 |
S ลืมตาอีกครั้งนอกหน้าต่างก็กลายเป็นต้นไม้ใหญ่ และเสาไฟฟ้าที่กำลังเคลื่อนที่ไหลไปด้านหลังอย่างสม่ำเสมอ แดดทอแสงแทงทะลุยอดไม้มาถึงกระจกดำข้างตัวเขา S พลิกตัวหันมามองทศวรรษ โครงหน้าด้านข้างของเขาคมสัน เขาดูดีตั้งแต่สมัยเรียนไฮสกูลที่บอสตัน ไม่มีสาวไหนไม่ตกหลุมรักหนุ่มเอเชียคนนี้ เขานักกีฬาของโรงเรียนชาวเอเชียคนเดียวที่โด่งดังมากเท่ากับนักเรียนอเมริกันรูปงามคนอื่น ในตู้เก็บของเขามักเต็มไปด้วยดอกไม้ ชอคโกเลท และจดหมายรักจากสาวๆ แต่อนิจาหล่อนไม่มีทางได้รู้เลยว่าหนุ่มเข้มคนนี้กลับไม่มีหัวใจสำหรับหญิงใด นอกจากเพื่อนสนิทของตัวเอง S หลับตาลงอย่างอ่อนใจ เขาอยากทำใจมอบกายและใจให้ทศวรรษได้เร็วๆ ทว่านอกจากมันจะยังไม่ได้ผลในเร็ววันแล้ว เมื่อสองเดือนเขายังทำเรื่องที่ไม่กล้าบอกทศวรรษได้อีก "เอ้อ ของที่ให้ซื้อล่ะ" S โพล่งออกมา ทศวรรษสะดุ้งด้วยว่ากำลังมองทางเพลิน "อะไรวะ ตกใจหมด" "ขอๆๆ ซื้อมาให้ไม่ใช่" S แบมือ ทศวรรษหยิบถุงผ้าที่มีตราในกระเป๋าเสื้อสูทยื่นให้ S รับแล้วเปิดดู เขายิ้มออกมาอย่างถูกใจ "ขอบคุณ" S ยื่นริมฝีปากไปแตะใบหน้าของทศวรรษ แล้วเอนศีรษะซบไหล่ของเขา
"มีความสุขไหม" S หลับตา "อื้ม" ทศวรรษพยักหน้าแรง**aisen , k
หลังจากส่ง S ทศวรรษก็เข้าดูงานที่โครงการ ตรวจงาน เข้าประชุมแล้วจึงกลับเข้าออฟฟิศ เลขารายงานว่าวุฒิมารอพบ หล่อนให้รออยู่ที่ห้องรับแขก ทศวรรษเปิดประตูห้องรับแขกเข้าไปพร้อมเลขา วุฒิยืนขึ้นค้อมตัวนิดหน่อย ทศวรรษก้าวเข้าไปที่โซฟาฝั่งตรงข้ามพร้อมทั้งผายมือเชิญให้นั่ง จากนั้นก็สั่งให้เลขาไปจัดการเครื่องดื่มเมื่อเห็นแค่น้ำเปล่าตรงหน้าวุฒิ "คุณวุฒิดื่มอะไรดีคะ" เลขาหันมาวุฒิอย่างนอบน้อม "ขอเป็นกาแฟก็แล้วกันครับ" "ค่ะ"
"อ้อ ขอน้ำสมหนึ่งที่ด้วยครับ" "ได้ค่ะ" เลขายิ้มสุภาพค้อมตัวรับคำสั่งแล้วถอยออกจากห้อง ทศวรรษที่ได้ยินที่วุฒิสั่งก็ย่นคิ้วมอง "วันนี้พาน้องสาวมาด้วย" วุฒิไม่ทันพูดจบคำดี ประตูห้องก็เปิดออก สาวน้อยในชุดสีฟ้าสดใสเดินเข้ามานั่งข้างวุฒิ
"ยัยฟ้าชอบใส่สีฟ้าเหมือนเดิม" ทศวรรษทักทายกับหล่อนเป็นกันเอง เขารู้จักน้องวุฒิคนนี้มาตั้งแต่หล่อนยังเด็ก วุฒิยังคิดจะให้หล่อนแต่งงานกับ S หรือไม่ก็เขา เพราะสองพี่น้องไม่มีใครอีกแล้วเหลือกันอยู่แค่สองคน วุฒิคิดว่าหากสักวันที่เขาไม่อาจอยู่ดูแล้วน้องที่รักดั่งดวงใจคนนี้ได้อีก S และ ทศวรรษคือเพื่อนที่เขาไว้ใจมากที่สุด วันเวลาล่วงเลยมาจนบัดนี้ ทั้งเขาและS ต่างยังไม่มีทีท่าแน่ชัดกับวุฒิพี่ชายเด็กหญิงที่ชอบใส่สีฟ้าจนเป็นสาวในชุดสีฟ้าคนนี้เลย
"ไม่เจอกันตั้งหลายปี สวยผิดตาเลยนะ" ทศวรรษสานมือรองคางขณะมองสาวน้อยตรงหน้า หล่อนยิ้มตอบกลับมาก่อนจะหลบตาก้มหน้าทัดผมที่ใบหู ทศวรรษหันมาวุฒิที่พูดต่อ "เพิ่งกลับจากปารีสเมื่อสองวันก่อน ก็เลยพามาเยี่ยม แล้วก็เลยจะฝากฝังด้วยเพราะเราจะไปเชคน่ะ ไปตามซื้องานให้ลูกค้า"
"ไปเรียนด้านดีไซน์หรือศิลปะการแสดงน่ะ" ทศวรรษไม่ได้แม้แต่ปรายตามองวุฒิที่พูดกับเขา แต่จับตามองน้องสาวแทน "ดีไซน์ค่ะ แล้วก็ประกาศนียบัตรด้านศิลปะสมัยใหม่" "อย่างนี้ก็มาช่วยงานพี่ชายได้สบายเลย" "ค่ะ" "ว่าแต่"วุฒิเรียกความสนใจของทศวรรษ เขาหันไปตามเสียง "ที่เชคน่ะ นายมีภาพอะไรที่อยากได้ไหม? เราจะได้เอามาให้นายเลย" "อือออ ไม่มีนะ หนอยมาฝากน้องแล้วยังจะขายของอีกนายนี่มันพ่อค้าจริงๆ"
"โอเค งั้นเรารบกวนแค่นี้นะ นายจะได้ทำงานซะที" วุฒิยืดตัวลุกขึ้น ฟ้าลุกขึ้นตาม หล่อนมีรูปร่างดีและใบหน้าก็ทันสมัยตามพิมพ์นิยมของสาวที่มีรสนิยม "หวัดดีค่ะ พี่ทศ" ฟ้าพุ่มมือไหว้ทศวรรษ เขารับไหว้แล้วเดินออกไปส่งที่ประตู ฟ้าเดินนำออกไปส่วนวุฒิหยุดที่หน้าประตูเขาหันมาทศวรรษ หยุดมองครู่หนึ่งก่อนพูด
"นายคิดว่าจะเป็นอย่างไรหากฉันอยากให้ฟ้ากลับมาช่วยงานที่ร้าน อย่างไรมันก็ต้องเป็นของเขาสักวัน ถ้าเราไม่อยู่" "ก็ดี แต่คุยกันแล้วหรือยัง" "ก็คิดว่าหลังกลับจากเชคจะคุย แต่เราอยากให้นายกับ S ช่วยกันเกลี้ยกล่อมเขาด้วย เพราะที่ผ่านมาเขาไม่เคยชื่นชมพวกนายน้อยลงเลย นายคงจำได้ว่าเขาอยากเจ้าสาวของพวกนาย" "เด็กๆน่ะ" ทศวรรษยิ้มเจื่อน
"ไม่หรอกยัยคนนั้นน่ะ ยังถือความคิดนั้นอยู่ เขาถึงไปเรียนเมืองนอก ชุบตัวเองเป็นสาวฝรั่งเศส เรียนศิลปะเพื่อจะได้เข้ากับพวกนายได้" "แต่ฟ้าแต่งงานกับฉันสองคนไม่ได้หรอกนะ มันต้องมีใครที่หล่อนชอบพิเศษเป็นแรงบันดาลใจให้ทำแบบนั้นจริงๆ" "เรื่องนั้นฉันไม่รู้ใจน้องหรอก แต่สักวันหล่อนคงแสดงออกแน่นอน เราถึงต้องนายทั้งคู่ช่วยพูดโน้มน้าวเขาไง จะบอกให้ใครคนหนึ่งพูดก็ไม่ได้"
"เผื่อว่างั้นเหอะ" "ช่วงที่ฉันไม่อยู่คงให้ฟ้าไปดูร้านบ้างศึกษางานไว้ รุจน์คงช่วยได้มากเรื่องนี้ พูดถึงรุจน์ ฉันชอบเขานะ ขยันที่จะเรียนรู้งานต่อยอดตลอด ทำงานดี ซื่อสัตย์ ฉันเบาแรงได้เยอะเลย แถมได้ลูกค้าใหม่ๆเข้ามาอีกเพราะลูกค้าเก่าที่ชื่นชมมนุษย์สัมพันธ์ของเขาบอกต่อๆไป ขอบใจนะ"
"เรื่องอะไรวะ" "อย่าบอกว่าจำไม่ได้นะ ตอนที่เด็กคนนั้นเข้ามาสมัคร ฉันน่ะเกือบจะโยนใบสมัครทิ้งไปแล้วเพราะเพิ่งจบ แถมตกงานมาหลายเดือน เรื่องประสบการณ์ทำงานไม่ต้องพูดถึงเลย แต่นายกลับให้รับไว้ นายบอกว่าเราต้องให้โอกาสคน เขาอาจถูกปฏิเสธจากหลายที่แล้วก็ได้ ยังไม่มีใครให้โอกาสเขาพิสูจน์ศักยภาพของตัวเองเลย นายออกตัวรับประกันให้อีก หากรุจน์ไม่ได้เรื่องทำงานห่วย หนีงาน นายพร้อมจะจ่ายค่าเสียหายให้ฉัน 2 ล้านเชียวนะ ใจป้ำน่าดูขนาดนั้นแสดงว่านายเชื่อมั่นในตัวรุจน์ และถึงตอนนี้นายก็ยังเชื่อมั่นว่าเขาจะไปได้ดีกว่านี้"
จากคุณ |
:
vannessia
|
เขียนเมื่อ |
:
6 ต.ค. 54 18:48:52
|
|
|
|
 |