เย็นวันนี้ หลังจากผ่านพ้นความเหน็ดเหนื่อยและยุ่งยาก จากการทำงานอันวุ่นวาย ฉันคว้า
กุญแจแล้วขับรถคู่ใจออกจากที่ทำงาน ด้วยหมายมั่นจะหาเครื่องดื่มเย็นๆมาทำให้ชื่นใจ และผัดกระเพรา
ไก่ของโปรดให้อิ่มท้องในมื้อค่ำนี้
สวัสดีค่ะ 7 ยินดีต้อนรับค่ะ ฉันยิ้มให้พนักงานด้วยความคุ้นเคย
วันนี้เหนื่อยจัง งานยุ่งมากมาย ให้ตายเหอะ!! เหนื่อยสุดๆ ทักทายกันตามประสาคนคุ้น
หน้า ก็ที่นี่ เป็นร้านสะดวกซื้อเพียงแห่งเดียวในละแวกนี้ ฉันจึงต้องแวะมาที่นี่ทุกวัน
4 ปีแล้วซินะ ที่ต้องจากบ้านมาทำงานต่างจังหวัดแบบนี้ บางความรู้สึกก็อิสระ และท้าทาย แต่ใน
หลายๆครั้งก็เหงาจับใจ ก่อนที่จะคิดอะไรไปมากกว่านี้สายตาก็พลันไปหยุดอยู่ที่เด็กชายหญิงคู่หนึ่ง ที่
จดๆจ้องๆขนมเคี้ยวหนึบบนชั้น
อันนี้น่ากิน เด็กชายหยิบขนม สีสวยขึ้นมามอง
แต่เค้าอยากกินอันนี้ เด็กหญิงพูดขึ้นมา พร้อมหยิบชิ้นที่ใหญ่กว่า
จะเอาอันนี้เหรอ
อื้อ... เค้าอยากกิน
ฉันยืนมองเด็กๆอยู่นาน ไม่มีคำพูดใดๆต่อจากนั้นอีกพักใหญ่ๆ แต่ที่สังเกตได้ คือในมือเด็ก
ชายมีธนบัตร 20 บาทอยู่ 1 ใบ ฉันเลยคิดว่าเงินคงไม่พอที่จะซื้อขนม 2 ชิ้นแน่ๆ เด็กชายยืนถือขนมที่
อยากกินในมือไม่ยอมวาง ส่วนเด็กหญิงก็เอาแต่ยืนมองขนมที่ตนอยากกิน ฉันคิดอยู่ในใจ อยากรู้จริง ว่า
เด็กๆจะตัดสินใจอย่างไร
งั้น... ก็เอาอันนี้แหละ!! เด็กชายพูด พลางวางขนมในมือไว้บนชั้น หยิบขนมที่เด็กหญิงเอา
แต่จ้องมอง แล้วจูงมือเดินพาไปชำระเงิน
อันเดียวครับ
15 บาท ค่ะ เด็กชายสีหน้าเรียบเฉย เดินจูงมือเด็กหญิงออกจากร้านไป โดยมีฉันรีบเดิน
ตามออกไปในทันที
สิ่งที่ฉันได้แต่ยืนมองดูด้วยความตื้นตัน เด็กชายแกะห่อขนม แล้วยื่นให้เด็กหญิงที่รับขนมมา
ด้วยรอยยิ้ม พลางจูงมือกันเดินเข้าไปในตรอกริมถนน
กินไหม เด็กหญิงถามหลังจากกัดไปหนึ่งคำ
ไม่เอา กินเถอะ
แบ่งกันซิ เค้าอยากให้พี่กินด้วย เด็กหญิงยื่นขนมให้เด็กชายที่กัดไปด้วย 1 คำ
ฉันยืนอยู่ตรงนั้นพักใหญ่ๆ ไม่ได้เดินตามทั้งคู่ไป แล้วจึงตัดสินใจขับรถกลับที่พักทันทีโดยไม่
ได้ซื้ออะไรอย่างที่ตั้งใจเลย ความรู้สึกที่มีมันแปลกๆ เหงาๆ รู้สึกตีบที่ลำคอ ตาร้อนๆเหมือนมีน้ำเอ่อขึ้น
มาสุดท้ายจึงตัดสินใจจอดรถริมทาง หยิบโทรศัพท์ แล้วกดโทรหา พี่ชาย