จ้าวเกาะลาตาก่อเรื่องร้ายจนเกาะปีศาจพินาศไป   แต่ก็ยังเชื่อกันว่าอำนาจยังสืบทอดอยู่ในหมู่เกาะ  นานครั้งก็มีคนที่มีเชื้อสายของพวกนางเกิดมาเช่นกัน

"เพราะอย่างนั้น  คนสิปาจึงเห็นว่าคนมีสีไม่เลวร้ายอะไร" คนเล่าเรื่องบอกเกจในที่สุด "ที่จริงหากเจ้าเป็นคนที่นี่  ข้าอาจจะรีบยกลูกสาวให้  แต่เป็นคนโคแรนนิอิด  ข้ากลัวจะต่างกันเกินไป  ลูกข้าไปอยู่ที่นั่นจะลำบากมาก"

เกจไม่ได้ตั้งรับหรือปฏิเสธความเห็นนั้น   เขาไม่ได้บอกคนเล่าเช่นกันว่าราชินีของเขาเองก็ไม่มีสี   และนางก็เป็นงูขาว   เขาคิดว่าทั้งสองเผ่าอยู่ห่างไกล  ความคล้ายคลึงเป็นแต่ความบังเอิญ   ถึงอย่างนั้น เรื่องเล่าก็ยังติดอยู่ในใจ  สิปามีตำนานมากมาย   เพราะเป็นเกาะตั้งต้นของสิวากับปารัง

เกจเดินต่อไป   ครั้นแล้วเขาก็ชะงักเท้า  แสงสว่างหนึ่งวาบผ่านแปลงนาเหมือนดาวตก  ตัดข้ามฟ้าปลาบ  ก่อนจะเลือนจางหายไป

ชายหนุ่มยืนงงอยู่ชั่วขณะ  กะพริบตา  ครั้นแล้วก็เร่งปีนลงตามคันนาไปดู

...

จากคุณ : ลวิตร์
เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 23:23:22




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com