ความคิดเห็นที่ 1 อ่านแล้วนึกถึงสไตล์ ของคุณสุจิตต์ วงษ์เทศ กับคุณขรรค์ชัย บุนปาน เลยครับ ออกลูกทุ่งๆหน่อย แตจริงใจดี จากคุณ : สามปอยหลวง เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 10:23:18

ความคิดเห็นที่ 2 มัวแต่ขลาดหวาดหวั่นอาวรณ์ไหว ครวญคำกลอนอ้อนไว้ใจหมองหมาง เก่งแต่ปากหากแต่ใจกลับแพ้ทาง เก่งทุกอย่างแต่แพ้นางน้องนางเดียว เช่นนี้แล้วทำฉันใดได้เคียงคู่ หรือจะดูชายอื่นยื่นมือเกี้ยว แล้วตาลอยหงอยเหงาเศร้าใจเซียว ทนเปล่าเปลี่ยวเดียวดายอีกต่อไป ยามนิทราข่มตากว่าจะหลับ พลิกกายกลับกระสับกระส่ายไหว หนาวกี่หนาวผ่านมาล้าฤทัย เพราะหัวใจขลาดนางจึงครางครวญ จากคุณ : เรียวรุ้ง เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 14:18:10

ความคิดเห็นที่ 3 แม้อยู่ใกล้หากไยดูไกลห่าง เหม่อมองนางคราใดให้กำสรวล รอเมื่อไรจะได้เคียงใกล้นวล เฝ้ารัญจวนม้วนอาย.....ในนงคราญ หวังนวลน้องเห็นในใจของพี่ มอบฤดีมาให้ใจฝันหวาน จะรอเจ้าทรามวัยไปชั่วกาล รอดวงมาลย์...เข้าใจ...ในรักจริง... หุ...หุ....มาต่อกลอนด้วยค่ะ....เขียนต่อจากคุณรุ้งอ่ะ..... เป็นประเพณี..ที่จะมีขนมมาฝากท่านเจ้าของกระทู้ด้วยจ้า... จากคุณ : กาปอมซ่า เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 19:41:23

ความคิดเห็นที่ 4 จะเอื้อนเอ่ยแต่ละคำแสนลำบาก ใจคึกอยากเกี้ยวพาจองตาหมาย พอเจอหน้าความกล้ามาละลาย เสือสิ้นลายหมอบสยบไม่สบตา มันขัดเขินเกินขลาดอนาถใจ มันร้อนรุ่มทรวงในเป็นหนักหนา เขกกระโหลกตัวเองจนด้านชา แสนระอาพลั้งพลาดเพราะขลาดนาง จากคุณ : ลำน้ำ C เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 00:36:26

ความคิดเห็นที่ 5 ปมหวั่นหวาดขลาดหญิงถึงวิ่งหนี ลองพัดวีพันธุ์สีดอต่อกษัย ส่งสายตาไมตรีชี้ความนัย ระเริงวัยพิศสมมาตรกลขลาดนาง พาดกอดก่ายหมอนข้างแสร้งอ้างว่า ตืดมือมาจากวงเหล้าเมาไม่สร่าง ทุกมิติแปลกตาเมื่อฟ้าสาง หมอนข้างทางรสนิยมคลายปมได้ จากคุณ : ลุงชิกง เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 08:59:28

ความคิดเห็นที่ 6 เพิ่งเคยเห็นคุณคมฯ แต่งกลอน รีบแวะเข้ามาทัก และหาคู่มาให้ เรือคู่นะคะ ไม่ใช่เนื้อคู่ อิอิ จากคุณ : สีน้ำฟ้า เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 13:41:52