ชายหนุ่มเดินไปเดินมาอยู่หน้าห้องได้สักพัก ภาพฝันก็เดินเข้ามาสมทบ ศีรษะของเธอถูกพันด้วยผ้ากอซสีขาว แขนซ้ายมีผ้าคล้องแขนที่เป็นตาข่ายสีฟ้ายึดเอาไว้
เมื่อมองเห็นพี่ฝันของเขาเดินเข้ามา เด็กชายตัวน้อยก็โผเข้าไปกอดไว้ทันที
“พี่ฝัน พี่ปายจะเป็นอะไรหรือเปล่า” คีรัชเงยหน้าขึ้นถาม ก่อนที่ภาพฝันจะคุกเข่าลง แล้วเช็ดน้ำตาให้กับคนตรงหน้า ทั้งๆ ที่น้ำตาตัวเองก็ยังไม่หยุดไหล “จริงใช่ไหม ที่พ่อกับแม่บอกว่าคีเป็นตัวซวย”
หญิงสาวฝืนยิ้มให้กับเด็กชายตัวน้อย ยื่นอีกมือหนึ่งไปวางบนไหล่คนตรงหน้า “ไม่ใช่ความผิดของคีหรอกนะ เชื่อพี่ฝันสิ พี่ปายเป็นคนดี พี่ปายจะต้องไม่เป็นอะไร”
ใช่...พี่ปายจะต้องไม่เป็นอะไร
ภาพฝันใช้นิ้วโป้งเช็ดน้ำตาให้กับคีรัชอีกครั้ง ถ้ามีใครสักคนจะผิด คนคนนั้นก็คงต้องเป็นเธอ หากตัวเองไม่ดีใจจนเผลอข้ามถนนโดยไม่ดูรถราให้ดีเสียก่อน เพื่อนรักคงไม่ต้องเจ็บตัวแบบนี้
เพียงเสี้ยววินาทีที่ตัวเธอ ถูกผลักให้หลุดพ้นจากวิถีของรถที่พุ่งเข้ามา ‘แกไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้เลย...ปาย ชีวิตแกมีค่ามากกว่าเราตั้งเยอะ’
ภาพฝันใช้แขนข้างขวาดึงคีรัชเข้ามากอดเอาไว้ พลางส่งสายตาไปยังห้องไอ.ซี.ยู. พีรณัฐยังคงนั่งสะอึกสะอื้นอยู่ใกล้ๆ ประตู พีรภาสเดินไปมาหน้าห้อง และต้องคอยรับโทรศัพท์อยู่ตลอดเวลา แน่นอนว่าคนที่โทรมาคงจะเป็น ลุงปิง ป้าป่าน หรือไม่ก็พี่แป้ง ที่คอยโทรมาสอบถามอาการอยู่เป็นระยะๆ
เธอคลายอ้อมกอดจากเด็กชายตัวน้อยก่อนจะเดินไปหาคนที่ยืนอยู่หน้าประตู
“พี่ปูนคะ” ภาพฝันพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ แต่น้ำเสียงที่ส่งไปยังคงสั่นเครือ “คุณหมอยังไม่ออกมาอีกเหรอคะ”
ไม่มีคำตอบจากชายหนุ่ม เขาเพียงแต่ส่ายหน้าเบาๆ ก่อนส่งยิ้มแห้งๆ ราวกับจะปลอบใจ สองมือนั้นยื่นมากุมไหล่เธอเบาๆ เหมือนอย่างที่เธอปลอบคีรัช “น้องฝันเพิ่งบอกเจ้าคีไปเองไม่ใช่เหรอ ว่าปายจะต้องไม่เป็นอะไร พี่ก็เชื่อแบบนั้น”
อุบัติเหตุครั้งนี้ไม่ใช่ความผิดของใครทั้งนั้น น้องชายของเขาเลือกเองที่จะยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อคนตรงหน้า จะให้โทษใครอื่นคงจะไม่ได้
ความรักของเจ้าปายลึกซึ้งกว่าที่เขาคิดไว้เสียอีก
รออีกชั่วโมงกว่า ในที่สุดคุณหมอก็ออกมาแจ้งอาการ ทำให้ทุกคนที่อยู่หน้าห้องถอนหายใจด้วยความโล่งอก คุณหมอบอกว่าผู้ป่วยปลอดภัยแล้ว เพียงแต่ขาทั้งสองข้างต้องเข้าเฝือกนานเกือบสองเดือน
คุณชายหันไปยิ้มให้กับน้องสาว ก่อนจะส่งยิ้มให้กับภาพฝัน เห็นไหม...ปายต้องไม่เป็นอะไร
ไม่นานสามคนที่เหลือก็เข้ามาสมทบ เมื่อพีรภาสบอกว่าเจ้าปายของทุกคนปลอดภัยแล้ว ก็โล่งใจไปตามๆ กัน คุณนายอรพินยกมือขึ้นทาบอก “หมดทุกข์ หมดโศก เสียทีนะปาย”
“แป้งขอตัวไปทำเรื่องขอส่งตัวปายไปโรงพยาบาลที่โน่นก่อนนะคะ เดี๋ยวแป้งเป็นเจ้าของไข้เอง”
คุณหมอพีรญาหันไปบอกทุกคน เมื่อเริ่มเห็นสีหน้าของพวกเขาแช่มชื้นขึ้นมาบ้าง
หากเพียงแต่สีหน้าของอีกคนยังไม่ดีขึ้น ความรู้สึกผิดที่มีต่อเพื่อนรักยังคงมีอยู่เต็มหัวใจ
คุณนายอรพินพยักหน้ารับลูกสาวคนโต ก่อนเดินเข้าไปหาคนเจ็บอีกคน “หนูฝัน ไม่เป็นไรใช่ไหมลูก อย่าคิดมาเลยนะ ปายก็ปลอดภัยแล้ว”
ภาพฝันยิ้มแห้งๆ ให้กับป้าป่านของเธอ ก่อนอีกคนจะดึงเธอไปเข้ากอดเอาไว้ น้ำใสๆ เริ่มเอ่อล้นมาจากดวงตาอีกครั้ง ไม่ใช่ความโศกเศร้า หากแต่เป็นความตื้นตันใจในความรักที่ครอบครัวอินธารักษ์มีให้
แล้วจะไม่ให้เผลอใจคิดว่าตัวเองเป็นสมาชิกของครอบครัวนี้ไปได้อย่างไร
จากคุณ |
:
pormare
|
เขียนเมื่อ |
:
16 ต.ค. 54 19:07:13
|
|
|
|