ขวางปืนกามเทพ ตอนที่ ๘{แตกประเด็นจาก W11158812}
|
 |
ขอบคุณ มานีโอลา, npuiy, สามปอยหลวง, สะเก็ดดาวเสาร์ ที่มาติดตามกันนะครับผม
ลูดัสบอกตัวเองว่าบ้านของไพลินนั้นดูร่มรื่น เรียบง่าย น่าอยู่ หากเมื่อเปิดประตูรถแล้วก้าวออกมา ความรู้สึกนั้นกลับจางจืดราวกับถูกปนด้วยน้ำถังใหญ่
เสียงข้าวของตก เสียงร้องไห้ เสียงโวยวาย ทำให้บ้านไม่เป็นบ้าน
คนที่ผ่านโลกมามากถึงสามพันปีอย่างเขาไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรนักหรอก ชีวิตมนุษย์ก็เหมือนนวนิยายสักเรื่อง เหมือนโลกฝันที่เกิดขึ้นและดับวับหาย ไม่มีอะไรจีรัง ไม่มีอะไรยึดมั่นได้ เขาได้พบสิ่งที่เรียกว่าปาฏิหาริย์มานับร้อยพัน บางครั้งจากมือของเขา บางครั้งจากที่ไหนก็สุดรู้
แต่ภาพที่เขาก้าวตามไพลินเข้าไปพบ ทำให้ชายหนุ่มรับรู้อย่างสงบว่า ปาฏิหาริย์ไม่เคยเกิดขึ้นในบ้านน้อยหลังนี้
ไพลินยืนนิ่งอยู่ตรงทางเข้าบ้าน มองภาพตรงหน้าเหมือนจะประทับรับรู้ให้แจ้งแก่ใจ ใจที่ปวดร้าว ดวงหน้าของหล่อนนิ่งตึงเรียบเฉยเหมือนภาพวาด กลบเกลื่อนความรู้สึกใดๆ ออกไปจนสิ้น
ลูกไม่รักดี ไอ้ตูน ใครเลี้ยงแกให้เป็นเด็กอย่างนี้หา ใครสอนสั่งให้แกไม่รักพ่อ ไอ้เด็กอกตัญญู!! หญิงวัยกลางคร่ำครวญหวนไห้ มือบางทุบตีลูกชายวัยรุ่น ตีไปตามอก ไหล่ และแขน คงจะตีอยู่นานและแรงจนแขนของเด็กหนุ่มแดงเป็นจ้ำๆ หากดูเหมือนนั่นไม่ได้ทำให้น้องชายของไพลินเจ็บปวดไปได้มากกว่าน้ำมูกน้ำตาร้อนๆ ของคุณเพทายที่ไหลรดอกเสื้อของเขา มันเป็นกรดกัดกร่อนลวกเนื้อให้ร้อนรุ่ม ทรมาน
ไพฑูรย์กอดผู้เป็นแม่เอาไว้แน่น ไม่ยอมให้ไปไหน แขนขายาวเรียวของเขามีพลังมากกว่าของหญิงกลางคนแน่นอน แต่พลังใจของชายหนุ่มถดถอยน้อยลงไปทุกที ดวงหน้าของชายหนุ่มบิดเบ้ คล้ายกับแก้วเนื้อบางจวนปริร้าว หากต้องทนฟังคำด่า ต้องรับการตบตีของมารดาไปอีกสักวินาทีเดียว หนุ่มน้อยก็คงระเบิดเสียงโฮออกมาไม่ต่างจากเด็กเล็กๆ
ตูนรักแม่ ตูนถึงต้องทำแบบนี้ เขาพูดเสียงปร่า กลบรสขมของน้ำตาในอก มือของเขากำโทรศัพท์มือถือของมารดาไว้แน่น โทรศัพท์บ้านถูกปัดกระเด็นจากฐาน มีคุณเพทายพยายามเอื้อมไปให้ถึงทั้งๆ ที่ผู้เป็นลูกรั้งเอาไว้สุดแรง... ด้วยรัก
ปล่อยฉัน ปล่อยนะ ถ้าแกยังเห็นว่าฉันเป็นแม่ ปล่อย ฉันจะโทรไปหาพ่อแก
ลูดัสหันมามองไพลิน สายตามีคำถาม แต่ร่างเล็กไม่หันกลับมามองตอบ หล่อนยังทอดสายตามองแม่และน้องชายนิ่ง ก่อนจะก้าวไปข้างหน้า หล่อนเดินเลยนาฏกรรมชีวิตที่แสนเจ็บปวดไปหยิบยามาจากพานด้านข้างโต๊ะ เดินไปหยิบขวดน้ำมารินใส่แก้วแล้วถือไปหามารดา
แม่ ไพลินบอก เสียงเรียบ เมินเฉย ราวกับไม่ได้รู้สึกอะไรทั้งสิ้น มีอะไรจ๊ะ
ไอ้ตูนมันทรพี พ่อแกหายไปเป็นวันๆ มันดันไม่ยอมให้แม่โทรแจ้งตำรวจ มันอยากให้พ่อหายไปนักรึไง สมใจใช่ไหมที่พ่อมันหายไป
เปล่านะแม่ ตูนรักพ่อ แต่แม่ก็รู้ว่าพ่อไปแล้ว พ่อไปแล้ว เด็กหนุ่มพูดทั้งสะอื้นลืมมาด ลืมอาย ลืมสิ่งใดทั้งสิ้นทั้งปวง นอกจากหญิงในอ้อมแขน
จ้ะแม่ พ่อไปแล้ว ไพลินบอก สีหน้าสีตาเป็นเรื่องธรรมดาที่สุด พ่อออกไปข้างนอก เนี่ย เพิ่งสวนกับหนูลินเอง หญิงสาวว่าแล้วก็มองหน้ามารดา
แม้จะไร้เหตุผลขนาดไหน แต่เมื่อเรื่องราวพอทำให้หญิงกลางคนฟังได้ ฟังขึ้น หล่อนก็หยุดดิ้นรน ได้แต่สะอื้นพลางหอบฮักๆ แต่... แต่แม่รอสามวันแล้วนะ พ่อแกยังไม่... ไม่กลับมาเลยหนูลิน แม่...แม่เป็นห่วงพ่อแก ไอ้...ตูนมันก็...ก็บอกว่าพ่อแกไปแล้ว ไปแล้ว
ไปต่างจังหวัดไงแม่ เมื่อกี้พ่อแวะมาเอาของ แต่ต้องรีบกลับเลยไม่ได้เข้าบ้านมา พ่อเป็นห่วงแม่เหมือนกันนะ คนเป็นลูกสาวพยักเพยิดว่า หันไปเหมือนเพิ่งได้พบพ่อมาจริงๆ แกว่าแม่เสียงอู้อี้เหมือนเป็นหวัด หญิงสาววางแก้วน้ำ เช็ดน้ำมูกให้มารดาอย่างอ่อนโยน แล้วก็เป็นจริงๆ ด้วย เห็นไหม ดูสิจ๊ะ ว่าแล้วก็ยื่นยาให้ ตามด้วยน้ำ แม่ต้องกินยาแล้ว พ่อจะได้ไม่ต้องกังวล กินนะจ๊ะ แล้วไปล้างหน้าล้างตานะ
ไพฑูรย์ปล่อยมือจากร่างปวกเปียกของมารดา หญิงกลางคนรับน้ำและยามาแต่โดยดี กลืนอย่างว่าง่าย เดี๋ยวพ่อมาจริงๆ นะ สายตาหวั่นไหวมองหน้าหล่อนและน้อง คาดคั้น
มาจริงๆ จ้ะแม่ แม่ขึ้นไปเอนหลังข้างบนก่อนก็ได้ เดี๋ยวพ่อมาแล้วลินไปปลุก
จบคำนั้น คุณเพทายก็ก้าวขึ้นบันไดพลางเช็ดน้ำตาป้อยๆ ไป ทิ้งให้สองพี่น้องมองตากันอย่างปวดร้าว และแขกแปลกหน้าที่ยืนหลังตรง มองภาพที่เห็นด้วยสายตาเรียบเฉย
พี่หนูลิน ไพฑูรย์มองมาที่หญิงสาว ดวงตารวดร้าว หลงทาง ไหล่กว้างสง่าน่ามองบัดนี้ตกลู่ ราวกับคนที่พ่ายแพ้ อ่อนแอจนไม่มีแรงหยัดยืน ไพลินกางแขนออกแล้วก้าวไปสวมกอดน้องชายไว้แน่น
ไม่เป็นไรแล้ว ตูน ไม่เป็นไรแล้ว
หญิงสาวรู้สึกได้ถึงอ้อมกอดที่สั่นเทิ้มของเด็กหนุ่ม รู้สึกได้ถึงความร้าวรานจากร่างกายน้อง ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อไหร่จะเกิด ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อไหร่แม่ของหล่อนจะจำความได้นานๆ ติดต่อกันแล้วสรุปว่าพ่อหล่อนหนีหายไป แม้คาดการณ์ตามที่หมอเตือนไว้แล้วว่า บางครั้งวันเช่นนี้ก็อาจแวะเวียนมา จนเตรียมยานอนหลับเอาไว้สำหรับมารดา แต่หล่อนและน้องไม่อาจตั้งตัว เตรียมใจ รอวันที่มันจะเกิดขึ้นได้เลย
แก้มนวลของไพลินขาดเผือด มีรอยช้ำ แต่ไม่มีหยดน้ำตา โอ๋ โอ๋ แม่ไม่เป็นไรหรอกตูน เดี๋ยวแม่ก็หาย ถ้าเครียดก็ร้องออกมานะตูน อย่ากลั้นเอาไว้
นี่ไงล่ะ ความรักของแท้แน่นอน รักของหล่อนกับน้องที่มีให้แก่แม่ รักที่แสนเจ็บปวดทรมาน หาก... ก็รักไปแล้ว
ทำไมไพลินจะไม่รู้ถึงความเจ็บแสบของความรักได้ดีกว่าใคร
ตูนรักแม่ ตูนไม่อยากเห็นแม่เป็นอย่างนี้พี่หนูลิน ตูนรัก... รักแม่มากนะ
ชายหนุ่มคร่ำครวญอย่างลืมอายในอ้อมกอดของพี่สาว เขากอดกระชับแน่น รับเอาความเย็นชื่นไปหล่อเลี้ยงจิตใจที่ลึกโหวงเหมือนหุบเขาแห้งแล้ง สากกระด้าง
แต่ใครเล่าหล่อเลี้ยงจิตใจของไพลินในวันและเวลาเช่นนี้
จากคุณ |
:
คมลิขิต
|
เขียนเมื่อ |
:
9 ต.ค. 54 10:48:31
|
|
|
|