Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
Bitter Sweet – เพราะเธอ ..... หัวใจจึงพบรัก (ตอนที่ 8) ติดต่อทีมงาน

http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10941594/W10941594.html (ตอนที่ 1 )
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10952213/W10952213.html (ตอนที่ 2)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10965250/W10965250.html (ตอนที่ 3)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10984889/W10984889.html (ตอนที่ 4)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11025969/W11025969.html (ตอนที่ 5)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11055621/W11055621.html (ตอนที่ 6)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11115490/W11115490.html (ตอนที่ 7)

เสียงอะไรจิ๊บๆ เจื้อยแจ้วเหมือนนกร้อง ความรู้สึกแวบแรก โอย ปวดตัว นี่ฉันอยู่ที่ไหน ฉันลืมตา แม่พระธรณีช่วยด้วย หน้าเจ้านั่นอยู่ประชิด ฉันหลับตาลง ฝันอะไรเนี่ย ฉันลืมตาอีกที ตาเจ้านั่นมองเป๋งมาที่ฉัน ฉันหลับตาลง ฉันตื่นอยู่หรือว่าหลับอยู่กันแน่ ฉันพยายามจดจ่อที่ประสาทสัมผัสทั้งห้า ร่างกายนอนตะแคงขดอยู่ หัวหนุนอะไรบางอย่างอยู่ กลิ่นน้ำหอมอันคุ้นเคยปะทะจมูก ฉันกลัวการลืมตา ฉันค่อยๆ เผยอเปลือกตา หน้าของเจ้านั่นจริงๆ ห่างกันแค่คืบเดียว ตาจ้องเป๋งมาที่ฉัน เกิดอะไรขึ้นฉันอยู่ที่ไหน ฉันกระดุกกระดิกตัว แม่พระธรณีช่วยด้วยอีกครั้ง ฉันนอนหนุนแขนเจ้านั้นอยู่ เจ้านั่นหน้านิ่งเฉย ฉันค่อยๆ ยันกายขึ้นมา มองสำรวจไปรอบๆ ฉันจำได้ว่าฉันลองปักดอกไม้ใส่กระถางเล่นอยู่ แล้วทำไม.....

ฉันจำเรื่องราวหลังจากนั้นไม่ได้ สงสัยว่าฉันจะเหนื่อยมากจัดดอกไม้จนหลับไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ฉันมองไปที่ปลายเท้า กระถางดอกไม้นับสิบวางเรียงรายอยู่ นี่ฝีมือฉันเหรอ ฉันคลานไปดูใกล้ๆ เจ้านั่นพูดลอยๆ “เราบอกแล้วว่าเธอเป็นเด็กพิเศษ” เจ้านั่นยกมือถือมาถ่ายรูป “ทำอะไร” ฉันถามซื่อๆ “ยังไม่มีเว็บไซต์ของตัวเอง เอาลง facebook ไปก่อนละกัน” เจ้านั่นบอก ฉันพยายามไม่ถามว่ามันคืออะไร “เอ่อ... ขอบคุณนะที่นอนเป็นเพื่อน” ฉันพูดโดยที่ไม่กล้ามองหน้าเขา เจ้านั่นไม่ได้ต่อปากต่อคำอะไร ผิดวิสัยอย่างแรง

ทำไมหน้าร้านมีคนมุงมากมาย เป็นคนสูงอายุทั้งนั้น เอ.... คุณยายเจ้าของร้านขจิตฟลอร่านี่นา ฉันออกไปต้อนรับโดยมีเจ้านั่นเดินทำท่างงๆ ตามมาติดๆ “ยายพาเพื่อนที่ชมรมถักโครเชท์มาอุดหนุนจ๊ะ พวกดอกไม้มีอยู่แล้วนี่ หนูนั่งทำเลยสิจ๊ะ พวกยายจะไปเดินออกกำลังกายรอ” โอ้โห คุณยาย น่ารักที่สุด พาเพื่อนมาอุดหนุนแต่เช้าเลย “หนูทำไว้บ้างแล้วคะ” ฉันตอบ คุณยายเลิกคิ้วสูง “จริงเหรอจ๊ะ ไหนยายขอดูหน่อย” หลังจากที่คณะผู้สูงอายุเข้ามาเยี่ยมชมดอกไม้ของฉันแล้ว สิ่งที่ไม่คาดคิดเรื่องที่สองก็เกิดขึ้น คุณยายท่านหนึ่งขอเหมาทุกกระถางและสั่งเพิ่มเติมอีกหลายแบบ เพราะแกเริ่มทำกิจการคอนโดมิเนียมและต้องการดอกไม้กระถางหลากหลายแบบเพื่อไปตกแต่งพอดี ซึ่งคุณยายท่านอื่นๆ เองก็อยากจะได้เอาไปประดับบ้านด้วย ความโกลาหลย่อมๆ จึงเกิดขึ้น ฉันมองหน้าคุณยายหลายๆ ท่านสลับไปมาด้วยความงง เจ้านั่นเอ่ยขึ้น “เราบอกแล้วว่าเธอเป็นเด็กพิเศษ เอากระดาษไปจดออร์เดอร์ซะ” เจ้านั้นบงการ

หลังจากคณะลูกค้าวีไอพีจากไปแล้ว ฉันยังนั่งอึ้งอยู่ เพราะรายการสั่งดอกไม้ยาวเป็นหางว่าวแถมคุณยายจ้าของคอนโดฯ ยังให้เงินมัดจำไว้อีกหนึ่งหมื่นบาทถ้วน คุณยายบอกว่าอยากให้มากกว่านั้นแต่พกเงินมาแค่เท่านี้ ฉันเอามือหยิกแขนตัวเอง “ก็ตื่นแล้วนี่นา” เจ้านั่นเตือนสติอีกครั้งด้วยการพูดว่า “เธอไม่ได้ฝันไปหรอก เมษา มันคือเรื่องจริง.........คุณยายขจิตทิ้งเบอร์ร้านนำเข้าดอกไม้ปลอมไว้ให้ด้วย คุณยายเขาถูกชะตาเธอมากเลยนะ” เจ้านั่นพูดเข้าหูแฮะ เช้านี้ “ได้ยินที่ฉันพูดไหม เมษา” เขาถามเสียงเข้ม “อะไรนะ ขออีกที” ฉันยังเบลอๆ อยู่เพราะว่าเช้านี้อะไรๆ มันเกิดขึ้นเร็วมาก “เราบอกว่าให้เธอลองคำนวณดูว่าจะสั่งดอกไม้อะไรเท่าไหร่ แล้วลองโทรให้เขามาส่ง” ฉันพยักหน้า

ช่วงสายๆ หลังจากโทรสั่งดอกไม้ปลอมแล้ว ฉันยุ่งๆ จัดร้านกับเจ้านั่นอยู่ อยู่ดีๆ ก็มีคนมาส่งดอกไม้สดให้หลากชนิด คนมาส่งบอกว่ามาจากคุณขจิตและจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว ฉันรู้สึกลำคอตีบตัน คุณยายดีกับฉันมากจริงๆ ฉันเพิ่งรู้ว่าตู้สี่เหลี่ยมหน้าห้องน้ำมันเป็นตู้เย็นไว้แช่ดอกไม้จริง ฉันเอาดอกไม้สดไว้ที่นั่น

ทุกอย่างดูจะไปได้ดีจนฉันอยากจะหยิกตัวเองดูอีกที คนที่เดินเล่นในสวนก็เดินเลยมาเมียงๆ มองๆ ที่ร้านบ้าง อีกไม่นานคงจะมีลูกค้าบ้างน่า แต่ฉันก็ยังมองไม่ออกอยู่ดีว่าสิ่งที่ฉันทำมันสวยขนาดที่มีคนมาสนใจซื้อเลยเหรอ ฉันแค่จับมันปักลงไปตรงตำแหน่งที่ฉันคิดว่ามันควรจะอยู่เท่านั้นเอง หรือว่าฉันจะเป็นเด็กพิเศษอย่างที่เจ้านั่นว่าจริงๆ เออ ว่าแต่เจ้านั่นมันไปไหนแล้ว..................

“หนูจ๊ะ” คุณยายขจิตร้องเรียก “อ้าว คุณยาย” วันนี้คุณยายมาหาถี่จังแฮะ “ยายเอาน้ำสมุนไพรมาให้” ฉันประนมมือไหว้ก่อนจะรับมา “ขอบพระคุณมากค่ะ คุณยายช่วยหนูทุกเรื่องเลย หนูไม่รู้จะตอบแทนยังไง” คุณยายยิ้มตาหยี “ยายเข้าใจจ๊ะ ยายเห็นหนูก็อดสงสารไม่ได้” ฉันลำคอตีบตันขึ้นมาอีกแล้ว “หนูไม่รู้จะพูดยังไงดีค่ะ คุณยาย หนูอับจนหนทาง หาทางออกไม่ได้” ฉันจะพล่ามทำไมเนี่ย เป็นแบบนี้ทุกที เวลาคุยกับคนอื่น ฉันมักจะพูดเรื่องที่ไม่น่าจะพูดขึ้นมา คุณยายลูบหลัง “ไม่เป็นไรลูก ไม่เป็นไร ค่อยๆ สร้างเนื้อสร้างตัวนะ” ฉันพยักหน้า รับปากคุณยาย “ค่ะ ค่ะ” “ค่อยๆ คิด ค่อยๆ หาทางนะลูกนะ ในเมื่อเราคิดจะหนีตามเขามาแล้ว ยายก็ขอให้รักกันนานๆ อยู่กันยืดๆ นะลูก” คุณยายกล่าวทิ้งท้าย อะไรนะคุณยาย คุณยายว่าใครหนีตามใครมา อะไร ยังไง ฉันยืนนิ่งด้วยความอัศจรรย์ใจ เฮ้ย คุณยายกลับมาก่อน กลับมาให้ฉันอธิบายก่อน คุณยายเดินไปโน่นแล้ว ฉันหันมองซ้ายมองขวา เจ้านั่นแอบฟังอยู่ตรงไหนหรือเปล่า หวาย..... มันอยู่ตรงนั้น

“เมษา ไปหาข้าวกินกันเหอะ” โอ....พระเจ้าช่วยกล้วยหักมุข ดีใจจังที่เจ้านั่นไม่ได้ยิน หน้าฉันยังร้อนผ่าวอยู่เลย

ทำไมการหาข้าวกินต้องนั่งแท็กซี่ด้วย “นี่เธอจะไปกินข้าวที่ไหน” ฉันไม่ได้ตั้งใจฟังตอนที่เจ้านั่นบอกกับแท็กซี่ รถแท็กซี่พาเลี้ยวไปเลี้ยวมาแล้วก็จอดที่วัดแห่งหนึ่ง เจ้านั่นจ่ายเงินและเดินลงไป มาวัดทำไม มาเช่าของขลังอะไรยังไง ฉันโดดลงวิ่งตามไป “นี่ นายจะไปไหน” เจ้านั่นชะลอฝีเท้า “สำรวมนิดหนึ่งได้ไหม นี่เขตวัดนะ” เจ้านั่นเดินเข้าไปในโบสถ์ ฉันก้าวตามไปช้าๆ สำรวมหน่อยเมษา

ในโบสถ์มีพระนั่งอยู่รูปหนึ่ง เจ้านั่นนั่งก้มกราบ ฉันนั่งลงกราบบ้าง ฉันนั่งมองความสวยงามของโบสถ์รู้สึกใจสงบอย่างประหลาด ทั้งๆ ที่ตรงนี้ไม่ได้ติดเครื่องปรับอากาศ มีเพียงพัดลมตัวเล็กๆ ตัวเดียวเท่านั้น แต่ก็รู้สึกเย็นสบายใจดีจัง เจ้านั่นคุยอะไรอยู่กับหลวงพ่อรูปนั้น ฉันได้ยินไม่ถนัด สักพักก็ก้มกราบ ฉันทำตามและเดินออกมาจากโบสถ์ด้วยกัน เจ้านั่นเดินเลยไปส่วนหลังโบสถ์ที่เป็นศาลาริมน้ำ ลมเย็นสบายใจดีจัง ฉันยืนรับลมอย่างสบายใจ เจ้านั่นส่งขนมปังให้ “ขอบคุณ ฉันว่ามันแข็งไปนิดนะ” ฉันเอ่ย เขาหัวเราะ “เมษา..... นั่นมันของปลา” “ฉันรู้ ฉันเล่นมุข” ฉันบอก “นายเคยมาบวชวัดนี้เหรอ” ฉันถามตรงๆ เจ้านั่นหัวเราะ “อย่าเดาเลยเมษา” “อ้าวก็ฉันเห็นว่าเธอสนิทกับหลวงพ่อรูปนั้น” เขาส่ายหน้า “เลิกเดาส่งซะที เราเคยเป็นเด็กวัดที่นี่” เจ้านั่นเอ่ยขำๆ ฉันคงเชื่อตายเลย

“เวลาเราไม่สบายใจเราชอบมาที่นี่” เจ้านั่นเอ่ยลอยๆ ขณะฉีกขนมปังโยนให้ปลา ฉันหันไปมองเจ้านั่น ดูขัดแย้งมากๆ เด็กผู้ชายที่ดูหัวสมัยใหม่ ทันสมัยชอบเทคโนโลยีจ๋า กลับหันหน้าเข้าวัด หันเข้าหาความสงบ “แปลว่าตอนนี้นายไม่สบายใจอยู่เหรอ” ฉันว่าฉันคงถามด้วยใบหน้าที่ใสซื่อบริสุทธิ์ เจ้านั่นหน้านิ่งเฉย เออ ไม่ถามเซ้าซี้แล้วก็ได้ เขาโยนขนมปังก้อนใหญ่ลงผืนน้ำ ปลาหลายขนาดดำผุดดำว่ายแข่งกันกัดกินขนมปัง  “ความสงบทำให้เกิดปัญญา” เจ้านั่นเริ่มเทศน์ ฉันควรจะสนใจเจ้าหมอนี่ต่อไปไหมนะ จะว่าไปแล้ว ฉันก็ไม่รู้หัวนอนปลายเท้าหมอนี่เลย บางทีเขาอาจจะประสบปัญหาชีวิตอยู่ก็ได้ นี่ฉันคงเห็นแก่ตัวมากเลยนะ เอาแต่ปัญหาของตัวเองเป็นหลัก ไม่เคยถามไถ่เขาบ้างเลย ว่าเขามีเรื่องอะไรที่ทุกข์ใจบ้างหรือเปล่า เขาอาจจะอยู่ตัวคนเดียวบนโลกนี้ อาจจะไม่มีที่พักพิง ที่พึ่ง ฉันหันไปมองหน้ารูปปั้นเทพบุตร “นายมีอะไรไม่สบายใจก็ปรึกษาฉันได้นะ” เจ้านั่นมองหน้าฉัน วงหน้าดูฉงน เจ้านั่นชะโงกตัวมาใกล้ “ห่วงเรื่องของตัวเองเถอะ เมษา” นี่จะบอกเป็นนัยๆ ว่าฉันเอาตัวให้รอดก่อนเหอะใช่ไหม

เราหาข้าวกินแล้วก็กลับมาที่ร้าน ฉันรู้สึกว่าเหมือนได้ชาร์จพลัง การได้ไปกราบพระ ไปให้อาหารปลามันทำให้ใจสงบและมีพลังมากขึ้น ถึงแม้มันจะเป็นการบังเอิญที่เจ้านี่พาไปพอดี ฉันก็รู้สึกขอบคุณอยู่ในใจ

ดอกไม้ปลอมกับพวกแจกันมาส่งตามที่นัด คนที่มาส่งบอกว่ายังไม่เก็บเงินสด แต่วางบิล 30 วัน คุณยายขจิตให้เครดิตฉันอีกแล้ว ฉันเริ่มต้นทำงาน แต่ทำได้เป็นพักๆ เพราะเริ่มมีคนเข้ามาในร้าน เริ่มมีคนสั่งดอกไม้สดบ้าง ดอกไม้ปลอมบ้าง ฉันรู้สึกว่าทำอะไรแทบจะไม่ทัน ทั้งๆ ที่เจ้านั่นก็อยู่ช่วยต้อนรับหน้าร้าน

พอคนเพลาๆ ไปเจ้านั่นก็เดินมากระซิบ “เมษา... มีคนสั่งของทางอินเตอร์เน็ต” หา อะไรนะ “ประมาณ 3 ช่อ จะให้ไปส่งด้วย” เจ้านั่นบอก เฮ้ย.... อะไรกัน ทำไมวันนี้มันวุ่นวายแบบนี้ ของเก่าก็ยังไม่ได้ทำเลย

ฉันง่วนทำดอกไม้อยู่จนฟ้ามืด เจ้านั่นออกไปส่งดอกไม้หลายรอบ ตอนนี้กำลังนั่งเขียนอะไรยุกยิกอยู่ที่โซฟา  “เธอต้องหัดทำบัญชี ทำสต็อกด้วยนะ” เจ้านั่นเอ่ย “นายก็ทำสิ” ฉันโบ้ย ขอยกหน้าที่เรื่องคำนวณตัวเลขให้เลย ไม่เห็นมีเสียงประชดประชันเหมือนเคย ฉันหันไปมอง เขามองมาทางฉัน สายตาแปลกๆ เดาไม่ออก มันคล้ายๆ สายตาละห้อย ฉันไม่เคยเห็น “เธอต้องทำให้เป็นทุกอย่าง” หน้าหล่อบอก “เราเป็นแค่เจ้าหนี้เธอ ไม่ได้เป็นหุ้นส่วนนะ” อะไรนะ เจ้านี่ อยู่ดีๆ ก็รำเลิกบุญคุณ “มานี่เมษา เราจะอธิบายเรื่องบัญชีต่างๆ ให้ฟัง”

ฉันลุกขึ้นอย่างเกียจคร้าน ทำไมจะต้องมาอธิบายอะไรตอนนี้ แต่ก็ดีฉันพักก่อนดีกว่า หลังแข็งไปหมดแล้ว ฉันเดินไปนั่งข้างๆ เจ้านั่นซึ่งนาทีต่อมาก็กำลังบรรยายสดเรื่องบัญชีเข้า ออกอะไรอยู่ ฉันจ้องหน้าเขาอยู่โดยไม่ได้รับรู้เรื่องราวที่เขาพูดเลยแม้แต่น้อย เขาละสายตาจากสมุดมามองหน้าฉัน “เข้าใจไหม” ฉันไม่ได้ตอบ ตาจับจ้องอยู่ที่นัยน์ตาคู่สวยนั้น ฉันไม่ค่อยเข้าใจเรื่องตัวเลขหรอก ยิ่งตอนนี้ยิ่งไม่เข้าใจเข้าไปใหญ่ “มีอะไร” เจ้านั่นถาม เขาหลบตา

“ เอ่อ....คือ.....ขอบคุณสำหรับ......ทุกๆ อย่างนะ” ฉันไม่ได้อยากจะทำซึ้งหรอก แต่ฉันเห็นว่าวันนี้เขาเหนื่อยเพื่อฉันมามาก การที่ใครจะทำอะไรมากมายขนาดนี้เพื่อใครสักคน มันคงต้องใช้ความอดทนอย่างสูง “ฉันไม่ต้องการรู้แล้วล่ะ ว่าเรื่องระหว่างเรามันคืออะไร แต่ขอบคุณนะที่เธอบังเอิญเข้ามาในชีวิตฉันและทำเรื่องราวต่างๆ ให้มากมาย มากมายจนฉันคิดไม่ถึง ฉันไม่อยากรู้เหตุผลของการปรากฏตัวของเธอแล้ว แต่ฉันขอบคุณที่อยู่ข้างฉัน แม้จะเป็นเวลาสั้นๆ แต่สิ่งที่เธอทำให้มันมากมายเหลือเกิน” ฉันไม่กล้าหันไปมอง เจ้านั่นนั่งนิ่ง

เงียบเกินไปแล้ว ฉันหันไปมอง เจ้านั่นมองหน้าฉันอยู่พอดี สายตาพิฆาตอีกแล้ว ฉันเริ่มหายใจไม่ออก “มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอก” เจ้านั่นพูดเบาๆ เจ้านั่นมองฉันด้วยดวงตาคู่สวย ฉันรู้แต่ว่าลมหายใจของเขาปะทะหน้าฉัน เจ้านั่นเลื่อนหน้าใกล้เข้ามา หัวใจทั้งสี่ห้องของฉันพากันสูบฉีดเลือด มันดังอึกทึกครึกโครม “อ้าว แล้วมันยังไงเหรอ” ฉันถาม เขาไม่ตอบ เอาแต่จ้องหน้าฉันอยู่แบบนั้น ใบหน้าคมคายอยู่ห่างจากหน้าฉันไม่กี่นิ้ว สายตาคมๆ ที่ดูเหมือนมีพลังอำนาจจ้องทะลุทะลวงได้ทุกอย่างบนโลกนี้ ลมหายใจอุ่นๆ อยู่ใกล้ๆ นี้เอง ฉันแทบจะกลั้นหายใจ เมื่อใบหน้านั้นเลื่อนเข้ามาเรื่อยๆ ฉันหลับตาลง........

นานเกินไปแล้ว ทำไมไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉันลืมตาข้างหนึ่งมอง เจ้านั่นอยู่ไหน ......

ฉันทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วก็ลงมานั่งข้างล่าง เทพบุตรเดวิสอันตรธานหายไปไหน ฉันมองหาทั่วร้านก็ไม่มีเงาของเขา ลองเดินหาทั่วๆ ร้านก็ไม่มี   นี่เจ้านั่นออกไปไหน จะบอกกล่าวกันสักนิดก็ไม่มี ฉันนั่งรอ
ฉันหลับบนโซฟารอจนเช้า ก็ยังไม่มีวี่แววของหมอนั่น

ฉันหาอะไรใส่ท้องแล้วก็เปิดร้าน ลูกค้าทยอยเข้ามาไม่หยุดหย่อน ฉันต้อนรับลูกค้าจัดดอกไม้ สั่งของ ทำทุกอย่างคนเดียวจนบ่ายถึงได้นั่งพัก เจ้านั่นไปไหนของเขานะ ฉันสงสัย วัยหวานนอนอยู่ใต้ต้นไม้ เดินไปถามแมวมันจะรู้เรื่องไหมนะ

ฉันนั่งจัดดอกไม้ รับลูกค้า ทำทุกอย่างด้วยความชุลมุน จนค่ำถึงได้ปิดร้าน จิตสำนึกบอกตัวเองว่าเกิดเรื่องผิดปกติแล้วแน่ๆ มีอะไรเกิดขึ้นกับเจ้านั่นหรือเปล่า ฉันจะทำยังไง เบอร์โทรศัพท์ของเจ้านั่นฉันก็ไม่เคยขอไว้ ฉันนั่งคิดวิตกกังวลสารพัด จินตนาการถึงเรื่องร้ายๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับเขา ลำคอตีบตัน ฉันจะทำยังไงดี ฉันกอดวัยหวานไว้แนบอก ฉันจะทำอย่างไร  

“เมษาพาเพลิน” เขาต้องอยู่ที่นั่นแน่ๆ ฉันรีบวิ่งออกไป

ฉันไขกุญแจเข้าไปในร้าน ทุกอย่างในร้านยังเหมือนเดิม ฉันวิ่งขึ้นไปที่ชั้นสอง ชั้นสาม ไม่มีใครอยู่ที่นั่นเลย ฉันเดินลงมาข้างล่าง นั่งทรุดกองลงกับพื้น เกิดอะไรขึ้น เจ้านั่นไปไหน

ฉันกลับมานอนที่ร้านขจิตฟลอร่า ตีสองแล้วฉันควรจะหลับด้วยความอ่อนเพลียแต่ฉันไม่ได้หลับ อาการปวดเกร็งที่ท้องเกิดขึ้นอีกแล้ว ฉันนั่งรออยู่ที่โซฟาด้านล่าง เขาไปไหนนะ ปกติก็หายไปไม่บอกไม่กล่าวอยู่แล้ว แต่คราวนี้หายหัวไปนาน นานเกินไปแล้ว หายไปราวกับอากาศธาตุ ที่ร้ายก็คือฉันไม่รู้ว่าจะไปตามเขาที่ไหน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชื่อจริงๆ ของเขาคืออะไร แทนคุณ คือชื่อจริงของเขาหรือเปล่า ฉันไม่มีแม้กระทั่งเบอร์โทรติดต่อ จิตใจฉันห่อเหี่ยว ฉันจะไปตามหาเขาที่ไหน ฉันลุกไปเหม่อมองที่ประตูกระจก ไม่มีวี่แววของหมอนั่นเลย วัยหวานเดินมาสีขาเหมือนกับจะปลอบขวัญฉัน
จนรุ่งสางก็ไม่มีร่างของเจ้านั่นปรากฏให้เห็น ฉันทำทุกอย่างเหมือนถูกตั้งโปรแกรมไว้ คนยังเข้ามาร้านหนาแน่นเหมือนเดิม พอได้คุยกับลูกค้าก็ได้รู้ว่าร้านฉันถูกโฆษณาปากต่อปากในเรื่องความสวยงามของดอกไม้ รูปแบบ การจัดวางและราคาที่ไม่แพง ฉันต้อนรับลูกค้า จัดดอกไม้ จนเวลาล่วงเลยมาถึงตอนเย็น จิตใจยังคงไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เพราะไม่มีวี่แววของเจ้านั่นเลย ลูกค้าคนสุดท้ายตัดสินใจว่าจะมาใหม่วันพรุ่งนี้เพราะเห็นท่าเหมือนว่าฉันเหนื่อยมากกินไปแล้ว ฉันนั่งเฉยๆ อยู่ที่หน้าร้าน นั่งกองอยู่กับพื้นเลยทีเดียว ผ่านไปอีกวันแล้วเหรอ ลูกค้าเข้าร้านมากมาย มีอะไรให้ทำเยอะแยะ เงินทองสะพัดแต่มันขาดอะไรไป สิ่งที่สำคัญมาก เสียงด่า เสียงเหน็บแนมของเจ้านั่น นั่นเอง

จากคุณ : Sexy Peachy
เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 54 08:20:39




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com