Body Talk (Boys love) ทดลองโพสต์ บทที่ 6
|
 |
บทที่ 6
3 ปีผ่านไป....
"ขอบคุณมากครับ แล้วจะจัดส่งให้ตามที่อยู่ที่ให้ไว้นะครับ" รุจน์ค้อมคำนับส่งลูกค้าสาวที่หน้าร้าน เขาเปิดประตูให้หล่อน หล่อนกล่าวขอบคุณเบาพร้อมทิ้งยิ้มให้ท่าอย่างเปิดเผยให้เขา รุจน์ยิ้มตอบกลับอย่างไม่ประสาทั้งรู้ความหมายเต็มอก เขายืนส่งหล่อนจนหล่อนลับกายหายเข้ารถหรูที่ลานจอดรถจึงหันหลังกลับมาที่โต๊ะทำงาน จัดการเหน็บกระดาษจดที่อยู่ของลูกค้าคนเมื่อครู่ไว้ที่บอร์ด ก่อนจะหยิบโทรศัพท์กดเบอร์ภายในโทรไปหลังที่เก๋กำลังทำงานในห้องทำงานของเขา
"เก๋ วันนี้พี่มีส่งสินค้าให้ลูกค้าสองราย เก๋รายหนึ่ง พี่รายหนึ่งก็แล้วกัน เดี๋ยวเก๋มาช่วยห่อให้ด้วยนะ พี่จะไปพบคุณฟ้าสักครู่" "รับทราบค่ะพี่ เอ่อ พี่คะ" เก๋ส่งสัญญาณอยากพูดบางอย่าง "มีอะไรหรือ?" "อือ พี่ไปพบคุณฟ้าก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวให้รอนานจะวีนพี่เอาอีก ของเก๋เดี๋ยวก็ได้" เก๋พูดตัดบท รุจน์ยักไหล่วางสาย ภายในร้านเมื่อไม่มีลูกค้าก็เงียบสงบ กลิ่นดอกไม้ทุกมุมกรุ่นหอม ปรุงบรรยากาศให้ผ่อนคลาย รุจน์มองไปรอบๆร้าน สามปีที่ผ่านมาแกลลอรี่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา เจ้าของเปลี่ยนมือเป็นน้ำฟ้าแทนวุฒิที่แต่งงานและผันตัวไปดำเนินธุรกิจของภรรยาตระกูลไฮโซ เขาปล่อยมือให้น้องสาวเข้าบริหารงานในฐานะเจ้าของเต็มตัวโดยมีรุจน์ช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง ทั้งสองร่วมมือกัน ความเก่งของน้ำฟ้า บวกกับประสบการณ์ของรุจน์ ทำให้ร้านยิ่งมีชื่อเสียง ไม่มีเศรษฐีไทย ต่างชาติคนไหนในเมืองไทยไม่รู้จักแกลลอรี่แห่งนี้ ทุกวันมีลูกค้าเข้าออกแกลลอรี่ ไม่มากไม่น้อย ทั้งลูกค้าเก่าลูกค้าใหม่ บางวันก็มากราย บางวันก็แค่รายเดียว แต่ที่นี่ไม่ใช่ซุปเปอร์มาร์เก็ต มูลค่าการขาย ก็ต่างกัน ดังนั้นจำนวนจึงไม่ใช่มูลค่า รุจน์รู้ตัวเขายังคงเป็นผู้จัดการคนเดิม เฝ้ารอคอยต้อนรับลูกค้าทุกคนที่จะเดินเข้ามาชมแกลลอรี่แห่งนี้ ในขณะเดียวกันก็เฝ้ารอศิลปินฝีมือระดับแนวหน้าเข้ามาขอใช้สถานที่เปิดนิทรรศการ ชีวิตเขาก็เช่นนี้เรียบง่ายและธรรมดาเสียจนใครบางคนอาจบ่นว่าน่าเบื่อ
รุจน์เบนตาไปประตูหน้าร้าน ทุกวันที่ลูกค้าก้าวเข้ามาเขาจะยินดีต้อนรับทุกคนอย่างเต็มอกเต็มใจอย่างสุดสามารถที่ผุ้ให้บริการพึงมี ทว่าส่วนลึกของสายตานอบน้อมของเขา รอยยิ้มของเขา ยังเฝ้ารอคอย ลูกค้าคนหนึ่งที่หายไป ลูกค้าที่มาซื้อภาพทุกเดือน ลูกค้าที่ทำให้เขามีกินมีใช้อย่างเหลือเฟือจากค่าคอม ลูกค้าที่สอนทุกสิ่งให้กับเขาเมื่อกลับกลายมาเป็นคนที่ทำร้ายเขาอย่างเลือดเย็นที่สุด อยากจะเกลียด อยากจะหนีไปให้ไกล แต่ที่จริงแล้วก็คือ รักสุดหัวใจ รุจน์ก้มหน้าพิงตัวกับขอบโต๊ะ ดูเอาเถอะแม้ในงานสมรสของวุฒิ เขารอคอยอย่างใจจดจ่อด้วยคิดว่าทศวรรษจะมาร่วม ทว่าทศวรรษก็ส่งแต่ของขวัญล้ำค่ามาให้ ทั้งคุณ S และพิสรา ต่างเลี่ยงที่จะพูดถึงเขาอย่างอึดอัดใจ รุจน์ก้าวเดินเชื่องช้าไปประตู เขาอยากต้อนรับลูกค้าคนนั้นอีกครั้งอยากให้เขากลับมายืนที่ประตูนี้พร้อมรอยยิ้มดั่งวันแรกที่เขาก้าวเข้ามาในร้านและชีวิตของรุจน์
ทศวรรษไม่ได้จากไปไหน เขาไม่ได้อยู่ต่างประเทศ ไม่ได้ไปทำงานต่างจังหวัด เขายังอยู่กรุงเทพฯ ยังอยู่กับงานและบริษัทของเขาและคุณ S เรื่องราว ข่าวคราวของเขายังคงอยู่รอบตัวของรุจน์ เพียงแต่เขาไม่ย่างกรายเข้ามาใกล้ทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับรุจน์ เขาแสดงให้เห็นว่าโลกของเขาและรุจน์ได้ขาดจากกันอย่างสิ้นเชิง สองคนเป็นแค่คนร่วมหายใจบนโลกเท่านั้น "เข้ามาซิคะ รุจน์" น้ำฟ้ายิ้มเมื่อรุจน์เข้ามาพบที่หล่อนสั่ง หล่อนนั่งที่โต๊ะทำงานของหล่อนโดยมีผู้หญิงอีกคนนั่งฝั่งตรงข้าม "งั้นก็ตามนี้นะคะ ขอตัวก่อนล่ะ" หล่อนลุกขึ้นแล้วเดินสวนรุจน์ออกไปที่ประตู หล่อนยิ้มนิดหน่อย รอยยิ้มเย็นชืดและห่างเหินไว้ตัว อย่างเห็นได้ชัด รุจน์ค้อมศีรษะอย่างนอบน้อมให้หล่อน
"มีอะไรหรือครับ คุณฟ้า" รุจน์เดินมายืนตรงหน้าน้ำฟ้า หล่อนถอนใจแล้วยื่นแฟ้มให้รุจน์ เขารับมาเปิดดู "โตเกียว" รุจน์พึมพัม "ใช่จ๊ะ เดินทางภายในสองอาทิตย์นี้" "ยังไม่หายเหนื่อยจากบูดาเปสเลย" รุจน์ปิดแฟ้ม น้ำฟ้าพูดพลางลุกขึ้นยืนแล้วก้าวอ้อมโต๊ะมาหารุจน์ "ยังไม่หายคิดถึงด้วยเหมือนกัน" หล่อนก้าวเข้ามายืนข้างๆแล้วสานเรียวนิ้วหล่อนกับรุจน์ ก่อนจะดึงรุจน์เข้าไปกอด รุจน์กอดตอบ เขาจูบผมยาวกรุ่นหอมแชมพูของหล่อน หลังจากวุฒิอำลาแกลลอรี่แห่งนี้ไป รุจน์จึงทั้งทำหน้าที่ผู้จัดการ ช่วยงานน้ำฟ้าและเดินทางซื้อภาพรอบโลกแทนวุฒิ ในปีแรกๆน้ำฟ้าจะเดินทางไปกับรุจน์ด้วย ความเดียวดายของร่างกาย ผนวกกับความสวยงามในต่างแดน หนุ่มสาวที่มีเพียงกันและกันในดินแดนที่ไม่รู้จักใครทำเกิดความใกล้ชิด น้ำฟ้ารุกเขาสไตล์ฝรั่งเศส กล้าหาญ ตรงไปตรงมาและเร่าร้อน หล่อนทำให้เขารู้สึกดี และผ่อนคลาย ลืมว่าโลกเป็นไปอย่างไรเมื่ออยู่ด้วยกัน
แต่ทั้งสองต่างรู้ดีว่านี่ยังไม่ใช่ความสัมพันธ์อันจะก้าวไปสู่ความรัก การนอนด้วยกันเป็นครั้งคราวก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของคำว่า"คนสนิท"ที่น้ำฟ้าให้กับรุจน์ เป็นเรื่องของความสนิทสนมกันเองเท่านั้นจริงๆ รุจน์หย่อนแฟ้มทีถือลงบนโต๊ะแล้วกอดน้ำฟ้าเต็มสองแขน "ไม่ไปด้วยกันหรือฮะ" เขากระซิบ น้ำฟ้าหัวเราะเบาแล้วจูบที่คอของเขา "รุจน์ก็รู้นี่คะเราทำแบบเมื่อก่อนไม่ได้ ธุรกิจกำลังขาขึ้นแบบนี้เราสองคนไม่อยู่ทั้งคู่ไม่ได้หรอกค่ะ" "ก็เผื่อคุณฟ้าใจอ่อน" "ใจอ่อนมาตั้งแต่เห็นรายละเอียดของลูกค้าแล้วค่ะ" รุจน์ก้มลงจูบริมฝีปากของหล่อนเบาบาง หล่อนจูบตอบ ทั้งคู่อยู่อย่างนั้นเนิ่นนานก่อนผละออกจากกัน
"ไม่ไหวล่ะ ก่อนจะละลายผมไปทำงานก่อนดีกว่า" รุจน์หยิบแฟ้มบนโต๊ะ "บายค่ะแล้วเจอกันตอนเย็น" "โอเค ที่เดิม" "Mr.lover" หล่อนส่งจูบให้รุจน์ เขาไม่ได้หันมาหากแต่ยกมือโบกให้เท่านั้น
ปิดประตูแล้วแอบยิ้มพร้อมพยักหน้ากับตัวเอง โลกและอารมณ์มีสิ่งให้เรียนรู้ เรื่องนี้ไม่มีใครล่วงรู้ เขาเป็นได้แค่นี้อีกครั้ง..Lover ชู้รัก
รุจน์เดินทอดน่องลงขั้นบันไดจากข้างบนเห็นเก๋ที่กำลังง่วนกับงานก็จำได้ถึงสิ่งที่หล่อนพูดค้างไว้ เขารีบก้าวลงไปหา “ขอโทษนะมาช้าไปหน่อย” รุจน์ถอดเสื้อนอก แล้วปลดกระดุมแขนเสื้อแล้วพับขึ้น จากนั้นหันไปหยิบอุปกรณ์ที่ต้องใช้มาไว้ใกล้ตัว “ขอบคุณค่ะ” “ไม่ต้องขอบคุณหรอก งานของพี่ด้วยเหมือนกัน ช่วงนี้งานมากจังน๊า พี่คงจะหาคนมาช่วยเก๋แล้วล่ะ เอ..ว่าแต่ที่พูดค้างไว้น่ะมันอะไรเหรอ?”รุจน์หยิบจับทุกสิ่งว่องไวชำนาญ “เอ่อ มันก็เกี่ยวกับที่พี่รุจน์พูดเมื่อครู่ล่ะค่ะ ถ้าพี่หาคนได้ก็ดีน่ะ”
“ดีอยู่แล้วเราจะได้เหนื่อยน้อยลงไง กำลังจะขอคนกับพี่อยู่พอดีน่ะสิ” รุจน์ยิ้มขณะผูกริบบิ้นทบแรก “ไม่ใช่หรอกค่ะ คือว่า...” เก๋หยุดมือจากงานที่ทำ หล่อนหันมาทางรุจน์สีหน้าจริงจัง ก่อนจะพุ่มมือกราบบนบ่าของเขา หล่อนอยากจะกอดเขาด้วยซ้ำ เขาช่างสวยงามได้ทุกช่วงเวลา ทุกขณะจิตที่หล่อนรู้สึกได้ เพียงแค่ได้เห็น ได้มอง ก็หวั่นไหวจนต้องระงับใจ หลายปีที่ทำงานมาด้วยกันเขาเสมือน ดอกไม้ ดวงตะวัน และความอบอุ่นยามที่หล่อนอยู่ใกล้ แต่ตอนนี้คงไม่สามารถอีกต่อไปแล้ว
“อะไรกันน่ะ ไม่ต้องซาบซึ้งขนาดนี้ก็ได้ครับ” รุจน์เอนตัวมอง เขาจับมือรับไหว้หล่อนพร้อมขยับห่างออกอย่างเกรงใจ “คือว่ามันไม่ใช่น่ะค่ะ เก๋น่ะตอนนี้ก็ปีสี่แล้วอีกไม่นานก็จะจบ บริษัทต่างชาติที่สมัครงานไว้ เขาตกลงใจรับเก๋ค่ะ แต่ว่าเก๋ต้องเข้าไปฝึกงานที่บริษัทแม่ในอังกฤษสองปีค่ะ เก๋ต้องขอโทษพี่รุจน์ด้วยนะคะ สิ้นเดือนนี้เก๋จะลาออกค่ะ เก๋ต้องเตรียมตัวหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียนจบ เรื่องงาน” เก๋ก้มหน้างุดตลอดเวลาที่บอกกล่าว รุจน์อึ้งไปพักหนึ่ง แต่เขาก็ถอนใจยิ้มออกมาพร้อมยื่นมือให้เก๋
“ไม่เห็นต้องขอโทษอะไรเลย นี่เป็นข่าวดีนะ พี่ยินดีด้วย” เก๋เงยหน้าหล่อนยื่นมือออกมาจับกับรุจน์ด้วยความงงงัน “พี่อาจจะเสียดายเรานะ แต่มันไม่สำคัญหรอก อนาคตของเก๋น่ะดีที่สุดนะ” รุจน์ยื่นอีกมือมาจับศีรษะของผู้ช่วยสาว “แล้วพี่จะทำอย่างไรต่อไปคะ?” “ก็เหมือนเคยปิดประกาศหน้าร้าน วานคนรู้จักช่วยดูให้อีกทาง” “คงนานเหมือนกันนะ รู้สึกแย่จังทำที่ร้านลำบากไปด้วย” “เก๋ยังอยู่จนกว่าจะสิ้นเดือนไม่ใช่หรือ? ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก บางทีเราอาจจะได้คนเร็วกว่าที่คิดก็ได้ มองโลกในแง่ดีไว้” รุจน์ขยิบตาให้ เก๋ค่อยยิ้มออกอย่างโล่งใจ
“พรุ่งนี้เย็นเลิกงานแล้วไปฉลองกัน พี่เลี้ยงเอง” “จะดีเหรอคะ? ทำให้ต้องลำบากยังจะมาลอยหน้ากินเลี้ยงพี่อีก เกรงใจค่ะ” เก๋โบกมือพัลวัน “พูดมากนะ เดี๋ยวสิ้นเดือนนี้ไม่จ่ายเงินเดือนซะนี่” รุจน์ทำหน้าดุแบบไม่จริงจัง “ก็ได้ค่ะ ก็ได้ค่ะ” เก๋รีบพยักหน้าเร็วก่อนจะเหลียวมองรอบร้าน สองสามปีที่ผ่านมาร้านนี้เปลี่ยนแปลงและต่อเติมขยายใหญ่ขึ้นจนแทบจำสภาพเดิมตอนที่หล่อนเข้ามาทำงานใหม่ๆไม่ได้
“เวลาผ่านไปไวจังเนอะพอมาสังเกตอีกทีเราก็เหมือนคนแปลกหน้าในแกลลอรี่คนอื่น ที่นี่เมื่อก่อนว่าสวยนะแต่ว่าตอนนี้สวยกว่าสุดๆ” “ใช่ไหมล่ะ คุณน้ำฟ้าออกแบบตกแต่งด้วยตัวเองนี่นา เขาเก่งทั้งเรื่องธุรกิจและศิลปะจริง” รุจน์ยิ้มปลื้มขณะกวาดตามองมุมเดียวกับเก๋ “คุณน้ำฟ้าเก่งและที่นี่ประสบความสำเร็จได้ทุกวันนี้ มันก็บวกกับปรสบการณ์ของพี่รุจน์ด้วย ถามจริงๆเหอะพี่” เก๋ก้มลงกระซิบ รุจน์ก้มลงฟัง “ไม่คิดจะจีบนายเรามั่งหรือคะ?”
“นอกเรื่องแล้ว เดี๋ยวก็คอขาดทั้งคู่หรอก” รุจน์ผละออกมาหยิบห่อภาพเขียนขึ้นวางบนโต๊ะทำงาน “ก็มันจริงนี่นา พี่กับนายสาวของเราน่ะ สมกันจะตาย เขาเก่ง พี่ชำนาญ ธุรกิจเฟื่องฟูสมใจคุณวุฒิแน่ๆ” “พูดมากน่า ไปส่งของกันเถอะ” รุจน์รูดแขนเสื้อลง กลัดกระดุมแขนแล้วหันไปหยิบกระดาษจดที่อยู่บนบอร์ดส่งให้เก๋ ส่วนเขาก็หยิบอีกแผ่นใส่กระเป๋าสูทที่กำลังฉวยมาสวม “อ้าว แล้วร้านใครดูแลล่ะ?”
“คุณฟ้าจะอยู่อีกสักสองชั่วโมงก่อนไปพบลูกค้าคนสำคัญที่จะสั่งซื้อภาพเกรดรองจำนวนมากไปประดับที่โรงแรมเปิดใหม่คนที่มาที่ร้านวันก่อนไง” รุจน์พูดพลางเดินไปที่ประตูหน้าร้าน เก๋มองตามรูปร่างสูงโปร่งในชุดทำงานสีน้ำเงินพลางคิด หล่อนไม่ได้พูดเล่นด้วยเห็นภาพสวยงามของอนาคตของทั้งรุจน์และน้ำฟ้าอย่างที่นั้นจริงๆ ทุกคราที่หล่อนเห็นทั้งคู่ยืนเคียงกันไม่ว่าจะเวลาทำงานหรือเวลาอื่น พวกเขาเหมาะสมจนหาคำติติงมาลบล้างมิได้ ผู้หญิงก็สวยจัดชวนมอง ผู้ชายก็หล่อซึ้งชวนให้ใจละลาย “เป็นผู้หญิงแถวหน้าเมื่อไหร่ ถ้าพี่รุจน์ยังว่างอยู่ เก๋จะมาสอยล่ะ” เก๋พูดกับตัวเองยิ้มๆ
รุจน์ค้อมศีรษะเมื่อลูกค้าส่งซองเช็คให้ “ตรวจดูจำนวนเงินให้เรียบร้อยก่อนกลับนะ” ลูกค้าชายวัยกลางคนเดินไปรินไวน์ที่เคาเตอร์ “งั้นขออนุญาตเสียมารยาทนะครับ” รุจน์เปิดซองที่ไม่ได้ปิดผนึกออกดู ทุกอย่างเรียบร้อยเหมือนทุกครั้ง อันที่จริงไม่ต้องตรวจก็ได้แต่ลูกค้ารายนี้มักขยั้นขยอให้ทำเช่นนี้ทุกครั้ง “ขอบพระคุณอย่างสูงครับทุกอย่างเรียบร้อยครับ” “อืม งั้นช่วยแกะภาพให้ดูหน่อยได้ไหมครับ?” ฝ่ายนั้นใช้นิ้วสวมเพชรชี้ รุจน์คำนับรับคำแล้วเดินไปแกะและโชว์ให้เขาดูตามประสงค์ ชายกลางคนพยักหน้าพอใจ
“ดื่มก่อนไหม?” เขาชูแก้วไวน์ในมือ “ขอบพระคุณครับ แต่ผมจะไม่ได้ครับผมอยู่ในระหว่างทำงาน” “อ้อ โอเค โทษที” “มิได้ครับ งั้นผมาขอตัวกลับก่อนนะครับ” “เชิญ” รุจน์ก้าวออกมาจากเพ็นเฮาส์สุดหรูด้วยความโล่งอก งานจบแล้วเขาไม่ค่อยถูกโรคกับพวกนักการเมืองเลยจริงๆทำตัวลำบากเวลาอยู่ต่อหน้า รุจน์พลิกนาฬิกาข้อมือดูเวลา ถ้ากลับที่ทำงานตอนนี้ยังทันสับเปลี่ยนกับน้ำฟ้า เขารีบขยับพุ่งไปที่ลิฟท์ทันทีที่ได้ยินเสียงสัญญาณจอด ลิฟท์เปิดที่ชั้นที่เป็นที่จอดรถ รุจน์ก้าวออกมาเขากดรีโมทเสียงสัญญาณก็บอกตำแหน่งที่จอดรถไว้ มือถือของรุจน์ดังเขามองเบอร์แล้วยิ้มก่อนกดรับ
“ภารกิจเรียบร้อยครับเจ้านาย ผมกำลังจะกลับไปหาคุณ อื้ม จำได้ครับผมจะไปรอนะ” รุจน์กดปิดสายแล้วเดินตรงไปที่รถ เสียงสัญญาณของรถอีกคันดังขึ้น รุจน์ไม่ได้ให้ความสนใจเขาเปิดประตูรถ ขณะที่กำลังค้อมกายลงนั่งในรถสายตาก็เหลือบมองที่รถที่จอดฝั่งตรงข้าม รุจน์ตัวแข็ง ดวงตาของสั่น ผุ้ชายในรถสตาร์ทรถแล้วกำลังจะออกรถ “ไม่นะ หยุดก่อน” รุจน์รีบโดดออกมาจากรถ ก้าวพรวดไปที่รถที่ออกตัวไปแล้ว “คุณทศ หยุดก่อนครับ” รุจน์หยุดยืนหอบหายใจแรงจนแทบสำลัก “ผมอยู่ตรงนี้ ผมสบายดี แล้วคุณล่ะครับสบายดีไหม? และผมก็คิดถึงคุณจริงๆ” เขาทรุดตัวลงกองพื้นอย่างหมดแรง
จากคุณ |
:
vannessia
|
เขียนเมื่อ |
:
11 ต.ค. 54 12:03:35
|
|
|
|