Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
กลร้ายในเงารัก - บทที่ 2 ติดต่อทีมงาน

http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11161150/W11161150.html

บทที่ 2

อาภรณ์ไม่มีความจำเป็นเมื่อโลกภายนอกถูกสลัดทิ้ง ห้องนอนคือวิมานรักที่หมดจดและเปล่าเปลือยด้วยบรรดาสิ่งกีดขวาง เรือนร่างระหงของภรรยาจึงว่างเปล่าให้ยลเต็มสองตาปรารถนา

สามีเชยคางมนเหมือนเย้าแหย่ หากแท้จริง ตั้งใจจุมพิตก่อไฟสวาท จังหวะบดขยี้ลุ่มลึกนุ่มนวล ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ามือที่โลมลูบเนื้อผุดผ่องโดยไม่จำกัดตำแหน่ง

ลำคอสวยเกะกะนิดหน่อยกับปอยผมสีน้ำตาลอ่อน ดนัยดลเขี่ยออกด้วยนิ้ว แล้วประกบจุมพิตคะนึงหาลงดื่มด่ำกลิ่นหอมอ่อนๆ กายกำยำกระสันซ่านขึ้นในทันทีทันใด ภรรยาส่งมือนุ่มมาเคล้าคลอชีวิตเล็กๆ กิริยาก็บอกว่าซุกซนและนึกสนุก แต่เขาไม่สนุกเลยนะ เขา 'ใคร่' มากเลย

"เล่นแรงนะครับทูนหัว" เขากระซิบพร้อมกับพ่นลมร้อนใส่กกหู แล้วจูบซับแทรกลิ้นด้วยกิริยาเร่าร้อน

"พุธทำอะไรหรือคะ" ภรรยาย้อนถาม เสียงทะเล้นก็จริง หากแต่ปลายๆ แลสั่นปนสะท้าน ไหล่ห่อซาบซ่านนัก

"ไม่เลย พุธไม่ได้ทำอะไร พี่ทำเอง ตอนนี้ก็ทำอยู่"

ร่างระหงว่างเปล่าซวนเล็กน้อย ก่อนจะล้มลงกลางเตียง แผ่นหลังกระทบฟูกนุ่ม แต่เหนือร่างก็พลันแน่นและหนักด้วยร่างอบอุ่นของสามี เขาทอดทับอ่อนโยน หากแต่แฝงด้วยพลังรักร้อนแรง

การเล้าโลมนุ่มนวล มักจะก่อความเสียวแหลมลึกขึ้นในห้วงอารมณ์ เส้นขนทุกเส้นพองฟูตอบสนองทุกสัมผัสที่เขาปรุงแต่ง เธอไม่เคยปกปิดเขาได้เลย ในทุกคราที่เธอ 'พร้อม'

คนสวนสองคนยังง่วนกับภารกิจของตนไปอย่างขยันขันแข็ง ทั้งสองเป็นชายวัยกลางคนหนึ่งปลายคนหนึ่ง มีครอบครัวแล้ว ผ่านช่วงข้าวใหม่ปลามันมาแล้วหลายปี

แต่ทั้งสองก็ยังอดกังขาแคลงใจพ้องกันไม่ได้สักทีว่า ทำไมช่วงเวลาอ่อนหวานที่ว่า จึงไม่ยอมจากเจ้านายสามีภรรยาเสียที เพราะมันก็นานเกือบห้าปีรอมร่อ

ยามที่สายตาสองคู่ละทิ้งงานตรงหน้า เพื่อมองขึ้นไปบนระเบียง และคาดเดาลึกเข้าไปในวิมานรักของเจ้านาย ทั้งสองก็หันมาอมยิ้มขบขันให้กัน

ไม่ต้องถามก็พอทราบว่า เวลานี้ เจ้านายสามีภรรยาคงกำลังทอดอารมณ์พิศวาสกันอย่างเพลิดเพลิน โดยไม่ต้องสนใจว่า บ่ายสามโมงเศษๆ มันเหมือนจะไม่ใช่เวลาสักนิด

ดนัยดลไม่เคยสนใจอยู่แล้ว เขารับรู้เพียงว่า หากเขาปรารถนาปรุงแต่งชีวิตสมรสให้กลมกล่อม เขาจะทำเลย เช้าสายบ่ายเย็นก็ไม่เป็นอุปสรรค อารมณ์รักของเขามันตื่นได้ไม่เกี่ยงแสงแดดและน้ำค้าง

เหมือนเช่นเวลานี้ แสงแดดยังสาดเข้มหน้าระเบียง แต่แสงเข้มที่ว่า ก็ยังอ่อนโรยกว่าแสงจัดของไฟสวาท พื้นระเบียงร้อนแค่ไหน ทุกอณูบนเตียงก็ผ่าวฉ่าไม่ยิ่งหย่อน

"สุดที่รักของพี่"

เสียงกระซิบแผ่วกระเส่าใส่กกหูที่เปื้อนชื้นด้วยเหงื่อเร่าร้อน พุธชมพูอ้าปากเผยอ แหงนเงยใบหน้าอวดปลายคางมนและลำคอกลมกลึงเหยียดตึง

เธอกลืนน้ำลายพร้อมยิ้มเคลิบเคลิ้ม ดื่มด่ำกับสายลมแห่งรักที่กวัดไกวลากรั้งคลื่นสยิวถึงขีดสุดมาสาดชโลมทั่วร่างที่กระตุกสะท้าน สามีเอ็นดูว่าเธอสุขสมอย่างร้าวราน จึงรีบกระหวัดกอดปลอบประโลม โดยไม่ลืมพรมจุมพิตล้ำลึก

ชีวิตเล็กๆ อิ่มเอมกระชุ่มกระชวย ดนัยดลไม่เร่งรีบผลักไสมันออกห่างทุ่งสวาท ปล่อยให้มันดื่มด่ำและซึมซับความสุขลึกซึ้งไปเรื่อยๆ ระหว่างนั้น มือก็อย่าอยู่ว่าง หมั่นเขี่ยปอยผมชื้น เย้ายอดทรวงหวาน โลมลูบลำคอฉ่ำ เคลื่อนลงแตะโค้งสะโพก ชื่นใจกับความกลมกลึงชวนเคล้าคลึง

"เหนื่อยไหม" เขาจุมพิตปลายจมูก ตาพราวหวานฉายแววรักและหวงหมดใจ

"พุธไม่ได้ทำอะไรนี่คะ" ภรรยายอกย้อน ทำทีเมินหน้าไปจ้องจับผ้าม่าน

"ไม่ทำก็เหนื่อยได้ ก็พี่เห็นว่าพุธอยู่ไม่นิ่ง เดี๋ยวกอดพี่ กัดพี่ หยิกพี่ บางทีก็แย่งจูบพี่เอง บางทีก็.. "

"นี่ พุธไม่ทำเรื่องแบบนั้นหรอกน่า ไม่ต้องมากล่าวหาน่าเกลียดอย่างนี้นะ ลงไปจากตัวพุธได้แล้ว เหนียวตัว จะอาบน้ำ"

"พี่อาบให้นะ"

พุธชมพูทำปากยื่น สามีหมั่นไส้ก็ประทับจุมพิตลึกซึ้ง ขยี้ดุดันอย่างหยอกเย้า ภรรยาสะดุ้งเพราะเจ็บนิดๆ สามีก็หัวเราะชอบใจในลำคอ แล้วยอมถอนความทะเล้น

แต่ก็ทิ้งทวนด้วยการกัดพวงแก้มระบายความหมั่นเขี้ยวอีกนิด เจ้าของตาโต ทุบอกแง่งอนน่าเอ็นดู หัวใจมันพองโตไปด้วยความสุขที่ประมาณไม่ถูกเลย ทุกครั้งที่เห็นพุธชมพูร่าเริงในอารมณ์

"พี่รักพุธนะครับ รักหมดหัวใจเลย พี่คงมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้แน่ๆ ถ้าวันหนึ่งตื่นขึ้นมาแล้วพบว่า ไม่มีพุธอยู่ข้างๆ อีกแล้ว"

"ทำไมพูดแบบนั้นละคะ" สองแขนเรียวยกขึ้นคล้องลำคอ สบตาหวานล้ำลึก "พุธจะไม่มีวันก้าวออกไปจากชีวิตของพี่ดนัยหรอกค่ะ พุธสาบานว่า นอกจากสามีของพุธคนนี้แล้ว จะไม่ยอมให้ชายใดประทับรอยรักไว้บนร่างกายของพุธได้อีก"

"ยาหยี ยอดดวงใจของพี่จริงๆ เลยนะ อ้อนหวานน่ารักแบบนี้ หัวใจพี่ละลายหมดแล้ว พี่ว่าเราไปอาบน้ำกันเถอะ"

"เอ๊ะ เกี่ยวกับหัวใจละลายหรือคะ"

"ครับ พอโดนน้ำเย็นๆ หัวใจก็จะกลับมาแข็งปั๋งเหมือนเดิมไง ไม่ชอบหรือ"

"เชอะ"

"เชอะหรือชอบครับ"

ภรรยาตาโต เผยอปากจิ้มลิ้มจะต่อว่าต่อขานเสียหน่อย ก็ต้องมาตกใจหัวซุน เพราะสามีผลุนผลันลากไปอุ้ม แล้วพาเดินตัวปลิวหายเข้าห้องน้ำ

เธอหัวเราะละเหี่ย แต่ก็ไม่แข็งข้อต่อความปรารถนาไม่สิ้นสร่างของสามี เขาต้องการเธอ แล้วเธอก็จะไม่อิดออด ที่ไหนก็ได้ เมื่อไหร่ก็ตาม ภรรยาพร้อมสนองอย่างภักดีไม่มีเบื่อ



เวลาห้าปีผ่านพ้นไปตามครรลอง พระอาทิตย์กับพระจันทร์ขึ้นและตกวนเวียนซ้ำซากอยู่เช่นนี้ ซึ่งไม่ต่างจากชีวิตสมรสของดนัยดลกับพุธชมพู สามีภรรยาถ้อยทีถ้อยอาศัยและทะนุถนอมความรักความใคร่ให้อบอุ่นอบอวลอยู่ในวิมานรัก โดยไม่มีวี่แววว่าจะเสื่อมสร่างร้างสวาท

ชีวิตโดดเดี่ยวของอคินก็ยังคงเดินหน้าไปตามกระแสเสียดสีของชะตากรรม เขายังคงรักพุธชมพู แต่ก็มีอคติกับผู้หญิงคนอื่นแทบจะหมดโลก

ด้วยรูปโฉมหล่อเหลา ด้วยเงินทองที่โปรยเหมือนเศษกระดาษ ทั้งที่ตนก็หามาจากน้ำพักน้ำแรง และอย่างเหนื่อยแสนเหนื่อย และด้วยบทสวาทที่กราดเกรี้ยวไปด้วยคลื่นแห่งใคร่ดุดัน สาวๆ มากมายเชียวล่ะ ปรารถนาตัวเขามาเป็นสมบัติอย่างถาวร

แต่สำหรับอคิน ผู้หญิงที่หิ้วขึ้นเตียง เป็นเพียงเครื่องปลดเปลื้องความชอกช้ำที่ระบายเป็นคำพูดไม่ได้เท่านั้น

"นี่เจ้านายออกคำสั่งมาแล้ว คุณต้องเดินทางไปเกาหลีในอีกสามวันข้างหน้า ดีใจไหม คราวนี้ จะได้ควงสาวหน้าขาวตัวเล็กผมดำ แทนสาวหน้าขาวหุ่นโปร่งโย่งผมทอง"

เลขาเจมี่สุดเซ็กซี่กรายหุ่นอวบน่าฟัดมาแหมะบั้นท้ายบนขอบโต๊ะทำงาน อคินปรายมองถุงน่องสีเทาอมม่วงที่ห่อหุ้มขาเรียวแวบหนึ่ง ก่อนจะโยกแฟ้มในมือไปตบๆ เป็นเชิงไล่ให้หล่อนไปนั่งเก้าอี้

"แหม ทำเป็นเนื้อทองหวงแท่งกับฉัน ทีกับคนอื่น.. "

"อย่ามาเพ้อเจ้อกับผมน่า คุณเห็นผมสุขสบายกับการเดินตามหลังเจ้านายต้อยๆ หรือ ยังจะหาเรื่องอีก"

"แหม ถ้าเราไม่บอก เขาก็ไม่รู้หรอก"

"ผมไม่อยากเสี่ยงตกงานเข้าใจไหม หุ้นของผมในบริษัทก็ยังน้อยนิด ผมอยากได้มากกว่านี้ อย่างน้อยก็น่าจะให้ผมได้ยกระดับตัวเองเป็นหุ้นส่วนเกือบใหญ่ มีสิทธิ์เข้าประชุมในฐานะนั้น ไม่ใช่ลูกจ้าง"

"โอ๊ะ" เลขาเจมี่ยกมือทาบอกที่อวบทะลักล้นเสื้อคอแหลม หล่อนห่อปากเปล่งอุทานได้เซ็กซี่ชวนขยี้จูบดีเหลือเกิน "นี่ถ้าคุณไม่พูดขึ้นมา ฉันต้องลืมไปแล้วน่ะนี่ รอเดี๋ยวนะคะ"

บั้นท้ายของหล่อนกลมกลึงน่าโลมลูบไม่เบา จังหวะก้าวเดินทำให้มันพลิ้วปัดซ้ายทีขวาที เนินเนื้อก็ดูอูมเต่งแทบจะทะลุกระโปรงสั้นจู๋สีดำออกมาเชียว

อคินไม่แปลกใจหรอกว่า ทำไมเจ้านายถึงได้หลงใหลคลั่งไคล้หล่อนมาก ก็เพราะว่าหล่อนเป็นสาวฉลาด รู้จักปรุงแต่งรูปลักษณ์ให้ดูดีอยู่ตลอดเวลา ไม่ยกเว้นแม้แต่น้ำหอมที่เลือกเฉพาะกลิ่นที่เย้ายวนกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ได้ง่าย

"นี่ค่ะ ที่คุณอยากได้ล่ะ" หล่อนย้อนกลับมาพร้อมกับวางแฟ้มสีชมพูลงตรงหน้า จากนั้น ก็ยิ้มกว้างคล้ายแสดงความยินดี

"หุ้นเพิ่มหรือ" เขาอุทานอย่างตื่นเต้น เมื่อเปิดดูข้างในแล้วเจอข่าวดีแผ่หลาเต็มหน้ากระดาษ

"ทนายนำมาให้สองวันแล้วล่ะ ฉันก็มัวยุ่งๆ คุณก็ไม่ค่อยอยู่ห้อง มันก็เลยนอนสบายอยู่ในลิ้นชักโต๊ะทำงานของฉัน"

"ไม่เป็นไร ข่าวดีมาช้าหน่อย ก็น่ายินดีอยู่ดี ขอบคุณนะครับคุณเจมี่ เป็นข่าวดีที่สุดในรอบสองปีของผมเลยนะ"

"เพราะคุณเป็นคนเก่งเองต่างหาก"

'เก่งหรือ' อคินย้อนเหมือนเยาะอยู่ในใจ เขาไม่หลงตัวเองขนาดนั้นหรอก ต้องยกความดีให้กับความอึดความทนของเขาดีกว่า

ไม่เคยมีลูกจ้างคนไหนกล้ำกลืนกับอารมณ์ร้ายกาจของเจ้านายได้นานเกินหนึ่งปีสักคน แต่เขานี่ล่ะ ที่ผ่านช่วงเวลาบัดซบนั้นมา ท่ามกลางความอึ้งทึ่งและชื่นชมของคนรอบข้าง

ทุกคนปรบมือแสดงความยินดี เมื่อเขาได้รับหุ้นจำนวนแรกมานอนกอด ในแววตาก็ยังฉายความอิจฉานิดๆ แต่มันก็เล็กน้อยและไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆ ต่อมิตรภาพที่มีอยู่

มีจำนวนแรก ก็ต้องมีจำนวนที่สองที่สามตามมา ซึ่งมันก็ยังเป็นรางวัลเล็กๆ น้อยๆ อยู่ดี ไม่เหมือนครั้งนี้ มันมากเป็นพิเศษ อ้อ ไม่ใช่สิ เขาได้เลื่อนตำแหน่งด้วย เป็นถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงฝ่ายต่างประเทศ

เพราะมันเยี่ยมยอดอย่างนี้ เขาจึงยอมให้เลขาเจมี่เดินมาหอมแก้มฟอดใหญ่ หล่อนคงอยากคลอคลำร่างกายเขามากกว่านั้น แต่เขาไม่ให้หรอก



ฝนตกปรอยๆ ตลอดช่วงค่ำ ทำให้คนส่วนใหญ่เลือกที่จะซุกกายนอนอุ่นอยู่แต่ในบ้าน สวนสวยนอกหน้าต่างถูกย้อมด้วยสีหม่นทะมึนของรัตติกาล แสงสีส้มที่ส่องลงมาจากเสากลม ก็ไม่ค่อยช่วยให้มันหลุดพ้นจากพันธนาการอึมครึมมากนัก

"หนาวจัง" ดนัยดลอ้อนเสียงนุ่ม จุมพิตอุ่นพรมหวานลงไล้กกหู ต้นคอ ไล่ไปเรื่อยอย่างอิสระ

"ฝนตกนี่คะ" พุธชมพูตาปรือวาบหวามตามจังหวะคลอเคล้าสองทรวงอ่อน แผ่นหลังอบอุ่นมากเมื่อได้พักพิงกับอกแกร่ง

"ไม่ตกก็หนาว พี่หนาวทุกทีที่อยู่ใกล้พุธนี่แหละ เอ.. หรือว่าจะต้องอยู่ห่างๆ สักหน่อย"

พุธชมพูหมุนตัวกลับ ทิ้งทิวทัศน์ครึ้มข้างนอก ส่งทรวงอวบบดอัดกับแผงอกใหญ่ ยกสองแขนสามีตั้งพักบนไหล่บาง สองแขนตนก็ยกคล้องลำคอบึกบึน ขึงตาดุวาวนิดๆ แล้วทำทีถามขึงขังว่า

"พูดจริงหรือคะ"

"พูดจริง" ดนัยดลยอมรับ แล้วก้มจูบแก้มอย่างแสนรัก

"ห่างแค่ไหนคะ"

"บ้า พูดเรื่องอะไรห่างเหิ่ง เป็นไปไม่ได้หรอก พี่หมายถึงหนาวทุกทีที่อยู่ใกล้พุธต่างหาก หนาวแต่ก็ไม่อยากสวมอะไรเลย"

พุธชมพูทำหน้าเลิ่กลั่ก นึกไม่ถึงว่าสามีจะทะเล้นซุกซน จู่ๆ ก็อุ้มไม่บอกไม่กล่าว แล้วพาเดินตัวปลิวมาวางบนเตียง โน้มตัวหนักลงมา เหมือนจะบังคับกรายๆ ให้ร่างเบากว่านอนลง

อึดใจเดียว เหนือร่างเบากว่าก็อึดอัดแต่อบอุ่นด้วยแรงเขยื้อนเสียดสีแต่พอแผ่ว คลื่นแห่งปรารถนาพลันแล่นครืน พลางสาดกระแสวาบหวามแหลมลึกชโลมตลอดร่าง



บรรยากาศอึมครึมข้างนอกพร่างพรมด้วยฝนฉ่ำ มันสวนทางกับบรรยากาศคึกคักเร่าร้อนในวิมานรักโดยสิ้นเชิง เพราะอึดใจหลังจากนั้น สามีภรรยาก็ผลักไสอาภรณ์ออกห่าง พอใจจะคลอเคลียเนื้อกายแท้ๆ ซึมซับไออุ่นที่คายออกมาจากข้างใน

พุธชมพูสะท้านกลั้วกับหายใจระรวย เนื้ออุ่นถูกสามีโลมลูบด้วยฝ่ามือชื้น ด้วยจุมพิตอ้อน ด้วยเนื้อกายกำยำ และสุดท้ายก็ด้วยพลังรักที่ทุ่มโถมลงอย่างแข็งแรง

แสงไฟในห้องมันดับวูบลงเมื่อไหร่ สามีภรรยาก็ไม่ทันสังเกต เพราะมัวแต่ดื่มด่ำกำซาบกับจังหวะพิศวาสที่ต่างฝ่ายต่างรับต่างให้อย่างกลมเกลียว

เรือนผมยาวสลวยยุ่งเหยิงเพราะดนัยดลขยำขยี้ ระบายความเสียวสยิวแหลมลึก กายหนักปนชื้นเริ่มโยกเร็วขึ้น เสียงหายใจที่ก่อนหน้านี้เพียงแค่หอบแผ่วพร่า ยามนี้ค่อยทวีเป็นหอบแรงหนักหน่วง

บางคราภรรยายังได้ยินเขาคำรามดุดันในลำคอเล็กน้อย แล้วมันก็ทำให้เธอตระหนักรู้ว่า อีกชั่วอึดใจ ลำนำพิศวาสก็จะยุติการบรรเลง พร้อมกับทิ้งความซาบซ่านร้าวรานให้เธอและเขาร่วมกันซึมซับอย่างสุขสมลึกซึ้ง

"หายหนาวหรือยัง" ลำนำพิศวาสยุติลง กระแสสุขสมถึงขีดสุดยังไม่จางหาย สามีก็เริ่มป้อนคำถามทะเล้นอีกแล้ว

"พุธบ่นหนาวตั้งแต่เมื่อไหร่คะ"

"อ้าว พุธไม่ได้บ่นหรอกหรือ แต่พี่ได้ยินนี่ ไม่อย่างนั้น พี่จะสละพลังงานมาเติมความอบอุ่นให้พุธทำไม เหนื่อยออก"

"เหนื่อยก็ลงไปสิคะ มานอนทับคนอื่นเขาอยู่ทำไม"

"ไม่ลง อยากแกล้งคนอื่นให้นอนอึดอัดทั้งคืน"

ภรรยาหัวเราะ หัวใจวาบหวาม ร่างกายซ่านเสียว เพราะสามีไม่พูดหยอกเย้าแต่ปาก หากยังซุกซนย้ำโยกความแข็งแรงของชีวิตเล็กๆ รุกลึกเข้ามายวนยั่ว

"ใจร้ายขึ้นทุกวันนะคะ" เธอทำทีตัดพ้อ หากแต่ก็เผลอปลดปล่อยเสียงครางสยิวปิดท้ายให้เขาจับได้แล้วหัวเราะชอบใจ

"ไม่เป็นไร ใจร้ายมากกว่านี้ พี่ก็ยินดี ถ้ามันจะทำให้ยอดยาหยีของพี่ครางหวานๆ แบบนี้ให้พี่ฟังทั้งคืน ไหน ครางอีกทีซิ"

"บ้า"

สามีหัวเราะร่วน ยอมย้ายร่างลงนอนแนบข้าง แขนใหญ่พาดขวางหน้าท้อง สอดนิ้วซ่อนไว้ใต้เอวบาง ขยับร่างที่ชิดอยู่แล้ว ให้เข้ามาชิดอีกนิด ฟ้าร้องครืนๆ พร้อมกับริมฝีปากร้อนเผยอเย้าปลายยอดอุ่นที่ประดับเนินทรวงอวบพอดิบพอดี

"ฮื่อ พี่ดนัย" ภรรยาประท้วงเสียงแผ่วพร่า

"ฮื่อ นิดเดียว"

พุธชมพูหัวเราะระคนเสียวซ่าน ทายได้ว่ามันจะไม่นิดเดียวอย่างปากว่า สามีกำลังเริ่มต้นบรรเลงเพลงสวาทอีกบทแล้ว เธอแย้มยิ้มดื่มด่ำ พร้อมกับเผยอปากสวยให้เขาจุมพิตขยี้อย่างเร้าใจ อบอุ่นกับลิ้นอ่อนที่แทรกเข้ามาคลุกเคล้า ก่อนจะผละย้ายลงชื่นเชยลำคอเปื้อนเหงื่อ

มือร้อนจัดป่ายอย่างอิสระ ไม่กำหนดว่าต้องจากตรงไหนไปตรงไหน สามีสุดที่รักพอใจและสุขใจกับทุกตำแหน่งที่สัมผัสถึง

ก็ไม่ใช่มือเท่านั้น ที่มันจะก่อความสุขลึกซึ้ง ปากสวยก็พิษสงจัดไม่น้อยหน้า ยามที่เขาควบคุมบรรเลงทั่วทุกตำแหน่งกระสัน ภรรยาก็จะดิ้นเร่าทุรนทุราย หายใจขัดจนกลายเป็นกระอักกระเส่า เร่าร้อนและทรมานกับคลื่นเสียวสยิวแหลมลึกสุดใจ

แล้วหลังจากนั้น ชีวิตเล็กๆ ก็จะทำหน้าที่ยึดครองสานต่อ มันจะแปรเปลี่ยนคลื่นใคร่ให้กลายเป็น 'คลื่นรัก' ภายในเวลาอันรวดเร็ว



เครื่องบินลำยักษ์บินสูงขึ้นไปลอยบนท้องฟ้าสีคราม ชั่วอึดใจเดียว มันก็หดย่อจนไม่เหลือแม้แต่จุดเล็กๆ ไว้ในเงาตาเรียวหวานของพุธชมพู สามีเดินทางไปหาลูกค้าที่เกาหลี เขาตั้งใจจะขยายสาขาแรกให้สำเร็จก่อนสิ้นปีนี้ ช่างเป็นนักธุรกิจที่ไฟแรงและขยันขันแข็งเสียจริงๆ

สาวตาหวานเดินอมยิ้มกลับมาที่รถ เมื่อเข้ามานั่งเรียบร้อยแล้ว ก็อดที่จะหัวเราะออกมาขำๆ ไม่ได้ เพราะเธอคิดทะเล้นปนห่ามเล็กน้อย ด้วยว่าสามีในห้วงคำนึง ไม่ใช่แค่ว่าไฟแรงกับธุรกิจที่สุดรักสุดหวง

แต่ไฟรักที่มันสุมซ่อนรอเวลาฉายโชนในร่างกายแข็งแรงกำยำของเขา ก็ขยันขันแข็งกับการแผ่ไอร้อนมาเผาเรือนร่างของเธอให้ละลาย หรือบางคราก็แทบจะไหม้เกรียมออกบ่อยๆ

เหมือนเมื่อคืนนี้ไง เขาออดอ้อนน่ารัก ทุ่มโถมพลังสวาทหนักหน่วง จุมพิตเร่าร้อนของเขายังฝังลึกและตราตรึงอยู่ในปากจิ้มลิ้ม ทรวงหวาม หน้าท้องเนียน และทุ่งเสน่หาลึกเร้น ทุกคราที่ระลึกถึง ร่างกายก็มีอันสะท้านระคนซ่านสยิวไปเอง

ตาเรียวหวานย้ายไปจับหนุ่มสาวคู่หนึ่ง เดินกุมมือมองตากันลึกซึ้งผ่านรถของเธอไป ท่าทางจะเป็นคู่สามีภรรยา และคงจะเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ที่ไหนสักแห่ง อาจจะเมืองไทยหรือเมืองนอก เพราะดูจากการแต่งเนื้อแต่งตัว ก็คะเนว่าเป็นทายาทเศรษฐีด้วยกันทั้งคู่

จริงสิ เธอกับดนัยดลยังไม่เคยมีช่วงเวลาดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์เลย ตั้งแต่จดทะเบียนสมรสกับเขา เธอก็เปลี่ยนบทบาทจากหญิงสาวโดดเดี่ยว มาเป็นภรรยาผู้พรั่งพร้อม

แม้จะไร้พิธีวิวาห์อันทรงเกียรติ ไม่ได้สวมชุดเจ้าสาวที่ผู้หญิงแทบทั้งโลกใฝ่ฝันว่าจะได้สวมมันสักครั้งในชีวิต แต่ดนัยดลก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกน้อยใจในสิ่งที่หมดโอกาสไปแล้ว

น้ำผึ้งพระจันทร์มันอาจจำเป็นสำหรับคู่สามีภรรยาข้าวใหม่ปลามันหลายคู่ แต่สำหรับเธอ ดนัยดลคือข้าวใหม่ปลามันทุกวันทุกคืน ดังนั้น เธอจึงไม่จำเป็นต้องเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ที่ไหนให้สิ้นเปลือง

เพราะห้องนอนก็คือวิมานรักที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของความรักมากมาย อุดมไปด้วยความหวานชื่นจากน้ำผึ้งที่เธอกับสามีร่วมกลั่นด้วยกันผ่านลำนำเพลงสวาททุกช่วงเวลาอยู่แล้ว

"กลับจากเกาหลีแล้ว พี่จะพาเราไปพักผ่อนสักสี่ห้าวัน อยากไปไหน บอกซิ ห้ามบอกว่าแล้วแต่พี่นะ ถ้าได้ยินละก็ จะโกรธแล้วถอดเสื้อผ้าให้หมดเลย"

รถเคลื่อนตัวห่างสนามบินมาอย่างอ้อยอิ่ง เช่นเดียวกับคลื่นความทรงจำที่สาดประโยคอ่อนหวานของสามีครืนเข้ามาในสมอง พุธชมพูเม้มปากยิ้มวาบหวาม เผลอลูบพวงมาลัยด้วยกิริยาเคลิบเคลิ้มดื่มด่ำ

"พุธไม่รู้ว่าจะไปไหนนี่คะ เอ้อ ลงใต้ดีไหมคะ พุธไม่เคยไปเที่ยวทางนั้นเลย"

"ได้ครับ เราจะลงใต้ทันทีที่พี่กลับมาจากเกาหลี ตกลงแล้วนะ ถ้าอย่างนั้นมาเร็ว เล่นเกมถอดเสื้อผ้ากันเถอะ ถ้าพุธแพ้ ต้องพาพี่ลงอ่าง แต่ถ้าพี่ชนะ พี่จะพาพุธลงอ่างเอง มาเร็วยาหยีที่รัก"

'อุ๊ย' พุธชมพูอุทานใจหายวาบกลางใจปั่นป่วน เธอใจลอยซาบซ่านไปกับภวังค์รักจนเกือบจะฝ่าไฟแดงเข้าแล้ว บ้าจริงๆ นี่ถ้าเบรกไม่ทัน คงได้ชนกับท้ายรถคันหน้า สามีทราบเรื่อง คงบินกลับมาทำทีตำหนิโน่นนี่นิดหน่อย แล้วอุ้มลงอ่างไปทำโทษซุกซนอีก

ไม่ไหวล่ะ ต้องรีบระงับความฟุ้งซ่านและควบคุมสติให้มั่นคงกว่านี้ ไม่อย่างนั้น คงขับรถไม่ถึงบ้าน เผลอๆ อาจต้องเลี้ยวเข้าโรงพักไปเสียก่อน



อคินสบถรำคาญในลำคอ ตอนก้มหยิบหนังสือเดินทาง เจ้านายจอมเขี้ยวปรายตาตำหนิว่าเขาซุ่มซ่าม เขาก็รีบส่งยิ้มขอโทษ ทั้งที่เรื่องหยุมหยิมพวกนี้ มันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา เจ้านายไม่ต้องมาวุ่นวายติเตียนสักหน่อย ลำพังเฉพาะเคี่ยวกรำกับเรื่องงาน มันก็น่าจะพอแล้ว

เขายังง่วงอยู่เลย เมื่อคืนสวิงเหวี่ยงกับการปลดเปลื้องความใคร่ค่อนคืนไปหน่อย แม่สาวที่เขาหิ้วมาด้วยถึงกับบ่นอุบตอนเขาปลุกหยาบๆ แล้วไล่ให้กลับบ้านตอนตีห้า เพราะหล่อนกับเขาก็เพิ่งจะผล็อยหลับอย่างอ่อนเพลียไปเมื่อตอนตีสามครึ่งเอง

เลขาเจมี่สุดสวยเดินมากระแซะสีข้าง จงใจเบียดทรวงมโหฬารมาเสียดสีต้นแขนแน่นกล้าม หล่อนเจ้าชู้ได้น่าทึ่งมาก เขาปรายตาลงตำหนิ หล่อนก็ช้อนตาขึ้นมาเชิญชวนให้ลองเล่นเกมใคร่

"คุณใจกล้าจริงๆ เจมี่ เจ้านายยืนห่างแค่สามก้าวเอง ยังมาทำเจ้าชู้ใส่ผมอีก คุณเดือดร้อนน่ะผมไม่ห่วงเลยนะ แต่ผมไม่อยากถูกริบหุ้นคืน ไปยืนห่างๆ " เขากระซิบให้หล่อนหัวเราะคิก

"แหม ฉันรู้ว่าควรทำอะไรและไม่ควรทำอะไรหรอกน่า เอ้า นี่เอกสารที่คุณลืมไว้ทั้งปึก ฉันอุตส่าห์ขับรถแซงซ้ายปาดขวาเพื่อคุณโดยเฉพาะเลยนะ ยังจะมาทำหวงเนื้อถือแท่งไปได้"

อคินหัวเราะขำๆ เขาสับเพร่าขนาดนี้เชียวหรือนี่ คงเป็นเพราะระเริงใจที่ได้เป็นเจ้าของหุ้นจำนวนมากโข กับตำแหน่งใหม่ที่เพิ่งได้เลื่อนกระมัง

"ขอบคุณคุณเจมี่ครับ นี่ถ้าไม่ได้คุณ ผมต้องโดนเฉ่งตั้งแต่นิวยอร์กไปถึงเกาหลีแน่ๆ เลย"

"สำนึกในบุญคุณก็ดีแล้ว กลับมาจากเกาหลี ฉันจะนอนรอให้คุณมาทดแทนอย่างเต็มคราบเลย ดีไหม"

เลขาจอมเจ้าชู้เลี้ยววกกลับเข้าหาตัวได้หน้าตาเฉย อคินไม่ทันได้เอ่ยปากตำหนิ หล่อนก็ย้ายร่างบิดสะโพกปลิวไปควงแขนเจ้านายจอมเขี้ยว ช่างกล้าหาญชาญชัยดีจริงๆ ไม่กลัวบ้างเลยหรือว่า ภรรยาดุมหาโหดของเจ้านายจะโผล่พรวดพราดมาส่งคุณสามีร้อนรักน่ะ



ระหว่างรอเวลาขึ้นเครื่อง เลขาเจมี่กับเจ้านายปลีกตัวไปเดินกะหนุงกะหนิงอีกมุม เขานั่งปะปนกับผู้โดยสารมากมาย ไม่มีอะไรทำก็หยิบโทรศัพท์มือถือมาจ้องอย่างชั่งใจว่า ควรจะโทรหาดนัยดลดีไหม

ตั้งแต่หนุ่มไทยใจดีแวะไปหาถึงห้องทำงานเมื่อหลายเดือนก่อนแล้ว งานยุ่งๆ ก็รัดตัวเขาไว้ จนไม่มีเวลาได้ติดต่อพูดคุยกันอีกเลย ทางโน้นก็เงียบหายไปเช่นกัน เดาว่างานคงพะเรอเกวียนพอกัน

"ดนัยดลครับ"

"รู้แล้ว" หลังจากตัดสินใจโทรหา แล้วรอสัญญาณอยู่ครู่หนึ่ง เสียงหนุ่มไทยใจดีก็กรอกมาตามสาย ให้เขาอมยิ้ม "ก็ผมโทรหาคุณนี่นา อ้อ หรือว่าจะมีสาวอื่นที่ไม่ใช่เจ้าของโทรศัพท์มาช่วยรับแทนหรือเปล่า"

"คุณเป็นใคร เสียงคล้ายเพื่อนผมจัง"

อคินเลิกคิ้ว แล้วเพิ่งฉุกคิดได้ว่า เขาเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์เมื่อสองเดือนก่อน เปลี่ยนทั้งเบอร์ทั้งเครื่องใหม่เลย เพราะเครื่องเก่าหล่นจ๋อมลงไปนอนเย็นฉ่ำอยู่ก้นท่อระบายน้ำแล้ว

เขาเมามากในคืนนั้น สาวคู่นอนนั่นล่ะ ที่เล่าว่า รีบถลันไปคว้าแล้ว แต่ก็ไม่ทัน ตอนเมาเขาก็บอกว่าไม่เป็นไร แต่พอสร่างก็เอะอะอาละวาดกับหล่อนใหญ่โต

"ขอโทษครับ นี่ผมเอง อคิน ผมลืมไปเลยว่าผมเปลี่ยนโทรศัพท์เปลี่ยนเบอร์ด้วย"

"อ้าว หรือครับ แล้วนั่นคุณอยู่ไหน เสียงดังจอแจพิลึก"

"สนามบิน ผมกำลังจะเดินทางไปเกาหลีครับ"

"เกาหลี อยากให้ผมไปรับไหม"

อคินหัวเราะเบาๆ บางทีก็นึกแปลกใจว่าดนัยดลเก็บอารมณ์ขันมากมายเอาไว้ตรงไหน ได้คุยกันทีไร เขาจะเป็นฝ่ายปลอดโปร่ง อบอุ่น และรู้สึกเหมือนว่าตัวเองไม่เดียวดายอ้างว้างอย่างที่เคยเป็นเรื่อยมา

"เอาสิ ถ้าคุณมีน้ำใจ ผมจะปฏิเสธทำไม"

"ได้ บอกเวลามาเลย ถึงกี่โมง กี่ทุ่ม"

อคินบอกเวลาปลายทางให้ทราบ แต่ก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะเจอเพื่อนหนุ่มใหญ่ชาวไทยที่โน่นจริงๆ เขาคิดว่าทางโน้นอำเล่น ทำทีจริงจังหวังจะให้เขาแปลกใจเสียมากกว่า

"เจ้านายผมย้อนกลับมาแล้วกับคุณเจมี่ คุณดนัยจำเธอได้หรือเปล่า เลขาตาเจ้าชู้น่ะ"

"จำได้ ผมเป็นคนมีความจำชั้นเลิศ ขออวด"

"รู้แล้ว ดีใจที่ได้เป็นเพื่อนกับคนมีความจำชั้นเลิศนะครับ แล้วเจอกันนะ"

เขากดปุ่มตัดสายพร้อมกับลุกขึ้นยืนรวดเร็ว เจ้านายจอมเขี้ยวค่อนข้างหยุมหยิมกับพิธีรีตอง ถือดีว่ามีอำนาจเหนือกว่าไว้ข่ม มีอิทธิพลของเงินทองไว้เบ่ง คนอื่นยามเจอหน้าต้องพินอบพิเทาให้เห็น ถ้ายืดอกคอแข็งก็จะถูกเหมาว่า 'กำแหงไม่ยำเกรง'

เลขาหุ่นน่าฟัดโบกมือลาทั้งเจ้านายและลูกน้อง หล่อนชม้ายชายตาเจ้าชู้ใส่แสงตาเฉยๆ ของอคิน ทิ้งประกายร้อนรักเชิญชวนไว้อีกเล็กน้อย รอจังหวะให้เจ้านายหันหลัง ก็รีบส่งจูบซุกซนให้ลูกน้องหนุ่มไทยในฝัน

อคินคงไม่ทราบหรอกว่า หล่อนหมายมั่นขบเคี้ยวเนื้อหนุ่มของเขามานานแค่ไหนแล้ว คนอื่นล้วนแต่โอนอ่อน แค่หล่อนกระดิกนิ้ว แต่เขานี่สิ เล่นตัวอย่างท้าทายนัก

หนุ่มไทยหวงตัวเฉพาะคนในที่ทำงานตัวเองส่ายหน้าระอา เขาโบกมือเหมือนไล่แกมปฏิเสธไมตรีร้อนแรงที่อีกฝ่ายเสนอ ขณะสาวเท้าเร็วขึ้นอีกนิด เพื่อทิ้งระยะห่างเจ้านายไม่เกินสามก้าว

สาวไทยกับเพื่อนสองคนที่เร่งฝีเท้าขึ้นมาจนเคียง ก็สนทนากันด้วยภาษาถิ่นเกิด ทำให้เขาอดเหลียวไปมองและฟังไม่ได้

แล้ววูบนั้น หัวใจแตกสลายก็พลันผุดเงาของนางในฝัน ที่เขายังคงฝันถึงและคะนึงหาไม่เสื่อมคลาย ป่านนี้เธอจะเป็นยังไงบ้างหนอ มีความสุขกับสามีหนุ่มใหญ่ดีอยู่หรือ 'พุธชมพู'

จากคุณ : รัชนีกานต์
เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 08:20:39




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com