Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
------------------->จ้างเธอให้รัก ตอนที่14 [PART2/2]<------------------------ ติดต่อทีมงาน

...............จ้างเธอให้รัก ตอนที่14 [PART1/2]..................

ลิงค์ของตอนที่ผ่านมานะคะ

บทนำและตอนที่ 1
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10613052/W10613052.html
ตอนที่2
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10644126/W10644126.html
ตอนที่3
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10661938/W10661938.html
ตอนที่4
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10682612/W10682612.html
ตอนที่5
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10712662/W10712662.html
ตอนที่6
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10756171/W10756171.html
ตอนที่7
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10770518/W10770518.html
ตอนที่8
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10800113/W10800113.html
ตอนที่9
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10850347/W10850347.html
ตอนที่10
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10875048/W10875048.html
ตอนที่11
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10966374/W10966374.html
ตอนที่12
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10993897/W10993897.html
ตอนที่13
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11029236/W11029236.html
ตอนที่ 14 PART1/2
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11115180/W11115180.html

++++++++++++++++++++

ตอนที่ 14 ดูตัว PART 2/2

ทันทีที่ประตูรั้วขนาดใหญ่เปิดกว้างออก นีรนาก็เลื่อนสายตามองเส้นทางถนนเล็กๆและพ่อบ้านผู้ออกมาต้อนรับคุณหนูตัวดีของบ้านหลังนี้ หญิงสาวเหลือบสายตามองสวนดอกไม้สวยงามและน้ำตกจำลองมุมหนึ่งไกลออกไป สภาพลานหน้าบ้านงดงามไม่มีที่ติ

ส่วนประตูทางเข้าสู่ตัวบ้านก็ใหญ่โตพอๆกับรูปปั้นเทพีข้างๆ ทุกอย่างดูหรูหราและงดงาม นีรนาต้องเบิกตามองก่อนจะอุทานเบาๆ เมื่อปรุฬห์จอดรถเรียบร้อยแล้ว คุณพ่อบ้านก็เปิดประตูต้อนรับนีรนากล่าวสวัสดีพร้อมรอยยิ้ม หญิงสาวกล่าวทักทายตอบแล้วจึงรีบจัดแจงทรงผม สำรวจชุดกระโปรงของตนเองและใช้มือตบแก้มเบาๆเรียกความมั่นใจ

หญิงสาวหันไปมองปรุฬห์อีกครั้ง

เธอไม่ได้เห็นความยิ่งใหญ่และหรูหราของเขาอย่างเด่นชัดจนกระทั่งตอนนี้ สายตาของเธอที่ทอดมองดูเขาจึงเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

ปรุฬห์หันไปยิ้มให้แก่พ่อบ้านก่อนจะเดินล้วงกระเป๋ามองดูสายตาของหญิงสาวอย่างฉงนก่อนจะรีบจูงมือเธอเพื่อเข้าไปในบ้านพร้อมกัน

บรรดา สาวใช้สามสี่คนออกมาต้อนรับคุณชายของพวกเธอด้วยความดีใจหลังจากไม่ได้พบหน้า กันมาสองอาทิตย์นับตั้งแต่ปรุฬห์ย้ายไปพักในคอนโดหรูเพียงลำพัง

“สวัสดีค่ะคุณชาย”พวกเธอต่างยิ้มแย้มแจ่มใสก่อนจะเหลือบสายตามองหญิงสาวซึ่งปรุฬห์จูงมือมาด้วยกัน พวกเธอต่างสงสัยใคร่รู้ในตัวนีรนาเป็นอย่างยิ่ง

“เธอชื่อนีร นีรครับนี่คือพี่เลี้ยงของผม”

หญิงสาวกระอึกกระอักก่อนจะกล่าวสวัสดีพวกเธอ

“คุณชายเข้ามานั่งรอคุณผู้หญิงในบ้านก่อนเถอะนะคะ”ว่าพลางผายมือเชื้อเชิญ

ปรุฬห์จึงเดินนำหญิงสาวเข้าไปข้างในบ้านหลังโอ่อ่างดงาม พื้นหินอ่อนขัดมันแวววาวจับตา ความตื่นเต้นทำให้ปรุฬห์หัวเราะใส่เธออีก “บ้านไอ้ทีคก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่หรือไง”

“ไม่รู้สิ ... รู้สึกว่ามันแตกต่างกันนิดหน่อย”นีรนาบอก

บางทีอาจจะเพราะรูปทรงบ้านซึ่งใหญ่โตกว่าเล็กน้อยและบรรดาสาวใช้ซึ่งปรนนิบัติครอบครัวคฤษฐานนท์ในฐานะเจ้านาย ไม่ใช่ผู้ถูกจ้างซึ่งเรียกด้วยวาจาสนิทสนมกันมากกว่าภายในบ้านของทีคก็เป็นได้

นีรนารับน้ำเย็นจากสาวใช้ พวกเธอต่างจดจ้องมองแฟนใหม่ของปรุฬห์แทบตลอดเวลาจนทำให้นีรนารู้สึกประหม่า

“พ่อ กำลังกลับมาจากบริษัท”ปรุฬห์ซึ่งนั่งไขว่ห้างเหยียดแขนบนโซฟาข้างๆนีรนาจน ต้องเลื่อนใบหน้ามากระซิบกับหญิงสาวจนกายของนีรนาสั่นวูบร้อนผะผ่าวด้วยลม หายใจแผ่วๆของอีกฝ่ายแม้ว่าปรุฬห์ไม่ได้คิดอะไรเลยก็ตามที “นั่งรออีกสักพัก”

“แล้วครอบครัวธนากิจ?”

“อ้อ ไม่หรอก”ปรุฬห์รีบแย้งก่อนจะยกแก้วน้ำเย็นดื่มให้พอชุ่มคอแก้กระหาย “มีเพียงเปมิกาเท่านั้นล่ะจะกลับมาพร้อมแม่ของผม พวกเธอไปเดินซื้อของด้วยกันในห้าง”

นีร นาพยักหน้ารับช้าๆรู้สึกเกร็งนิดหน่อยซึ่งอันที่จริงแล้วการแสดงออกอย่าง เป็นธรรมชาติก็ถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่งซึ่งเธอไม่เคยทำให้ใครต่อใครผิดหวัง ทว่าแรงกดดันมหาศาลนั้นมาจากไหนกันนะ? พ่อของปรุฬห์ซึ่งส่งกระแสจิตจากในบริษัทเพื่อจับผิดเธอ หรือแม่ของเขากำลังนึกสภาพเธออยู่? หรืออาจจะเป็นเปมิกาซึ่งกำลังวางแผนเชือดคอเธอหลังจากอาหารค่ำคืนนี้?

กลัวอะไร? ไม่เห็นมีอะไรต้องกลัวเลยสักนิด ... คนที่รักกันชอบพอกันต่อให้มีอะไรขวางกั้นก็ไม่ยอมให้มันกีดกันเราได้ ... และเธอก็อยู่ในฐานะเช่นนั้น ผู้ที่ต้องยืนหยัดว่าเธอกับปรุฬห์จะไม่มีทางแยกจากกันได้แม้ว่ามันคือสิ่งที่กุขึ้นมาโดยข้อตกลงของเขาและเธอทั้งสิ้น

“คิดอะไรอยู่”ปรุฬห์ถามโน้มตัวเข้ามาใกล้ๆนีรนา การกระทำของทั้งสองต่างก็ไม่รอดพ้นสายตาของบรรดาสาวใช้ซึ่งกำลังจัดผ้าปูเก้าอี้ลายสวย

นีรนาไม่กล้าหันไปมองเขาหรอก เธอรู้ดีว่าปลายจมูกของเขาแทบจะชนแก้มของเธออยู่แล้ว ... คนอะไร ถือโอกาสจริงๆเลย แสดงให้แนบเนียนหรือตั้งใจจะลวนลามกันแน่!

ปรุฬห์คงรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่เขาจึงกระเซ้าหยอกเธออีก เลื่อนมือซึ่งพาดบนโซฟามาโอบเธอเอาไว้โดยที่เธอกำลังนั่งเงียบกริบไม่สามารถขัดขืนเขาได้ “เวลาคุณอยู่นิ่งๆแบบนี้น่ะน่ารักดี”ว่าจบก็หัวเราะมองดูนัยน์ตาชำเรืองหรี่ใส่เขาอย่างไม่พอใจจากหญิงสาวข้างกาย “ยิ้มไว้สิ ยิ้มสิครับ”เขากระซิบเบาๆแล้วนีรนาต้องแสร้งฉีกยิ้มแกมเขินอายเมื่อเธอเห็นสาวใช้หันมาสังเกตด้วยดวงตาลุกวาว

“แหม คุณปรุฬห์คะ”นีรนาได้ทีใช้มือดันตัวเขาออกห่าง “ไม่เหมาะสมล่ะมั้งคะ ที่นี่น่ะค่ะ”

เมื่อชายหนุ่มเห็นเธอเล่นด้วยเขาก็ยิ่งถูกใจ “ก็เมื่อคืนคุณทำให้ผมมีความสุขมากนี่ครับ ยากจะลืม ตอนนี้ยิ่งอยากอยู่ด้วยกันใกล้ๆนานๆ”พูดจบก็เขยิบตัวเข้ามาแนบชิดอีก คราวนี้ถือโอกาสโอบเอวแล้วก็เอียงศีรษะซบกับไหล่ของเธอ

นีรนาต้องยิ้มแหยๆเธอไม่กล้าสะบัดเขาหนีเกรงสาวใช้จะรู้ว่าความสัมพันธ์ของเธอและเขานั้นตรงข้ามกับภาพลวงตาที่กำลังสร้างอยู่ในตอนนี้

“เจ้าเล่ห์”นีรนากระซิบบอก

ปรุฬห์กลับยิ้มกริ่มโน้มตัวหมายจะจูบทว่านีรนาต้องขยับตัวหนีในทันทีนั้น “ฉันอายจังเลยค่ะ ดูสิคะ พี่เลี้ยงมองเราสองคนอยู่นะคะ”บรรดาสาวใช้ต่างกระหยิ่มยิ้มหัวเราะคิกคักทำเป็นมองไม่เห็นพวกเขา

“ไม่เป็นไรหรอกครับพวกเธอรู้ว่าผมเป็นแบบนี้”ปรุฬห์พูดพร้อมกับใช้มือสองข้างดึงตัวเข้ามากอดแน่นๆไม่ยอมให้หนีง่ายๆ

“อะไรนะ”นีรนาเบ้ปากอย่างแปลกใจในคำพูดของอีกฝ่าย

ปรุฬห์ไม่ตอบอีก เขาได้ทีจึงประทับริมฝีปากบนแก้มของเธอเบาๆหนึ่งครั้งพร้อมกับเหยียดยิ้มอย่างอารมณ์ดี “ไม่ต้องอายหรอกครับ คนกันเองรู้จักกันดีทั้งนั้น”

กลิ่นหอมๆจากกายของชายหนุ่มและรอยจูบนุ่มๆบนแก้มของเธอทำให้นีรนาจ้องมองเขานิ่ง ความรู้สึกวูบไหวในเรือนร่างปรากฏขึ้นชั่วขณะ

“ปรุฬห์”

“สวัสดีครับแม่”ปรุฬห์หันไปมองสายตาตำหนิจากผู้เป็นแม่หน้าประตูห้องทว่าไม่ได้ทำให้เขารู้สึกสะทกสะท้านเลยเพียงสักนิดเดียว

นีร นาแทบจะยกมือไหว้ไม่ทัน เธอเขยิบตัวออกห่างจากปรุฬห์พร้อมกับหยิบยื่นยิ้มแห้งๆให้คุณนายรพินทร์ ครั้นแล้วสายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นหญิงสาวร่างเล็กแต่งตัวน่ารักๆราวกับ ตุ๊กตาเดินเข้ามาในห้องรับแขกพร้อมกับถุงใส่เสื้อผ้ามียี่ห้อนับกว่าสิบถุง เข้ามาด้วย สาวใช้รีบรับถุงใส่ผ้าราคาแพงจากว่าที่คู่หมั้นของปรุฬห์ออกไปจากห้อง

“สวัสดีครับน้องเปมิกา”ปรุฬห์ลากแขนของนีรนาให้ยืนข้างๆโซฟาก่อนจะกล่าวแนะนำตัวอีกครั้ง

แม่ของเขาจับจ้องมองนีรนาก่อนจะพยักหน้ารับน้อยๆขณะที่เปมิกาจิกตามองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความรู้สึกดูถูกเหยียดหยาม

“วันนี้ หนูอยู่ที่นี่ทานอาหารเย็นกับครอบครัวของเราก่อนนะ ตามสบายนะจ๊ะ”รอยยิ้มของคุณนายดูอบอุ่นแม้ว่านีรนากำลังระแวงว่าอาจจะเป็น รอยยิ้มซึ่งแฝงความไม่จริงใจเอาไว้เหมือนคุณนายอรุณาเดชหรือไม่ แต่ปรุฬห์ไม่ได้คิดเช่นนั้น แน่นอนว่าแม่ของเขาไม่ค่อยพอใจนักหรอกที่รู้ว่าเขาคบหากับนีรนาอยู่แต่แม่ ของเขาเป็นคนมีเหตุผลพอที่จะรับฟังความรู้สึกของลูกชายและถ้าหากแม่ของเขา เห็นว่านีรนามีความรับผิดชอบมากพอสมควร คุณนายรพินทร์ก็พร้อมจะยอมรับและให้อภัยแก่เขาได้

ทว่านีรนาเป็นหญิงขายบริการ เขาจะให้แม่รู้เรื่องนี้ไม่ได้หรอก ... นี่เป็นเรื่องเดียวที่ปรุฬห์จะไม่บอกแม่

ส่วนเปมิกาก็เป็นหญิงสาวอันตรายซึ่งตามติดเขาแจตลอดนับตั้งแต่รู้ว่าต้องหมั้นหมายกับเขา เธอยังคงเป็นคนนอกครอบครัวคฤษฐานนท์ สิทธิของเธอไม่ต่างจากนีรนา

“พี่ชื่ออะไรหรือคะ”เปมิกาถามด้วยรอยยิ้มเหยียด

“นีรจ้ะ”

“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะพี่นีร หนูชื่อเปมค่ะ”เธอยื่นมือให้แก่นีรนา

ขณะ ที่นีรนากำลังจะยื่นมือตอบปรุฬห์ก็จูงแขนของนีรนาเรียกร้องความสนใจให้ไป เดินสวนหลังบ้านร่วมกันกับเขาขณะที่รอพ่อของเขากลับมาจากสถานที่ทำงาน

เปมิกาต้องจับจ้องมองด้วยแววตาคุกรุ่นอย่างเคืองโกรธ

“ไปด้วยกันไหมครับน้องเปมิกา”

“ไม่ล่ะค่ะ เปมอยากทำอาหารค่ะ ... อยากไปช่วยคุณแม่”

คุณแม่ ... ปรุฬห์ต้องตีสีหน้าระอิดระอาตอบ ... นั่นคือแม่ของฉันต่างหากล่ะไม่ใช่แม่ของเธอ

เห็น ได้อย่างชัดแจ้งว่าเปมิกาต้องการแสดงให้นีรนาเห็นว่าเธอเป็นคู่หมั้นของ ปรุฬห์หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่าอย่างไรก็ตามเปมิกาย่อมมีคุณค่ามากกว่าแฟน ซึ่งคงจะคบกันไม่ยืนยาวระหว่างนีรนาและปรุฬห์อย่างแน่นอน

นีรนายิ้มกริ่มเมื่อเธอเริ่มคาดเดานิสัยของอีกฝ่ายได้ ... นีรนารู้ว่าเปมิกาต้องการเป็นศัตรูของเธอ

ได้สิ ... เธอไม่ปฏิเสธหรอกเพราะตอนนี้ปรุฬห์ต้องการให้นีรนาถือไพ่เหนือกว่าอยู่แล้ว

ปรุฬห์รีบจูงมือของนีรนาเดินออกจากห้องรับแขกก่อนจะเลี้ยวพาเธอไปยังสวนหลังบ้าน ทันทีที่เดินเข้าไปในสวนวงกต ปรุฬห์ก็ต้องทอดถอนหายใจยาวๆส่วนนีรนาก็เผยยิ้มบางๆ

“ฉันคิดว่าคู่หมั้นของคุณคงจะกวนใจคุณไม่น้อย”นีรนาบอกพลางเดินช้าๆกอดอกมองดูต้นไม้สีเขียวชอุ่มข้างกาย

“กวนมากๆเลยล่ะ”เขาบอกพลางส่ายหน้า “ผมไม่อยากอยู่ที่นี่ก็เพราะแบบนี้”

“ดูเหมือนแม่ของคุณจะชอบเธอ”

“เอ่อ จะเรียกว่าชอบดีหรือเปล่าล่ะ”ปรุฬห์ทำหน้านึกนาน “เปมิกาพยายามมาที่บ้านของพวกเราบ่อยๆแล้วก็ทำคะแนนให้กับพ่อแม่ของผมด้วย วิธีนี้แต่ไม่ได้ทำให้ผมประทับใจหรอกนะเพราะว่าเธอตั้งใจจะรบเร้าให้ผมมี เวลาว่างให้เธอมากกว่านี้”

นีรนาหันไปมองเขาอย่างแปลกใจ “ไม่ดีหรือ? คุณจะได้รู้จักเธอมากขึ้น”

“ผมไม่ชอบเธอ”ปรุฬห์บอกตรงๆ

“ทำไมล่ะ”

“ไม่รู้”ปรุฬห์ส่ายหน้า “ผมก็ตอบไม่ได้หรอก คงเพราะเธอไม่ใช่สาวในสเปค”

“สเปคสูงล่ะสิ”นีรนาว่าพลางหัวเราะบ้าง

ปรุฬห์ใช้กำปั้นดันแก้มของเธอเบาๆตอบ แล้วนีรนาจึงต้องหันไปใช้แขนฟาดใส่บ่าของเขา “คุณน่ะชอบเล่นแรงๆ”

“ก็คุณชอบกวนฉันนี่!”นีรนาไม่พอใจ

“แบบ นี้เขาไม่เรียกว่ากวนเสียหน่อย”ปรุฬห์บ่นพร้อมกับเลื่อนกำปั้นดันแก้มของเธอ อีกจนทำให้หญิงสาวเดินเซใบหน้าเลื่อนไปแทบจะจุกกับพุ่มไม้ข้างๆแล้วเขาก็ หัวเราะชอบใจ นีรนาเข้าไปตีแขนซ้ำ “พอได้แล้วๆ ไม่เล่นด้วยแล้ว คุณน่ะโมโหผมเป็นอย่างเดียว”

นีรนาแลบลิ้นใส่เขา

คราวนี้ปรุฬห์จึงแลบลิ้นตอบ

“น่าเกลียด”นีรนาหัวเราะ

“ก็ผมเห็นคุณชอบทำแบบนี้ ผมก็เลยทำให้ดูไงว่ามันไม่ได้น่ารัก”ก่อนที่นีรนาจะได้ตีเขาย้ำตำแหน่งเดิม ปรุฬห์ก็รีบเลื่อนมือไปจับมือนุ่มๆของเธอเอาไว้ครั้นแล้วจึงหันไปมองดูกระจกหน้าต่างซึ่งมีผ้าม่านสีอ่อนปิดซ่อนสายตาภายในบ้านเอาไว้ “ถ้าหากแม่เห็นว่าเราทะเลาะกันล่ะก็ เห็นทีงานของผมกับคุณก็คงต้องจบแน่ๆ”คำเตือนของเขาทำให้เธอต้องเงียบกริบ “เห็นไหมล่ะ ผมอ้างเรื่องเงินครั้งไหนก็ใช้ได้ผลทุกที”

“เงียบไปเลยนะ คุณปรุฬห์”นีรนาหันไปหรี่สายตาขมุบขมิบปากบอกเสียงแผ่วขณะที่อีกฝ่ายยักคิ้วตอบ

ปรุฬห์พาเธอเดินเล่นภายในสวนก่อนจะนั่งอยู่ริมอ่างน้ำด้วยกัน เขาปล่อยให้เธอให้อาหารแก่ปลาเงินปลาทองซึ่งเขาเลี้ยงเอาไว้ ชายหนุ่มมองดูรอยยิ้มของเธอแม้ว่าเธอไม่ได้มองดูเขาเลยในขณะนี้

“มีอะไรหรือคะ?”

“เปล่า”ปรุฬห์ตอบ “อยากมองคุณเฉยๆ”

นีรนาต้องหรี่สายตาหันไปเทอาหารปลาใส่มือแล้วจึงโรยลงไปบนผิวน้ำโดยไม่สนใจเขาอีก

“นีร”ปรุฬห์เรียกเสียงแผ่วๆซ้ำเพื่อให้เธอหันไปมอง “คุณมีพี่น้องบ้างไหม?”

นีรนาจ้องสายตาของเขาก่อนจะใช้นิ้วจุ่มลงไปในน้ำปล่อยให้ปลาตอดนิ้วของเธอจนรู้สึกจั๊กกะจี๋ “ฉันมีพี่สาวหนึ่งคนเธอชื่อนราวรรณ”

ปรุฬห์พยักหน้าไม่ได้ถามต่อ

“ทำไมหรือคะ”

“ก็แค่อยากรู้”รอยยิ้มหวานๆของเขาต้องทำให้เธอสับสน หญิงสาวเบือนหน้าหนีในทันทีนั้น

ไม่นานนักพ่อบ้านก็เดินมาบอกแก่คุณชายของเขาว่าคุณชวรินทร์เดินทางมาถึงแล้วให้รีบไปรอพบที่ห้องรับแขก ปรุฬห์จึงชวนนีรนาเดินกลับไปที่บ้านด้วยกัน

ทันทีที่พ่อบ้านเปิดประตูห้องรับแขก นีรนาก็เหลือบสายตาไปเห็นชายสูงวัยในชุดสูทภายใต้สีหน้าเคร่งเครียดกับหนวดเคราดกเฟิ้มกำลังอ่านหนังสือพิมพ์ ส่วนคุณแม่ของปรุฬห์และเปมิกากำลังสนทนาด้วยกันอยากออกรสส่งเสียงดังมาจากภายในครัว

นีรนายกมือไหว้คุณชวรินทร์ เขาสังเกตมองดูตั้งแต่ท่าทางการเคลื่อนไหวของเธอจนกระทั่งหย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ นีรนายังคงฉีกยิ้มหวานเธอหวังว่าจะเป็นยิ้มเสน่ห์ที่ทำให้พ่อแม่ของปรุฬห์ไม่ได้รังเกียจเธอ

“ปรุฬห์ พรุ่งนี้แกไปประชุมแทนพ่อด้วย”

“ผมรู้แล้ว”ปรุฬห์บอกด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย

“แล้วนั่นแฟนแกทานข้าวทานปลาบ้างแล้วยังล่ะ”

“ยังค่ะ”นีรนาบอก มองดูพ่อผู้นิ่งขรึมของปรุฬห์ปลายหนวดกำลังกระตุก

“อาหารมื้อค่ำใกล้เสร็จแล้วหรือยังป้าหวาน”คุณชวรินทร์หันไปถามแล้วคุณป้าคนใช้จึงบอกว่าใกล้เสร็จเรียบร้อยแล้ว

“วันนี้ นีรจะอยู่ที่บ้านของเรา ป้าช่วยเตรียมห้องพักให้เธอด้วยนะครับ”ปรุฬห์หันไปบอกขณะในมือรับแก้วน้ำ แก้วที่สองจากป้าก่อนที่นีรนาจะอุทานด้วยเสียงในลำคออย่างประหลาดใจ เธอไม่ได้คิดถึงเรื่องที่จะต้องค้างคืนที่นี่หรอกนะ

“หนูเรียนวิชาคณิตศาสตร์ที่มหาลัยเดียวกับรุฬห์ใช่ไหม”

“ค่ะ”พ่อของเขาเริ่มเอ่ยถามอย่างรู้ดี

“เป็นอย่างไรบ้าง การเรียนดีไหม”

“ก็พอสมควรค่ะ”นีรนาบอกพร้อมรอยยิ้มทุกคำที่พ่อของชายหนุ่มเอ่ยถาม

คุณชวรินทร์พยักหน้าน้อยๆก่อนจะเข้าประเด็น “แล้วคบกันตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ”

“เอ่อ ...”

“พ่อจะเริ่มนับตั้งแต่เรารู้จักกันดีไหม”ปรุฬห์แทรกบอก “เราดูใจกันมาตั้งนานแล้ว ผมบอกพ่อไปแล้ว”

นีรนาอยากจะหัวเราะแต่เธอกำลังขำไม่ออก

ปรุฬห์ รีบเลื่อนมือไปกุมมือของนีรนาก่อนจะเหยียดยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ให้แก่เธอ สักพักหนึ่งเปมิกาก็เดินเข้ามากล่าวเสียงหวานเรียกให้ทุกคนทานอาหารโดยที่ เธอไม่ลืมจิกตามองคู่แข่งของตนเองตอนนี้เลยเพียงสักวินาทีเดียว

“ไปทานข้าวด้วยกันนะ”พ่อของเขาบอก นีรนาน้อมรับอย่างยินดีแล้วเดินนำลิ่วๆตามเปมิกาไประหว่างที่เธอกำลังสับสนกับคำพูดของตนเองว่ากล่าวอะไรออกไปผิดหรือไม่ ทว่าปรุฬห์ก็ต้องกลับมาคว้าข้อมือของเธอเอาไว้จนได้

“คุณบอกผมว่าคุณไม่ตื่นเต้น โกหกชัดๆ”ชายหนุ่มกระซิบ

“ก็ต้องมีบ้างสิ”นีรนานิ่วหน้า

ภายในห้องอาหารหรูหราสไตล์ยุโรป นีรนาเหลือบสายตามองไปรอบๆก่อนจะหันมามองอาหารมื้อเย็นเบื้องหน้า กลิ่นหอมๆทำให้เธอไม่อยากเกรงใจเจ้าของบ้านอีก เธอหิวมากและอยากจะตักอาหารในทันทีนั้นทว่าปรุฬห์ปรามเธอด้วยสายตา รอให้พ่อซึ่งนั่งหัวโต๊ะเริ่มตักอาหารแล้วทุกคนจึงหยิบช้อนส้อมเตรียมพร้อมรับประทาน

อาหารมื้อนี้อเร็ดอร่อยมาก นีรนาไม่ได้สนใจหรอกว่าเปมิกาหรือแม่ของปรุฬห์เป็นแม่ครัว เธอชอบใจจนเผลอตัวซดน้ำซุปเสียงดังไปหน่อย พ่อกับแม่ของปรุฬห์ต้องหันไปมองเธอขณะที่ชายหนุ่มต้องกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้

เมื่อเธอรู้สึกอิ่มจึงนั่งนิ่งๆมองดูคุณรพินทร์สนทนากับเปมิกาเรื่องวัตถุดิบในการทำอาหาร

“หนูชอบทำอาหารหรือเปล่าจ๊ะ”คุณนายรพินทร์หันมาถามนีรนาก่อนที่เธอจะต้องส่ายหน้า

“ไม่ค่ะ ไม่ค่อยชอบ”

คุณรพินทร์ยิ้มตอบบางๆ นีรนาหวังว่าสิ่งที่เธอพูดคงจะไม่เป็นการลดความน่าสนใจของแฟนลูกชายคนนี้ลง

“เปมิกาชอบมากค่ะ”คู่หมั้นของปรุฬห์กล่าวเอาใจคุณนายรพินทร์ เธอเหลือบสายตามองนีรนานิดหนึ่งราวกับกำลังบอกให้รู้ว่าเธอเป็นที่น่าจับตามองในฐานะว่าที่สะใภ้ของบ้านหลังนี้มากกว่า

แน่นอนว่าเปมิกามีทุกอย่างพร้อม เธอเป็นเด็กเรียนดี และเป็นแม่ศรีเรือน ฟังดูก็น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ทว่าปรุฬห์ซึ่งนั่งข้างนีรนากลับไม่มีความสุขทุกครั้งที่เปมิกาส่งยิ้มหวานมาให้แก่เขาด้วยซ้ำ ชายหนุ่มต้องก้มหน้ามองจานอาหารใช้ส้อมเขี่ยตับหงส์กับมายองเนสข้นๆ

“รุฬห์ แกชวนนีรแล้วหรือยังล่ะ”จู่ๆพ่อของเขาก็เอ่ยขึ้น

“หืม ครับ”ปรุฬห์นึกขณะที่เปมิกาต้องหันหน้ามามองด้วยความสงสัยว่าคุณชวรินทร์ กำลังพูดถึงเรื่องอะไร “อ้อ นั่นสินะ นีรครับ ระหว่างช่วงหน้าร้อนอีกสองเดือนข้างหน้าผมไปดูงานที่โรงแรมเมอริเดี้ยนพร้อม กับพ่อแม่แล้วก็จะไปพักที่นั่นสักอาทิตย์หนึ่ง ทางโรงแรมจัดที่พักให้ฟรีสำหรับบุคคลสี่คน ช่วงนั้นคงเป็นเวลาสอบพอดีของเด็ก ป.ตรีแล้วน้องเปมิกาก็ต้องเขียนรายงานส่ง prof. ด้วย”ปรุฬห์ พูดพลางหันไปมองเปมิกาซึ่งมีทีท่าไม่พอใจเพราะเธอรู้ตัวดีว่าสาเหตุของการ เรียนข้ามประเทศช่วงนี้ทำให้เธอติดตามเขาไปด้วยไม่ได้

“นีรสอบหรือเปล่าจ๊ะ”คุณนายรพินทร์ถาม

“นีรสอบแค่สองวิชาซึ่งก็คงจะเสร็จภายในอาทิตย์นี้ค่ะ”

“ไปได้ใช่ไหม”ปรุฬห์หันมาถามด้วยแววตาบังคับให้เธอตอบตกลง

นีรนามีท่าทีลังเล ไปหนึ่งอาทิตย์เลยเหรอ? เธอไม่ได้สนิทกับปรุฬห์พอที่จะเดินทางร่วมกับเขาได้หรอกนะ ทว่าเธอลืมไปอีกแล้วว่าความเป็นแฟนของเธอกับปรุฬห์นั้นต้องลึกซึ้งกว่าที่เธอคิดเอาไว้มากพอสมควร พ่อแม่ของปรุฬห์ก็คงจะคิดเช่นนั้นจึงได้กล่าวชวนอย่างเปิดเผย เธอกระอักกระอ่วนใจตอบทว่าชายหนุ่มจับจ้องมองเธอด้วยสีหน้าคาดคั้นทำให้เธอตอบตกลงในที่สุด “ค่ะ ไปได้ค่ะ”

“ดีจ้ะ นีรอาจจะได้ไปดูงานที่พี่ปรุฬห์เขาทำนะ”

เธอ พยักหน้ารับและเข้าใจในทันทีนั้นเองว่าพ่อแม่ของเขาอยากจะให้เธอเรียนรู้ บ้างว่าลูกชายของเขาทำงานเช่นไร ซึ่งเธอก็ไม่ได้สะทกสะท้านเกรงกลัวต่อเรื่องนี้ เธอคิดว่ามันคงเป็นประโยชน์สำหรับเธอที่จะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆนอกเหนือจาก ตัวเลขนับร้อยพันและกระดาษซึ่งเธอคลุกคลีกับมันได้ตลอดทั้งวัน

“สาขาวิชาที่หนูเรียนก็ประยุกต์กับการตลาดได้ใช่ไหม”พ่อของปรุฬห์กล่าว “น่าสนใจดีเหมือนกันนะพ่อเคยได้ยินนักเศรษฐศาสตร์สนทนาเรื่องวิชาคณิตศาสตร์และการศึกษางานวิจัยอยู่บ่อยๆ”

“เธอช่วยเหลือผมได้ถ้าหากผมสงสัยปัญหาเล็กๆน้อยๆ”ปรุฬห์กล่าวเสริมขณะที่นีรนานั่งกระพริบตาปริบๆ ส่วนเปมิกากำลังไม่พอใจเมื่อเห็นทุกคนเห็นดีเห็นชอบกับแฟนใหม่ของปรุฬห์เช่นนี้ เธอตีสีหน้ามุ่ยแทบจะโวยวายหากคุณพ่อคุณแม่ของปรุฬห์ไม่นั่งอยู่ตรงนี้ด้วยกัน

ในช่วงอาหารค่ำดูเหมือนจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดีเมื่อพบว่าพ่อแม่ของปรุฬห์ไม่ได้ถามเรื่องส่วนตัวของเธอมากมายนัก อันที่จริงพวกเขาต้องการรู้ว่าแฟนของปรุฬห์มีพฤติกรรมเช่นไรมากกว่า เพราะหน้าตาของครอบครัวและบริษัทก็ต้องขึ้นอยู่กับปรุฬห์และผู้ที่ปรุฬห์เลือกคบหาด้วย คุณท่านและคุณนายคฤษฐานนท์ไม่ได้สนใจหรอกว่าปรุฬห์จะเลิกรากับผู้หญิงคนนี้หรือไม่ พวกเขาต้องการแค่เพียงผู้ที่ไม่ทำให้ลูกชายของตนเองเสียชื่อเสียงเป็นพอ

ปรุฬห์มีท่าทีโล่งอก หลังจากส่งเปมิกาหน้าประตูรั้วบ้านเป็นเชิงไล่อยู่กลายๆแล้วเขาก็เดินไปส่งนีรนาที่ห้องพักของเธอ

หญิงสาวรับเสื้อผ้าจากสาวใช้ก่อนจะหันไปมองดูห้องพักหรูหราของตัวเองในค่ำคืนนี้

เตียง นอนคู่สีเขียวลายขวางขาวสวยงามบนผืนพรมสีน้ำเงินเข้ม โคมไฟรูปทรงแปลกตาประดับอยู่เหนือหัวเตียงนอน ไฟแสงสีส้มอ่อนๆฉายออกมาจากผ้าม่านด้านหลังหัวเตียงนอนแลดูอบอุ่นพอๆกับ กลิ่นหอมๆภายในห้องนี้ มันช่างชวนฝันยิ่งนัก นีรนานั่งบนเตียงนุ่มๆได้ยินเสียงกล่องดนตรีดังกรุ๊งกริ๊งจากมือของปรุฬห์ จึงหันไปมอง

ชายหนุ่มวางมันไว้ที่เดิมก่อนจะเดินไปปิดผ้าม่านบริเวณระเบียง

“ที่นี่ต่างจากห้องพักของฉันมากๆ”

ปรุฬห์ไม่ได้ตอบ เขาเผยยิ้มออกมาก่อนจะเดินออกไปยังประตูห้องนอน “คุณพอใจไหมล่ะ”

นีรนาพยักหน้ารับ

“ฝันดีครับ”ชายหนุ่มบอกพร้อมกับเลื่อนประตูบุนวมสีน้ำตาลลงเบาๆ

นีรนาเคยมองว่าปรุฬห์เป็นคนปากร้ายนิสัยไม่ดี ทว่าท่าทีที่เขาแสดงออกต่อพ่อแม่ของตนเองและบรรดาคนใช้ภายในบ้านของครอบครัวคฤษฐานนท์นั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

เขาดูเป็นผู้ใหญ่และน่านับถือ

สายตาของเขาตลอดเวลาทุกครั้งดูคมกริบและมีไหวพริบน่าประหลาดซึ่งนีรนาไม่เคยได้สัมผัส เธอเคยเห็นเพียงแววตาขี้เล่นของเขาและความไม่น่าไว้วางใจตลอดเวลา ทว่าบัดนี้นั้นมันเปลี่ยนแปลงไปแล้ว นี่คือปรุฬห์ที่คนส่วนใหญ่เห็นสินะ ปรุฬห์ในแบบฉบับสุขุมเยือกเย็นและรอบคอบ

แล้วจู่ๆความปลาบปลื้มในตัวเขาที่เคยสัมผัสก็กลับเข้ามาถาโถมจิตใจของเธออีกครั้ง

ไม่ได้! ไม่ได้สิ! เธออยู่ในฐานะอะไรเธอจำไม่ได้แล้วเหรอนีรนา!

หญิงสาวต้องส่ายหน้าเรียกสติตัวเองคืนแม้ว่าใจของเธอกำลังสั่นไหวตลอดเวลา

จากคุณ : davidmccartney
เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 54 20:03:52 A:202.12.74.7 X: TicketID:318829




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com