สุดท้ายกว่าเราจะ...กัน บทที่แปด-(เบาะแสครึ่งแรก )
|
 |
ตอนแรกสุด http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11069009/W11069009.html
ตอนที่แล้ว http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11155375/W11155375.html
บทที่แปด-เบาะแส(ครึ่งแรก)
วันรุ่งขึ้นยัยแก้วไม่มาเรียน ผมอยากจะถามเธอเกี่ยวกับเรื่องสร้อยคอซักหน่อย แต่วันนี้ตั้งแต่เช้าผมยังไม่เห็นเธอเลย น่าแปลกถึงยัยนั่นจะเป็นแบบนั้นก็เถอะ แต่เธอก็เป็นคนที่ตั้งใจเรียนมาก เรียกได้ว่า ถ้าฟ้าไม่ถล่มยังไงเธอก็ไม่ขาดเรียน ผมเปิดไล่หนังสือเรียนไปเรื่อยๆ เอ....เมื่อกี้อาจารย์สอนถึงไหนนะอ้อ...อาจารย์บอกให้ลองแก้โจทย์ข้อ3.1นี่นา ต้องรีบทำซะหน่อย เดี๋ยวเรียกถามแล้วจะตอบไม่ได้ ไม่นานนัก อาจารย์ก็เรียกผม เห็นไหมล่ะผมทายถูกซะด้วย นายอิสระข้อสามจุดหนึ่ง ตอบว่า ผมรีบลุกแล้วตอบอย่างมั่นใจ เอ่อ...เอ๊กซ์ เท่ากับ วายยกกำลังสองครับ เงียบดูเหมือนทั้งห้องมองผมเป็นตาเดียว อาจารย์ก็มองผมด้วยสายตาอึ้งๆ เอ่อ...ผิดหรือครับ ผมมองด้วยความสงสัย ครูคิดว่าคงไม่ผิดหรอกนะ แต่นี่เป็นวิชาประวัติศาตร์นะนักเรียน เธอขยับแว่นตาที่เลื่อนมาตรงปลายจมูก ตายโหง นี่ผมเหม่อจนไม่รู้ตัวเรอะ ว่าเปลี่ยนคลาสตั้งแต่เมื่อไหร่ อาจารย์ส่ายหัว....ก่อนจะตามด้วยเสียงหัวเราะของคนทั้งห้อง หลายๆคนคงสงสัยว่าทำไม ผมไม่ถามพี่บีเรื่องสร้อยคอ แต่มาถามกับยัยแก้ว คือเรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่าเมื่อวาน ผมพยามถาม พี่บีเกี่ยวกับเรื่องสร้อย แต่ก็ได้รับคำตอบแบบนี้
หลังเหตุการณ์ช็อคโลก เรามาถึงที่บ้านโดยที่พี่น้ำนิ่งมาส่งเรา ในรถมีแต่ความเงียบ โดยที่ไม่มีใครพูดอะไรกันซักคำ หลังจากที่รถคันนั้นจอดหน้าบ้าน ผมที่ลงจากรถเรียบร้อยแล้ว ก็หันมามองพี่สาวผมที่นั่งอยู่ในนั้นโดยไม่ยอมลง "พี่บีไม่ลงหรือไง" ผมถามเธอ
" รู้แล้ว แกเข้าบ้านไปก่อนเถอะ "
ผมได้ยินอย่างนั้น ก็เลยเดินเข้าบ้านไปก่อน จากนั้นเดินอ้อมมาแอบหลบหลังพุ่มไม้ แหมก็คนมันเป็นห่วง ไม่ได้อยากรู้อะไรมากมายซักหน่อย เอ๋ .....ทำไมมองผมด้วยสายตาที่ไม่เชื่อถือแบบนั้นกันล่ะครับ ... ....... ผมแอบอยู่พักหนึ่งยุงก็เริ่มกัด ทำไมไม่มีอะไรเกิดขึ้นกันล่ะเนี่ย แต่ก็ตบไม่ได้ เดี๋ยวสองคนนั้นรู้ตัว ทั้งสองนั่งอยู่เฉยในรถโดยไม่พูดอะไรกัน
"ฉันไปก่อนนะ" พี่บีเป็นฝ่ายที่ขยับตัวและพูดก่อน
""เดี๋ยว...ก่อนคือฉันเอ่อ...คือ... " พี่น้ำนิ่งจับมือพี่บี ก่อนจะมองไปยังใบหน้าพี่บี สีหน้าของเธอค่อยๆขึ้นสีระเรื่อ.....
ผมโน้มตัวมาข้างหน้าแบบว่าอารมณ์อยากรู้
แกร๊บ!! ตายล่ะ ผมเหยียบกิ่งไม้เข้า ทั้งสองเลยสะดุ้งและออกห่างจากกันทันที พี่บีรีบออกมาจากรถและเดินเข้าบ้านโดยไม่ฟังเสียงพี่น้ำนิ่งที่ร้องเรียก ก่อนเกาหัวตัวเองแล้วออกรถ
ชิ....ขัดใจจัง ( ทำไมรู้สึกว่า ตัวเองโรคจิตยังไงก็ไม่รู้แฮะ )
ช่างเถอะวันหน้ายังมี ผมเดินเข้าบ้านไปทางหลังบ้าน ก่อนจะพบพี่บีกำลังกินน้ำที่หน้าตู้เย็น จริงสิ ผมต้องถามเรื่องสร้อยคอ ภาพที่ผมเห็น คืออะไร ผมสังหรณ์ใจบางอย่างว่ามันต้องเกี่ยวกับสร้อยคอของน้ำอุ่นแน่ๆเลย และ สร้อยคอของพี่บีก็ด้วย
"พี่บี...ผมมีอะไรอยากจะถามหน่อย "
แค่ก!! เธอสำลักน้ำทันทีที่ได้ยิน "มีอะไร "
"คือผม...." ไม่ทันที่ผมจะถามเธอก็เดินหนีผม ทำเอาผมงงเป็นไก่ตาแตก พอผมเดินตามเธอไปก็ พบว่าเธอหายไปในห้องผม ว่าแต่จะหลบผม ทำไมไม่หลบในห้องตัวเอง สักพักผมก็ได้คำตอบ เธอออกมาพร้อมกับแมวสุดรักของผม ที่ได้รับเป็นของขวัญวันเกิด ปกติมันจะชอบนอนอยู่ห้องพี่เอ สงสัยพี่เอไม่ได้เปิดห้องเอาไว้ล่ะมั้งเนี่ย ดูหน้าตามันงัวเงียนิดหน่อย พร้อมกับมองพี่บีด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจ เธอถือปากกาเมจิกเอาไว้ในมือ ปลายปากจ่อไปที่ดวงตาของมัน
" พี่จะทำอะไร อุ๊ยโยว่ของผมน่ะ(ชื่อแมว)" แมวสีขาวปลอด มองหน้าเธออย่างไม่เข้าใจ ว่าผู้หญิงคนนี้จะทำอะไรมัน
" ฟังนะไอ้หมา เรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นแค่อุบัติเหตุ ที่พูดมานี่เข้าใจมั้ย "
"คือ ....." ผมจะบอกว่า ผมจะถามเรื่องสร้อยคอ ไม่ได้ถามเรื่องที่พี่กับพี่น้ำนิ่ง... เธอเอาปากกาเมจิกววงรอบดวงตาของมัน ทันทีที่ผมพูดจบ
อ๊า!!! อุ๊ยโยว่ของผม กลายเป็นนกฮูกไปข้างหนึ่งแล้ว
"ถ้าเกิดฉันได้ยิน แกพูดถึงเรื่องนี้อีกคำเดียว รับรอง แมวแกได้เป็นแฮรี่ พอตเตอร์แน่ "
" ใจเย็นก่อนนะครับ มีอะไรบอกกันได้ วางอาวุธก่อนเถอะ " ถ้ามีโทรโข่งอันหนึ่ง แล้วมีกองเชียร์เอ๊ย!! ไทยมุงอยู่ด้านหลังล่ะก็ ผมว่าใช่เลย ผมว่าผม เข้าใจความรู้สึกของตำรวจก็งานนี้ล่ะ
"เธอหลิ่วตาลงข้างหนึ่งก่อนจะจ่อปากกาลงไป เราจ้องตากัน ...... ผมพร้อมจะบุกชิงตัวประกันทุกเมื่อ ............... ท่ามกลางแรงกดดัน ในที่สุดผมก็พ่ายแพ้ "ก็ได้ ผมจะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก แลกกับการที่พี่ต้องเก็บกวาดห้องตัวเองให้เรียบร้อย "
"ฉันเก็บอยู่ทุกวัน "
ผมว่าจะเถียงว่า เก็บอยู่ทุกวัน หรือ รกทุกวันกันแน่(วะ) แต่คิดๆดูแล้ว ไม่เอาดีกว่า "เก็บให้เรียบร้อยกว่านี้ "
"ก็ได้ " ได้ผล เธอปล่อยตัวประกันออกมา
นี่ล่ะครับ เหตุผลที่ผมต้องมาถามกับยัยแก้ว เพราะรู้สึกว่าบรรดาพี่ๆของผมรวมทั้งน้ำอุ่น จะซื้อสร้อยคอมาจากร้านนี้
เข้าสู่ปัจจุบัน แอร์เนี่ยมันเย็นดีจริงๆนะ ตอนนี้ผมอยู่ในห้างสรรพสินค้า ที่ยัยแก้วเปิดร้านอยู่ อากาศร้อนดูจะมลายหายไป เมื่อเรามาอยู่สถานที่แห่งนี้ ไอ้ครั้นจะไปหาเธอที่บ้านก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน ว่าแต่ทำไมวันนี้คนเยอะจัง มือของผมกระทบหลังมือน้ำอุ่นโดยไม่ตั้งใจ บ้าเอ๊ย.....ใจเต้นอีกแล้ว ผมมองดูมือบอบบางที่แกว่งไปมาอยู่ด้านข้างผม จะจับดีไหมนะ คนเยอะกันเดี๋ยวหลงหรอก น้ำอุ่นเป็นน้องสาวแกนะ พี่ชายเขาไม่คิดแบบที่แกคิดอยู่หรอก สำนึกสองด้านของผมกำลังต่อต้านกันอย่างหนัก " น้ำอุ่นจะกินอะไรรึเปล่า " ผมเอ่ยถาม เมื่อเราเดินผ่านร้านไก่ทอดชื่อดัง
"ก็ดีเหมือนกันค่ะ น้ำอุ่นหิวแล้ว " เธอส่งยิ้มบางมาให้ผม ยิ้มที่ทำให้ความหนักใจห่างหายไป
ผมเดินเข้าไปจับจองที่นั่งริมหน้าต่าง ผมมองออกไปยังข้างนอกที่แสงแดดกำลังเริ่มอ่อนแรงลงทุกที ความมืดเริ่มคืบคลานมาเยือน แสงจากธรรมชาติเริ่มขาดหายไป ผมเฝ้ามองรถราที่วิ่งกันขวักไขว่ ผมเคยคิดเล่นๆ แสงดาวจากท้องฟ้าไม่ได้หายไปไหน มันถูกย้ายลงมายังพื้นดินต่างหาก
"ตัวเอง เราเลิกกันเถอะ " เสียงหวานใสจนผมอยากเห็นหน้าเจ้าตัวดังด้านหลังผม
"ท!!...ทำ..ทำไมล่ะ เค้าทำอะไรผิดเหรอ " น้ำเสียงตื่นตกใจไม่แพ้กันเอ่ยปากถาม
" เค้ารู้ว่าตัวเองกำลังฝืน ตัวเองกำลังคิดถึงใครคนหนึ่ง ที่.....ไม่ใช่เค้า " ความเศร้าสร้อยถูกส่งผ่านมา
" เค้าไม่ได้.... "
เสียงเลื่อนเก้าอี้ดังขึ้นมาทันที ทำให้ผมหันไปสนใจเล็กน้อย (จริงๆก็สนใจตั้งแต่แรกนั่นล่ะ) "พอเถอะ เค้าไม่อยากพูดอะไรอีกแล้ว เราเลิกกันเถอะ " ผมมองดูสาวสวยผมสีน้ำตาล กำลังเดินจากไป หน้าแบบนั้น หุ่นแบบนั้น คนนั้นมัน
"เฟย์เดี๋ยวก่อน " เสียงร้องเรียกจากอีกคนที่ฟังดูคุ้นๆหู ถ้านั่นใช่น้องเฟย์ดาวโรงเรียน งั้นอีกคนก็ต้อง... ผมหันไป ก็พบ แหมทำไมแทงหวยไม่ถูก(วะ)
" ยัยแก้ว"
ยัยนั่นสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงผม "ไอ้หมาแกมาได้ยังไง "
"ฉันมาเที่ยวกับน้ำอุ่น " ผมหันไปทางน้ำอุ่นแทนการบอก
"งั้นเหรอ..." เธอมองมาทางน้ำอุ่นด้วยแววตาที่ผมบอกไม่ถูก มันกึ่งโกรธ กึ่งโหยหา ดูท่าทางจะหึงแฮะยัยนี่ พึ่งเลิกกับแฟนไปไม่ถึงนาทีเนี่ยนะ
เธอบิดชายเสื้อไปมาก่อนจะพูด "ว่าแต่ แกไม่เห็นเมื่อกี้ใช่เปล่า "
"อ๋อ.....ถ้าแก อยากให้ฉันไม่ได้ยิน ฉันก็ไม่ได้ยินก็แล้ว " ผมแสยะยิ้มไปให้
"เอ่อคือ....ถ้าแกไม่มีธุระอะไร ฉันขอตัวก่อนนะ " แปลกๆแฮะ ยัยนี่ ปกติพอ ผมพูดแบบนี้จะต้องด่ากลับมาสักคำสองคำนี่นา
"เดี๋ยว!! "ผมผวาไปคว้าข้อมือเธอ เธอมองข้อมือของตัวเองก่อนจะมองผม "คือจริงๆแล้ว ฉันอยากจะถามแกเรื่องไอ้นี่ "ผมหยิบสร้อยคอชุให้เธอดู
"ฉ..ฉะ...ฉันไม่รู้อะไรหรอก " ทันทีที่เห็นใบหน้าเธอก็ขาวซีด มันอะไรกันนะ
"แกไม่รู้ได้ไง ก็พี่ฉันซื้อสสร้อยนี่มาจากร้านแก" แถมยัยนั่นพึ่งจะพูดถึงเรื่องสร้อยคอ ไปหยกๆนี่นา
"คะ...คนไหน "
"ทั้งสามคนเลย "
"ทั้งสามคนเป็นพี่สาวแกงั้นเหรอ ตลกละสามคนนั่นสวยมากเลยนะ แล้วทำไมแกผ่าเหล่าล่ะ " ผมเขม้นมองตาเธอ "ก็...เอ่อ....คือสร้อยคอนี่จะให้แรงสมหวังต่อผู้ที่อธิฐานต่อสร้อยคอ แต่แค่คนเดียวเท่านั้นย้ำนะแค่คนเดียว "
"แล้วเกิดอะไรขึ้นภาพที่เห็น มันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องสักนิด ก็ในเมื่อฉันยังไม่ได้ขออะไรกับสร้อยคอนี่ "
เธอมองผมด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจ แต่ก็ตอบตามที่เธอเข้าใจ "แกอยากได้อะไรรึเปล่า บางทีสร้อยคออาจจะเลือกแกก็ได้นะ เคยมีเคสนี้อยู่เหมือนกัน แบบประมาณว่าแค่ทำให้เป็นจริงนิดหน่อย พอเป็นโปรโมชั่นน่ะ ถ้าอยากได้เต็มๆก็ต้องขอกับสร้อยตรงๆ"
เธอมองข้อมือที่ถูกผมจับอยู่ จนผมเลยปล่อย เธอเป็นอิสระ แล้วเธอก็จ้ำหนีผมอย่างรวดเร็ว แต่ช่างเถอะผมได้ข้อมูลที่ต้องการแล้ว
ผมนึกถึงคำพูดของเธอ
ทำอย่างกับห้างตอนท้ายปี แต่เดี๋ยวก่อน หรือว่าตอนนั้น ตอนที่อยู่ในรถ ตอนที่พวกพี่ๆเอาสร้อยมาอวด ตอนนั้นผมคิดอยู่อย่างเดียว ผม.....อยากให้ไอ้แบร์ออกไปจากร่างน้องผม
ผมหันไปทางน้ำอุ่นที่มองผมด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจ
"น้ำอุ่นเรียกผู้ชายคนนั้นออกมาได้มั้ย "
เธอมองผมด้วยสายตาที่งงๆ แต่ก็พยักหน้า "น้ำอุ่นไม่รู้เหมือนกันค่ะ "
ผมไม่แน่ใจเท่าไหร่ ในเมื่อสร้อยคอบอกเราว่าไอ้แบร์ถูกใครบางคนฆ่าตาย บางทีมันก็ อาจเป็นทางที่จะทำให้ ไอ้หมอนั่นออกไปจากร่างน้องผม เธอหลับตาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเกิดรอยย่นที่หัวคิ้ว ความร้อนก็เกิดขึ้นที่หน้าอกผมบริเวณที่ใส่สร้อยคอเส้นนั้นไว้ในกระเป๋าเสื้อ ร่างของเธอเปล่งแสงสีแดงออกมา ดูเหมือนครั้งนี้ ผมจะเป็นคนเดียวที่มองเห็น เพราะทุกอย่างในร้านยังคงเป็นไปตามปกติ ไม่มีการแตกตื่น แล้วเธอก็ลืมตาขึ้น สายตาที่แข็งกร้าวถูกส่งผ่านออกมา "ว่าไงไอ้หมา " ................
ตอนต่อไป next time
จากคุณ |
:
sillfai
|
เขียนเมื่อ |
:
วันเกิด PANTIP.COM 54 07:33:50
|
|
|
|