เพียงเพื่อนใจ (บทที่ 9 คพเพลิง)
|
 |
บทที่ 9 คบเพลิง
กิ่งดาวมันบอกว่าไม่เป็นไรมาก ฉันดูมันแล้วก็ปกติดีทุกอย่างจ้ะพี่ นางทับทิมบอกสามีตามความจริงภายหลังซักไซ้กับผู้เป็นลูกสาวที่บัดนี้หนีขึ้นห้องไปอยู่คนเดียว นายเจตต์นิ่วหน้าคิดก่อนหันไปที่ช่อทิพย์ซึ่งยืนรอฟังการตัดสินใจจากชายสูงวัยพร้อมกับเทพพิพิธ
เอ็งเห็นอะไรตอนนั้นบ้าง เล่ามาให้หมดเลยนะทิพย์ จบคำช่อทิพย์ก็ถึงกับกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ หันมองผู้คนที่รายล้อมรอบกายก่อนเปิดปากเล่าเหตุการณ์ที่ได้พบ
หนูเห็นกิ่งดาวนั่งร้องไห้ที่พื้นค่ะ แล้วสุรเดชก็ยืนจังก้าอยู่ไม่ห่างกันนัก ดูเหมือนทั้งสองคงทะเลาะกันหรืออาจมีเรื่องอะไรสักอย่าง แต่ตอนนั้นหนูคิดว่าต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นแน่ คิดว่าได้เดชมันต้องคิดทำมิดีมิร้ายกับกิ่งดาวแน่ การสันนิษฐานของเธอมันทำให้เทพพิพิธต้องกำมือแน่นอย่างขึ้งโกรธ
ถ้าอย่างนั้นข้าจะไปตามไอ้เดชมาคุยกันให้รู้เรื่อง ไปกับฉันพ่อเทพ ผู้เป็นเจ้าบ้านหันไปบอกเทพพิพิธก่อนที่ชายหนุ่มจะพยักหน้ารับ แต่เมื่อทั้งหมดไปถึงบ้านนางสุรีย์กลับไม่พบแม้เงาของสุรเดช
วันนี้แม้จะอยู่ซ้อมบอลจนเกือบหนึ่งทุ่มแต่เมื่อมาถึงบ้านคบเพลิงก็ได้กินน้ำหวานเย็นๆ ที่ผู้อาศัยคนใหม่ชงใส่เหยือกเอาไว้ให้ เรือนไทยหลังงามดูสะอาดสะอ้านขึ้นมาก ข้าวของที่วางอย่างระเกะระกะก็ถูกจัดใหม่อย่างเป็นระเบียบ ร่างสูงถือแก้วน้ำหวานในมือพลางเดินมองรอบบ้านก่อนที่จะสบสายตากับณภัทร์ที่เดินหอบตะกร้าเสื้อผ้าออกมาจากห้องของผู้เป็นอาจารย์
จะไปไหน? คบเพลิงอ้าปากถามก่อนยกน้ำแดงขึ้นจิบ
เอาผ้าอาจารย์ไปซัก คำตอบที่ได้รับทำเอาอีกฝ่ายจุกน้อยๆ ขนาดเขาเป็นหลานแท้ๆ ยังไม่เคยซักผ้าให้ผู้เป็นน้าเลยสักครั้ง แกนี่มันใช้ไม่ได้เลยจริงไอ้คบเพลิง... ณภัทร์หันหน้าหนีก่อนที่อีกฝ่ายจะร้องบอกเรื่องสำคัญ คุณน้าไปสัมนาที่ต่างจังหวัดอาทิตย์นึงน่ะ นายรู้รึยัง? โครงหน้าคมเข้มรอฟังคำตอบจากร่างเพรียวลมที่ค่อยๆ หันกลับมา
รู้แล้ว... ณภัทร์ตอบเสียงค่อยก่อนที่เขาจะคลายยิ้ม
งั้น...ถ้าซักผ้าเสร็จแล้วก็มากินข้าวด้วยกันนะ วันนี้ฉัน เอ่อ...ซื้อกับข้าวมาหลายอย่างเลย คนพูดบอกอย่างเก้ๆ กังๆ ณภัทร์ก้มหน้าน้อยๆ ก่อนเอี้ยวตัวกลับไป ข่มใจไม่ให้คิดมากกับสายตาแปลกๆ ที่อีกฝ่ายทอดมองมา
มื้อเย็นในวันนี้ต้องดูเงียบเหงาเพราะสมาชิกทุกคนที่เอาแต่วางหน้าขรึม กอบกุลปั้นยิ้มส่งให้กิ่งดาวก่อนตักแกงเลียงใส่จานให้พี่สาว เธอพอจะรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นบ้าง แต่ยังไม่รู้รายละเอียดที่แน่ชัด แต่เห็นท่าทางเซื่องซึมของผู้เป็นพี่ก็พลอยทำให้เธอไม่สบายใจตามไปด้วย
ตกลงว่าเรื่องมันเป็นมายังไงดาว พอจะเล่าให้พ่อฟังได้มั้ย? นายเจตต์ยังคงค้างคาใจกับเรื่องที่เกิด แต่ทว่ากิ่งดาวยังคงก้มหน้าเงียบ มันเป็นตามที่ช่อทิพย์บอกรึเปล่า?
กิ่งดาวแหงนหน้าขึ้นมองผู้เป็นบิดา นางทับทิม กลอยใจและกอบกุลต่างก็รอฟังคำตอบจากเธออย่างใจจดใจจ่อ หญิงสาวค่อยๆ ระบายลมหายใจเพื่อขับไล่ความอัดอั้น
เดชจะเข้ามาขอคืนดีกับดาวค่ะ แต่ดาวไม่อยากคุยกับเค้า พอดาวจะเอี้ยวตัวเดินหนีก็เผอิญสะดุดล้มเสียก่อน จากนั้นทิพย์ก็มาพอดี
แล้วทำไมทิพย์มันบอกว่าเห็นเอ็งร้องไห้แถมเสื้อตัวนอกยังหล่นไปกองอยู่กับพื้นอีกทางล่ะ กลอยใจแทรกขึ้นในทันที สายตาดุจนางแร้งจ้องมองกิ่งดาว ไอ้เดชมันต้องทำอะไรมากกว่านั้นแน่ใช่มั้ย หรือบางที ไปโทษมันนักก็ไม่ได้ เอ็งอาจไปให้ท่ามันเอง จนมันเกิดหน้ามืด คิดจะจับเอ็งปล้ำ เอ๊ะ...หรือว่าอาจจะสมยอมด้วยกันทั้งสองฝ่ายก็ได้
หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะนังใจ นายเจตต์ตวาดใส่หน้าลูกสาวคนโตจนทั้งโต๊ะสะดุ้งโหยง เอ็งอย่าได้ไปพูดอย่างนี้ให้ใครเขาได้ยินเป็นอันขาดนะ น้องเอ็งมันเป็นผู้หญิงมีแต่จะเสียกับเสีย
แล้วอีกอย่าง เอ็งไม่ใช่รึที่ใช้ให้นังดาวมันไปเก็บดอกบัวน่ะกลอยใจ นางทับทิมจ้องหน้ากลอยใจจนอีกฝ่ายได้แต่นั่งหน้าซีด จะไปบอกว่าน้องมันไปให้ท่าไอ้เจ้าเดชก็ไม่ถูกซักเท่าไหร่ เอ็งเป็นพี่ก็ต้องเข้าข้างน้องตัวเองถึงจะถูก ทั้งพ่อและแม่ที่ปกป้องกิ่งดาวนั้นทำเอากอบกุลต้องแอบจุดยิ้มด้วยความสะใจ เด็กสาวหันไปส่งยิ้มให้กิ่งดาวที่เอาแต่ก้มหน้านิ่งไม่ยอมออกความเห็นหลังจากนั้น อย่างน้อยพระท่านก็ต้องคุ้มครองคนดีอยู่วันยังค่ำแหละน๊า...
นี่เป็นวันแรกที่ทั้งคู่ได้นั่งกินข้าวเย็นด้วยกันสองต่อสอง จากที่เคยเอาแต่เฝ้ามองบัดนี้คบเพลิงได้มาประจันหน้ากับณภัทร์ในระยะใกล้ ไม่รู้ว่าในรูปหน้าขาวสะอาดของอีกฝ่ายมันมีดีอะไรถึงทำให้เขาเผลอจ้องมองอย่างไม่รู้ตัว เมื่ออิ่มจากมื้ออาหารณภัทร์จึงยกจานชามทั้งหมดไปล้างส่วนอีกคนก็ขอตัวไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เมื่อเสร็จจากงานแล้วหนุ่มร่างบางจึงมาจับจ้องกับโทรทัศน์ที่ตั้งอยู่กลางเรือนกว้าง วันนี้มีสารคดีที่เขาโปรดปราน ณภัทร์จึงยึดโซฟาตัวกว้างที่บงกชมักทรุดนั่งชมละครหลังข่าวทุกวันส่วนคบเพลิงเองก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าวันนี้มีถ่ายทอดสดฟุตบอลนัดสำคัญ พออาบน้ำเสร็จจึงรีบใส่เสื้อผ้าและวิ่งดุ่มๆ ตรงมายังหน้าจอโทรทัศน์ทันที แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังสนอกสนใจกับสารคดีสำรวจธรรมชาติจึงทำให้คบเพลิงอึกอักด้วยความเกรงใจ แต่เขาก็ไม่อยากพลาดชมฟุตบอลนัดสำคัญคู่นี้เช่นกัน
ภัทร์.... เสียงที่เรียกทำให้ณภัทร์ต้องหันขวับมา เอ่อ เปลี่ยนช่องหน่อยได้มั้ย พอดีวันนี้มีถ่ายสดบอลนัดสำคัญน่ะ ขอฉันดูบอลหน่อยนะ
งั้นเหรอ?... คนที่นั่งอย่างสบายใจบนโซฟาย้อนถามก่อนส่งรีโมทให้อีกฝ่ายและยกตัวขึ้น
คบเพลิงรีบกดไปที่ช่องโปรดก่อนหันมาถาม ไม่ดูบอลด้วยกันเหรอ? ชายหนุ่มคงลืมไปชั่วครู่ว่าอีกฝ่ายมีความหลังที่ไม่ค่อยดีกับฟุตบอลสักเท่าไหร่นัก จนเมื่อรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไปณภัทร์ก็สะบัดตัวหนีและเดินกลับห้องไปแล้ว กล่อมแก้วยังคิดไม่ตกเรื่องกิ่งดาวในวันนี้ เมื่อรู้ว่านายเจตต์มาตามหาสุรเดชถึงบ้านแต่ไม่พบตัวเธอจึงรีบโทร.หาชายหนุ่มด้วยความร้อนใจ นายอยู่ที่ไหนสุรเดช รู้มั้ยว่าลุงเจตต์มาตามหานายถึงบ้านเลยนะ น้ำเสียงสูงแสบแก้วหูของหญิงสาวฉุดให้รูปหน้าคมคายต้องเบ้ปาก
งั้นเหรอ จบคำก็ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม
ตกลงว่านายกับ... เอ่อ นายได้ทำอะไรกิ่งดาวรึเปล่า? กล่อมแก้วปากสั่นระริกขณะเอ่ยถาม ปลายสายเงียบไปครู่ใหญ่ ดวงตาแดงก่ำจ้องมองสุราในแก้วที่กระดกแค่อึกเดียวคงหมด
เห็นว่า...ทิพย์บอกว่ากิ่งดาวปกป้องนายไว้แน่ะ เธอบอกแค่ว่าเกิดเรื่องเข้าใจผิดกัน กล่อมแก้วค่อยๆ ลากเสียงในขณะที่สองตาของชายหนุ่มเบิกโพลง แต่นายอย่าเพิ่งกลับมานะ ลุงเจตต์แกกำลังเคืองอยู่ นายหลบไปซักพักแบบนี้น่ะดีแล้ว หญิงสาวปลายสายหรี่ตาก่อนจุดยิ้มมุมปาก ไม่ว่ายังไงฉันก็จะอยู่ข้างนายเสมอนะสุรเดช ฉันอยากเห็นนายกับกิ่งดาวคืนดีกัน
ทันทีที่ได้ฟังเรื่องราวจากปากช่อทิพย์ก็ทำให้ณภัทร์ใจหายวาบ เขาไม่ได้มาเรียนหลายวันไม่นึกว่าจะเกิดเรื่องขึ้นมากมายแบบนี้ แต่เทพพิพิธคงไม่ยอมหยุดเรื่องไว้แค่นี้แน่ ได้ยินเขาบอกว่าจะเอาเรื่องไปแจ้งฝ่ายปกครองด้วยนะ...แต่ฉันว่า ควรจะฟังความจากปากสุรเดชก่อน ถึงแม้ตอนที่ฉันไปเจอมันจะเหมือนว่านายนั่นกำลังจะทำ... หญิงสาวอ้ำอึ้งก่อนจะปิดปากเงียบในที่สุด
แล้วดาวว่ายังไงบ้าง ไม่คิดจะห้ามนายเทพพิพิธเลยเหรอ? ณภัทร์เชิดหน้าก่อนที่ช่อทิพย์จะทำหน้ามุ่ย
ฉันเองก็ยังไม่รู้เลยว่ายัยดาวจะเอายังไง ถ้าเกิดว่านายเทพเอาเรื่องนี้ไปแจ้งวิทยาลัยนะ มีหวังโดนไล่ออกแหงๆ เห็นว่าสุรเดชก็เพิ่งกลับมาเรียนได้ไม่เท่าไหร่เอง อ้าว...นั่น นายคบเพลิงนี่ ช่อทิพย์ชี้ไม้ชี้มือไปทางด้านหลังณภัทร์ก่อนที่หนุ่มร่างบางจะหันขวับไปมอง ร่างหนาวิ่งกระหืดกระหอบมาแต่ไกล ตรงดิ่งมายังทั้งคู่
ฉันไปเรียนก่อนนะทิพย์ ณภัทร์แตะแขนเพื่อนสาวเบาๆ รีบวิ่งเหยาะๆ ตรงไปยังอาคารเรียน คนที่เพิ่งมาถึงตัวช่อทิพย์หอบแฮ่กๆ พร้อมกับเงยหน้ามองร่างเพรียวลมที่กำลังเดินขึ้นตึก
ภัทร์ไปไหน... ทันทีที่มาถึงก็รีบเอ่ยถามถึงณภัทร์ทันที
ไปเรียน ฉันเองก็กำลังจะไปเหมือนกัน ว่าแต่...นายวิ่งมานี่มีอะไรเหรอ? ช่อทิพย์จ้องหน้าคบเพลิง ชายหนุ่มหอบแฮ่กๆ ก่อนบอกเสียงสั่น
ไอ้เทพมัน...มันกำลังจะไปแจ้งฝ่ายปกครองเรื่องที่สุรเดชไปลวนลามกิ่งดาว ถ้าเป็นอย่างนั้นล่ะก็...เรื่องเป็นได้ฉาวโฉ่ไปทั้งวิทยาลัยแน่
จริงเหรอ? หญิงสาวเอามือทาบอก ไม่ได้แล้ว ฉันจะรีบไปบอกดาวเดี๋ยวนี้แหละ ส่วนนายก็รีบไปขวางเทพพิพิธไว้นะ บอกว่าห้ามไปบอกอาจารย์ฝ่ายปกครองเด็ดขาด เข้าใจมั้ย
อืมม์...ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ ทั้งสองรีบแยกทางกันก่อนตรงดิ่งไปหาผู้เป็นเพื่อนด้วยความเร่งรีบ
กิ่งดาวฝากกระเป๋าและตำราเรียนไว้กับกล่อมแก้วขณะที่เธอรีบวิ่งออกจากห้องเรียนเพื่อไปพบเทพพิพิธหลังทราบเรื่องจากช่อทิพย์ หากหญิงสาวไปช้ากว่านี้เพียงแค่ก้าวเดียวชายหนุ่มคงได้ผลักประตูกระจกบานใสเข้าไปพบอาจารย์ฝ่ายปกครองเป็นแน่
ดาว... เมื่อได้ยินเสียงร้องห้ามเทพพิพิธจึงหันขวับมาอย่างตกใจ ทันทีที่สบสายตากับดวงเนตรกลมใสของหญิงสาว ดวงหน้าของชายหนุ่มก็ยับย่นด้วยความสับสน กิ่งดาวรีบสาวเท้าเข้ามาหา จ้องหน้าชายหนุ่มตรงๆ
ให้เรื่องมันจบแค่นี้เถอะนะเทพ... คำพูดที่ได้ยินทำให้เทพพิพิธต้องหรี่ตา หัวใจที่เต้นตุบๆ ปวดร้าวขึ้นมาอย่างเฉียบพลัน
ดาวพูดว่าอะไรนะ เขาย้อนถามเสียงพร่า กิ่งดาวหลุบตาลงต่ำพลางถอนหายใจ ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงอยากปกป้องเขา ทั้งที่สุรเดชทำเรื่องที่ไม่สมควรจะให้อภัย เรื่องทุกอย่างมันไม่ได้เป็นอย่างที่นายเข้าใจนะเทพ
ไม่จริง...ดาวโกหก ช่อทิพย์บอกว่าเห็นเสื้อดาวถูกฉีก แล้วดาวก็ร้องไห้ ผมไม่เชื่อหรอกว่าไอ้นั่นมันจะไม่คิด...
เทพ !!! กิ่งดาวกำมือแน่น สองตารับรู้ถึงความปวดร้าวบนใบหน้าของชายหนุ่ม เทพพิพิธรักเธอมาก เธอเองก็รักเขาเช่นกัน แต่สายตาของสุรเดชที่มองเธอครานั้น...มันทำให้หัวใจดวงน้อยของกิ่งดาวเหมือนจะเริ่มโอนเอนหลังจากเพิ่งได้หลักใหม่ยึดเกาะ เธอไม่อยากตกอยู่ในสภาพแบบนี้เลย
กล่อมแก้วที่หอบสัมภาระของผู้เป็นเพื่อนตามมาถึงห้องฝ่ายปกครองต้องหยุดกึกเมื่อเห็นสองร่างที่กำลังยืนมองหน้ากันแน่นิ่ง เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นเทพพิพิธโกรธมากขนาดนี้ แต่กิ่งดาวก็ยังคงยืนยันเจตนาของตนเช่นกัน
หญิงสาวค่อยๆ ก้าวเข้าไปหาคนเป็นเพื่อนก่อนยื่นกระเป๋าสะพายส่งให้ เดี๋ยวฉันไปรอหน้าตึกนะดาว บอกก่อนหันไปมองร่างสูงที่ยืนมองหน้ากิ่งดาวแน่นิ่ง
เมื่อกล่อมแก้วเดินลงบันไดไปแล้วหญิงสาวจึงเอ่ยปากกับชายหนุ่มอีกครั้ง ฉันเข้าใจดีว่านายหวงฉันมากแค่ไหน แต่เรื่องมันไม่ได้เป็นอย่างที่นายคิดจริงๆ นายรักฉัน ฉันเองก็รักในศักดิ์ศรีของฉันเหมือนกัน หวังว่านายคงจะเข้าใจนะเทพ... กิ่งดาวสะบัดตัวหนีก่อนที่บางอย่างจะหล่นลงมาจากกระเป๋าที่รูดซิบไม่สนิท ร่างแบบบางเดินละลิ่วจากไปโดยไม่ฟังเสียงเรียกของชายหนุ่ม
เทพพิพิธค่อยๆ ก้มลงหยิบกระเป๋าสตางค์ของหญิงสาวขึ้นมา รูปถ่ายของใครบางคนที่ถูกเสียบไว้ทางด้านซ้ายทำให้เขาต้องรีบยกมันดูใกล้ๆ
มือที่ถือกระเป๋าเงินสีชมพูอ่อนสั่นระริกอย่างไม่รู้ตัว ดวงตาที่เพ่งมองรูปถ่ายในกระเป๋ากระพริบถี่ ใบหน้าที่ร้อนผ่าวบิดเบี้ยวไม่เป็นรูป กรามหนาขบแน่นจนเห็นเป็นสัน
กิ่งดาวซบดวงหน้าลงกับอกแข็งแกร่งของสุรเดช ทั้งสองต่างยิ้มแย้มอย่างมีความสุข... เทพพิพิธกำมือที่ถือรูปถ่ายไว้แน่นจนมันบี้แบนคาอุ้งมือหนานั้น
หลังกลับจากซ้อมรำที่บ้านนางสินีนาฏแล้ว ชานนท์ก็มาส่งช่อทิพย์ที่บ้านเหมือนเคย หากแต่วันนี้เขามีของสำคัญจะมอบให้หญิงสาว นั่นคือชุดรำที่สั่งตัดเป็นพิเศษเพื่อให้ช่อทิพย์ใส่รำในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
พอดีว่าเจี๊ยบเขาผ่านไปแถวร้านพอดีเลยแวะรับมาให้ นี่จ้ะ... ชานนท์ยื่นถุงกระดาษส่งให้หญิงสาว ภายหลังที่ดับเครื่องรถเมื่อมาถึงที่พักของช่อทิพย์
ผู้โดยสารสาวรีบแหวกปากถุงออกดูอย่างตื่นเต้น ดวงหน้าอิ่มเอมยกขึ้นมองชายหนุ่มข้างๆ ด้วยความซาบซึ้งใจ ขอบใจมากนะ... รู้ว่าเพียงแค่คำขอบคุณมันคงไม่เพียงพอสำหรับทุกๆ สิ่งที่เขาทำให้เธอ
ชานนท์เอื้อมไปจับมือนุ่มนิ่มนั้นไว้พลางไล้เบาๆ ช่อทิพย์ร้อนผ่าวไปทั่วร่างในทันใด หญิงสาวค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยหัวใจที่สั่นไหว
ร่างสูงโน้มตัวเข้ามาหาในขณะที่อีกมือยกขึ้นสัมผัสเรือนแก้มนวลเนียน ช่อทิพย์พริ้มตาหลับลงพร้อมกับหัวใจที่สั่นไหว จนเมื่อผิวหน้าสัมผัสกับริมฝีปากรุ่มร้อนของชานนท์ที่พรมจูบเบาๆ
ฉันรักเธอ... สามคำที่เหมือนฉุดให้หญิงสาวตกอยู่ในภวังค์ของความสุข เสมือนร่างกายลอยคว้างอยู่กลางอากาศเบาหวิว เหมือนเธอกำลังฝันไป... มันช่างเป็นความฝันที่แสนสุขเสียเหลือเกิน
แก้ไขเมื่อ 11 ต.ค. 54 19:54:15
จากคุณ |
:
ผีเสื้อสีดำ
|
เขียนเมื่อ |
:
10 ต.ค. 54 20:44:51
|
|
|
|