Body Talk (Boys love) ทดลองโพสต์ บทที่ 7
|
 |
บทที่ 7
วุฒิผายมือให้ทศวรรษนั่งข้างน้ำฟ้าที่กำลังพุ่มมือไหว้ แต่ทศวรรษกลับทิ้งตัวลงนั่งข้างรุจน์ รุจน์อึดอัดทศวรรษนั่งด้านนอกนั่นเท่ากับปิดทางออกของเขา ด้านในทำให้รู้สึกเหมือนถูกอัดติดมุม อีกอย่างวุฒิอยากให้ทศวรรษนั่งกับน้ำฟ้า สองพี่น้องทำหน้าเก้อครู่หนึ่งแล้วจึงเริ่มบทสนทนาอีกครั้ง “นี่ตั้งแต่น้องฟ้าของฉันมารับช่วงนายไม่มาที่ร้านเลย หมายความว่าไงวะ รังเกียจน้องฉันมากหรือไง อย่าทำแบบไอ้ S นะ หนีไปหมั้นเฉย เหลือนายคนเดียวแล้วนะที่ฉันจะฝากความหวัง” วุฒิที่ออกอาการกึ่มจ้องหน้าทศวรรษ “พี่วุฒิคะ มันแค่คำพูดทีออกมาจากความคิดเด็กๆ” ใบหน้าน้ำฟ้าระเรื่อ รุจน์ลอบมองอย่างสนใจ หล่อนเมาแล้ว หรือเขินอายกันแน่
“งานฉันมากขึ้นทุกวัน สามปีกับ หกโครงการ ทั้งไทย เอเชีย อเมริกา และ ยุโรป เลยไม่มีเวลาว่างกับงานศิลป์เท่าไหร่” ทศวรรษยิ้มนิ่ง ยื่นมือหยิบผ้าขนหนูเช็ดมือที่พนักงานเสริ์ฟนำมาให้คลี่ออกเช็ดมือ ขณะที่รุจน์พยายามคิดถึงเรื่องอื่นอย่างเช่น เขาไม่ค่อยชอบไปญี่ปุ่นเท่าไหร่เพราะภาษาอังกฤษใช้ไม่ค่อยได้ผลในบางที่ หรือ ดับไฟในร้านหมดแล้วหรือยัง แล้วรถที่จอดไว้ล่ะกดรีโมทล็อคหรือยัง พยายามเห็นเหความสนใจไปทางอื่นเท่าที่พึงทำได้ในตอนนี้ ทว่าสุดท้ายใจของเขาก็กลับมาที่เดิม
“พี่ไม่ได้อะไรกับฟ้าอย่างที่วุฒิมันพล่อยพูดออกมาเลยนะ” ทศวรรษวางผ้าพร้อมทั้งโน้มตัวไปพูดใกล้กับน้ำฟ้า หล่อนสบตาเขาแล้วยิ้มออก รุจน์พ่นหายใจรีบหันไปทางอื่น “แต่พี่ก็อุดหนุนเราตลอดนี่นา ไม่ได้บอกไอ้คุณพี่ชายหรือไง” “บอกว่ะ แต่ฉันอยากให้นายโผล่ไปให้กำลังใจน้องบ้าง” วุฒิรีบพูดแทรก น้ำฟ้าหัวเราะ ดวงตาเป็นประกายของหล่อนจับจ้องแต่ทศวรรษ เขาเองก็มองไม่วางตา ทั้งสามคนต่างพูดคุยกันถึงแต่ความหลังอันเป็นเรื่องที่รุจน์ไม่มีวันเข้าใจ รุจน์หยิบแก้วไวน์มาดื่ม รสชาติแย่จนอยากพ่นพรวดออกมา ขวดราคาเป็นหมื่น ตั้งราคาไร้ยางอายอย่างนี้ได้อย่างไร รุจน์ดื่มอีกอึก.....แย่ๆๆ เขาคิดกับรสชาติของไวน์ที่ดื่มไปแล้วถึงสองแก้วอย่างไม่รู้สึกอะไรในตอนแรก หรืออันที่จริงแล้วเขาคิดกับการที่เขาอยุ่ตรงนี้แบบสงสัยว่า ตกลงตัวเองเป็นธาตุอากาศ หรือเฟอร์นิเจอร์ประดับห้องกันแน่ ถึงรู้สึกแปลกแยก นี่ต่างหากที่แย่จริงๆ รุจน์วางแก้วแล้วขยับลุก
“อ้อๆ นี่ๆ ลืมไปเลย คนขายคนโปรดของนายไง เขามาด้วย รุจน์ยังไม่ทักทายลูกค้ารายใหญ่ของนายเลย” วุฒิพูดพร้อมทั้งหันมาทางรุจน์ ทุกคนเลยหันมาทางเขา น้ำฟ้ายังยิ้ม แต่ยิ้มและดวงตานั้นเป็นของเขาแล้วในตอนนี้ ส่วนทศวรรษนั้นมองด้วยสายตาว่างเปล่า รุจน์ค้อมตัวพุ่มมือไหว้ ทศวรรษรับไหว้เฉยเมยทั้งสีหน้า ดวงตาและท่าทาง “รุจน์มีอะไรหรือคะ” น้ำฟ้ามองเขาที่ลุกขึ้น รุจน์มองทศวรรษอย่างเกรงใจก่อนพูดว่า “ผมขอไปห้องน้ำครับ” “เอาสิ” ทศวรรษขยับหลบ แต่ไม่ลุกให้ รุจน์มองช่องแคบๆที่เขาเว้นให้ อย่างเซ็งหัวใจ อย่างนั้นใครจะผ่านไปได้
“เอ่อ” รุจน์เม้มปาก เขาแสดงท่าว่ามันแคบไปเขาผ่านไปไม่ได้ ทศวรรษยักไหล่แล้วขยับอีกนิด คิ้วเข้มของเขาเลิกสูงเชิงถามว่าพอมั้ย? รุจน์ถอนใจแล้วก้าวผ่านออกมา ขาของเขาเบียดกับเข่าของทศวรรษ อีกฝ่ายจึงยื่นมือมาจับ รุจน์หันไปมอง ทศวรรษจับให้เขาหยุดก้าวก่อน จากนั้นลุกขึ้นจากที่นั่งให้รุจน์ก้าวผ่านไปอย่างสะดวก รุจน์ก้มหน้ารีบก้าวผ่านออกไปแล้วจึงหย่อนตัวลงนั่ง “นี่ๆมาคุยถึงเรื่องนายS กันต่อดีกว่า” เสียงวุฒิที่แว่วลอยตามหลังรุจน์ ทำให้เขาต้องรีบออกมาจากที่ตรงนั้นอย่างรวดเร็ว รุจน์พยุงตัวกับกำแพงอย่างหมดแรง ริมฝีปากเผยอหายใจเร็ว เขายกมือข้างหนึ่งขึ้นปิดหน้า ความพลุกพล่านในร้านไม่อยู่ในมโนห้วงลึกภายในของเขาเลยสักนิด เขารู้สึกราวกับจะแตกเป็นเสี่ยงๆโดยไม่มีสาเหตุ รุจน์สูดหายใจพร้อมยืดตัวตรง เขาบอกตัวเองให้ตั้งรับกับสภานการณ์ให้ได้ ทศวรรษช่างทำได้อย่างกับไม่เคยมีเขาในชีวิตของเขาเลย รุจน์ค่อยก้าวเท้าเดินอย่างเชื่องช้า ตรงหน้าราวกับภาพขาวดำที่ไม่มีชีวิตชีวา แต่ละการเคลื่อนไหวของทุกคนและสรรพสิ่งดูเลื่อนลอยคล้ายไม่ใช่เรื่องจริง รุจน์เซไปพิงกำแพงอีกครั้งพร้อมๆกับความเคลื่อนไหวบางอย่างก็วูบผ่านเข้ามาในสายตา
ร่างสูงใหญ่ราวนักกีฬาในชุดพนักงานเสริ์ฟ รอยยิ้ม ดวงตารีเรียวประกายสดใส รุจน์พริบตาพร้อมยันตัวออกจากกำแพง ใบหน้าเป็นมิตรด้วยรอยยิ้มนั้นกำลังพูดคุยกับลูกค้าที่เป็นชาวต่างชาติชาวเอเชีย คล้ายๆกำลังอธิบายเมนูที่ลูกค้าท่านนั้นสนใจอย่างละเอียด เขาจดรายการลงในสมุดในมือ จากนั้นจึงโค้งกายอย่างนอบน้อมแล้วก้าวผละออกมา รุจน์รีบหันไปหลังแต่คงจะช้ากว่าเขา ได้ยินเสียงของเขาใกล้เข้ามา “คุณนั่นเอง” เมษาวิ่งเข้าดักหน้า
“ใช่ นายทำงานที่นี่เหรอ” รุจน์ฝืนยิ้ม เขาทำให้มันเป็นธรรมชาติตอนนี้ไม่ได้หรอก “ครับ พาร์ทไทม์น่ะครับ ผมขอขอบคุณอีกครั้งนะเรื่องงาน” เมษาโค้งตัวสุดขีด เงยหน้ามองรุจน์แล้วหยุดยิ้ม เขายื่นมือมาจับแขนรุจน์ “คุณไม่สบายหรือครับ” “ไม่เป็นไรหรอก ผมกำลังหาห้องน้ำอยุ่” “คุณเมาหรือครับ” “คงอย่างนั้น”
“งั้นรอผมสักครู่นะครับ ผมเอาออร์เดอร์ส่งครัวแล้วจะกลับมานะครับ” เมษาดึงแขนรุจน์เบาให้ตามไปนั่งเก้าอี้ที่อยู่มุมสุดทางเดินแล้วรีบวิ่งไปอีกทาง ครู่เดียวเขาก็กลับมาหารุจน์ “อยากอาเจียนน่ะสิครับ มาผมพาไปห้องน้ำ” เมษาสอดแขนเข้าที่เอวของรุจน์ มืออีกข้างจับมือรุจน์ไปไว้บนบ่าของบ่าแล้วพยุงให้ลุกขึ้น “ค่อยลุกนะครับไม่งั้นหัวจะหมุน” เมษากระชับวงแขนที่เอวของรุจน์ ทางเดินไปห้องน้ำไม่พลุกพล่านเหมือนในร้าน อาจเป็นเพราะทุกคนกำลังสนุกกับการดื่มกิน ทางเดินจึงค่อนข้างเงียบ มีคนเดินเข้าออกไม่มากเท่าไหร่
“ใจเย็นๆนะครับ หายใจเข้าออกลึกๆนะครับ” เมษาพูดแล้วก็หัวเราะออกมา รุจน์เงยหน้ามองเขาสงสัย “นายหัวเราะอะไร” “ผมขำตัวเองน่ะครับ พูดแล้วก็เพิ่งนึกได้ว่าคุณเมาอยู่ไม่ได้จะคลอดลูกสักหน่อย ที่พูดไปเมื่อครู่มันเหมือนหมอตำแยพูดกับคนคลอดลูกเลย” เมษาพูดไปหัวเราะไป รุจน์อมยิ้มขันไปด้วย เขามองเมษาแล้วคิดถึงภาพวาดทุ่งทานตะวันที่เคยเห็นในแกลลอรี่ ทุกกริยาอาการของผู้ชายคนนี้ช่างเจิดจ้าเบิกบานราวตะวันในฤดูร้อน ราวประกายดวงดาราในคืนเดือนมืด เขาเป็นดั่งสายลมอุ่นอันแปลกประหลาดที่พัดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างในวันที่หนาวเหน็บ
รุจน์รู้สึกล่องลอย ไม่เข้าใจ ได้แต่เฝ้าดูการเคลื่อนไหวของร่างกายของตัวเอง เขาเบียดซุกใบหน้ากับไหล่ของเมษา สองมือเคลื่อนเชื่องช้าเข้าโอบเอวของอีกฝ่าย สองมือของเมษาปล่อยจากรุจน์ เอนตัวมองรุจน์ราวกับเห็นสิ่งมหัศจรรย์ “อย่าพูดอะไร อย่าเพิ่งไปไหนอยู่แบบนี้กับผมสักพักนะ” รุจน์กอดเมษาแน่น เมษามองทางว่างเปล่าที่กำลังไร้เงาผู้คนแล้วพยักหน้า เขาพิงตัวกับกำแพงครู่ใหญ่จึงค่อยๆยกมือขึ้นโอบกอดรุจน์ “ตกลงครับ ผมจะอยู่กับคุณ” เมษากระซิบพลางเอนศีรษะแนบกับเส้นผมของรุจน์
ที่โต๊ะในห้องวีไอพี วุฒิ น้ำฟ้า ต่างคุยกันอย่างสนุกสนาน ทศวรรษรินไวน์ให้น้ำฟ้า วุฒิ และตัวเอง วุฒิเรียกให้ชนแก้ว เขา และน้ำฟ้ายกขึ้นชนด้วย ขณะปล่อยน้ำสีเข้มไหลลงคอทศวรรษก็ปรายตามองไปทางประตูที่รุจน์ก้าวออกไปเมื่อครู่
รุจน์ผละออกจากอ้อมแขนเมษากระทันหัน เขากล่าวขอโทษด้วยเสียงอันเบาบาง “คุณโอเคแล้วนะฮะ” เมษาไม่มีวี่แววสงสัยใดนอกจากความเป็นห่วง “ครับ” รุจน์ก้มหน้าด้วยรู้สึกขายหน้าที่เผลอตัวกับคนที่ไม่รู้จัก “งั้น ผมกลับไปทำงานต่อ....” เมษามองดูทีท่าของรุจน์ คอยระวังกลัวว่ารุจน์จะเซล้ม “อื้ม...ผมไม่เป็นไรแล้วจริงๆ ขอบคุณมาก” รุจน์รีบหนีหน้าเข้าห้องน้ำ เมษามองงงเกาหัวแกรกก่อนจะหันหลังกลับเดินไปในทางของตัวเอง
รุจน์ถลันไปที่อ่างล้างหน้าเปิดน้ำล้างหน้า มองตัวเองในกระจกแล้วหลับตาทำอารมณ์ให้คงที่อย่างเร็วแล้วจึงออกจากห้องน้ำ เดินผ่านตรงที่พบกับเมษาเมื่อครู่ก่อน รุจน์บอกตัวเองอย่ามองหา แต่ก็ห้ามไม่ได้ ขณะที่เขาเองก็รู้สึกเหมือนกำลังถูกมองอยู่เช่นกัน เมื่อเหลือบตามองก็เห็นเมษาที่เพิ่งเสริ์ฟอาหารให้ลูกค้าเสร็จกำลังมองมาที่เขา ฝ่ายนั้นยิ้มให้ทั้งใบหน้าและดวงตา สองนิ้วชูเป็นกำลังใจ ขณะที่ริมฝีปากพูดให้อ่านออกว่า “ อย่าดื่มมากนะ” รุจน์อดยิ้มตอบไม่ได้ ศีรษะก็พยักหงึกหงักพร้อมกันนั้น
เขากลับมาที่ห้องวีไอพีก็พบว่าวุฒิฟุบกับโต๊ะไปแล้ว “เกิดอะไรขึ้นครับนี่” รุจน์เข้าสมทบ น้ำฟ้าเท้าสะเอวกลอกตาก่อนตอบถามของรุจน์ “ดื่มหนักเป็นดื่มน้ำน่ะสิ สรุปเมาหมดสติไปเลยค่ะ พี่ทศกับคุณรุจน์ช่วยพยุงไปส่งที่รถหน่อยนะคะ” “พี่คนเดียวก็ได้ ว่าแต่ฟ้าเอารถมารึเปล่า” “เปล่าค่ะ ฟ้ามากับพี่วุฒิรถฟ้าอยู่บ้านพี่วุฒิ ฟ้าจะขับรถพี่วุฒิกลับเองค่ะ แล้วคงค้างที่นั่นเลย พรุ่งนี้ก็ขับรถตัวเองกลับคอนโด”
ทศพยักหน้าเข้าใจ เขาก้มลงพยุงวุฒิทะมัดทะแมง แล้วพาเดินออกจากห้องก่อน น้ำฟ้าเดินเข้ามาหารุจน์ “คืนนี้คงไม่ได้แล้วล่ะ พี่วุฒินี่น๊า น่าเบื่อจริงๆ พรุ่งนี้คุณจะไปญี่ปุ่นแล้ว อีกตั้งกี่วันถึงจะเจอกัน” หล่อนจับเนคไทของรุจน์ แล้วดึงเขาเข้าจูบ รุจน์จูบตอบนิ่มนวล “ไว้กลับมาก็ได้นี่ฮะ เหตุจำเป็นเกิดได้ตลอดเวลา ผมเข้าใจ” พูดแล้วจูบอีกครั้ง
ทศวรรษที่ตั้งใจจะหันมาเรียกขอกุญแจจากน้ำฟ้า ภาพนั้นทำให้เขาต้องหันกลับแล้วรีบพาวุฒิเดินออกจากร้านอย่างรวดเร็ว “ขอบคุณมากค่ะพี่ทศ” น้ำฟ้ายกมือไหว้ทศวรรษเมื่อเขาเอาวุฒิใส่เบาะหลังให้เรียบร้อย “ไม่เป็นไรครับ แล้วเจอกันใหม่นะครับ” ทศวรรษหันไปเปิดประตูด้านหน้าเบาะคนขับให้น้ำฟ้า หล่อนค้อมตัวก้าวเข้าไปนั่งแล้ว “รถพี่ทศจอดที่ไหนคะ” “พี่มาแท็กซี่ วุฒิโทรมาชวนดื่ม ไม่อยากขับรถน่ะครับ” “งั้นจะโทรหานะคะ” น้ำฟ้ายื่นใบหน้ามา ทศวรรษค้อมตัวหาหล่อน หล่อนจูบเขาที่แก้ม เขาพยักหน้าก่อนปิดประตูรถให้ ก่อนจะออกรถน้ำฟ้ากดกระจกไฟฟ้าลง หล่อนหันไปทางรุจน์
จากคุณ |
:
vannessia
|
เขียนเมื่อ |
:
13 ต.ค. 54 22:42:46
|
|
|
|