สบตาดาวบนฟ้ายามค่ำคืน ลมพัดผืนน้ำเย็นระลอกไหว ภาพวันเก่าย้อนมาจากแดนไกล กว่าจะได้สุขใจช่างยากเย็น เก็บก้อนกรวดก้อนทรายเอามานับ เอามาจับกำไว้ไม่ให้เห็น แต่ก้อนกรวดยังแข็งอย่างเคยเป็น ความรักเช่นกรวดนั้นอยู่ในมือ กำก็เจ็บคลายก็ตกมือว่างเปล่า ซ่อนตาเขาและตาเรามองไม่เห็น แต่รับรู้ด้วยสัมผัสยังเยียบเย็น ว่ายังเป็นยังมีอยู่ดังเดิม กำไว้นานจนหินหม่นหมดคมบาด มือดังชาดได้ล้างจนสร่างใส หมดเรื่องแรงเรื่องร้ายทำลายใจ คือเวลาฟ้าให้เรารักกัน ผ้าม่านขาวสะบัดอยู่ไหวๆ ปลิวแกว่งไกวตามลมพัดผลัดกับผม ยังไม่ปลดผ้าขาวปล่อยโต้ลม อบอุ่นแม้ไม่ห่มผ้าวิวาห์ นาฬิกาแขวนข้างกลางผนัง หันไปฟังเสียงออดอ้อนล้อคำหวาน ตีบอกเตือนเวลาว่าสิบยาม ดวงใจตามอย่าโต้ลมยามค่ำคืน แม้ดาวสวยน้ำเย็นสะท้อนจันทร์ ภาพยังสั่นกระเพื่อมบนน้ำใส แค่คนนึงยังมั่นคงยิ่งสิ่งใด ราตรีใดกระซิบอ้อนไม่เปลี่ยนแปร
แบบนี้พอไหวมั้ยคะ คำอาจจะโบราณเข้าใจยากไป สไตล์กลอนเรามันเข้าใจยากอ่ะค่ะ
จากคุณ |
:
jox6n
|
เขียนเมื่อ |
:
3 ต.ค. 54 23:22:24
|
|
|
|