Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เพียงเพื่อนใจ บทที่ 8 กล่อมแก้ว ติดต่อทีมงาน

บทที่ 8 กล่อมแก้ว

เย็นวันนี้กล่อมแก้วได้ช่อทิพย์เดินกลับบ้านเป็นเพื่อนด้วย แต่เมื่อก้าวขาพ้นเขตวิทยาลัยไปได้ไม่กี่ก้าว ทั้งสองก็ต้องพบกับนักศึกษาหญิงกลุ่มใหญ่ที่ยืนขวางหน้าไว้ แต่ละคนจ้องมองพวกเธอด้วยสายตาคมกริบ ช่อทิพย์จำได้ดีว่าหญิงสาวเหล่านี้คือพวกเดียวกับที่รุมทำร้ายเธอเมื่อคราวก่อน

“เป็นอะไรไปทิพย์” กล่อมแก้วหันมาถามคนข้างกายเมื่ออีกฝ่ายหยุดกึกกระทันหัน สายตาที่จ้องมองกลุ่มนักศึกษาตรงหน้าด้วยความหวั่นเกรงทำให้กล่อมแก้วพอเดาออก “พวกนี้ใช่มั้ยที่ทำร้ายเธอเมื่อคราวที่แล้วน่ะ”

“ฉันว่าเราเดินเลี่ยงไปอีกทางอื่นดีกว่านะแก้ว” ช่อทิพย์เสนอเสียงค่อยก่อนที่กล่อมแก้วจะเชิดหน้าสูง

“ไม่...เป็นไงเป็นกัน ถ้ามันกล้าทำเราต่อหน้าสาธารณะชนก็ลองดู” พูดจบก็คว้ามือช่อทิพย์มาจับไว้แน่น สาวเท้าเดินตรงไปอย่างไม่กริ่งเกรง หนึ่งในกลุ่มนักศึกษาสาวอันธพาลเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้ก่อนตรงดิ่งเข้าไปหาเช่นกัน

“นี่เธอ...” กล่อมแก้วถูกอีกฝ่ายที่ตรงเข้ามาประชิดผลักร่างให้ถอยห่างออกไปอย่างแรง กลุ่มนักศึกษาสาวต่างเข้าโอบล้อมทั้งสองไว้

“จะทำอะไรน่ะ...” ช่อทิพย์ถามเสียงสั่นขณะประคองร่างผู้เป็นเพื่อนไว้ ผู้เป็นหัวโจกเห็นสีหน้าตื่นกลัวของทั้งสองก็ต้องแสยะยิ้ม กำลังจะกระชากร่างกล่อมแก้วออกมาตบสั่งสอนแต่เสียงแหบห้าวที่โห่ร้องมาแต่ไกลก็ทำให้พวกเธอหยุดชะงักไปเสียก่อน กลุ่มนักศึกษาทั้งชายและหญิงร่วมสิบคนต่างกรูกันตรงมาหาสองสาวที่ถูกโอบล้อม เมื่อพวกอันธพาลเห็นท่าไม่ดีจึงรีบถอยหนีไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อกล่อมแก้วและช่อทิพย์เห็นกลุ่มนักศึกษาชมรมการแสดงแล้วก็ต้องถอนใจอย่างโล่งอก ส่วนใหญ่ชมรมนี้มักจะเป็นกลุ่มชายใจหญิงเกือบทั้งสิ้น ซูซี่ ผู้เป็นหัวหน้ากลุ่มเอ่ยทักสองสาวขึ้นอย่างเป็นห่วง

“เป็นอะไรรึเปล่าแก้ว ทิพย์” ร่างที่สูงเกือบหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซ็นติเมตรทำให้สองสาวต้องยกดวงหน้าขึ้นมอง อีกฝ่ายสวมชุดนักศึกษาหญิงรัดติ้วยิ่งกว่าเธอเสียอีก

“ไม่เป็นจ้ะ ขอบใจพวกเธอมากๆ เลยนะ” ช่อทิพย์ตอบอย่างโล่งใจ ส่งยิ้มขอบคุณให้กับเพื่อนๆ จากชมรมที่ณภัทร์สังกัดอยู่ เมื่อคุยกันได้สักพักซูซี่จึงเปิดปากถามเรื่องของประธานชมรมคนเก่งที่กำลังมีปัญหา

“นี่พวกเธอสองคนไม่รู้จริงๆ เหรอว่าไอ้ภัทร์มันหอบกระเป๋าเสื้อผ้าหนีออกจากบ้านมาได้สามวันแล้วนะ” ซูซี่กรีดเสียงจนน่าหมั่นไส้ ช่อทิพย์หันไปสบสายตากับกล่อมแก้วด้วยความตกใจ

“ไม่จ้ะ... แต่ก็แปลกใจตั้งแต่คราวงานวันเกิดยัยดาวแล้ว โทร.ไปมันก็ไม่รับสาย พอมาเรียนก็หาตัวยากยังกับอะไรดี สุดท้าย...ก็เกิดเรื่องขึ้นกับไอ้ภัทร์จริงๆ” กล่อมแก้วเล่าเสียงเอื่อย นึกเห็นใจกับเพื่อนสนิทหนุ่มไม่น้อยกับชะตากรรมที่ต้องเผชิญ

“แล้วนี่...ไอภัทร์พักอยู่ที่ไหน กับใครล่ะ?” ช่อทิพย์ผู้เป็นห่วงเพื่อนสนิทไม่แพ้กันเอ่ยถาม ซูซี่ถอนใจยาวก่อนบอก

“ก็พักอยู่กับครูบงกชน่ะจ้ะ ดีนะที่ครูแกเผอิญขับรถผ่านตอนที่ไอ้ภัทร์กำลังหอบกระเป๋าเสื้อผ้าเดินโซซัดโซเซอยู่ข้างถนนพอดี ไม่งั้นก็ไม่รู้ว่าชีวิตมันจะเป็นยังไง...” พูดจบก็ถอนหายใจอีกครั้ง “เออ เดี๋ยวพวกฉันต้องขอตัวก่อนนะ พอดีนัดซ้อมละครที่จะแข่งอีกสองเดือนหน้าน่ะ” ซูซี่กับผองเพื่อนบอกลาก่อนเดินกลับเข้าวิทยาลัยไป


ณภายืนรอหน้าเรือนทรงไทยหลังงามอยู่พักหนึ่งกว่าจะมีคนออกมาเปิดประตูให้ เด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับผู้เป็นน้องชายเชื้อเชิญให้หญิงสาวเข้าไปนั่งยังกลางเรือนไม้หลังงามก่อนหาน้ำท่ามาต้อนรับ

“นี่ภัทร์ยังไม่กลับอีกเหรอจ้ะ” ภายหลังจากแนะนำตนเองว่าคือพี่สาวของณภัทร์ ณภาจึงรีบเรียกหาผู้เป็นน้องด้วยความห่วงหา

“ยังครับ เห็นน้าบงกชว่าจะกลับมาพร้อมกัน” เด็กหนุ่มบอกก่อนยิ้มเรียบ สองตาจ้องมองดวงหน้าของหญิงวัยย่างสามสิบที่เต็มไปด้วยความกังวล นับแต่รู้ว่าน้องชายหนีออกจากบ้านไปทั้งตนและมารดาต่างก็นอนไม่หลับแทบทุกคืน เฝ้าห่วงว่าณภัทร์จะอยู่กินอย่างไร จะสุขสบายเหมือนอยู่ที่บ้านตนหรือไม่

“ถ้าอย่างนั้นพี่ไม่รบกวนแล้วจ้ะ ขอตัวกลับก่อนดีกว่าเพราะวันนี้ต้องพาคุณแม่ไปทำธุระในตัวเมืองด้วย” ณภาบอกลาก่อนที่คพเพลิงจะยกกายขึ้น เดินไปส่งแขกและยกมือไหว้ทำความเคารพ เมื่อณภากลับไปได้ครู่ใหญ่รถยนต์ของนางบงกชก็ค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาตามถนนเล็กๆ ที่มุ่งสู่เรือนทรงไทยหลังงาม

“ภัทร์หนีออกจากบ้านงั้นเหรอ?” กิ่งดาวลากเสียงค้างอย่างตกใจเมื่อช่อทิพย์และกล่อมแก้วบอกเรื่องนี้แก่เธอ หญิงสาวละสายตาจากการบ้านตรงหน้าก่อนเพ่งมองช่อทิพย์และกล่อมแก้วสลับไปมา

“ใช่...ตอนนี้พักอยู่กับอาจารย์บงกช” กล่อมแก้วบอกเสียงเบา หลายวันมานี้พวกเธอทั้งสามต่างก็ไม่ได้ข่าวคราวเพื่อนหนุ่มคนนี้เลย โทร.ไปก็ไม่ยอมรับสาย ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องขึ้นจนได้

ช่อทิพย์เองก็ต้องทอดถอนใจกับเรื่องของณภัทร์ อีกฝ่ายก็ช่างเด็ดเดี่ยวกล้าหาญเสียจริง แต่เธอก็รับรู้ว่าชายหนุ่มมีปัญหากับบิดาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว มันคงมาถึงจุดที่ความอดทนของณภัทร์หมดลงจริงๆ นั่นแหละ...

ขณะที่ทั้งกลุ่มกำลังเคร่งเครียดกันอยู่นั้นเสียงโทรศัพท์ของกิ่งดาวก็ดังขึ้นทำลายความเงียบให้จางหาย หญิงสาวก้มลงมองเครื่องมือสื่อสารก่อนกดรับสาย

“สวัสดีครับดาว...ถึงบ้านรึยังครับ?” ปลายสายเอ่ยถามเสียงหวาน ทั้งกล่อมแก้วและช่อทิพย์คงพอเดาออกว่ากิ่งดาวกำลังคุยอยู่กับใคร
“ถึงแล้ว...มีอะไรรึเปล่าเทพ”

“วันศุกร์นี้ผมว่าจะชวนดาวมาทานข้าวเย็นที่บ้านน่ะครับ แล้วก็ไปลอยกระทงด้วยกัน...”

“วันศุกร์นี้เหรอ?” กิ่งดาวลากเสียง เบิกตามองเพื่อนอีกสองคนที่นั่งใกล้ๆ
“ศุกร์นี้ที่หมู่บ้านเราจัดงานวันลอยกระทงใช่มั้ย?” สองสาวต่างพยักหน้าพร้อมกัน สงสัยว่าเธอคงไปตามนัดของเทพพิพิธไม่ได้เสียแล้ว

“ฉันต้องอยู่ช่วยพวกเพื่อนๆ จัดงานวันลอยกระทงน่ะเทพ ปีนี้แม่ว่าจะส่งกอบกุลเข้าประกวดนางนพมาศด้วย...”

“เหรอครับ?” น้ำเสียงของชายหนุ่มแผ่วลง แต่เมื่อได้ยินคำชวนของกิ่งดาวก็ต้องทำให้เขาคลายยิ้มออกมาในที่สุด

“นายก็มาลอยกระทงที่บ้านฉันสิ...” คำชวนที่ได้ยินนั้นทำให้กล่อมแก้วต้องเสเบือนหน้าหนีไปอีกทาง

“ได้เลยครับ เดี๋ยวศุกร์นี้หนึ่งทุ่มตรงผมจะไปหาดาวที่บ้านนะ”

“จ้ะ...” กิ่งดาวกดวางสายพร้อมกับรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม


สุทธิดานั่งคิดอยู่นานโขก่อนจะโทร.ไปนัดชานนท์ให้ออกมาทานอาหารเย็นด้วยกันยังร้านหมูกระทะใกล้บ้าน วันนี้หลังจากซ้อมฟุตบอลเสร็จแล้วเขาก็รู้สึกหิวขึ้นมาพอดี จึงได้ตอบตกลงกับข้อเสนอของหญิงสาวไปในที่สุด

“อาทิตย์หน้าก็จะคัดแล้วเหรอ? เดี๋ยวฉันจะพาเพื่อนๆ ไปเชียร์นะ” หญิงสาวจุดยิ้มขณะที่ฝ่ายตรงข้ามเอาแต่บุ้ยๆ เคี้ยวอาหารในปากก่อนพยักหน้าหงึกหงัก ยามที่เขาอยู่กับเธอมันเหมือนกลายเป็นอีกคนหนึ่ง แตกต่างกับตอนที่อยู่กับผู้หญิงคนอื่นๆ ซึ่งเขาจะกลายเป็นเจ้าชายผู้แสนสุภาพ อ่อนน้อม
สุทธิดาคีบหมูชิ้นใหญ่ที่สุกพอดีใส่จานชานนท์ก่อนเม้มปากอ้ำอึ้ง
“นนท์...ฉันอยากถามอะไรนายอย่างหนึ่งน่ะ” ดวงตาเรียวเล็กของชานนท์เบิกขึ้นมองแวบหนึ่งก่อนคีบหมูชิ้นใหญ่จุ่มน้ำจิ้มและยกเข้าปาก

“คือ...นายคิดยังไงกับฉันเหรอ?” คนที่กำลังเคี้ยวเนื้อหมูตุ้ยๆ ค่อยบดอาหารในปากให้ช้าลงก่อนกลืนลงคอไปอย่างฝืดๆ รูปหน้าขาวสะอาดเงยขึ้นมองหญิงสาวที่นั่งจ้องเขาเขม็ง

ชานนท์คลี่ยิ้ม นั่นทำให้สุทธิดาต้องนั่งมองเขาอย่างใจเต้น... “ก็เพื่อนไง...หรือเธอคิดว่าอะไร?” จบคำก็หัวเราะเสียงพลิ้วก่อนคีบผักที่กำลังสุกพอเหมาะใส่จานหญิงสาว

“แค่เพื่อนเหรอ?...ให้ฉันได้เป็นเพื่อนใจของนายได้มั้ย?” น้ำเสียงอาวรณ์ที่ได้ยินนั้นทำให้ชานนท์หยุดกึกไปอีกครั้ง ชายหนุ่มยกแก้วน้ำขึ้นดื่มก่อนวางมันลงและจ้องหน้าสุทธิดาแน่นิ่ง

“เพื่อนที่เอาไว้ปรึกษาปัญหาหัวใจน่ะเหรอ? เธอก็เป็นมาโดยตลอดนี่เจี๊ยบ...ฉันคบกับใครเธอก็รู้ ฉันไม่เคยปิดเธอหรอก ก็เราสองคนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วนี่”

“งั้นเหรอชานนท์” น้ำเสียงของสุทธิดาอ่อนลงด้วยความผิดหวัง

“ใช่... รีบๆ กินเร็วเข้าเดี๋ยวฉันต้องรีบไปไปเอาผ้าสไบจากคุณย่าไปตัดที่ร้านอีก”

“ตัดชุดนางรำใหม่เหรอ?”

“ก็ช่อทิพย์ไงล่ะ ฉันต้องรีบกลับไปรับทิพย์เพื่อพาไปวัดตัวจะได้ตัดชุดกัน”

“ยังไม่ได้ให้ทิพย์ไปรำให้คุณย่าดูเลยนะ จะตัดชุดให้กันแล้วเหรอ?” สุทธิดาลากเสียงถามก่อนที่ชานนท์จะยกยิ้มมาดมั่น

“ใช่...ฉันเชื่อว่าคุณย่าจะต้องประทับใจในตัวช่อทิพย์แน่”


กิ่งดาวออกมาเก็บดอกบัวเพื่อนำไปตกแต่งกระทงตามคำสั่งของกลอยใจผู้เป็นพี่สาว ชาวไร่ชาวนาต่างก็ทยอยกันกลับเข้าหมู่บ้านเพื่อไปตกแต่งกระทงของตน บ้างก็ไปช่วยกันตกแต่งเวทีที่วัดซึ่งจะใช้เป็นสถานที่จัดงานประกวดนางนพมาศในค่ำคืนนี้

รอบบึงน้ำท้ายหมู่บ้านในยามนี้จึงปลอดผู้คน เมื่อเหลียวไปเห็นกลุ่มดอกบัวขาวที่ขึ้นอยู่ริมหนองน้ำหญิงสาวก็รีบตรงดิ่งไปทันที ช่วงน้ำที่ลึกเพียงเข่าทำให้กิ่งดาวต้องย่ำลงไปเก็บเอาปัทมาโดยใช้มีดปลายแหลมเล่มเล็กตัดสายบัว เมื่อได้ครบตามจำนวนที่ต้องการร่างแบบบางจึงรีบก้าวขาขึ้นฝั่ง

แต่เมื่อเดินมาจวนจะถึงจักรยานคันเล็กที่ใช้ปั่นมานั้นร่างหนาของสุรเดชก็ปราดมาขวางในทันใด กิ่งดาวได้แต่ทอดมองอีกฝ่ายด้วยความสับสนระคนรำคาญใจที่เขายังตอแยเธอไม่ยอมเลิก

“หลีกไปนะ...” กิ่งดาวตวาดเสียงห้วนแต่ชายหนุ่มกลับไม่ถอยกายตามที่สั่ง มิหนำซ้ำเขาค่อยๆ สืบเท้าเข้ามาหาเธอ โครงหน้าคมเข้มนั้นคล้ายกำลังตกอยู่ในภวังค์ของบางอย่าง สองตาของเขาเอาแต่จ้องหน้ากิ่งดาวอย่างไม่วางตา

หญิงสาวก้าวถอยหลังไปอย่างไม่รู้ตัว ก่อนที่ทั้งร่างจะสะดุดหินจนล้มคว่ำลง ดอกบัวและมีดเล่มเล็กที่ถืออยู่หลุดมือกระเด็นกระดอนลงพื้น สุรเดชตรงปรี่เข้าคร่อมร่างนั้นไว้ด้วยสายตาที่แสดงถึงความโหยหาสุดจะทน
มือหนาสองข้างจับข้อมือหญิงสาวไว้แน่น ขึงราบเธอแนบกับพื้นหญ้าก่อนโน้มใบหน้าลงซุกไซ้ซอกคอเนียนขาวอย่างบ้าคลั่งขาดสติ

เทพพิพิธมาหาหญิงสาวไวกว่ากำหนด เมื่อไม่พบร่างแบบบางเขาจึงไถ่ถามจากช่อทิพย์ที่ช่วยจัดกระทงสำหรับให้กอบกุลผู้เข้าประกวดนางนพมาศเอาไปแข่งในงาน

“เห็นว่าพี่ใจใช้ไห้ไปเก็บดอกบัวน่ะเทพ เดี๋ยวก็คงมาล่ะมั้งจ้ะ”

“แล้วทำไมพี่ใจถึงไม่ไปเป็นเพื่อนพี่ดาวล่ะคะ...” กอบกุลที่กำลังถูกเหล่าเพื่อนๆ รุมล้อมเพื่อตกแต่งใบหน้าและร่างกายให้นั้นเอียงคอถาม ช่อทิพย์มองซ้ายขวาแต่ก็ไม่พบร่างกลอยใจจึงอดแปลกใจไม่ได้

“แล้วหนองที่ว่านั่นอยู่ไหนเหรอจ้ะกุล” ชายหนุ่มเอ่ยถามผู้มีศักดิ์เป็นรุ่นน้องก่อนที่ช่อทิพย์จะตอบแทนเด็กสาว

“อยู่ถัดจากสวนยัยดาวไปหน่อยน่ะเทพ ว่าแต่...นายจะไปตามดาวเหรอ?” ช่อทิพย์ได้รับรอยยิ้มจากชายหนุ่มแทนคำตอบ เมื่อออกมาจากบ้านนายเจตต์ได้เขาก็รีบเดินดุ่มๆ ออกสู่ท้องนาที่หญิงสาวเคยพามาคราวที่แล้วทันทีแต่ทว่าเสียงร้องเรียกของใครบางคนก็ฉุดให้ร่างสูงต้องหันกลับมาเสียก่อน

“เทพพิพิธ...” กล่อมแก้วร้องเรียกชายหนุ่มสุดเสียง รีบสาวเท้าวิ่งมาหาเขาด้วยอาการเหนื่อยหอบ “พอดีมีคนรถกระบะคันหนึ่งดับอยู่กลางทางน่ะจ้ะ เทพช่วยไปดูให้หน่อยได้มั้ย เห็นว่าเขาต้องรีบไปรับลูกสาวในเมืองที่ไปแต่งตัวประกวดนางนพมาศน่ะ”  

“งั้นเหรอ?...” ชายหนุ่มว่าเสียงเบาก่อนที่อีกฝ่ายจะจุดยิ้ม จ้องมองเขาด้วยสายตาวิงวอน เทพพิพิธเอี้ยวตัวหันกลับไปมองท้องทุ่งเหลืองอร่ามอีกครั้งก่อนหันขวับมาหากล่อมแก้ว “ช่วยนำทางไปทีแก้ว”

เสื้อแขนกุดตัวบางที่สวมใส่ถูกมือหนาปลดจนหลุดออกจากร่าง เสื้อกล้ามสีขาวที่ปกปิดเผยให้เห็นเนื้อเนียนขาวของหญิงสาว กิ่งดาวใช้จังหวะที่สุรเดชปล่อยมือออกจากแขนตนผลักร่างหนาออกห่าง

“ได้โปรดเถอะนะเดช...” สองมือที่ยกขึ้นพนมไหว้ชายหนุ่มทำให้ร่างที่กำลังขาดสติหยุดกึกในฉับพลัน เสียงร่ำไห้และคราบน้ำตาของหญิงสาวทำให้เขารู้สึกเจ็บแปลบที่กลางหัวใจ นี่เขาทำอะไรลงไปเนี่ย...

สุรเดชโผเข้าหาเธอเพื่อหมายปลอบประโลมแต่หญิงสาวก็รีบถอยกายออกห่างด้วยความกลัว “ถึงนายจะได้ตัวฉันไป...แต่จะไม่มีวันได้หัวใจฉันไปแน่นอน”

“ดาว...” สุรเดชเรียกเธอเสียงแผ่วเบา สีหน้าและแววตาที่เคียดแค้นและเจ็บช้ำของหญิงสาวทำให้เขารู้สึกราวกับว่าตัวเองเป็นคนเลวที่ไม่ควรจะให้อภัย ที่เขาทำไปก็เพราะรักเธอ... เพราะรักเธอหมดหัวใจยังไงเล่า

“เกิดอะไรขึ้นน่ะดาว...” ช่อทิพย์ร้องถามเสียงหลงเมื่อเห็นสภาพตรงหน้าของหญิงสาว เท่าที่มองดูเธอก็เดาออกได้ไม่ยากว่าชายหนุ่มที่ยืนเด่นอยู่นั้นหมายจะบดขยี้ร่างแบบบางของกิ่งดาวเป็นแน่

ช่อทิพย์รีบวิ่งเข้ามาประคองร่างกิ่งดาวขึ้นก่อนหันไปมองสุรเดชตาขวาง “นี่นายคิดจะทำอะไรกิ่งดาว...นายทำอะไรกิ่งดาว !!!” หญิงสาวตะคอกถามชายหนุ่มที่ยืนนิ่งราวกับรูปปั้น หยดน้ำตาของหญิงสาวที่รินไหลอาบแก้มทำให้เขามิอาจทนดูได้อีกต่อไป


“กล่อมแก้ว...แก้ว !!!” เสียงร้องเรียกที่ฟังดูกระแทกกระทั้นนั้นทำให้กล่อมแก้วต้องหับขวับมาอย่างตกใจ เทพพิพิธที่ยืนปัดไม้ปัดมือหลังจากช่วยซ่อมรถให้ตามกล่อมแก้วขอร้องก็หันมาจ้องมองช่อทิพย์ที่ยืนเลือดขึ้นหน้าด้วยความสงสัย

“ฉันบอกให้เธอไปตามดาวไม่ใช่เหรอ? แต่ทำไมเธอถึงมายืนอยู่ตรงนี้” เมื่อเห็นอาการโกรธขึ้งของช่อทิพย์ก็ทำให้กล่อมแก้วใจเต้นถี่ขึ้นมา นี่แสดงว่า...นายสุรเดชคงจัดการกับกิ่งดาวเรียบร้อยไปแล้วแน่ๆ เลย และคนทั้งหมู่บ้านก็จะต้องรู้เรื่องนี้ในอีกไม่ช้า รวมทั้งเทพพิพิธก็จะได้รู้ว่ากิ่งดาวตกเป็นของสุรเดชแล้ว...

“มีอะไรเหรอทิพย์...” เทพพิพิธเดินเข้าไปหาหญิงสาวก่อนหรี่ตามอง ช่อทิพย์สูดหายใจลึกเข้าปอดก่อนเอ่ย

“เกิดเรื่องกับกิ่งดาว สุรเดช...สุรเดชพยายามข่มขืนกิ่งดาวที่ริมบึงท้ายหมู่บ้าน แต่ดีที่ฉันไปเจอเสียก่อน” คนพูดกัดฟันอย่างเจ็บใจ ไม่คิดไม่ฝันว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับเพื่อนรักเช่นกิ่งดาว ซ้ำเธอยังขึ้งโกรธให้กล่อมแก้วที่อุตส่าห์รับปากว่าจะไปตามกิ่งดาวให้แต่กลับมาอยู่กับเทพพิพิธเสียได้...ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บใจ

“จริงเหรอ? แล้วตอนนี้ดาวอยู่ไหน” ชายหนุ่มเอ่ยถามอย่างร้อนรน

“อยู่ที่บ้าน ตอนนี้ป้าทับทิมกับลุงเจตต์กำลังซักไซ้ไล่เรียงอยู่ ฉันเองก็ต้องรีบกลับไปบอกเรื่องที่ได้เห็นกับพวกผู้ใหญ่เหมือนกัน เรารีบไปกันเถอะ” จบคำช่อทิพย์ก็เอี้ยวตัวกลับก่อนก้าวฉับๆ กลับไปยังบ้านนายเจตต์พร้อมกับเทพพิพิธทันที

จากคุณ : ผีเสื้อสีดำ
เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 11:30:44




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com