นักรบจันทรา ตอนที่ 9 ผู้วายชนม์
|
 |
ตอนที่ 9 ผู้วายชนม์
อย่าเร่งสิ ลงไปเดินเองเอาไหม การ์ลูสบ่นอุบด้วยความรำคาญ ตัวผู้กล้าแสงตะวันก็อยากเดินไปเองแต่เกรงว่าทุกอย่างจะจบลงโดยที่เขาไม่รู้อะไรเลย
ถามมากจริง จบเรื่องเมื่อไรจะตอบให้ เขาบ่นเจ้าการ์บ้างเพราะถามอีกแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมเขากับแม่อัศวินมังกรจึงต้องรีบเร่งตามนางมังกรครึ่งมนุษย์ไปด้วย เจ้าการ์หันซ้ายหันขวาไม่รู้ว่าจะบ่นใครต่ออีกทอดดี
ผู้กล้าแสงตะวันขบกรามกรอดอย่างใช้ความคิด อนาคตที่เขาเคยเห็นอีกหนึ่งสัปดาห์จะมีกองทัพมังกรเข้าโจมตี ถัดมาอีกเกือบหนึ่งสัปดาห์พวกเขาจะตามฟลอร่ามาแบบนี้โดยเหตุผลบางประการ เขาเชื่อว่าการที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนการโจมตีของกองทัพมังกรจะต้องมีอะไรสักอย่างเกิดขึ้น ไม่แน่อนาคตอาจเปลี่ยนแนวทางไปจากเดิมก็ได้
มังกร นั่นคือกองทัพมังกรใช่ไหม การ์หัวเราะหึๆขึ้นมา ทุกคนแทบลืมหายใจ
ไกลออกไปที่เส้นขอบฟ้ามีมังกรมารวมฝูงกันมืดฟ้ามัวดิน บนพื้นดินมีทั้งมังกรสองขาและสี่ขา บนท้องฟ้าก็ถูกปกคลุมด้วยฝูงมังกรและงูบินจำนวนมหาศาล ไบรอันพยายามเพ่งหาฟลอร่าแต่ไม่พบ บางทีนางอาจไม่ได้พักอยู่ใกล้กับที่รวมพล ความจริงฝูงมังกรแค่นี้เขาสามารถจัดการเองได้ ปัญหาสำคัญคือฟลอร่าและซาราห์ถ้าเขาลงมือเองอนาคตอาจไม่เปลี่ยนไปก็ได้
ถ้าไม่จัดการนางคงไม่โผล่มาใช่ไหม เดี๋ยวจัดการให้ ริเรียพยายามลุกขึ้นยืนแต่แรงสั่นจากการบินทำให้ลุกยืนอย่างยากเย็น หยุดบินได้ไหม การ์ลูส นางยอมแพ้แล้วหันไปลูบคอนกเพลิงแทน นกยักษ์สีฟ้าร่อนลงจอดบนเนินหญ้าแห่งหนึ่งที่มองเห็นกองทัพมังกรได้อย่างเด่นชัด เมื่อผู้โดยสารลงจากหลังหมดแล้วเจ้านกยักษ์ก็หายตัวผ่านเข้าไปในแหวนเรียกในแหวนอีกครั้ง พวกเขายืนมองกองทัพมังกรด้วยความตกตะลึง เขาไม่รู้ว่าฟลอร่าเรียกระดมพลมังกรมาจากที่ใดจึงมีจำนวนมากขนาดนี้ การ์บอกว่าเคยเห็นฝูงมังกรอพยพแต่เป็นแค่ฝูงย่อมๆ ไม่มีเคยเห็นฝูงที่ใหญ่ขนาดนี้มาก่อน
พวกมันเป็นมังกรที่ไร้ความผิดนะ การ์โวยวายว่าไม่อยากให้พวกเขาฆ่าพวกมัน ถ้าอย่างนั้นจะปล่อยให้มันฆ่าเราแล้วไปถล่มเมืองต่ออย่างนั้นหรือ เขาตอบแล้วกลับไปคิดถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงต่อ
เงียบหน่อย ข้าต้องใช้สมาธิ ริเรียกระแอมเบาๆ
ไบรอันนิ่งเงียบเพราะอนาคตเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงแล้ว ความจริงคนที่จะทำการทำลายเหล่ามังกรพวกนั้นคือเขา ส่วนริเรีย ซาราห์ และการ์ รวมถึงการ์ลูสจะต้องร่วมมือกันโค่นฟลอร่าที่ถูกควบคุม สุดท้ายนางจะกลับเป็นปกติแล้วหนีมายังที่แห่งนี้ เขามองเห็นแท่นหินปูนขนาดยักษ์บนยอดเขาใกล้ๆ ที่นี่คือหุบเขาเอลฟ์ใต้ที่โด่งดัง ในอนาคตที่เขาเห็น ที่นี่คือสถานที่สุดท้ายที่เขาจะได้เห็นเห็นหญิงสาวทั้งสองคน
เขามัวแต่คิดอะไรเพลินจนไม่ทันสังเกตว่าอากาศรอบด้านร้อนอบขึ้นอย่างฉับพลัน ท้องฟ้าใสกระจ่างกลับมีเมฆปกคลุม ด้วยแรงลมมหาศาลทำให้ปุยเมฆสีขาวไปรวมตัวอยู่เหนือกองทัพมังกรมากขึ้นๆ ริเรียเริ่มใช้เวทมนตร์ผ่านฝ่ามือของนางโดยไม่มีการบอกล่วงหน้าร่างเล็กๆเกร็งแน่นมือสองข้างเปล่งแสงสีเหลืองแปลกๆออกมา นางสามารถควบคุมธาตุทั้งหลายได้อย่างอิสระต่างกับเขาที่มีความสามารถหลักคือการรักษาและการใช้อาวุธวิเศษ ส่วนการควบคุมธาตุถือเป็นความสามารถรอง
เมฆที่มารวมตัวกันทำให้แถบนั้นมืดลงอย่างรวดเร็ว มือของนางขยับเบาๆลมเหนือท้องฟ้าก็หมุนวนทำให้เมฆดำที่กระจัดกระจายกันอยู่กระจุกตัวจนเห็นลายก้นหอยอย่างชัดเจน กองทัพมังกรที่ไม่เคยกลัวสิ่งใดไม่คิดเอะใจถึงความเปลี่ยนแปลงนี้ ไบรอันจำปรากฏการณ์นี้ได้เพราะเขาเคยใช้วิธีนี้เพื่อกำจัดเหล่าปีศาจในเมเทอาร์
การ์ ซาราห์ ปิดหูเร็วเข้า ไบรอันคำรามกลมเสียงลมพายุ
ริเรียกำหมัดในพริบตา กลุ่มก้อนอากาศความดันสูงเหนือกองทัพมังกรทำให้เกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอย่างหนึ่ง ลมพายุความเร็วสูงพัดลงมาจากฟ้าด้วยความเปลี่ยนแปลงของความกดอากาศ เหล่ามังกรบินที่ไร้สิ่งยึดเกาะถูกลมพายุพัดกระหน่ำลงไปอัดกับพื้น ส่วนมังกรที่อยู่บนพื้นก็ถูกแรงลมมหาศาลเข้าปะทะ ส่วนที่อยู่ตรงกลางฝูงนั้นไม่สามารถขยับได้ ส่วนที่อยู่ริมๆต่างถูกพัดกระจัดกระจาย พวกที่ปีกใหญ่หน่อยถูกแรงลมตีจนปีกขาดวิ่น ไม่ทันให้เหล่ามังกรตั้งตัวสายฟ้านับร้อยก็กระหน่ำลงมาจากกลุ่มเมฆสีดำสนิท ด้วยแรงลมและปริมาณเมฆทำให้กลายเป็นพายุสายฟ้าเปล่งแสงสีสวยงามพร้อมกับแผดเผาเหล่ามังกรบนพื้นดิน แม้แต่ลูกเห็บที่หล่นลงมาก็ยังกลายเป็นใบมีดคมกริบพุ่งเชือดเฉือนเหล่ามังกรอย่างชาเย็น ขนาดไบรอันปิดหูก่อนลมพายุจะถล่มยังแทบหูแตกเพราะเสียงประสานของพายุสายฟ้า ในใจไม่คิดว่านางจะโหดได้ถึงขนาดนี้
เมื่อพายุสายฟ้าและกลุ่มเมฆดำสลายไปแสงอาทิตย์ยามสายก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง กองทัพมังกรที่ยิ่งใหญ่ถูกแผดเผาจนเหลือไม่ถึงครึ่งบางส่วนกำลังนอนรอความตายอยู่ด้วยซ้ำ แสงที่มือของริเรียหายไปแล้วส่วนเจ้าตัวยืนโซเซแล้วนั่งแหมะลงบนพื้นใกล้ๆ ถึงกับควบคุมธรรมชาติให้เกิดพายุสายฟ้า เหนื่อยขนาดนั้นก็สมควรแล้ว ไบรอันถอนหายใจสั้นๆแล้วเรียกให้การ์ไปบริการทันที
กล้ามากที่ทำให้นางร้องไห้ ข้าคิดว่าเตือนเจ้าไปแล้วเสียอีก เสียงเย็นชาลอยออกมาจากป่าลึกพร้อมเจ้าของเสียง เขาคือเจ้าตัวอมตะของซาราห์ และเป็นผู้หนึ่งที่ตกหลุมรักนางมังกรครึ่งมนุษย์จนหมดหัวใจ
ในช่วงเวลาแห่งความเงียบนางอัศวินมังกรเงื้อดาบพุ่งเข้าประหัตกับจุดมุ่งหมายทันใด ความรู้สึกเสียววาบเวลาจ้องตาทำให้ไบรอันไม่กล้าเข้าไปช่วย หากปล่อยให้สู้หนึ่งต่อหนึ่งนางคงไม่มีทางชนะ แต่จะมีสิ่งใดรับประกันว่าถ้าเขาไปช่วยแล้วจะรอดพ้นมฤตยูได้อีกครั้ง
ขอคุยหน่อยสิ ข้าอยากรู้เหตุผล
ต้นเสียงเข้ามายืนข้างหลังเขาเมื่อไรไม่รู้ แค่นางโบกมือรอบตัวพวกเขาก็เกิดเข็มน้ำแข็งงอกจากพื้นดินขึ้นมาเป็นกรงขนาดย่อมๆป้องกันการหลบหนีอย่างจงใจ นางมังกรครึ่งมนุษย์ฟลอร่าจ้องมองเขาด้วยน้ำตาคลอเป้า ดวงตาสีเขียวขุ่นมัวและแดงช้ำ บางทีการทำร้ายน้ำใจนางอาจเป็นสิ่งผิดพลาดก็ได้
ท่านรู้ไหม ว่าข้ารักท่านเพียงไร
รู้สิ แต่...
ข้ารักและคิดถึงท่านทุกลมหายใจ แต่ท่านกลับ
เจ้าคือคนสำคัญที่สุดของข้าเช่นกัน แต่ว่า...
หรือเพราะข้าเป็นอมนุษย์ ท่านรังเกียจข้าใช่ไหม
ข้าไม่ได้รังเกียจเจ้า แต่ว่า...
หรือเพราะท่านไม่ได้รักข้า เห็นข้าโง่ใช่ไหมที่ไปหลงรักท่านเอง
ข้าไม่รู้ ไบรอันเสมองแท่งน้ำแข็งข้างๆ นางเริ่มร้องไห้อีกครั้ง และร้องไห้หนักขึ้นทุกครั้งที่ถาม เขาไม่รู้ว่าจะรับมือนางอย่างไรจึงจะหายโกรธ ข้ามีเหตุผล นางรักข้า
ข้าก็รักท่าน ไม่เห็นท่านทำอะไรเพื่อข้าบ้างเลย นางมังกรครึ่งมนุษย์ปาดน้ำตาอย่างเศร้าหมอง นอกจากจะจริงอย่างที่เวเบอร์บอก ท่านแค่ชอบเอาหัวใจข้ามาล้อเล่นเท่านั้น
ไบรอันสบถในลำคอลืมไปเสียสนิทว่าศัตรูคู่อาฆาตคนนั้นย่อมหาโอกาสใส่ไฟเขาเช่นกัน ตอนนี้เขาพบวิกฤตใหญ่เมื่อแขนทั้งสองข้างของนางมีเกล็ดมังกรเล็กๆงอกขึ้นมา แม้แต่ฝ่ามือก็ยังกลายเป็นของมังกรอีกด้วย เขาไม่อยากให้นางฆ่าเขาและเขาก็ไม่อยากทำร้ายนาง อีกทั้งกรงน้ำแข็งยังกลายเป็นห้องปิดไร้ช่องโหว่ขัดกับเงื่อนไขในการใช้มนตร์เคลื่อนย้าย
ถ้าอยากไปมีความสุขกับคนอื่นก็ฆ่าข้าเสีย ไม่อย่างนั้นข้าจะฆ่าท่าน นางมังกรครึ่งมนุษย์คำรามอย่างบ้าคลั่ง พุ่งกรงเล็บใส่ร่างชายคนรักสุดแรงเกิด ไบรอันหลบได้อย่างเฉียดฉิว พอมองดูกำแพงน้ำแข็งแหว่งลงไปเพราะแรงปะทะก็กลืนน้ำลายอย่างยากเย็น
รอก่อนฟลอร่า เราคุยกันได้นี่นา
ได้ แต่เวเบอร์สัญญาว่าจะจัดการนางผู้หญิงคนนั้นให้ข้า ถ้าท่านห่วงนางมากก็รีบข้ามศพข้าแล้วออกไปช่วยเสียเดี๋ยวนี้ นางมังกรครึ่งมนุษย์ทำให้เขาพะวักพะวง หากออกไปช้าเวเบอร์อาจฆ่าซาราห์แล้วจับตัวการ์ไปถวายนายเหนือหัว แต่เขาจะทำอย่างไรกับนางผู้นี้ดี
ในโดมน้ำแข็งขนาดใหญ่มีความเงียบปกคลุมปนเปไปกับอากาศธาตุ ผู้กล้าแสงตะวันเข้าตาจนอีกครั้ง นางมังกรครึ่งมนุษย์ตรงหน้าเป็นคนสำคัญที่เขาไม่อยากทำร้าย เหตุเพราะความต้องการเปลี่ยนอนาคตทำให้เผลอทำร้ายจิตใจของนาง คราวนี้เขาอาจต้องชดใช้ให้กับการเข้าไปยุ่งกับกาลเวลาสมองของเขาครุ่นคิดอย่างรวดเร็วแล้วดีดทางออกที่สามออกมาในทันที เขาอาจหยุดนางได้โดยไม่ต้องเสียเลือดเนื้อทั้งสองฝ่าย
ร่างของนางมังกรครึ่งมนุษย์หยุดนิ่งก่อนน้ำแข็งปริมาณมหาศาลจะเข้าปกคลุมฝังร่างครึ่งมังกรไว้ในแท่งน้ำแข็งในชั่วอึดใจ แม้เขาจะไม่ค่อยชำนาญเท่าริเรียแต่สามารถทำได้ในเวลาสั้นๆ หลังจากแช่แข็งให้หัวนางเย็นลงแล้วจะต้องละลายโดมน้ำแข็งเพื่อออกไปช่วยซาราห์อีก จะต้องเปลี่ยนอนาคตให้ได้ ไบรอันคร่ำครวญกับร่างในน้ำแข็ง
เขาขมวดคิ้วเนื่องจากสังเกตถึงบางอย่างผิดปกติ ภายในแท่งน้ำแข็งเกิดรอยร้าว มันขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนไม่สามารถเก็บกักสิ่งที่อยู่ภายในได้อีกต่อไป ไม่กี่อึดใจน้ำแข็งหนาก็พังทลายร่างเปียกโชกของนางมังกรครึ่งมนุษย์ฟลอร่าเป็นอิสระจากพันธนาการแล้วพ่นไฟใส่คนรักทันที ไบรอันแทบหลบไม่ทันเพราะลืมไปว่านางมังกรครึ่งมนุษย์พ่นไฟได้เหมือนมังกรทั่วไป ในระหว่างที่หลบหลีกไฟและกรงเล็บ เขาอดคิดไม่ได้ว่าท่านเทพรีอาตัวจริงอาจต้องการเครื่องเซ่นสังเวยเพื่อเปลี่ยนอนาคต และเครื่องเซ่นที่ดีที่สุดก็คือชีวิตของเขา หากเขาตายแล้วนางทั้งสองรอดชีวิตได้ก็ถือว่าคุ้ม ไม่แน่เขาอาจล้างแค้นไม่สำเร็จและกลายเป็นเหมือนลุงของเขาก็ได้ แถมเขายังตายไปแล้วหนหนึ่งหมดสิทธิ์กลับมามีลมหายใจได้อีก
หลบสิ!! ฟลอร่าคำรามเมื่อคนรักของนางยืนนิ่งรอคมเขี้ยวเล็บด้วยความต้องการของตน
ฆ่าข้าได้เลย ไบรอันสงบนิ่งมองนางมังกรครึ่งมนุษย์อย่างแน่วแน่ เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดน้ำตาจึงค่อยๆซึมออกมาเหมือนเขื่อนแตก แค่สัญญาว่าจะออกไปช่วยคุ้มกันสหายของข้าสามคนก็พอแล้ว
ไม่ได้ ข้ากับนางอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้ นางชิงหัวใจของท่านไป นางมังกรครึ่งมนุษย์พร่ำรำพันอีกครั้ง หากนางยอมออกไปช่วยกันซัดเจ้าตัวอมตะนั่นให้ตายคามือเรื่องคงง่ายกว่านี้สักสิบเท่า ไม่นางก็ข้าที่จะต้องสิ้นชีพ
ใช้ชีวิตข้าแลกกับชีวิตของซาราห์ได้ไหม แค่พวกเจ้าสองคนได้มีชีวิตอยู่ต่อก็พอ
รักนางผู้นั้นขนาดยอมเอาชีวิตเข้าแลก อุ้งมือของนางมังกรครึ่งมนุษย์สั่นระริก น้ำตาพร่างพรูลงมาอย่างต่อเนื่อง ไบรอันทำใจแข็งหลับตารอให้อีกฝ่ายลงมีดประหารแลกกับการเปลี่ยนอนาคต ถ้าเป็นข้า ท่านจะทำแบบนี้บ้างหรือเปล่านะ
ข้ารักท่านจูเนียร์ เสียงฝีเท้าย่างเข้ามาใกล้ เขาขบกรามแน่นรอเวลาดับชีพที่ไร้ค่านี้สักที แต่ถ้าไม่มีท่าน ข้าก็อยู่ไม่ได้เช่นกัน
ชายหนุ่มนึกเอะใจในเสียงสะอื้นนของหญิงสาว เมื่อลืมตาก็พบเลือดสีแดงฉานกระจายเต็มพื้นหญ้า นางมังกรครึ่งมนุษย์ใช้อุ้งเล็บแทงทะลุหัวใจของตนแทนที่จะทำแบบนั้นกับคนรัก ใบหน้าสวยงามยิ้มให้เขาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนร่างโชกเลือดจะล้มลงกับพื้นช้าๆราวกับต้องใช้เวลาชั่วนิรันดร ผู้กล้าแสงตะวันตกใจจนทำอะไรไม่ถูกทั้งมือและขาสั่นระริกด้วยความตระหนก เขาตั้งใจสละชีวิตแต่ผลกลับตรงข้าม หญิงสาวคนหนึ่งที่รักเขาหมดใจสิ้นลมด้วยมือของนางเอง ดวงตาสีเขียวโศกยังมองเขาด้วยแววตาแห่งความรักแม้จะไร้ลมหายใจไปแล้ว
ฟลอร่า ทำไม ไบรอันคุกเข่าข้างศพของหญิงสาว น้ำตาไหลพรากอย่างไร้ทางควบคุม ในที่สุดผลก็ออกมาเหมือนเดิมอย่างนั้น หลังจากนี้เขาจะไม่ได้พบกับนางมังกรครึ่งมนุษย์ฟลอร่าอีกแล้ว ข้าขอโทษ เขากุมมือศพพร่ำพูดคำว่าขอโทษนับครั้งไม่ถ้วน จนโดมน้ำแข็งสลายกลายเป็นอากาศไปในที่สุด
ซาราห์ ไบรอันแทบคลั่งเมื่อเห็นร่างของเพื่อนสาวนอนหมอบกับพื้นราวหุ่นไร้สายเชิด จากปริมาณเลือดที่หน้าอกและเสื้อของเวเบอร์ทำให้รู้ว่าถึงจะไปช่วยก็ไม่ทันเสียแล้ว การ์และริเรียยืนมองตาค้างทำอะไรไม่ถูก เขาไม่โทษทั้งสองคนที่ไม่เข้าไปช่วยนางอัศวินมังกร
นางตายในพริบตาเดียว ไม่ต้องห่วง เวเบอร์ผู้เป็นอมตะพูดอย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ ขนาดมองเห็นการตายของหญิงคนรักน้ำตายังไม่ไหลออกมาเลยสักหยดทำให้เขาคิดแค้นชายผู้นี้ คิดว่าข้าอยากทำอย่างนี้หรือ ข้ารู้ว่าพวกนางจะสิ้นลมตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ไบรอันเหลือบตามองสหายคืนเดียวของเขา ตาของหมอนั่นบวมช้ำพอๆกับของฟลอร่า
เจ้าทำให้พวกนางตาย เจ้าทำให้พวกนางตาย! ไบรอันจ้องหน้าคู่อริอย่างกินเลือดกินเนื้อ ในเมื่อรู้ว่าพวกนางจะตายแล้วเหตุใดจึงต้องทำแบบนี้ด้วย ข้าสาบานว่าจะล้างแค้น ข้าจะฆ่าเจ้าให้ได้! เขาคำรามใส่อย่างเคียดแค้นระคนโศกเศร้า
ไม่ใช่ความผิดของเจ้าหรอกลูกเอ๋ย
ความสนใจของทั้งสี่มุ่งตรงไปยังสตรีผู้หนึ่ง พระนางมีผมสั้นสีดำเหมือนกับดวงตา สวมใส่เกราะสีเขียวเหลือบทองสวยงามเหมือนสตรีชั้นสูงทั้งที่มองภายนอกอายุไม่ต่างกับพวกเขามากนัก พระนางเอื้อมมือมาลูบหัวของไบรอันเบาๆด้วยความเมตตา ตัวเขากลับไม่สามารถขยับได้อยู่อึดใจหนึ่ง น้ำตาไหล่เอ่อออกมาอีกครั้งด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อนยากเกินบรรยาย
ไม่ว่าจะทำอย่างไรนางทั้งสองจะต้องสิ้นลมอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง พระนางยืนนิ่งถอนหายใจน้อยๆอย่างเยือกเย็น ความจริงเหตุการณ์นี้ถูกเร่งเวลาให้งวดเข้าเพราะคนผู้หนึ่งอดทนรอไม่ไหว
เขาไม่รู้ว่าสตรีผู้นี้คือใครและมาที่นี่เพื่ออะไร ก่อนการซักถามจะเริ่มดาบอัคคีหนึ่งในอาวุธแปลงของขลุ่ยเทพสายลมของเขาก็ลอยเข้ามาในกำมือแล้ว ดาบสีทับทิมหันเข้าหาสตรีปริศนาด้วยเจตจำนงของผู้ใช้ นางผู้นี้เองที่เป็นต้นเหตุให้ซาราห์และฟลอร่าต้องตาย เหตุการณ์กลับตาลปัตรอีกครั้งเมื่ออาวุธที่เชื่อฟังคำสั่งของเขาตลอดกลับหยุดนิ่งคืนสภาพเป็นขลุ่ยผิวสีเงินตามเดิม ราวกับมันไม่เชื่อฟังคำสั่งของเขาอีกแล้ว
รู้ไหมว่าอาวุธดีจะไม่ทำร้ายคนสองคน ผู้สร้างและผู้ถือ พระนางผมดำยิ้มอย่างเมตตา แล้วใช้มือข้างเดียวเหวี่ยงร่างของเขาไปกองข้างการ์และริเรียเหมือนกับโยนตุ๊กตาผ้าตัวเล็กๆ ข้าจะไม่ถือโทษที่เจ้าหันอาวุธเข้าหาข้า แต่ถ้าพวกเจ้าไม่กลับไปเสียเดี๋ยวนี้คงมีคนหงุดหงิดงุ่นง่านเป็นแน่ หญิงสาวปริศนาดึงพัดข้างเอวขึ้นมาคลี่แล้วพัดเบาๆ
ไหนๆเวลาก็ถูกร่นขึ้นมาแล้ว ข้าช่วยส่งพวกเจ้าไปเมืองแก้วผลึกให้ก็แล้วกัน
สตรีปริศนาทำในสิ่งที่พวกเขาทั้งสามไม่เข้าใจ พระนางยกพัดขึ้นโบกมาทางพวกเขา สายลมที่น่าจะพัดมาอย่างเบาบางกลับกลายเป็นก้อนอากาศหนาแน่นเป่าพวกเขาสามคนให้ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า ในหัวของไบรอันเบาโหวงคิดอะไรไม่ออก แม้เขาจะตกใจที่ถูกพัดกระเด็นเสียดื้อๆแต่มือก็ไม่ยอมปล่อยขลุ่ยผิวประจำตระกูลเด็ดขาด...
พวกการ์ลอยไปกับสายลมเหมือนนกบิน ในหัวของการ์คิดอะไรไม่ออกอีกแล้ว แขนและขาไม่สามารถขยับได้จนเหมือนถูกมัดติดกับสายลมเสียมากกว่าถูกพัดลอยไปเหมือนก้อนเมฆ พวกเขาอยู่บนท้องฟ้าหลายอึดใจก่อนร่อนลงบนดงต้นสนอย่างนิ่มนวลเกินเหตุ เจ้าปากหนักไบรอันถูกแขวนกับกิ่งข้างของสนต้นหนึ่ง ส่วนการ์หล่นลงบนต้นสนเตี้ยเลยไม่เป็นอะไรมาก แต่ถึงเวลาจับเจ้าปากหนักมัดแล้วเค้นหาความจริงได้แล้ว
การ์ การ์ใช่ไหม
ชายหนุ่มผมดำร้องขึ้นอย่างประหลาดใจที่มีคนหล่นลงมาจากฟ้า ส่วนการ์ยิ่งประหลาดใจกว่าเพราะชายคนนั้นคือเพื่อนที่อยู่หมู่บ้านเดียวกับเขา ชายคนนี้คือตัวแทนผู้รอดชีวิตในหมู่บ้านที่ไปเจรจากับทางการในตอนนั้น
ข้าจะไปฆ่าพวกมันเอง หลังจากกระ:-)กระสนลงมาจากต้นไม้ได้ เจ้าปากหนักไบรอันก็พูดเสียงแข็งแล้วทำท่าเหมือนจะไปฆ่าคน พอริเรียเดินไปจับแขนผู้กล้าแสงตะวันก็ล้มพับลงกับพื้นทันที
หลับสักพักก็แล้วกัน หญิงสาวพลิกร่างหลับใหลของเพื่อนชายให้นอนอยู่ในท่าที่สมควร แล้วงานในเมืองรายได้น้อยเกินไปหรือ ทำไมมาเดินท่อมๆอย่างนี้
ไม่หรอก ข้าคิดว่าควรมีคนออกไปล้างแค้นให้ผู้ตาย ก็เท่านั้น อลันเพื่อนเก่าของการ์ดูสุขุมและเยือกเย็นกว่าเมื่อตอนจากกัน บังเอิญข้าได้รับแรงบันดาลใจจากคนๆหนึ่ง ก็เลย... ชายหนุ่มชี้ฝักดาบไปหาผู้กล้าแสงตะวันที่หลับอยู่ด้วยเวทมนตร์ของริเรีย
ตอนแรกการ์ก็ดีใจอยู่หรอก แต่พอยิ้มได้อึดใจเดียวความทรงจำเมื่อครู่ก็ถาโถมเข้ามา แม้เขาจะคบกับซาราห์ได้ไม่นานแต่นางเป็นคนดีนิสัยนางยังเหมือนพ่อบุญธรรม นางพยายามทำให้พวกเขาร่าเริงได้ตลอดเวลา ต่อไปเขาคงไม่ได้ยินเสียงหัวเราะแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว และคงไม่มีวันได้ขี่มังกรสามเขาตัวนั้นอีก แถมคนที่ฆ่านางยังเป็นลูกน้องของพ่อเขาเสียด้วย การ์คิดไปน้ำตาก็เริ่มเอ่อขึ้นมาอีกครั้ง
เดี๋ยวก่อน เล่าให้ข้าฟังก่อนค่อยร้องสิ ผู้กล้าอลันร้องด้วยความประหลาดใจที่เขาและริเรียร่วมใจกันร้องไห้อย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
ต้องใช้เวลาสักพักกว่าการ์จะตั้งสติได้อีกครั้ง เขาเล่าให้เพื่อนเก่าฟังคร่าวๆว่าไปพบกับกองทัพมังกรในหุบเขาแห่งหนึ่ง นางอัศวินมังกรซาราห์เพื่อนของเขาเข้าต่อสู้กับผู้นำกองทัพปีศาจจนตายในที่สุด โชคดีที่อลันมีอาหารและน้ำเพียงพอจึงสามารถทำน้ำชาอุ่นๆให้กินได้ เขาสูดกลิ่นหอมเอียนของน้ำชาแล้วซักถามเกี่ยวกับการเดินทางของเพื่อนเก่า
ดาบเล่มนี้สามารถควบคุมธาตุได้อย่างอิสระ ข้าไปพบมันในถ้ำทางเหนือ
อลันชูดาบประดับอัญมณีของตนขึ้น กิ่งไม้รอบด้านงอกออกมาพันคมดาบอย่างแน่นหนาแล้วลุกเป็นเปลวไฟ เมื่อเปลวไฟร้อนแรงมอดลงคมดาบพลันถูกห่อหุ้มด้วยน้ำและน้ำแข็ง สุดท้ายน้ำแข็งก็แตกสลายด้วยคมดาบเล็กๆนับสิบที่ยื่นออกมาจากคมดาบอีกที เมื่อเจ้าของสะบัดเบาๆคมดาบที่ขยายตัวใหญ่ก็หดกลับเป็นขนาดปกติตามเดิม การ์เพิ่งเคยเห็นดาบเวทมนตร์กับตาวันนี้เอง
เล่าให้ฟังหน่อยสิ คงเจออะไรมาเยอะใช่ไหม อลันเก็บดาบวิเศษเข้าฝักพลางหันไปมองริเรียที่ก้มหน้าร้องไห้อยู่คนเดียว ข้าหลวงของเก็มคงตกใจน่าดูที่ท่านหญิงริเรียทรงกรรแสงแบบนั้น
เขาไม่รู้ว่าควรเริ่มเล่าจากจุดไหนดีจึงเริ่มเล่าตั้งแต่เดินทางไปหาอัศวินมังกรซาราห์ที่โทรสจนได้สู้กับเวเบอร์ผู้เป็นอมตะ พอได้นางเป็นพวกแล้วจึงไปดูกองอัศวินนกเพลิงของไพน์สู้กับกองทัพปีศาจ จนกระทั่งถูกคริสทาร่าลากคอไปไพน์จนมาพบกับอลันในที่สุด การ์จงใจเล่าข้ามเหตุการณ์ที่ทำให้ไบรอันตายและเพื่อนทั้งสองของเขาไปเที่ยวกันเมื่อเช้า ด้วยความกลัวว่าน้ำตามันจะออกมาอีก
ดุเดือดสมกับที่เดินทางไปกับผู้กล้าแสงตะวันจริงๆ ผู้กล้าอลันมองไบรอันแล้วร้องเบาๆ การ์เพิ่งรู้สึกตัวว่าเจ้าปากหนักไม่ได้สอนอะไรเกี่ยวกับการเป็นผู้กล้าให้เขาเลยสักอย่าง
ข้าแค่รู้สึกผิดที่ช่วยอะไรคนในหมู่บ้านไม่ได้จึงอยากร่วมเดินทางไปกับเจ้า แต่ไม่รู้ว่าคณะของผู้กล้าแสงตะวันเดินทางไปที่ไหนต่อจึงลงใต้ไปเมืองแก้วผลึกเพื่อถามนางผู้หยั่งรู้ คนสนิทของพระนางบอกว่าพวกเจ้าจะมาถึงบริเวณนี้ภายในวันนี้ข้าจึงมารอ ระหว่างทางมาเมืองแก้วผลึกข้าพบกับหมู่บ้านหลายแห่งถูกพวกนกปีศาจเข้าโจมตีแย่งชิงเสบียงอาหารเลยเข้าช่วยด้วยดาบเล่มนี้ แม้ม้าของข้าจะตายแต่คนในหมู่บ้านทั้งหลายยกให้ข้าเป็นผู้กล้า เลยตั้งใจว่าจะเป็นอย่างท่านผู้กล้าแสงตะวันให้ได้
การ์มองเพื่อนด้วยแววตาไร้อารมณ์ ถ้าได้รู้ตัวตนที่แท้จริงของเจ้าปากหนักแล้วจะพูดแบบนี้ได้อีกไหมหนอ นอกจากจะปากหนักแล้วยังเรื่องมาก จับปลาสองมือ ชอบทำเป็นรู้ทุกเรื่อง แถมยังเป็นผู้กล้าปลอมๆอีก ถ้าหมอตื่นขึ้นเมื่อไรจะให้อลันช่วยมัดมือมัดเท้าซ้อมให้คายทุกอย่างออกมาให้หมด
ถ้าจะร่วมเดินทางด้วยก็ยังมีอย่างอื่นอีกที่ท่านควรรู้ การ์นึกขึ้นมาได้ว่ายังไม่ได้เล่าถึงเป้าหมายสูงสุดของการเดินทางให้ฟัง เจ้าคงรู้เรื่องผู้นำของเหล่าปีศาจแล้วใช่ไหม ที่รวบรวมกองพันปีศาจเพื่อเข่นฆ่ามนุษย์ ความจริงแล้วนั่นคือจอมปีศาจตัวปลอม ส่วนจอมอสูรตัวจริงกำลังควบคุมและปลอมตัวเป็นเทพรีอา แล้วควบคุมพ่อของข้าให้กลายเป็นจอมปีศาจหุ่นเชิดเพื่อสร้างความเดือนร้อนสารพัดสารเพ พอมีผู้กล้าไปกำจัด
คนสนิทของนางผู้หยั่งรู้บอกว่าข้าจะมีส่วนช่วยกำจัดความมืดเบื้องหลัง บางทีอาจเป็นเรื่องนี้ เสียดายที่นางผู้หยั่งรู้รุ่นปัจจุบันหลับสนิทไม่มีวันตื่น ไม่อย่างนั้นคงได้ถามเรื่องนี้ให้กระจ่าง
หรือเจ้านั่นจะเป็นนางผู้หยั่งรู้ การ์ขมวดคิ้ว เขาเคยได้ยินว่านางผู้หยั่งรู้แห่งเมืองแก้วผลึกสามารถมองเห็นอดีต ปัจจุบัน และอนาคตได้ บางทีมันอาจเกี่ยวกับความสามารถส่วนตัวของเจ้าปากหนัก
ไม่มีทางนางผู้หยั่งรู้ทุกรุ่นเป็นผู้หญิง แถมร่างของพระนางยังนอนหลับใหลอยู่ในวิหารแก้วผลึก เป็นเจ้าหญิงนิทราที่งดงามมาก อลันทำตาเคลิบเคลิ้มเสียจนการ์อยากไปเห็นบ้าง พระนางคล้ายกับท่านผู้กล้าแสงตะวันมากเลยนะ ไม่รู้ว่าแค่บังเอิญหรือมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง
ประโยคสุดท้ายทำให้การ์พาลคิดไปถึงเหตุการณ์ที่ไครส์ สายหมอกเรียกเขาว่านักรบจันทรา ที่สำคัญใบหน้าของสายหมอกมีส่วนคล้ายร่างผู้หญิงของไบรอันด้วย ไม่แน่เจ้าปากหนักอาจมีอะไรเชื่อมโยงกับนางผู้หยั่งรู้จึงสามารถมองดูอนาคตได้
หน้าตาขี้โอ่แบบนี้ใช่ไหม การ์เรียกเพื่อนเก่าให้ไปดูผู้กล้าแสงตะวันใกล้ๆ เหมือนกันเลยหรือ แล้วเขาก็เพิ่มหัวข้อคำถามหัวข้อใหม่ที่จะถามเมื่อเจ้าปากหนักตื่นขึ้นมา...
ความเศร้ายังเกาะกุมการ์กับริเรียอย่างต่อเนื่อง แม้อลันจะเสนอตัวพาไปเมืองแก้วผลึกให้เดี๋ยวนี้แต่เขาไม่มีแรงจะทำอะไรอีกแล้ว กลิ่นเอียนของชาช่วยให้ดีขึ้นแค่ความรู้สึกไม่สามารถทำให้แขนขาอ่อนแรงกระฉับกระเฉงขึ้นได้ หญิงสาวในคณะเดินทางนั่งร้องไห้จนตาแดงก่ำส่วนผู้กล้าแสงตะวันยังหลับสนิทไม่รู้ว่าจะตื่นอีกเมื่อไร
เมื่อดวงตะวันลับฟ้าเจ้าปากหนักไบรอันก็ตื่นจากการบังคับให้นอนหลับ ความเศร้าหมองเกาะกุมร่างจนดูไม่เหมือนคนเดิม แววตาที่ปกติจะวางเฉยหรือทำทีว่ารู้เสียทุกเรื่องกลับโศกสลดมองทอดต่ำตลอดเวลา สีหน้าที่เคยเปี่ยมด้วยความมั่นใจกลับบิดเบี้ยวด้วยความโกรธแค้นที่ยากระบาย
เป็นความผิดของเวเบอร์ ถ้าหมอนั่นไม่มาแทรกแซงอนาคตอาจเปลี่ยนไปก็ได้ ถ้าหมอนั่นไม่เข้ามาก้าวก่ายข้าคงไม่ต้องเสียครอบครัวคนสุดท้ายไป ผู้กล้าแสงตะวันหมกมุ่นกับความแค้นจนไม่เหลือเค้าเดิมให้การ์เห็นอีกแล้ว
การ์รู้ว่าการเสียคนสำคัญไปรู้สึกอย่างไร พ่อบุญธรรมของเขาตายเพื่อปกป้องคนอื่นเป็นการตายที่น่าภาคภูมิ เขาไม่คิดโทษใครทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นพ่อแท้ๆของเขา เวเบอร์ที่ยกกองทัพปีศาจมา ไบรอันที่ช่วยเอาไว้ไม่ได้ หรือแม้กระทั่งชาวบ้านที่ไม่รู้จักช่วยตัวเอง เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดผู้กล้าแสงตะวันที่แข็งแกร่งกลับอ่อนแอได้ถึงขนาดนี้
พรุ่งนี้เราไปเมืองแก้วผลึก ข้าอยากเห็นความตายของหมอนั่น อยากรู้ว่าข้าจะฆ่าได้ไหม แม้เสียงที่เคยหนักแน่นยังขุ่นมัวจนจำแทบไม่ได้ ยิ่งมองเจ้าคนอ่อนแอนานเข้าความโกรธของการ์ก็เริ่มปะทุขึ้นมาบ้าง
จะเอาอะไรกันนักหนา! การ์ลุกไปกระชากคอเสื้อเพื่อนร่วมทางให้ลุกขึ้น แม้เรื่องใช้ความคิดจะสู้ไม่ได้แต่เรื่องกำลังเขามั่นใจว่าเอาชนะอีกฝ่ายได้แน่ เอะอะก็จะล้างแค้น เลิกโทษคนอื่นสักทีได้ไหม! เสียงคำรามของเขาทำให้เสียงนกร้องเงียบลงทันตา
ข้าแค่อยากเปลี่ยนอนาคตแต่หมอนั่นทำให้ทุกอย่างซ้ำรอยเดิม คนสำคัญคนสุดท้ายของข้าตายไปแล้ว...ทุกอย่างเป็นเพราะเจ้านั่น ไม่อย่างนั้นคงทำสำเร็จไปแล้ว
ความจริงเขาอยากต่อยหน้าผู้กล้าอ่อนแอนี่สักหมัด แต่เสียงฝีเท้าม้าทำให้การ์หันไปมองในเงามืดของป่าสน ไกลออกไปมีคนควบม้ามาหาพวกเขา แผงคอสีทองเหลืองอร่ามตัดกับลำตัวสีขาวบริสุทธิ์ แถมแผงคอยังเปล่งแสงอ่อนๆได้จึงมองเห็นเขาบนศีรษะอย่างเลือนราง ม้าวิเศษที่การ์เคยเห็นมีแผงคอสีรุ้งเมื่อก้าวเดินจะเกิดประกายไฟขึ้น แต่ม้ามีเขาตัวนี้กลับมีแผงคอสีทองแถมยังเรืองแสงได้อีก ยิ่งวิ่งในความมืดยิ่งสวยงามจนการเผลอปล่อยมือจากคอเสื้อจนได้
โชคดีที่มาทัน ชายบนหลังม้าร้องเบาๆแล้วช่วยพยุงหญิงสาวอีกคนลงจากหลังม้าด้วย การ์รีบฉวยคอเสื้อของเพื่อนร่วมทางไว้อีกครั้งเมื่อเห็นว่าชายคนที่ลงจากหลังม้าคือเวเบอร์ หากปล่อยมือคงเกิดศึกละเลงเลือดกันอีกรอบแน่...
จากคุณ |
:
Lazy return
|
เขียนเมื่อ |
:
วันเกิด PANTIP.COM 54 19:49:49
|
|
|
|