23. ลูกไม้ของคาชา (ครึ่งหลัง)
พบกับความประหลาดใจงั้นหรือ? รามิตนึกทวนประโยคของคาชา ขณะที่เขากำลังนั่งห้อยขาอยู่ในตอนหลังของเกวียนที่เต็มไปด้วยสินค้าและเทียมด้วยม้าพ่วงพีจำนวนสองตัว แม้ฐานะของคาชาในแดนนี้คือเจ้าของโรงปักษาเสริวาตที่มีนภบาลในสังกัดมากที่สุดโรงหนึ่ง หากตอนนี้คาชากลับเลือกที่จะออกเดินทางโดยใช้ทางถนนด้วยเกวียนแสนธรรมดา
รามิตรู้ดีว่าเหตุผลหนึ่งในการที่คาชาเลือกที่จะใช้การเดินทางแสนเชื่องช้าเช่นนี้เพราะในกองเกวียนนั้นต้องบรรทุกตาเดียวที่ยังบินไม่ได้กลับไปที่ปักษาคารด้วย ในขณะที่ร่างไร้วิญญาณของเจ้าของเดิมของมันได้มอบแก่วิหารในเมืองเพื่อชำระวิญญาณคืนแก่มหาเทพแห่งชั้นสวรรค์เบื้องบน
การยอมเสียเวลาและทนลำบากเช่นนี้เป็นสิ่งที่รามิตนึกฉงนในการกระทำของฝ่ายตรงข้าม แน่ละ...ข้าประหลาดใจมากทีเดียว รามิตนึกถึงเหตุการณ์หลังจากที่เขาตกลงยอมเป็นเจ้าของตาเดียว
วันต่อมารามิตหรือในนามอารมันก็ถูกแนะนำง่ายๆ ว่าเขาคือหลานชายบุญธรรม ผู้มีเกียรติ ของชาคริตเจ้าของโรงนกส่งสาส์นเสริวาต เรื่องนี้ทำให้อุมาเข้าใจว่าการที่เด็กหนุ่มดูคุ้นเคยกับเหล่าวิหคเทพไม่ว่าจะเป็นสดายุหรือพญาคฤธรเพราะแท้จริงแล้วมีญาติเป็นเจ้าของโรงปักษานั่นเอง
ส่วนโตมรก็มีอาการดีขึ้น มีแต่พิทยาเท่านั้นที่รามิตไม่เห็นอีกเลยตั้งแต่วันเกิดเหตุ อุมาจึงบอกว่าพิทยาถูกลงโทษจากสภาตุลาการเพราะลอบทำร้ายอารมัน ด้วยสาเหตุว่าอุมาพบกระบองของพิทยาหล่นกลิ้งอยู่ในโพรงใต้ดินหลังจากที่เธอและหน่วยลาดตระเวนกลับไปสำรวจที่เกิดเหตุอีกครั้ง เจ้าตัวจึงแก้ตัวไม่ขึ้นว่าเหตุใดอาวุธของตนจึงได้หล่นไปอยู่ในถ้ำได้ แม้รามิตจะบอกว่าเขาไม่ได้คิดติดใจอะไรเลย แต่อุมาก็ยืนกรานว่าต้องทำโทษเพราะพิทยาทำผิด
จากผลงานการจับสตกะนี่เองนี้ทำให้โตมรเลือกอุมาเป็นหัวหน้ามือปราบชุดใหม่
รามิตเงยหน้าขึ้นไปมองยังท้องฟ้าเบื้องบน จากนั้นเขาจึงสังเกตเห็นจุดสีดำเคลื่อนเข้ามาใกล้จนเห็นเป็นรูปร่าง เขาจึงร้องบอกกับสารถีที่บังคับม้าอยู่ตอนหน้าของเกวียนว่าท่านอุมากำลังบินตรงเข้ามาให้หยุดรอก่อน คาชาเอี้ยวตัวมาดูเพียงครู่ จึงกระตุกสายบังเหียนม้าเพื่อชะลอความเร็ว
จากนั้นไม่นานเมื่ออุมาเห็นว่าคนเบื้องล่างมองเห็นการมาของเธอแล้ว เธอจึงบังคับพญาแร้งร่อนลงบนถนนห่างไประยะหนึ่ง จากนั้นจึงเดินตรงมาที่เกวียนของอารมัน คาชาออกคำสั่งให้ทั้งกองเดินทางทางทั้งหมดหยุดพักชั่วคราว ปีนลงมาจากที่นั่งบังคับแล้วเอ่ยถามอย่างสุภาพว่ามีอะไรให้ข้ารับใช้หรือ? ท่าทางของเขาไม่เหมือนนายโจรหรือคาชาพ่อค้ามังกรเลยสักนิด
ไม่ใช่ท่านหรอก อุมาส่ายหน้า แล้วหันมาทางรามิต เมื่อวานยุ่งๆ ก็เลยยังไม่มีโอกาสได้บอกลากัน เมื่อเช้าข้าไปหาเจ้าที่โรงพักแรม แต่ปรากฏว่าพวกเจ้าออกเดินทางกันมาแล้ว โชคดีที่ยังตามทัน เมื่อคืนหน่วยมือปราบกับตุลาการประจำเมืองลงมติกันว่าจะให้รางวัลแก่เจ้าที่ช่วยคดีในครั้งนี้
นั่นเป็นเพียงความบังเอิญ และข้าไม่ได้ทำอะไรมากนักหรอกขอรับ รามิตส่ายศีรษะ
อุมามองด้วยสายตาตำหนิ เจ้าพูดอย่างนี้ทำให้พวกเรายิ่งรู้สึกผิดนะ ดังนั้นก่อนที่เด็กหนุ่มจะกล่าวปฎิเสธออกมาอีก เธอจึงส่งกล่องไม้ขนาดเล็กใบหนึ่งแก่อารมัน และจะยิ่งรู้สึกผิดกว่านี้อีกหากเจ้าไม่รับมันไว้
เมื่อได้ยินอีกฝ่ายกล่าวเช่นนั้น รามิตจึงจำต้องรับกล่องไม้นั้นมาและเปิดออกดู ภายในบรรจุเหรียญรูปกงจักรสมดุลอยูในตราวงกลม เขาจำได้ทันทีว่ามันคือเครื่องหมายและตราสัญลักษณ์ของมือปราบเทวะ แต่รามิตจำได้ว่าส่วนใหญ่ตราของมือปราบโดยทั่วไปจะลงสีเขียวหยกแต่ตราที่อยู่ในมือของเขากลับเป็นสีแดง
หน่วยมือปราบกับสภาตุลาการประจำเมืองมอบตรานี้ให้เจ้าเก็บไว้ เผื่อว่าวันหน้าหากเจ้ามีเรื่องเดือดร้อนใดๆ และไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม จะสามารถขอความช่วยเหลือจากเหล่ามือปราบทุกระดับชั้นตามแต่ต้องการ
หากรามิตรีบเก็บตรามือปราบใส่กล่องแล้วส่งคืนให้อุมาทันที สิ่งของสำคัญเช่นนี้ ข้ารับไว้ไม่ได้หรอกขอรับ
เวลาผู้หญิงให้ของอย่าปฏิเสธสิ มันเสียมารยาท จู่ๆ คาชาก็ยื่นหน้าเข้ามาแทรกระหว่างกลาง และไม่พูดเปล่า ฉวยกล่องไม้ที่บรรจุตราล้ำค่าจากมือรามิตแล้วเอามาถือไว้เอง
แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 54 23:55:05
จากคุณ |
:
run saya
|
เขียนเมื่อ |
:
1 ต.ค. 54 23:27:45
|
|
|
|