ความคิดเห็นที่ 1 คราวน้ำท่วม จากคุณ : ญามี่ เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 00:32:12

ความคิดเห็นที่ 2 นายกรัฐมนตรี วอนประชาชนเข้าใจปัญหาน้ำท่วม ดอนเมือง 18 ต.ค.- นายกฯ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์สำรวจสถานการณ์น้ำรอบกรุงเทพฯ พร้อมให้ "ยงยุทธ" ไปทำความเข้าใจกับประชาชน เปิดประตูระบายน้ำ 6 คลอง เพื่อให้ระบายน้ำได้ตามทิศทางที่บริหารจัดการ สั่งเสริมกำลัง 200 นายป้องกันแนวกั้นน้ำบริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ระบุปีนี้น้ำมาก ระบายวันเดียวไม่เสร็จ วอนประชาชนเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 15.25น.วันนี้ (18ต.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ปลัดกระทรวงคมนาคม และอธิบดีกรมชลประทาน เดินทางออกจากศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง โดยเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจพื้นที่บริเวณศูนย์พักพิง ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต นิคมอุตสาหกรรมนวนคร จังหวัดปทุมธานี แนวคันกั้นน้ำรังสิต แนวคันกั้นน้ำ กทม. และถนนสายไหม นิมิตรใหม่ ร่มเกล้า บินผ่านบริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สะพานภูมิพล 1 คลองลัดโพธิ์ และรอบ กทม.เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ต่าง ๆ จากนั้นนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า บริเวณพื้นที่คลองรังสิต ได้ให้นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ไปเจรจากับประชาชนในพื้นที่ เพื่อขอความร่วมมือในการเปิดประตูระบายน้ำทั้ง 6 คลอง คาดว่าน่าจะได้รับความร่วมมือช่วงเย็นวันนี้ เพื่อให้การระบายน้ำเป็นไปตามทิศทางที่ได้บริหารจัดการไว้ สำหรับแนวป้องกันบริเวณคลองรังสิตประยูรศักดิ์ เห็นว่า แนวกั้นน้ำมีความแข็งแรงพอสมควร น่าจะป้องกันได้ ขณะที่แนวป้องกันบริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ได้ประสาน ศปภ.เพื่อขอกำลังช่วยป้องกันแนวกั้นน้ำ ขณะนี้ได้สั่งการให้ส่งกำลังไปเพิ่ม 200 นาย เชื่อว่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์น่าจะอยู่ได้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนบริเวณนิคมอุตสาหกรรมนวนคร แต่ละโรงงานมีแนวกั้นเป็นของตัวเอง แต่ต้องเร่งช่วยกู้นิคมอุตสาหกรรมดังกล่าว ส่วนแนวคิดที่เสนอให้เจาะใต้ทางรถไฟ เพื่อให้เป็นทางระบายน้ำ เห็นว่าไม่น่าช่วยให้การระบายน้ำดีขึ้น การแก้ไขปัญหาจึงมุ่งระบายน้ำที่คลองระพีพัฒน์ไปไปลงคลองรังสิตประยูรศักดิ์ จากนั้นเร่งระดมเครื่องสูบน้ำออก "เราพยายามทุกวิถีทาง แต่ต้องยอมรับว่า น้ำมาเป็นหมื่น ๆ ลูกบาศก์เมตร จะให้ระบายในวันเดียวคงไม่หมด จึงอยากขอความร่วมมือกับประชาชน ทำความเข้าใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น" นายกรัฐมนตรี กล่าว เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาดูเหมือนว่า รัฐบาลจะแก้ปัญหาเรื่องน้ำยังไม่ได้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี มากเป็นประวัติศาสตร์ และไม่มีทางระบาย และก่อนหน้านี้มีพายุเข้ามา 2-3 เดือน ทำให้น้ำสะสม และทุกเขื่อนก็ใช้อย่างเต็มศักยภาพแล้ว ประกอบกับลักษณะภูมิประเทศเปลี่ยนไป มีการสร้างตึกขึ้นมา จึงเป็นปัญหาขัดขวางทางน้ำ ซึ่งเรื่องนี้ต้องมีการพูดคุยแก้ปัญหาเรื่องการวางผังเมือง และต้องวางแผนในระยะยาวในเรื่องของการไหลของน้ำว่าจะทำอย่างไรให้การระบายน้ำมีความฉับพลัน "ที่ผ่านมาได้มีการประสานข้อมูลกับทุกฝ่ายอย่างใกล้ชิด และมีการแจ้งเตือนประชาชนมาโดยตลอด แต่หลายคนอาจไม่คิดว่า จะเกิดเหตุการณ์น้ำมามาก และไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์น้ำท่วมเช่นนี้เกิดขึ้น ต่อไปจึงต้องชี้แจงกับประชาชนอย่างใกล้ชิด" นายกรัฐมนตรี กล่าว นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า นายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ ได้โทรศัพท์มาแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยินดีให้ความช่วยเหลือ แต่เบื้องต้นไทยยังไม่ได้ร้องขอ ซึ่งในรายละเอียดกระทรวงการต่างประเทศจะเป็นผู้ประสานงานต่อไป.- สำนักข่าวไทย จากคุณ : ญามี่ เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 00:33:18

ความคิดเห็นที่ 3 .....น้ำท่วมคราวนี้สาหัสนัก ด้วยความรักจักพาเราหลุดพ้น ต่างฝ่ายมุ่งหมายช่วยประชาชน เราทุกคนรวมเป็นหนึ่ง.....พึ่งพากัน....... จากคุณ : ป.ปาแปง เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 08:44:58

ความคิดเห็นที่ 4 น้ำใจคนไทยไม่มีเหือดแห้ง เราต้องพ้นวิกฤตครั้งนี้ได้อย่างแน่นอนค่ะ จากคุณ : มนต้นไม้ (Setakan) เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 10:12:24

ความคิดเห็นที่ 5 11.38 น. ๏ น้ำท่ามี ที่มาปีละครั้ง มีพนัง พังนะถ้าน้ำล้น ใครขืนกั้น ขั้นกลืนฝืนสายชล ห้ามห่าฝน หนฝ่าบ้าบนบาน   ๏ ที่กันน้ำ กรรมนั้นมันสนอง คูคลองตื้น คืนต้องไหลคล่องผ่าน ไม่ขุดลอก ครอกรุดขุดถมฐาน จัดสรรบ้าน ซ่านบรรลัยกันเเน ๏ เบื่อจะย้ำ จ้ำยะย่องยะแย่ง บ้านสวนแห้ง แสร้งหวนสวนกระแส สังคมอยู่ คู่ยมนาล่มแล เรือแพขาด พลาดแขไขแก้กัน ๏ สู้น้ำร้าย หน่ายล้ำเปลืองน้ำทรัพย์ ละลายน้ำยับ นับย้ำหมดกำปั่น ขวางน้ำเชี่ยว เหนี่ยวช้ำชอกรำพัน เมืองรั้นกู้ รู้กั้นผันน้ำมา ๏ ท่วมนาไร่ ในหล้าข้าวปลาปลูก ของแพงถูก ผูกแทงแข่งกันค้า ขายน้ำขวด นวดคร่ำเคร่งตำรา สวนป่านั้น ปั่นหน้าธาราดล ๏ น้ำผ่านไป ภัยป่านนี้มันจบ เล่นสู้รบ ศพรู้กู้ภัยขน ให้น้ำดี นี่ด่ำดื่มน้ำมนต์ หากไม่สน หม่นใสใช้หนี้กรรม ๚ะ๛ 12.25 น. แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 54 12:51:42 จากคุณ : นกโก๊ก เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 12:27:09

ความคิดเห็นที่ 6 เคยเรืองรองงดงามเป็นสง่า ถูกน้ำพาลงจมให้หม่นหมอง มองทางใดล้วนราคีมาตีจอง ให้ร่ำร้องวันวานอยู่ไหนกัน ภาพงดงามสิ้นแล้วจากวันก่อน ภาพที่สอนคนไทยหยิ่งชาตินั่น มาดับลงกับปวงน้ำสารพัน นิ่งนั้นนาน..นานยามเผลอเหลียวมอง จากคุณ : เกรียงไกรกวีฝัน เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 13:47:57

ความคิดเห็นที่ 7 มรรคาเลยลาฝ่ากระแสลมตื่น คราค่ำคืนคลื่นน้ำมาเย้ยหยัน ครวญระงมกับท้อราวประชัน มองตะวันไม่ร้อนให้เหงาตา ทุกอย่างแปรเปลี่ยนไปไม่มีเหลือ มีแต่เรือมาแทนรับอาสา รถราสิ้นถนนอย่างทุกครา เป็นเวลาเรือจ้างมาต่อรอง จากคุณ : แก้วกลมกลม เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 14:05:39

ความคิดเห็นที่ 8 เถิดมนุษย์...ฟ้านี้จะเป็นสักขี ให้ชีวีผ่านโศกโชคชะตาสรร มองลำเค็ญผ่านมา..อย่าดูมัน เดี๋ยวก็ผ่านพ้นวันที่แสนระอา บทสุดท้ายยังไกลรู้ไว้เถิด จะรวยเลิศจนแค้นอย่าเสียท่า เกิดมาแล้วสู้ไปใช่บูชา แค่ฟ้าท่านมองดู..ยังไม่ตาย จากคุณ : ขอฝากแค่ฝัน เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 14:18:23

ความคิดเห็นที่ 9 ดังคลื่นกระหน่ำล้นมาน้ำตาไหล บ้านลอยไปทั้งหลังอยู่ตรงหน้า อยากตามไปคว้าไว้สุดสายตา อนิจจาชีวายามน้ำเยือน คลื่นและลมสายชลพร้อมกันหลั่ง โถมแหวกฝั่งเข้าหาไม่ต้องเคลื่อน มองทุกอย่างเปลี่ยนทางไร้คำเตือน ใจสะอื้นหลงเลือนวันเวลา จากคุณ : วาดฝันมธุรพจน์ เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 14:30:46

ความคิดเห็นที่ 10 น้ำใจไทยไหลร่วมมาเคียงข้าง ไม่ทิ้งกันหาทางจะช่วยเหลือ มีน้อยนิดยังแบ่งไปจุนเจือ แม้ต้องกินเกลือนั้นใจยังยอม มรสุมแห่งโลกมาโยกขยับ ให้ตั้งรับความช้ำไร้ใครกล่อม มองทุกทางด้วยเข็ญใช่นบน้อม แต่ก็พร้อมสู้มัน..เราคนไทย จากคุณ : ขุนพลน้อยโค่วจง เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 14:39:54

ความคิดเห็นที่ 11 เรือลำน้อยลอยมาเพื่อรับจ้าง แต่ค่านั้นเกินวางโดยไร้ถาม ห้าสิบบาทแลกข้าวสักสองชาม หากคำถามเลือนหายเมื่อเห็นคน คนมากมายขึ้นมาอย่างยอมสู้ รู้ทั้งรู้ถูกโกงเสลือกสลน ยืนน้ำตากลบหน้าอย่างอับจน ทนและทนต่อไปกับโรคจาง จากคุณ : รสรวยริน เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 14:49:37

ความคิดเห็นที่ 12 บางคนรวยน้ำท่วมยิ่งรวยหนัก ทรายเป็นตันจักเรียกหลายหมื่นแสน ไม่สงสารคนจนคนแล้งแค้น เรียกเข้าไปเหมือนแกนโลกลำเอียง เศร้าและช้ำน้ำท่วมสาหัสหนา หมดเวลาเก็บของคิดแต่เสี่ยง หวังโชคช่วยรอดพ้นน้ำมาเคียง ทรายลำเลียงรอบแล้ว..น้ำยังมี จากคุณ : คืนฝันปีศาจน้อย เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 15:01:42

ความคิดเห็นที่ 13 มันเปล่าเปลี่ยวเดียวดายในรู้สึก น้ำนั้นลึกเกินตระหนักจะรักษา ลมครวญครางเย้ยเย้ยลอยผ่านมา ให้รู้ว่าทุกข์นี้ยังอีกนาน ท่วมแล้วท่วมถล่มทุกบ้านช่อง ไม่มีร่องมีรูให้เห็นผสาน ทุกทางเต็มด้วยน้ำยากดำเนินการณ์ มีแต่บานและบานมาให้ชม จากคุณ : โลกของหนึ่งคน เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 15:09:42

ความคิดเห็นที่ 14 กว่าจะรู้บ้านท่วมน้ำปรากฏ ก็เหลือรถที่ขี่เท่านั้นหนา ลมเย็นเย็นฝนกล่อมยามนิทรา ให้นึกว่าฟ้าประทานแต่ร่มเย็น เช้าตื่นมาสลบไม่คิดไหว มองหน้าหลังบ้านใครไม่มีเห็น เหลือบ้านเราแค่ชั้นสองมีน้ำกระเซ็น ล้วนแต่เป็นคลองบึงให้แปลกตา จากคุณ : พระรามหัดท่องเน็ท เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 15:17:56

ความคิดเห็นที่ 15 ยายข้างบ้านร่ำไห้อย่างเศร้าโศก ด้วยว่าโลกพลิกกลับน้ำมากระหน่ำ ยายเก็บของชักช้าไม่อาจนำ สิ่งสำคัญร่วงล้ำตามน้ำไป ยายร่ำไห้โอดครวญถึงว่าหนาว รับรู้ร้าวในอกตระหนกไหว ลูกยายหายไปไหนไม่มีใคร มาดูใกล้ยายนี้ยังไม่ตาย จากคุณ : ขวดแก้วสีฟ้า เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 15:27:03

ความคิดเห็นที่ 16 เมื่อน้ำมาใจร้าวให้หนาวนัก ยากหวนหักรับของที่น้ำแช่ เห็นแต่เปื่อยแต่เละมาให้แล หมดทางแก้ไขแล้วกับทุกทาง หยิบขึ้นมาภาพซึ้งเคยสวาท ไม่อาจรับมันได้ใจเหินห่าง มองแล้วเหงาภาพซึ้งเริ่มเลือนราง ไม่มีทางเหมือนเดิมเช่นวันวาน จากคุณ : เมืองมานะ เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 15:42:06

ความคิดเห็นที่ 17 หน้าบ้านมีคลองมองแปลกยิ่งนัก ให้ตระหนักทุกข์ภัยเข้ามาหา มองรอบบ้านข้าวของที่เกลื่อนตา เจ็บอุราเก็บนั้นคงไม่ทัน คงต้องปล่อยทิ้งบ้างอย่างใจหาย ทุกข์ขยายเต็มอกกับโศกศัลย์ น้ำตาร่วงลงมาไม่เห็นมัน เพราะตานั้นมีม่านมาบดบัง จากคุณ : ฝากซึ้งใส่ฝัน เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 15:56:04

ความคิดเห็นที่ 18 เหมือนว่าโลกจะมาพลิกหน้าใหม่ มองใกล้ไกลล้วนน้ำให้ระโหย ในดงน้ำทุกทางยากเดินโดย ใจไม่โชยกลิ่นกลัวมารัวราน งู,สัตว์พิษมากับน้ำให้ใจตื่น ดูดกดื่นมากหน้าเข้ามาขาน นั่นก็หนึ่งนี่ก็หนึ่งพาลนลาน ยากคิดต้านสัตว์นั้นพิษเท่าใด จากคุณ : สุดสาครท่องสมุทร เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 16:12:20

ความคิดเห็นที่ 19 กรุงเทพมหานคร ได้เตรียมศูนย์อพยพจำนวน 23 ศูนย์อพยพ พร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่รวมถึงนักสังคมสงเคราะห์คอยดูแล ประกอบด้วย ... โรงเรียนมัชฌันติการาม โรงเรียนวัดราชผาติการาม โรงเรียนวัดเทวราชกุญธร วัดมหาธาตุ โรงเรียนวัดพระเชตุพน โรงเรียนวัดลาดบัวขาว โรงเรียนวัดบางโคล่นอก โรงเรียนวัดจันทร์นอก วัดสะพาน โรงเรียนมัธยมวัดดุสิต โรงเรียนสตรีวัดระฆัง วัดอินทรวิหาร ประสานได้ที่ นายถวิล ทวีวัน เบอร์โทรศัพท์ 081-929-8622 วัดปทุมคงคา ประสานได้ที่ นายสมบัติ พหุรวงษ์ เบอร์โทรศัพท์ 089-992-6329 โรงเรียนวัดจันทร์ใน ประสานได้ที่ นางพรพิมล ม่วงศรีจันทร์ เบอร์โทรศัพท์ 081-925-0383 โรงเรียนวัดช่องลม ประสานได้ที่ นายมานะชัย กฤตอำไพ เบอร์โทรศัพท์ 086-335-9584 โรงเรียนวัดฉัตรแก้วจงกลนี ประสานได้ที่ นางฤทธิพร ชัยสุรินทร์ เบอร์โทรศัพท์ 086-765-7889 โรงเรียนวัดดุสิต ประสานได้ที่ นางอริษา แสวงผล เบอร์โทรศัพท์ 081-643-2775 โรงเรียนวัดกัลยาณมิตร ประสานได้ที่ นายยงยุทธ ศรัทธาธรรมกุล เบอร์โทรศัพท์ 081-820-8886 วัดเศวตฉัตร ประสานได้ที่ นายสุภกิจ สุรจินตนาภรณ์ เบอร์โทรศัพท์ 081-823-5534 โรงเรียนวัดบางปะกอก ประสานได้ที่ นายสมนึก การีมี เบอร์โทรศัพท์ 089-789-8390 โรงเรียนวัดปุรณาวาส ประสานได้ที่ นายวิชาญ เหรียญวิไลรัตน์ เบอร์โทรศัพท์ 081-700-6968 โรงเรียนวัดสร้อยทอง ประสานได้ที่ นายนพดล วรวิชา เบอร์โทรศัพท์ 083-425-8944 โรงเรียนวัดจันทรสโมสร ประสานได้ที่ ว่าที่รอ.ตรีทรงศร กัลยาสุนทร เบอร์โทรศัพท์ 086-060-2211 ศูนย์อพยพ เขตมีนบุรี จำนวน 10 แห่ง ประกอบด้วย ... โรงเรียนบึงขวาง โรงเรียนวังเด็กวิทยานุสรณ์ โรงเรียนคลองสาม โรงเรียนสุเหร่าทรายกองดิน โรงเรียนศาลาคู้ โรงเรียนเรียนบ้านเกาะ โรงเรียนบางชัน โรงเรียนคลองสองต้นนุ่น โรงเรียนสุเหร่าแสนแสบ โรงเรียนมีนบุรี ** ผู้ว่าราชการได้เตรียมความพร้อม โดยเฉพาะอุปกรณ์ ที่เป็นที่หลับนอน เช่น ผ้าห่ม ที่นอน รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ศูนย์อพยพ เขตลาดกระบัง จำนวน 16 แห่ง ประกอบด้วย ... โรงเรียนวัดบึงบัว โรงเรียนวัดสุทธาโภชน์ โรงเรียนลำพะอง โรงเรียนวัดทิพพาวาส โรงเรียนวัดบึงบัว โรงเรียนวัดลาดกระบัง โรงเรียนวัดปลูกศรัทธา โรงเรียนวัดบำรุงรื่น โรงเรียนวัดราชโกษา โรงเรียนประสานสามัคคี โรงเรียนวัดพลมานีย์ โรงเรียนวัดสุทธาโภชน์ โรงเรียนแสงหิรัญ โรงเรียนตำบลขุมทอง โรงเรียนตำบลขุมทอง โรงเรียนสุเหร่าลำนายโส ** ทั้งนี้ สามารถประสานได้ที่ นายโฆษิต ธรรมโฆษิต เจ้าหน้าที่เขตลาดกระบัง เบอร์โทรศัพท์ 086-9801-6439 ศูนย์อพยพ เขตคลองสามวา จำนวน 20 แห่ง ประกอบด้วย โรงเรียนประชาราษฎร์อุปถัมภ์สุเหร่าคลอง1 โรงเรียนสุเหร่าคลองหนึ่ง โรงเรียนสุเหร่าสามวา โรงเรียนวัดสุขใจ โรงเรียนวัดศรีสุก โรงเรียนสุเหร่าคลองสี่ โรงเรียนวัดลำกระดาน โรงเรียนวัดสุทธิสะอาด โรงเรียนสุเหร่าคลองสี่ โรงเรียนวัดสุทธิสะอาด โรงเรียนบ้านแบนชะโด โรงเรียนวัดแป้นทอง โรงเรียนวัดพระยาสุเรนทร์ โรงเรียนวัดบัวแก้ว โรงเรียนวัดบัวแก้ว วัดสุขใจ วัดสุทธิสะอาด โรงเรียนสุเหร่าแสบแสบ โรงเรียนสุเหร่าเกาะขุนเณร โรงเรียนสุเหร่าเกาะขุนเณร โรงเรียนวัดบัวแก้ว โรงเรียนบ้านแบนชะโด **ทั้งนี้ สามารถประสานได้ที่ นายชลอ เฉียงอุทิศ เจ้าหน้าที่เขตคลองสามวา เบอร์โทรศัพท์ 087-017-0111 ศูนย์อพยพ เขตหนองจอก จำนวน 32 แห่ง ประกอบด้วย ... โรงเรียนวัดแสนเกษม โรงเรียนวัดใหม่เจริษราษฎร์ โรงเรียนวัดพระยาปลา โรงเรียนวัดหนองจอก(ภักดีนรเศรษฐ) โรงเรียนสามแยกท่าไข่ โรงเรียนนีลราษฎร์อุปถัมภ์ โรงเรียนสุเหร่าศาลาแดง โรงเรียนหลวงแพ่ง โรงเรียนสุเหร่าหะยีมินา โรงเรียนสุเหร่าใหม่ โรงเรียนบ้านลำต้นกล้วย โรงเรียนวัดทรัพย์สโมสร โรงเรียนวัดสามง่าม โรงเรียนสุเหร่าคลองเก้า โรงเรียนสุเหร่าคลองสิบ โรงเรียนสุเหร่าคลองสิบเอ็ด โรงเรียนลำบุหรี่พวง โรงเรียนวัดสีชมพู โรงเรียนอิสลามลำไพร โรงเรียนบ้านเจียรดับ โรงเรียนวัดทรัพย์สโมสร โรงเรียนสุเหร่านาดับ โรงเรียนวัดลำต้อยติ่ง โรงเรียนศิริวังวิทยาคาร โรงเรียนวัดใหม่กระทุ่มล้ม โรงเรียนวัดราษฎร์บำรุง โรงเรียนวัดใหม่เจริญราษฎร์ โรงเรียนสุเหร่าบ้านเกาะ โรงเรียนลำบุหรี่พวง โรงเรียนหนองจอกพิทยานุสรณ์ โรงเรียนสิริวังวิทยาคาร โรงเรียนสังฆประชานุสรณ์ ** ทั้งนี้ สามารถประสานได้ที่ นายดำรงค์ รื่นสุข เจ้าหน้าที่เขตหนองจอก เบอร์โทรศัพท์ 081-648-5557 ศูนย์อพยพ จ.นนทบุรี จำนวน 2 แห่ง ประชาชนตำบลบางตลาด ใช้พื้นที่ที่ โรงเรียนชลประทานวิทยา ประชาชนตำบลปากเกร็ด ใช้พื้นที่ที่ โรงเรียนหอวังนนทบุรี ศูนย์อพยพ จ.ปทุมธานี จำนวน 2 แห่ง วิทยาลัยการปกครอง คลอง 6 โรงยิมเนเซียม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์อพยพ จ.นครสวรรค์ จำนวน 5 แห่ง ประกอบด้วย ... โรงเรียนนครสวรรค์ 2 วิทยาลัยอาชีวศึกษานครสวรรค์ โรงเรียนวัดคีรีวงค์ สนามกีฬากลางจังหวัด วิทยาเทคโนโลยีภาคเหนือ ศูนย์อพยพ จ.ลพบุรี จำนวน 9 แห่ง ประกอบด้วย ... ศูนย์การบินทหารบก กองบิน 2 กองพลทหารปืนใหญ่ ศูนย์การบินทหารปืนใหญ่ ศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร หน่วยบัญชาการรบสงครามพิเศษ กรมทหารราบที่ 31 รอ. โรงเรียนค่ายนารายณ์ศึกษาถายใต้หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ โรงพยาบาลอานันทมหิดล นอกจากนี้ยังมีที่พักชั่วคราวริม ถ.สายบ้านหมี่-บางงา (20 จุด) ศูนย์อพยพ จ.อุทัยธานี จำนวน 5 แห่ง ประกอบด้วย ... สนามกีฬากลาง กองร้อยอส.จังหวัด ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงาน โรงเรียนพุทธมณฑล วัดสังกัสรัตนคีรี ศูนย์อพยพ จ.สิงห์บุรี จำนวน 18 แห่ง ประกอบด้วย ... ศาลาปึงเกงม่า วิทยาลัยอาชีวศึกษาสิงห์บุรี แห่งที่ 2 ตลาดปากบาง ตลาดวัดกุฎีทอง ตลาดไม้ดัด ตลาดชันสูตร เชิงกลัด โรงเรียนวัดพิกุลทอง วิทยาลัยเทคนิค 2 วัดวิหารขาว อนุบาลท่าช้าง วัดสาธุ วัดท่าข้าม วัดโพธิ์ศรี วัดสระบาป วัดสิงห์ วัดพริก วัดพิกุลทอง ศูนย์อพยพ จ.สิงห์บุรี จำนวน 28 แห่ง ประกอบด้วย ... วัดธรรมามูลวรวิหาร คันคลองชลประทานพหลโยธิน ลานตากข้าว ต.เขาพระ วัดท่าช้าง ถ.หางน้ำสาคร หลังโรงงาน EIKO วัดดักคะนน ถ.สายชัยนาท ถ.สาย 340 ถ.ชัยนาทตาคลี โรงเรียนชัยนาทพิทยาคม 2 ถ.สาย 311 ชัยนาท-สิงห์บุรี ถ.สายคันคลองมหาราช ถ.พหลโยธิน อ.สรรพยา สวนเฉลิมพระเกียรติ หน้าโรงไฟฟ้าพลังน้ำท้ายเขื่อน ถ.บ้านเหลมหว้า วัดเขาแก้ว ถ.บ้านเขาดิน วัดปากคลองมะขามเฒ่า โรงเรียนวัดสิงห์ สะพานคลองมอญ เต๊นท์ริมคลองอนุสาสนนันท์ เต็นท์ถนนสายริมน.เจ้าพระยา วัดโคก-ท่าฉนวน เต็นท์ริมถนน ท่าอู่-หางน้ำสาคร ศาลาวัดพิกุลงาม ศาลาวัดศรีมณีวรรณ เต็นท์ริมคันคลองเขตเทศบาลคุ้งสำเภา วัดทับขี้เหล็ก บริเวณคันคลอง ต.วังไก่เถื่อน ศูนย์อพยพ จ.พระนครศรีอยุธยา ศาลากลางจ.พระนครศรีอยุธยา อาคารพาณิชย์ตรางข้ามศูนย์ราชการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ได้จัดตั้งศูนย์อพยพ ไว้ดังนี้ ศูนย์อพยพฉุกเฉินสำหรับบุคลภายนอก มจธ.บางมด อาคารโรงยิม190ปี ชั้น3 มจธ.บางขุนเทียน อาคารศูนย์กีฬา ชั้น2และ3 ศูนย์อพยพฉุกเฉินสำหรับบุคลากรภายใน มจธ.บางมด ชั้น2ของอาคารเรียนรวม 3 , 4 , 5 และ อาคารวิศวะวัฒนะ มจธ.บางขุนเทียน โซนห้องพักค้างคืน ชั้น 3-6 อาคาร สรบ. และชั้น 8 อาคารสถาปัตย์ จากคุณ : ญามี่ เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 20:24:21

ความคิดเห็นที่ 21 เคยพึ่งพาอาศัยให้ชีวิต มาวิกฤติกราดเกรี้ยวโถมถั่งใส่ แม่คงคาพิโรธโกรธเคืองใด อุทกภัยท่วมท้นล้นนาคร เรือกสวนไร่นาล่มจมบาดาล ทั้งโรงงานแตกกระเจิงเจิ่งลอยว่อน อพยพหลบย้ายไปที่ดอน แผ่เดือดร้อนลุกลามตามวารี ... จากคุณ : ลำน้ำ C เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 20:26:31

ความคิดเห็นที่ 24 หรือหมดฝนให้หนาวคราวทนทุกข์ ใจไม่สุขต่อฝันวันข้างหน้า น้ำโถมมาต่อด้วยหนาวอุรา โถชีวายากแท้กับรื่นรอย วันต่อวันเวียนรับแต่ภาพฝืน ทุกค่ำคืนทนร้าวใจระห้อย มีไหมนะวันฝันที่ตาคอย คล้ายจะพลอยหลอกตาว่าชื่นใจ จากคุณ : เกรียงไกรกวีฝัน เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 54 11:33:28

ความคิดเห็นที่ 25 คลื่นน้ำเงียบคล้ายรอการโหมใหม่ รอนหัวใจหนาวเหน็บยากเก็บเฉย เถิดนะพอ..พอเสียทีอย่ามาเลย ใจไม่เคยร่ำร้องแถววิงวอน ขอคุณพระช่วยด้วยลูกล้าแล้ว ใจเริ่มแผ่วลีบเล็กกลัวรอยหลอน ขอน้ำเริ่มเดินทางจะจากจร ไม่คิดย้อนก่อแกล้งด้วยแรงคะนอง จากคุณ : แก้วกลมกลม เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 54 11:47:36

ความคิดเห็นที่ 26 เวิ้งว้างระหว่างที่รอความหวัง ใจคอยฟังทางการก่อความฝัน ค่อยละเลียดถ้อยความที่จำนรรจ์ เหมือนกลุ่มควันยังลอยแม้นตื่นมา มองน้ำท่วมรอบบ้านยังหนาวจิต สิ่งศักดิ์สิทธิ์ฤๅรู้เราผวา ฟังเสียงน้ำครื้นเครงล้อเต็มตา สั่นสั่นคว้าถ้วยชามร่วมบรรเลง จากคุณ : ขอฝากแค่ฝัน เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 54 12:06:48

ความคิดเห็นที่ 27 อลเวงในครื้นของน้ำสาย กลับเดียวดายในผลถึงร้อนไข้ เย็นแล้วเยียบเหยียบข้ามในหัวใจ รุ่มร้อนไล่อารมณ์ระทมจม ทุกขณะหวิดหวาดสะอื้นไห้ ไม่เห็นใครช่วยหายจากขื่นขม เข้าแทรกใจมีแต่รอนระดม ร้าวร้าวรานตรมกับฝันแตกทาง จากคุณ : วาดฝันมธุรพจน์ เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 54 12:31:50

ความคิดเห็นที่ 28 ฝนหลั่งมามากมายดั่งฟ้ารั่ว ตระหนักกลัวมาใกล้ทั่วเวหน มรสุมกุมสาดซัดกระแสชล คลื่นกระหน่ำล้นนั่นใช่ลำธาร น้ำโถมมาราวรวมทุกเส้นสาย มามลายทั่วถนนใช่แค่ผ่าน ให้แผ่นดินบ้านเรือนอันตรธาน เหลือวันวานให้ซึ้งเคยมีมา จากคุณ : ขุนพลน้อยโค่วจง เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 54 18:11:17

ความคิดเห็นที่ 29 เกรี้ยวกราดของสายน้ำยามเห็น เหมือนลำเค็ญฝืนผลักซึ่งซึ่งหน้า เจ็บและช้ำซ้ำซ้ำย้ายย้อนมา กาลเวลาก่อสร้างสิ่งใดกัน ใจในนึกผวากลัวและหวั่น น้ำมาดันชีพและสิ่งมหันต์ อีกมากมายหลากตาแสนอนันต์ จมฉับพลันไม่เหลือยามเหลียวดู จากคุณ : โลกของหนึ่งคน เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 54 18:47:48

ความคิดเห็นที่ 30 วารีล้นค่นแค้นแสนสาหัส เคราะห์กรรมซัดท่วมเทวษทั่วเขตขัณฑ์ ทั้งเศรษฐีมีจนโดนเหมือนกัน ได้แบ่งปันทุกข์ทับนับทวี แรงมนุษย์ยากจะยั้งพลังน้ำ ที่คราคร่ำหลากครืนกลืนวิถี ทำได้เพียงพ่ายแพ้แต่โดยดี รอนทีถึงอ่าวไทยในเร็ววัน จากคุณ : 312_spiriz เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 54 22:30:30

ความคิดเห็นที่ 31 น้ำที่โถมโรมรันในวันนี้ แม้จะมีพลังอย่างมหันต์ คงลดลงแห้งหายไม่นานวัน สิ่งสำคัญอย่าลดน้ำอดทน เรายังมีน้ำแรงแบ่งกันได้ ใช้น้ำใจซับน้ำตาแทนห่าฝน ทุกข์บรรเทาลงได้ในบัดดล ขอเพียงคนไทยไม่นิ่งไม่ทิ้งไทย จากคุณ : 312_spiriz เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 54 23:22:13

ความคิดเห็นที่ 32 เสียงโอดครวญแว่วลอยกับสายน้ำ วังเวงคร่ำเอยวังเวงที่ขับขาน ใจสลดยากแท้จะเบิกบาน เหมือนลำธารมากมายมาล้อมตัว มองทางไหนก็น้ำให้จำรับ หนาวเกินนับระทมที่ลอยทั่ว บทโศกย้ำไปมาอย่างน่ากลัว ใจก็มัวยากเห็นทางฝั่งเอย จากคุณ : คืนฝันปีศาจน้อย เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 54 00:10:03

ความคิดเห็นที่ 33 เสริม 'แนวรบสุขภาพ' ''สงครามน้ำ'' ไทยทุกฝ่ายต้องร่วมสู้!! สถานการณ์ ’น้ำท่วมใหญ่“ ที่เกิดขึ้นในประเทศปีนี้ตอนนี้สาหัสสากรรจ์ยิ่งนัก ซึ่งกับผู้ที่ประสบภัยน้ำท่วมนั้น นอกจากต้องประสบปัญหาด้านที่อยู่อาศัยและด้านอาหารการกินแล้ว ’ปัญหาด้านสุขภาพ“ ก็ย่ำแย่ไปทั่ว ซึ่งปัญหาด้านสุขภาพนี้ก็เป็นอีกด้านที่ใครมีกำลังพอจะช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ ก็ควรจะได้ช่วย ๆ กัน     ’ถ้าเปรียบสถานการณ์นี้เป็นช่วงภาวะสงความ เราก็เปรียบเป็นแนวหลัง ต้องให้การสนับสนุนช่วยเหลืออย่างเต็มที่“...เป็นการระบุของ นพ.ไพศาล จันทรพิทักษ์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพ     จากสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้น มีประชาชนผู้ประสบภัยจำนวนมากที่เจ็บป่วย และเดินทางเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลได้ยากลำบาก เพราะแม้แต่โรงพยาบาลเอง หลาย ๆ แห่งก็ถูกน้ำท่วมเสียหายหนัก ซึ่ง มีการคาดการณ์ว่ามีผู้ประสบภัยที่เจ็บป่วยอย่างน้อยร้อยละ 20 ไม่สามารถเดินทางเข้ารับการรักษาได้     ทั้งนี้ สำหรับเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ ทาง นพ.ไพศาล ระบุว่า...ก็ได้มีการช่วยเหลือประชาชนโดยประสานความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) หน่วยกู้ภัย องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น สื่อมวลชน ในการให้ความช่วยเหลือ ซึ่งทางเครือโรงพยาบาลนี้มีการช่วยเหลือใน 4 ประเด็น     “เรา ทำอาหารกล่องพร้อมรับประทาน เช่น ข้าวเหนียวหมู-ข้าวเหนียวไก่ทอด ประมาณ 2,000 ชุดต่อวัน ไปแจกตามจุดต่าง ๆ ที่มีผู้เดือดร้อน ซึ่งที่ผ่านมาได้นำไปแจกที่ศูนย์อพยพประชาชน จ.พระนครศรีอยุธยา ศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ จ.สิงห์บุรี จ.ลพบุรี จ.นครสวรรค์”     นพ.ไพศาล ระบุอีกว่า...นอกจากนี้ทางเครือโรงพยาบาลฯ ยังได้ออก หน่วยแพทย์และพยาบาลเคลื่อนที่ ไปให้บริการตรวจ-รักษาสุขภาพเบื้องต้นให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม เช่นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จ.สิงห์บุรี จ.ลพบุรี จ.นครสวรรค์ พร้อมทั้งได้มีการจัด ชุดยาสามัญประจำบ้าน ไปแจกจ่ายให้กับผู้เดือดร้อนประมาณ 20,000 ชุดแล้ว พร้อมทั้งให้การสนับสนุนการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยหนัก โดย เฮลิคอปเตอร์การแพทย์ฉุกเฉิน (SKY ICU) จากอยุธยาเข้ากรุงเทพฯ ตลอดจนช่วยในการลำเลียงอาหาร น้ำดื่ม เวชภัณฑ์ยารักษาโรค เป็นประจำทุกวัน     ’จากการตรวจ-รักษาสุขภาพผู้ประสบภัยน้ำท่วม อาการเจ็บป่วยหลัก ๆ ที่พบก็มี น้ำกัดเท้า ท้องเสีย ผื่นคัน ปวดท้อง ปวดเข่า ปวดหัวเนื่องจากนอนไม่หลับ และภาวะซึมเศร้า เครียดจากการสูญเสียที่ส่งผลต่อสุขภาพ“ ...นพ.ไพศาลกล่าว และว่า...ก็ได้มีการจัดยาลดความเครียดและทีมจิตแพทย์ดูแล พูดคุยเพื่อให้ผ่อนคลาย นอกจากนี้จากการเข้าไปตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัยในพื้นที่ที่ไม่สามารถออกมาภายนอกได้ ก็พบผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสโลหิต แพทย์พิจารณาแล้วเห็นว่าปล่อยไว้อาจเสียชีวิตได้ จึงนำส่งโรงพยาบาล     “ทางเราพร้อมให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมอย่างเต็มที่ และพร้อมเป็นสื่อกลางประสานงานความช่วยเหลือทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อบรรเทาทุกข์ของผู้ประสบภัยที่มีจำนวนมาก โดย แจ้งขอความช่วยเหลือและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 1719 Contact Center ของโรงพยาบาลกรุงเทพ และที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ซอยศูนย์วิจัย ก็จัดเป็นศูนย์ รับบริจาคเงิน เครื่องอุปโภคบริโภค ยารักษาโรค เวชภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อส่งให้ผู้ประสบภัย เบื้องต้นจะจัดถึงวันที่ 31 ต.ค. นี้”...นพ.ไพศาล ระบุ     นี่ก็เป็นรูปแบบการช่วยเหลือที่น่าจะมีการทำกันในวงกว้าง     ขณะที่คนในพื้นที่น้ำท่วมก็ควรรู้เรื่องการปฐมพยาบาล     ยกตัวอย่างกรณีพบ ’คนตกน้ำ-คนจมน้ำ“ เมื่อช่วยคนตกน้ำคนจมน้ำขึ้นฝั่งได้แล้ว ทาง สพฉ. แนะนำไว้ว่า...สิ่งสำคัญคือต้องมีการปฐมพยาบาลก่อนส่งแพทย์ ซึ่งถ้าหยุดหายใจ คลำชีพจรไม่ได้ หัวใจหยุดเต้น ให้กดหน้าอกทันที โดยกดที่กลางหน้าอก 100 ครั้งต่อนาที กด 30 ครั้งต่อรอบ สลับกับเป่าปากให้ครบ 5 รอบ การเป่าปากช่วยหายใจก็ให้รีบทำทันที อย่าเสียเวลาพยายามเอาน้ำออกจากปอดหรือผายปอดด้วยวิธีอื่น ถ้าเป็นไปได้ควรรีบเป่าปากตั้งแต่ก่อนขึ้นฝั่ง เช่น พาขึ้นบนเรือ หรือพาเข้าที่ตื้น ๆ ทั้งนี้เมื่อเริ่มเป่าปากสักพัก ถ้ารู้สึกว่าลมเข้าปอดได้ไม่เต็มที่เนื่องจากมีน้ำอยู่เต็มท้อง ให้จับผู้ป่วยนอนคว่ำ ใช้มือ 2 ข้างวางใต้ท้องผู้ป่วย ยกท้องผู้ป่วยขึ้น จะช่วยไล่น้ำให้ไหลออกทางปากได้ แล้วจับผู้ป่วยพลิกหงายและทำการเป่าปากต่อไป     ถ้าผู้ป่วยหายใจได้ หรือช่วยจนหายใจได้แล้ว ควรจับให้นอนตะแคงข้าง ศีรษะหงายไปข้างหลังเพื่อให้น้ำไหลออกทางปาก ใช้ผ้าห่มคลุมให้อบอุ่น อย่าให้กินอาหารและดื่มน้ำ ไม่ว่าจะอาการหนักเบาเพียงใดก็ควรรีบส่งไปโรงพยาบาล ซึ่งในรายที่หมดสติและหยุดหายใจก็ให้เป่าปากผายปอดไปตลอดทาง อย่าหมดหวังแล้วหยุดให้การช่วยเหลือ ทั้งนี้ ถ้าต้องการความช่วยเหลือทางการแพทย์ ให้โทรฯ สายด่วน 1669 ฟรี 24 ชั่วโมง     ทั้งนี้ เรื่องปฐมพยาบาลคนตกน้ำจมน้ำนี้ก็สำคัญ น้ำท่วมครั้งนี้ก็มีคนตายด้วยสาเหตุนี้จำนวนมาก แต่ที่อยากเน้นที่สุดคือ การร่วมมือร่วมใจช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมโดยทุกภาคส่วน รวมถึงในด้านสุขภาพ     น้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้...ว่าไปก็เหมือนเมืองไทยเผชิญสงคราม     คนไทยต้องช่วยกันสู้ ต้องช่วยเหลือกันให้เต็มกำลัง!!!. จากคุณ : ญามี่ เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 54 00:22:49

ความคิดเห็นที่ 34 ขอองค์พระประทานพรอย่าร้อนรุ่ม ช่วยคลายกลุ้มเวียนวงในสงสาร ให้เย็นชื่นในทรวงรอดบ่วงมาร ไร้ไฟผลาญให้ระอามรรคาใจ ความเป็นจริงปรากฏเป็นบทสอน น้ำคะนองตอนตื่นยากฝืนไหว ได้รู้เห็นเช่นทุกข์มาปลุกใด ยากทำใจกับนิ่งประวิงเย็น ในวุ่นวายหากเงียบค่อยเลียบคิด ตรองตามติดประสานในการเห็น ต้องมีผลปรากฏในบทเป็น ใช่ลำเค็ญขาดทางดูว่างวาย ประจักษ์ขื่นแจ้งใจยากไถ่ถาม ทุกทุกความในการณ์สถานหาย ล้วนแต่มีที่มาปัญหากลาย เวลาหมายใช่มั่นมาสรรเรียง ทุกอย่างโลกแปรเปลี่ยนยามเวียนหา ในศรัทธาคล้ายยื่นแต่คลื่นเสียง น้ำโหมมาแล้งนานมาผ่านเคียง รู้ในเบี่ยงโลกแปรให้แก้พลัน จากคุณ : ญามี่ เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 54 01:27:32

ความคิดเห็นที่ 35 โลกไม่เหมือนเดิมแล้ว ''น้ำเป็นภัย!!'' หากมีสิ่งมีชีวิตนอกโลกจับตาความเป็นไปของมนุษย์โลกอยู่ ในระยะหลัง ๆ และในช่วงนี้ ก็คงจะเห็นชัดเจนถึง ’ความโกลาหลอลหม่านของชาวโลก“ ในหลายประเทศ และรวมถึงในประเทศไทย ’อันเนื่องจากภัยน้ำ“ รูปแบบต่าง ๆ ทั้งน้ำทะเลสูง คลื่นยักษ์สึนามิ พายุฝน ซึ่งความโกลาหลนี้ดูผิวเผินเป็นเพราะธรรมชาติ แต่พิจารณาลึก ๆ แล้ว...มนุษย์เองมีส่วนอย่างสำคัญ มนุษย์ทำลายธรรมชาติมาก...ธรรมชาติก็พิโรธมาก!! ’หากมองโลกในภาพรวม ต้องยอมรับว่าระดับน้ำบนโลกสูงขึ้น ซึ่งอาจจะสูงขึ้นไม่กี่เซนติเมตร แต่ไม่กี่เซนติเมตรนี่ก็มีความหมาย“ ...นี่เป็นการระบุของนักวิทยาศาสตร์อาวุโส รศ.ดร.ชัยวัฒน์ คุปตระกุล กับระดับน้ำบนโลกสูงที่ขึ้นนั้น นักวิทยาศาสตร์ไทยรายนี้บอกว่า... สาเหตุหนึ่งมาจาก “ภาวะโลกร้อน” ซึ่งยุคนี้ทุก ๆ คนต่างก็พอจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าภาวะโลกร้อนนั้นเกิดมาจากอะไรบ้าง และมีอีกหนึ่งความเห็นจากกลุ่มนักวิทยาศาสตร์มืออาชีพ ที่บอกว่า... เกิดจาก “รังสีคอสมิก ที่มาจากดวงอาทิตย์ และกาแล็กซี” ความคิดเห็นประการหลังนี่ก็กำลังดังขึ้นมา ทั้งนี้ ภาวะ ’น้ำมาก-น้ำหลาก-น้ำท่วม“ นั้น ในยุคปัจจุบันไม่ได้เกิดกับประเทศไทยที่เดียวในโลก แต่เกิดขึ้นในหลาย ๆ ประเทศ ส่วนกับประเทศไทยนั้น รศ.ดร.ชัยวัฒน์ บอกว่า... จากการติดตามเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่คราวนี้ พบว่าเป็นอีกปีที่ปริมาณน้ำที่มาจากทางเหนือเยอะมาก และภาคกลางก็มีฝนตกมาก แต่โชคดีของประเทศไทยอย่างหนึ่งคือ ฝนไม่ได้ตกต่อเนื่องอย่างหนัก 6-7 วันติดต่อกัน เหตุการณ์จึงไม่เลวร้ายหนักไปกว่านี้ รศ.ดร.ชัยวัฒน์ ระบุว่า... น้ำท่วมปีนี้ระดับน้ำมากกว่าปี 2485 ซึ่งน้ำท่วมใหญ่กรุงเทพฯ แต่ภาพในปี 2485 นั้นรุนแรงกว่าปีนี้ นั่นเพราะปัจจุบันระบบการป้องกัน การระบายน้ำ ดีกว่าในอดีต จึงทำให้ดูไม่รุนแรงกว่า อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญคือ ในเมื่อทราบว่าเหตุหนึ่งของการเกิดภัยจากน้ำคือภาวะโลกร้อน ประชาชนทุกคนก็ต้องช่วยกันในเรื่องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ช่วยกันรักษาสภาวะแวดล้อม ไม่ตัดไม้ทำลายป่า ’และสิ่งที่จะป้องกันไม่ให้น้ำท่วมซ้ำซากต่อไปคือ การมีกระบวนการแก้ไขปัญหาน้ำจากการรู้จริง เข้าใจจริง อย่างเป็นระบบ การมีระบบผังเมืองที่ถูกต้อง การบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบซึ่งสำคัญที่สุด“ ...นักวิทยาศาสตร์อาวุโสรายนี้กล่าว ซึ่งอย่างหลังนี้ก็ขึ้นอยู่กับภาครัฐ แต่ก็เกี่ยวพันถึงประชาชน ด้าน ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ผู้อำนวยการโรงเรียนสัตยาไส อดีตนักวิทยาศาสตร์องค์การนาซา ระบุถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นว่า... ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าอุณหภูมิของโลกสูงขึ้น เพราะฉะนั้นน้ำจากมหาสมุทรจะระเหยออกมามากขึ้น ซึ่งกลายเป็นความชื้นและเมฆ เมื่อมีความชื้นและมีเมฆมาก จึงทำให้มีความชื้นตลอดปี และเป็นเหตุทำให้สภาพดินฟ้าอากาศเปลี่ยนแปลงแปรปรวนไปหมด ซึ่งก็ จะเป็นอย่างนี้ไปอีกนานหลายปีหากไม่ลดภาวะโลกร้อนให้ได้ผล และก็จำเป็นต้องพร้อมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต “การเปลี่ยนแปลงของสภาพดินฟ้าอากาศ ปรากฏการณ์ธรรมชาติใหม่ ๆ เกิดจากภาวะโลกร้อน และไม่ใช่เกิดกับประเทศไทยที่เดียว แต่เกิดกับทั่วโลก เท่าที่มองโดยทั่วไปสถานการณ์ในอนาคตจะยังไม่ดีขึ้น เพราะสภาวะความชื้นจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่ง สึนามิ แผ่นดินไหว ก็จะเกิดขึ้นบ่อย เพราะเปลือกโลกเคลื่อนไหว” ดร.อาจอง ระบุอีกว่า... มนุษย์มีการก่อสร้างที่ส่งผลถึงเรื่องน้ำ ในไทยก็ยกตัวอย่างเช่น สนามบินสุวรรณภูมิ แทนที่พื้นที่จะเป็นแก้มลิงรับน้ำ กลับกลายเป็นสนามบิน ก็เสี่ยงมากขึ้นที่น้ำจะท่วมกรุงเทพฯ กรณีภาวะโลกร้อน ดร.อาจอง บอกว่า... ที่จะส่งผลกับประเทศไทยโดยตรงมี 2 อย่างคือ ผลกระทบจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นทำให้น้ำท่วมมากขึ้น และการที่เปลือกโลกเริ่มเคลื่อนไหวจนเกิดรอยร้าว ซึ่งจะทำให้ เกิดแผ่นดินไหวในประเทศไทยมากขึ้น นี่คือ 2 อย่างการเปลี่ยนแปลงที่ไทยเราต้องเตรียมตัวรับมือให้ดี เรื่องน้ำทะเลสูงขึ้น ถ้าไม่สร้างเขื่อนกั้นตรงอ่าวไทย ก็ต้องคิดย้ายเมืองหลวงภายใน 6 ปี เพราะอีก 15 ปีข้างหน้าน้ำจะเริ่มท่วมกรุงเทพฯ ?? สิ่งที่ดีที่สุดคือต้องสร้างเขื่อนกั้นไว้ก่อน รัฐบาลต้องคิดและวางแผนตั้งแต่วันนี้ ต้องทำเป็นวาระแห่งชาติ ต้องวางแผนล่วงหน้า 10 ปี ต้องวางแผนให้ดี เพื่อไม่ให้สูญเสียสถานที่สำคัญไป “จะกลายเป็นสิ่งที่ดี ถ้าเราพูดถึงภัยอันตรายส่วนรวมแล้วมนุษย์เลิกทะเลาะกันเสียที เรามีภัยธรรมชาติเป็นศัตรูร่วมกัน ถ้าไม่ป้องกันอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปกรุงเทพฯและภาคกลางหลายจังหวัดจมน้ำแน่?? ฉะนั้นรัฐบาลต้องเร่งตัดสินใจ คนไทยต้องเลิกทะเลาะกัน คนไทยต้องสามัคคีกัน และปฏิบัติธรรมให้มาก ๆ ถ้าเราช่วยกัน เราก็จะอยู่ร่วมกันได้ และ ใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วย คนไทยเราก็จะอยู่ได้ด้วยตัวของเราเอง ท่ามกลางความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้นในโลก ในอนาคตอันใกล้” ...ดร.อาจอง ระบุ ใครจะเชื่อ-ไม่เชื่อเรื่องน้ำทะเลสูงท่วมกรุงเทพฯ...สุดแท้แต่ แต่...ในไทยก็คล้ายจะมีบทพิสูจน์ว่า ’ภัยน้ำกำลังถล่มโลก“ และ ’ทางรอด“ คนไทย...คือ ’ต้องพอเพียง-ต้องสามัคคี!!“. จากคุณ : ญามี่ เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 54 15:03:57

ความคิดเห็นที่ 36 'ทำบุญ' ออกพรรษา 'ยุคน้ำท่วม'แบบไหน? 'มหากุศล' แล้ววันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ซึ่งในทางพระพุทธศาสนาเป็นวัน ’ออกพรรษา“ ก็เวียนมาถึงอีกครั้งในวันที่ 12 ต.ค. นี้ โดยวันออกพรรษาหรือวัน “ปวารณาออกพรรษา” เป็นหนึ่งในวันสำคัญทางพุทธศาสนา เป็นวันสิ้นสุดระยะเวลาจำพรรษา 3 เดือนของพระสงฆ์เถรวาท เป็นวันที่พระสงฆ์ทำสังฆกรรมปวารณาออกพรรษา ซึ่งนี่เป็นข้อปฏิบัติตามพระวินัยสำหรับพระสงฆ์โดยเฉพาะ แต่ออกพรรษาก็เกี่ยวข้องกับชาวพุทธทั่วไปด้วย... ทั้งนี้ วันออกพรรษา พุทธศาสนิกชนแต่อดีตกาลจะเข้าวัดบำเพ็ญกุศลแก่พระสงฆ์ และถัดจากวันออกพรรษา 1 วัน หรือแรม 1 ค่ำ เดือน 11 พุทธศาสนิกชนในประเทศไทยก็นิยมทำบุญตักบาตรครั้งใหญ่ เรียกว่า “ตักบาตรเทโว” หรือ “ตักบาตรเทโวโรหนะ” เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในพุทธประวัติ กล่าวคือ ในวันถัดจากวันออกพรรษา 1 วัน พระพุทธเจ้าได้เสด็จลงจากเทวโลกกลับจากการโปรดพระพุทธมารดาบนสวรรค์ นอกจากนี้ ช่วงเวลาหลังวันออกพรรษา ตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ไปจนถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ชาวพุทธยังถือเป็นเวลากฐินกาล หรือ “ทอดกฐิน” ตามพระวินัยปิฎกเถรวาท ก็เป็นช่วงเวลาที่พุทธศาสนิกชนจะร่วมบำเพ็ญกุศลเนื่องในงานกฐินประจำปี ณ วัดต่าง ๆ โดยถือว่าเป็นงานบำเพ็ญกุศลที่ได้บุญกุศลมากงานหนึ่ง ทว่าปีนี้...ก็อย่างที่เห็นและเป็นอยู่ น้ำท่วมใหญ่ในหลายสิบจังหวัด วัดวาอารามจมอยู่ใต้น้ำมากมาย พระสงฆ์องค์เจ้าเดือดร้อนจำนวนมาก คนไทยก็ทุกข์สาหัสกันกลาดเกลื่อน ซึ่งสภาพการณ์เป็นเช่นนี้...สำหรับชาวพุทธที่ไม่ประสบภัยน้ำท่วม ควรทำบุญออกพรรษาแบบไหนจึงเหมาะสม??? กับปุจฉาข้อนี้ ทาง พระเทพวิสุทธิกวี เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย บอกว่า...เทศกาลวันออกพรรษาสิ่งที่พุทธศาสนิกชนพึงกระทำคือการทำบุญ-ตักบาตรเทโว แต่ในปีนี้เป็นกรณีพิเศษ “ประชาชน และพระสงฆ์ ต่างประสบความเดือดร้อนจากน้ำท่วม จึงอยากจะขอเชิญชวนให้อุบาสกอุบาสิกาทั้งหลายต่างช่วยกันคนละไม้คนละมือ ทำบุญตักบาตรด้วยข้าวสารอาหารแห้งเพื่อรักษาประเพณีทางศาสนาให้คงอยู่ และนำเครื่องอุปโภคบริโภคออกมาช่วยกันบริจาคให้ผู้เดือดร้อน อยากให้ทุกคนช่วยกันซับน้ำตา สถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นขณะนี้นั้นหนักหนาสาหัสมาก ไม่มีอะไรดีไปกว่าการแบ่งปันน้ำใจซึ่งกันและกัน คนไทยเราอยู่รอดกันมาได้เพราะความมีน้ำใจ ความเอื้ออารี ช่วยเหลือกัน ทุกคนคือคนไทย พี่น้องกัน ใครมีกำลังทรัพย์ก็ช่วยทรัพย์ ใครมีของก็ช่วยบริจาคของ ใครมีแรงก็ช่วยแรง...“ พระเทพวิสุทธิกวี แนะเรื่อง ’การทำบุญในยุคน้ำท่วมใหญ่“ ด้าน พระพิศาลธรรมพาที หรือ พระพยอม กัลยาโณ แห่งวัดสวนแก้ว บอกว่า...ปีนี้น้ำท่วมมาก ประชาชนและวัดเป็นจำนวนมากได้รับความเดือดร้อน ทางวัดสวนแก้วก็จะมอบเงินช่วยเหลือให้ครอบครัวเกษตรกรชาวสวนชาวไร่ที่เดือดร้อนเพราะน้ำท่วมครอบครัวละ 10,000 บาท จำนวน 30 ครอบครัว โดยมีเงื่อนไขให้ส่งคนในครอบครัว 1 คนมาช่วยทำงานให้วัด ปลูกกล้วยปลูกผักปลูกหญ้า 1 เดือน มีที่อยู่ที่กินให้เรียบร้อย ซึ่งได้ไอเดียมาจากบริษัทซึ่งหยุดทำงานเพราะน้ำท่วม จึงส่งพนักงานมาช่วยทำงานให้วัดโดยจ่ายเงินเดือนให้ปกติ “ออกพรรษานี้ อาตมาขอความร่วมมือวัดทุกวัดที่ไม่ประสบปัญหาน้ำท่วมช่วยบิณฑบาตข้าวสารอาหารแห้งเพื่อช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม ส่วนวัดที่ถูกน้ำท่วมก็ขอฝากประชาชนช่วยกันดูแล” หลังออกพรรษาก็ถึงเทศกาลทอดกฐิน ปีนี้วัดถูกน้ำท่วมจำนวนมาก การทอดกฐินและทอดผ้าป่าของญาติโยมจึงถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับวัดมาก ซึ่งอยากให้สำรวจความต้องการของวัด ต้องคุยกับทางวัดว่าต้องการอะไรเป็นพิเศษเพื่อจัดหาของที่ถูกกับความต้องการ ความจำเป็น กฐินที่ท่านทั้งหลายทำไปนั้นจะได้เกิดเป็นมหากุศลจริง ๆ เพราะนำไปช่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข และบำรุงศาสนาได้อย่างแท้จริง พระพยอมกล่าวอีกว่า...สิ่งสำคัญในตอนนี้คือ ข้าวสาร อาหารแห้ง เชื่อว่าพระหลาย ๆ วัดคงไม่สามารถออกบิณฑบาตได้ไปอีกระยะหนึ่ง ที่สำคัญชาวบ้านในพื้นที่ก็ยากลำบาก ขาดเสบียงอาหารไม่ต่างกัน เพราะหายไปกับน้ำหมดแล้ว ดังนั้นกฐินในปีนี้ญาติโยมต้องนึกไปถึงปีหน้าเลย กฐินที่ท่านทำจะได้เกิดประโยชน์กับพระและวัดจริง ๆ เรียกว่าเป็นคุณจริง ๆ การจะได้บุญได้กุศลอย่างแท้จริง ไม่ใช่เอะอะทำอะไรก็บอกว่านี่เป็นมหาบุญ มหาทาน แต่ทำไปโดยไม่คิดใคร่ครวญ ไม่รอบคอบ อย่างนี้ประโยชน์ก็ไม่เกิด “พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า คนให้ทานเก่งใช่ว่าต้องสรรเสริญ แต่ควรสรรเสริญคนที่ทำทานโดยคิดใคร่ครวญดีแล้วเพราะจะเกิดประโยชน์แก่ผู้รับมากกว่า ฉะนั้น การทำบุญ ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า ในปีนี้ก็ต้องสำรวจความจำเป็นของวัด มิฉะนั้นก็จะเป็นแค่พิธีกรรมเท่านั้น ไม่สามารถช่วยรักษาพระพุทธศาสนาให้มั่นคงสืบไป...” ...พระพยอมกล่าว พร้อมทั้งระบุด้วยว่า...วัดกับชาวบ้านต้องร่วมแรงร่วมใจ แบ่งปัน พึ่งพาช่วยเหลือกันและกันยามเดือดร้อน ก็จะเกิดความสามัคคีปรองดอง ได้พึ่งพาอาศัยในการทำสิ่งดีงามกันต่อไป นี่ก็เป็นวิสัชนา ’ทำบุญทำกุศลเทศกาลออกพรรษา“ ปีนี้ ในยุคที่หันไปทางไหนก็เจอ ’น้ำท่วม...น้ำท่วม...น้ำท่วม“. เรื่องจากเดลินิวส์ จากคุณ : ญามี่ เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 54 15:06:50

ความคิดเห็นที่ 37 "นัยรอยสำนึก" เหมือนว่าเงียบเหงาวันเหมันต์ผ่าน วิเวกหวานต่างเวียนมาเปลี่ยนไหว แผ่วลมพลิ้วระลอกเข้าออกไกล ทุกบทให้หนาวเนื้อเยิ่นเยื้อวน ควันหมอกมัววนกลมดังลมหวน อ้อยอิ่งอวลไอหนาวในพราวฝน สั่นสะท้านเย็นเยียบยากเทียบยล วางกมลครุ่นคิดแต่ฤทธิ์กาล ลมโลกลอยบรรเลงเป็นเพลงออด ใจกลับทอดเงาไม้ที่ไหวต้าน ราวอ่อนแรงทุกช่วงจะร่วงราน ดังคนมองประสานเหงาผ่านพรม สิ้นแล้วดอกหยดฝนท่วมท้นฝั่ง คล้ายบรรเลงความหลังที่ขังขม เงาน้ำพรายระยิบระยับจองจับจม สุดข่มขับอารมณ์ภิรมย์เพลิน ฤๅโชคชะตากลั่นแกล้งใจแสร้งนิ่ง แท้สรรพสิ่งล่องเหินไกลเกินเกริ่น โดยเดียวดายพร้อมสรรพจะลับเนิน ปล่อยอาวรณ์พบเมินยับเยินรอ พ้นมิพ้นตรงใจยังไหวอยู่ รอยหดหู่มาใกล้มิได้ขอ วิถีชีพครรลองน้ำนองคลอ สะท้อนท้อมรรคาชีวาครวญ โดย...ญามี่///... จากคุณ : ญามี่ เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 54 15:09:35

ความคิดเห็นที่ 38 รอยน้ำมารอบทิศให้คิดไหว บ้านเรือนกลายมลายไปพาใจหาย เวิ้งน้ำกว้างย่างยาวอย่างมากมาย ยากคิดย้ายหนทางในชาตินี้ เมื่อน้ำไหวทอทาบกระเพื่อมพื้น สลดตื่นใจไหวแต่คิดหนี อกร้อนรุ่มทั่วทรวงจนสิ้นดี ระทดทีแต่คิดวุ่นวายมา จากคุณ : เกรียงไกรกวีฝัน เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 54 15:29:20

ความคิดเห็นที่ 39 ใจรอนรอนเมื่อน้ำกระเพื่อมไหว เหงาทำไมตอบไม่ได้ดอกหนา เหมือนโลกเมินผู้คนหวังเลิกลา เงียบลอยมาให้รู้ความวังเวง สายตาหม่นเศร้าท้อทุกทั่วหน้า นัยแววตาหมองมืดขรึมดูเคร่ง หารอยยิ้มยากสุขไร้ครื้นเครง มีแต่เกรงรอบเหลียวน่าเห็นใจ จากคุณ : แก้วกลมกลม เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 54 15:52:01

ความคิดเห็นที่ 40 วิกฤตการณ์ผ่านมาและเลื่อนใกล้ พาหัวใจรู้รุ่มในร้อนหนาว พาทุกวันมัวมืดกับเรื่องราว และยากก้าวเดินหน้าในทุกทาง ซากสัตว์ล้วนส่งกลิ่นให้รู้สึก ใจระทึกโรคร้ายอยู่ไม่ห่าง ทุกผู้คนต่างเศร้าไม่จืดจาง หวังคิดวางหัวใจ ณ ไหนดี จากคุณ : ขอฝากแค่ฝัน เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 54 16:16:57

ความคิดเห็นที่ 41 ขยะลอยส่งกลิ่นแรงหนักหนา ซากสัตว์คาเห็นแล้วน่าหวั่นไหว ทั่วทุกทางสกปรกรกสุดใจ มองอย่างไรไม่เห็นความงดงาม อยากขจัดให้หมดไม่มีเหลือ อยากหาเรือมาเก็บไม่มองข้าม หากแต่ยากหาทางที่วางงาม ได้แต่ตามคิดไว้ทำไงดี จากคุณ : ขวดแก้วสีฟ้า เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 54 16:26:48

ความคิดเห็นที่ 42 ศรีสะเกษเดือดร้อน922หมู่บ้าน 16อำเภอท่วมลานน่าใจหาย มองแล้วมองหาทางให้วุ่นวาย เหมือนจะสายหมดที่ให้พักร้อน หนาวและเหนื่อยทุกผู้น่าสงสาร ยืนไม่มั่นไร้กาลที่ไร้หลอน 1แสนไร่เกษตรมาจากจร แม้นวิงวอนฟ้าดินอย่าทำลาย จากคุณ : ขุนพลน้อยโค่วจง เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 54 16:48:29

ความคิดเห็นที่ 43 นัยเดือดร้อนบางขณะไม่รู้แจ้ง มักแสดงแต่เขลาน่าเป็นห่วง น้ำท่วมมาอุรากลัวนัยลวง นอนผวาทรวงรุ่มร้อนอยู่ทุกวัน นั่นก็โรคนี่ก็หนูล้วนตัวร้าย ใจมลายยามยินกังวลหวั่น ยอมแล้วยอมทุกข์ลนมีทุกวัน ขอนอนฝันสร้างสุขสักนิดเอย จากคุณ : วาดฝันมธุรพจน์ เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 54 17:34:29

ความคิดเห็นที่ 44 กลางสายน้ำเคลื่อนไหวอย่างเร็วมาก ดูลำบากสายน้ำมาจากไหน มืดหนทางจะระวังอย่าตรงไป ในหัวใจวังเวงได้แต่งัน เงียบและหงอยคอยเฝ้าในความรุ่ม เงาเกรงกลุ้มลอยเย้ยให้หวนหัน หวังและหวังได้แต่มองตะวัน แผดอย่างนั้นมีไหมช่วยหายเอย จากคุณ : คืนฝันปีศาจน้อย เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 54 17:49:13

ความคิดเห็นที่ 45 ได้แต่หวังวันหน้าดีกว่านี้ ต้องมีที่ให้พักได้อาศัย ต้องมีที่ปรารถนาใช่ปราชัย แล้วอาลัยดินแดนที่หยัดยืน หารู้ไม่ฝันร้างไม่มีจบ ได้แต่พบรุ่มร้าวจำเฝ้าฝืน ร่ำไห้แล้วจนที่ชุ่มฉ่ำชื้น ยังไร้พื้นแห้งเหือดให้ยืนชม จากคุณ : ฝากซึ้งใส่ฝัน เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 54 18:26:08

ความคิดเห็นที่ 46 ไข่ไก่แพงเกินซื้อมาทอดแล้ว ข่าวเขาแว่วราคาต้นทุนสูง เห็นผู้คนจำยอมไร้คนจูง เพราะเมืองกรุงน้ำเข้าอย่างอแง ช้ำและชอกใครบอกบัวบกช่วย ยากอำนวยแผลทะลักเจ็บจบแย่ จนก็จนน้ำแกล้งจนท้อแท้ ไม่ทันแก่ก็ตายด้วยหมดแรง จากคุณ : สุดสาครท่องสมุทร เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 54 18:47:32

ความคิดเห็นที่ 47 ทุกข์มานานน้ำท่วมยังไม่หยุด หวังจะหลุดคงหนาวเลยไปนั่น แล้วหนาวนี้จะทำอย่างไรกัน เขาว่านั่นน้ำมากได้หนาวนาน เมื่อหนาวมาคนจนให้เป็นห่วง ระทมช่วงหน้าน้ำยังมาประสาน กับลมหนาวเรื่อยเรื่อยมาพบพาน ดุจประหารยื่นมาให้รับรอง จากคุณ : พระรามหัดท่องเน็ท เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 54 19:18:22

ความคิดเห็นที่ 48 เพียงผ่านพ้นผ่านพบรบกับน้ำ หนาวก็ย้ำเราหน่ายไม่อยากหา จำย้ำเข้าย้ำออกหมดศรัทธา หวังวันหน้าฟ้าใหม่มาฉับพลัน แต่ละวันผ่านไปใจยังกลุ้ม มองน้ำชุ่มหัวใจไม่มีฝัน หวังแสงแดดแผดเผาในเร็ววัน ให้น้ำนั้นลดน้อยหมดระอา จากคุณ : วาดฝันมธุรพจน์ เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 54 19:45:27

ความคิดเห็นที่ 49 จะไม่ถามถึงวันที่บรรจบ ขอแค่ลบน้ำทิ้งอย่านิ่งเฉย ขอแค่เรามีพื้นได้ชื่นเชย จะไม่เอ่ยวาจาที่ไม่งาม ขอแค่นี้ฟ้าเอยอย่าเมินห่าง อย่าทำวางความหมายแล้วเดินข้าม ขอให้เราพบกันอย่างรู้ความ และในนามยินยอมเลิกส่งมา จากคุณ : เมืองมานะ เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 54 19:55:26

ความคิดเห็นที่ 50 น้ำกระเพื่อมใจจึงสั่นรู้เศร้า แค่บอกเล่าเหมือนควันไม่ใจหาย น้ำไหลมาทีละนิดจะชีพวาย รีบขวนขวายหาโต๊ะมารับรอง มองรอยน้ำซึมซับเข้ามาใกล้ หนาวในใจสั่นสั่นทั้งสี่ห้อง บอกตัวเองเดี๋ยวหายอย่าไปมอง ใจกลับร้องน้ำมาอย่าลังเล จากคุณ : รสรวยริน เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 54 20:07:58

ความคิดเห็นที่ 51 สรรพสิ่งทิ้งไปใจกลับเหงา ไม่เหมือนเผาสิ่งของไม่ประสงค์ ยังคอยครุ่นหวนหาอย่างยืนยง เหมือนเจาะจงแต่คิดสะกิดสะเกา ในเดียวดายเหมือนหาในสิ่งลับ ใจก็ขับแต่ร้องอย่าหาเหงา สิ่งใดหายละลายอย่าไปเมา มองแล้วเศร้าแม้มันเพิ่งวันวาน จากคุณ : โลกของหนึ่งคน เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 54 20:28:11

ความคิดเห็นที่ 52 ฝันดีค่ะพี่,เพื่อนทุกคน ~ฝันปรารถนา ~ ละเลียดคำกรองกาน์วาดหวานหนุน หาแหล่งบุญมามอบคำตอบสม เป็นพึ่งพักบรรเทาที่เศร้าตรม ผูกระดมนั่งอิ่มแย้มยิ้มพลัน ห้วงแห่งนี้ประสิทธิ์สนิทสนอง ไม่มีข้องขมไขสุขในสรร เสมือนชื่นปรายโปรยลายสุพรรณ มาดหมายกั้นพื้นแห้งทุกแห่งงาม ขอบคุณสรวงสวรรค์จัดชั้นฉาย เห็นสุวรรณพรรณรายทักทายถาม กาลมงคลส่งทุ่งบอกรุ่งยาม ณ แห่งนี้ปรีดิ์เปรมเกษมรอ ชัชวาลตามบุราณผสานจัด ไร้อึดอัดอ้อยอิ่งประวิงหนอ สัมผัสด้วยหัวใจนำใคร่คลอ วิถีก่อแต้มตรึงช่างซึ้งทรวง ไม่มีแล้วคลื่นน้ำกระหน่ำหนาว ประจงยาวเกื้อสุขทิ้งทุกข์ห้วง ระหว่างปลื้มบุญเจือช่วยเกื้อปวง โสมนัสสรวงในฝันรางวัลใจ สัมผัสแห่งละอองประคองหอม สถิตถนอมปรารถนาบัญชาให้ ความเดียวดายหลุดพ้นเลิกกลไก หอมละมุนละไมจึงลอยมาคอยวาง โดย...ญามี่///... จากคุณ : ญามี่ เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 54 00:54:29

ความคิดเห็นที่ 53 เชื่อน้ำไม่ท่วมชลบุรี หลังเกิดรุ้งกินน้ำ 2 ตัวหน้าอ่าวฯ ศูนย์ข่าวภาคตะวันออก - เชื่อชลบุรีน้ำไม่ท่วมแล้ว หลังเกิดรุ้งกินน้ำ 2 ตัวทั้งฝั่งขวาและฝั่งซ้ายหน้าอ่าวชลบุรี แม้มีน้ำเจิ่งนองที่พนัสนิคมบ้าง ก็เป็นน้ำระบายจาก กทม.คาดจะลดลงโดยเร็ว เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ที่ผ่านมา ได้มีปรากฏการณ์รุ้งกินน้ำโผล่จากฟากฟ้าถึง 2 ตัว บริเวณชายฝั่งทะเลหน้าอ่าวเมืองชลบุรี ทั้งฝั่งขวาและฝั่งซ้าย ทำให้ชาวชลบุรีที่มีอาชีพเก่าแก่ที่อาศัยกันอยู่ตามชายฝั่งทะเลมาเป็นเวลานาน มีความเชื่อกันว่า ปรากฏการณ์นี้บ่งบอกได้ว่า น้ำท่วมฉับพลันที่เกิดจากฝนตกหนักจะหายไปหรือบรรเทาเบาบางลงไปได้แน่นอน นายรักษ์ ขอสงวนนามสกุล อายุ 67 ปี อาชีพทางทะเลและอยู่กับชายฝั่งทะเลมายาวนาน กล่าวต่อผู้สื่อข่าวในเรื่องนี้ ว่า ตามความเชื่อ รุ้งที่ปรากฏขึ้นจะกินน้ำฝนจากพายุฝนจนหมดสิ้น แต่เคยเห็นปรากฏคราวละ 1 ตัวเท่านั้น ที่ปรากฏพร้อมกัน 2 ตัว ทั้งฟากซ้ายและฟากขวาหน้าอ่าวชลบุรีนี้ไม่เคยเห็นมาก่อน ส่วนอีกหลายคนที่ขอสงวนชื่อ ก็เชื่อว่า จะเป็นข่าวดีมากกว่า เพราะสายรุ้งจะกินน้ำฝนไปจนหมดสิ้น ส่วนการระบายน้ำจาก กทม.ที่ผ่านมาทางจังหวัดฉะเชิงเทราให้ไหลลงแม่น้ำบางปะกงนั้น จากการที่ฝนตกอย่างหนักมาก่อนทั้งคืนวันที่ 13-14 ต.ค.นั้น จึงมีน้ำท่วมฉับพลันที่ตำบลท่าข้าม ตำบลโคลกเพลาะ อำเภอพนัสนิคม และท่วมตามถนนนาป่าบางจุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่กระแสน้ำไหลบ่านั้นก็เป็นการไหลท่วมแบบกินเวลาไม่นานนัก เป็นเพราะมีที่กีดขวางทางระบายน้ำอยู่ รวมทั้งเขตนิคมอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งที่อยู่เบื้องล่างทำการป้องกันไม่ให้กระแสน้ำไหลท่วมเขตของนิคมไว้อย่างดี สำหรับปรากฏการณ์สายรุ้งกินน้ำขึ้น 2 ตัว หน้าอ่าวเมืองชลบุรีวานนี้ เป็นปรากฏการณ์ที่หาดูได้ยาก เชื่อกันว่า จะทำให้พายุฝนที่พัดผ่านเข้าชลบุรีถูกรุ้งกินน้ำกินไปจนหมดแล้ว ประกอบกับขณะนี้มีกระแสลมหนาวพัดผ่านมาแล้ว จะมีเหลือก็แต่เพียงลมพายุกรรโชกแรงเท่านั้นที่จะเป็นอันตราย ทั้งยังเชื่อกันว่าในจังหวัดอื่นๆ ก็จะเริ่มปลอดภัยจากกระแสน้ำไหลหลาก ขณะที่เช้าวันนี้ (16 ต.ค.) ท้องฟ้าชลบุรีมีแสงแดดจ้าแต่เช้าแล้ว ทำให้เชื่อกันว่า ปรากฏการณ์รุ้งกินน้ำขึ้นถึง 2 ตัวนี้ จะทำให้ชาวบ้านชลบุรีรอดพ้นจากพายุฝนกระหน่ำหนักและรอดพ้นจากอุทกภัยไปด้วยดี นี่เป็นความเชื่อของผู้มีประสบการณ์และกระทำแต่กรรมดี *ภาพและเรื่องโดย สุรัตน์ บัณฑิตย์ จากคุณ : ญามี่ เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 54 00:58:50

ความคิดเห็นที่ 54 โรคฉี่หนูมากับน้ำท่วม ไม่ได้มากับกระป๋องน้ำอัดลม หลายปีก่อนเคยมีข่าวแพร่สะพัดเป็นจดหมายลูกโซ่ส่งต่อกันทางอินเทอร์เน็ตแพร่หลายไปทั่วโลก รวมทั้งในเมืองไทย และยังคงอยู่มาจนทุกวันนี้ ว่ามีคนดื่มน้ำอัดลมจากกระป๋อง โดยไม่ได้เช็ดหรือล้างก่อน จึงติดเชื้อโรคฉี่หนูที่เปื้อนกระป๋องจนป่วยหนักและเสียชีวิตในเวลาต่อมา จนหลายคนกลัวฉี่หนูบนกระป๋องน้ำอัดลมกันอย่างจริงๆ จังๆ ผู้ที่ทำงานในวงการแพทย์และสาธารณสุข ซึ่งใช้อินเทอร์เน็ตในการเผยแพร่ข่าวสาร ได้วิเคราะห์และตีแผ่ฟอร์เวิร์ดเมล์ที่ไม่เป็นความจริงหลายๆ ชิ้น รวมทั้งฉี่หนูมรณะที่ว่านี้ด้วย โดยระบุว่าอาการของโรคฉี่หนูที่แท้จริงจะต่างจากอาการในฟอร์เวิร์ดเมล์ และฉี่หนูไม่ได้ติดกันง่ายๆ จากการดื่มกิน ยกเว้นว่ามีแผลในปาก แต่ก็มีโอกาสน้อยมาก แม้แต่รายการดังอย่าง Myth Busters ก็ได้ทำการทดลองเรื่องนี้และสอบถามจากแพทย์ว่าเราสามารถเสียชีวิตจากการดื่มน้ำอัดลมจากกระป๋องที่เปื้อนฉี่หนูได้จริงหรือไม่ ซึ่งแพทย์ก็ระบุตรงกันว่า โอกาสที่จะติดเชื้อโรคฉี่หนูจากกระป๋องน้ำอัดลมมีน้อยมาก และเชื้อโรคฉี่หนูนั้นจะตายอย่างรวดเร็วเมื่ออยู่ในที่แห้ง นั่นหมายถึง แม้จะมีเชื้อโรคฉี่หนูอยู่บนกระป๋องน้ำอัดลมจริงๆ มันก็น่าจะตายไปก่อนที่จะมีใครมาดื่ม และถึงแม้ว่าเราจะเผลอกินเชื้อโรคที่ยังมีชีวิตเข้าไปจริงๆ เชื้อโรคก็จะตายด้วยกรดในกระเพาะอาหารของเรา อย่างไรก็ตาม คุณหมอให้ข้อคิดไว้ว่า ถ้าคิดจะดื่มน้ำอัดลมจากกระป๋อง ก็ควรจะเช็ดหรือล้างให้สะอาดเสียก่อน เพราะนอกจากฉี่หนูแล้ว เราไม่รู้ว่ามันผ่านอะไรมาบ้าง มาจนถึงวันนี้ วันที่หลายจังหวัดในประเทศไทยต้องประสบอุทกภัย น้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ เราจะเห็นภาพคนที่เดินลุยย่ำน้ำ ทั้งที่จำใจต้องลุยและที่ลุยถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก รวมทั้งเด็กๆ ที่เล่นน้ำอย่างสนุกสนาน โดยลืมนึกถึงโรคร้ายหลายชนิด โดยเฉพาะโรคฉี่หนู ทั้งๆ ที่การติดเชื้อโรคฉี่หนูจากน้ำท่วมนั้น ง่ายกว่าฉี่หนูจากกระป๋องน้ำอัดลมเสียอีก โรคฉี่หนูในประเทศไทยพบระบาดรุนแรงในช่วงฤดูฝน โดยเฉพาะช่วงเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน ซึ่งเป็นผลมาจากการที่น้ำฝนชะล้างเอาเชื้อโรคจากสิ่งแวดล้อม มารวมกันอยู่ในบริเวณน้ำท่วมขัง โรคฉี่หนู (Leptospirosis) เป็นโรคระบาดในคนโดยติดต่อมาจากสัตว์ เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า เลปโตสไปรา (Leptospira ) เป็นเชื้อที่อยู่ในปัสสาวะของสัตว์พาหะซึ่งไม่ใช่แค่หนูเท่านั้น แต่ยังรวมถึง วัว ควาย หรือสัตว์เลี้ยงใกล้ตัวอย่างสุนัขและแมว การเล่นน้ำ ลุยน้ำ หรือแช่น้ำที่ท่วมขังเป็นเวลานานๆ ทำให้ติดเชื้อโรคฉี่หนูได้ โดยเชื้อแบคทีเรียจะอยู่ในน้ำหรือดินที่ชื้นแฉะ และเข้าสู่ร่างกายของเราทางบาดแผลที่ผิวหนัง หรือทางเยื่อเมือก เช่น ตาและปาก อาการของผู้ที่ติดเชื้อโรคฉี่หนู จะมี 2 แบบ คือ แบบที่ไม่รุนแรง จะมีอาการคล้ายไข้หวัดธรรมดา ปวดศีรษะ มีไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และแบบที่มีอาการรุนแรง หากเชื้อเข้าไปอยู่ในลูกตา จะทำให้มีอาการตาอักเสบแดง น้ำตาไหล สู้แสงไม่ได้ หากเชื้อเข้าไปอยู่ในท่อไต จะทำให้ไตวาย หากเชื้อเข้าไปอยู่ในสมอง จะทำให้มีอาการเพ้อ ไม่รู้สึกตัว และหากมีการติดเชื้อทั่วร่างกายจะทำให้มีเลือดออกในร่างกาย ซึ่งเป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ โรคฉี่หนูมีการระบาด และมีรายงานการเสียชีวิตทุกปี สาเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากทุกปี อาจเนื่องมาจากอาการของโรคในเบื้องต้นคล้ายกับไข้หวัดธรรมดา ทำให้ผู้ป่วยชะล่าใจหรือแม้แต่แพทย์ก็วินิจฉัยโรคได้ค่อนข้างยาก ดังนั้น ผู้ป่วยที่มีอาการไข้สูง ปวดศีรษะรุนแรง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะน่อง ขา เอว หลัง หรือมีอาการตาแดง และเป็นกลุ่มเสี่ยง คืออยู่ในบริเวณน้ำท่วมขัง เล่นน้ำ หรือย่ำน้ำในช่วงนี้ ไม่ควรชะล่าใจ ให้แจ้งข้อมูลกับแพทย์ด้วย เพื่อการตรวจและวินิจฉัยอย่างถูกต้อง นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการเล่นน้ำ แช่หรือลุยน้ำที่ท่วมขัง หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ควรสวมรองเท้าบูทยาง หากระดับน้ำท่วมสูงเกินกว่าบูทยาง อาจสวมถุงดำไว้ข้างใน มัดด้วยเชือกฟางให้แนบติดกับขา แล้วสวมรองเท้าทับอีกชั้น สวมถุงมือยางหากต้องสัมผัสกับน้ำ และล้างมือ ล้างเท้า และอาบน้ำชำระล้างร่างกายให้สะอาด และเช็ดให้แห้งอยู่เสมอ จากคุณ : ญามี่ เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 54 01:00:36

ความคิดเห็นที่ 55 ฤาโลกเราเปลี่ยนไปไม่เหมือนก่อน บทเรียนสอนมนุษย์สุดเศร้าแสน ธรรมชาติยับเยินเกินดูแคลน ความแร้นแค้นครอบคลุมสุมแผ่นดิน ถือว่าเป็นเจ้าของจับจองโลก เฝ้ารุมโขกรุมสับย่อยยับสิ้น ทั้งป่าไม้สายน้ำเคยฉ่ำริน ต้องพังภินท์เพราะใครครวญใคร่ดู เป็นหน้าที่ทุกคนบนพื้นโลก เก็บความโศกซุกไว้กลับใจสู้ ให้เหตุการณ์ที่เห็นเป็นดั่งครู รักษ์โลกอยู่อย่างยั่งยืนคืนความงาม จากคุณ : 312_spiriz เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 54 20:52:02

ความคิดเห็นที่ 56 ฝากถ้อยครวญคราแพ้ กระแสคลื่น น้ำหลายหมื่นท่วมมาวุ่ยวายหา ความสำนึกตรึงแต้มในศรัทธา วันเวลาเคลื่อนพร้อมระทมไว จากทุกที่ที่พักพาใจท้อ ปรารถนาแค่คลอความอ่อนไหว ฝากความเหงาแห่งฝันมาจากใจ ยังร่ำไรอยู่รอกับหนทาง จากคุณ : เกรียงไกรกวีฝัน เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 54 21:04:01

ความคิดเห็นที่ 57 ลมยังครวญผ่านหนาวพารู้สึก แผ่วแผ่วนึกรำพันใจโศกเศร้า เหมือนจะเลือนจากถ้อยลำนำเพลา ใจจำเงาอาลัยจากวันวาร   เหมือนเราต่างหนทางคนละฟาก ปล่อยใจฝากช้ำช้ำตามลมผ่าน กอดความเหงาเฝ้ารอมาเนิ่นนาน คงได้พานแหล่งพักอีกครั้งครา จากคุณ : แก้วกลมกลม เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 54 21:20:01

ความคิดเห็นที่ 58 ค่ำคืนนี้ยังมีความเปลี่ยวเหงา คล้ายเคลื่อนเงาห่างแสงไร้สว่าง บางสิ่งเห็นราวจริงจังบ้างราง ในปวดร้าวระหว่างคอยเมียงมอง เสียงน้ำครื้นสนุกมาปลุกทุกข์ ยากนั่งจำลุกเดินดูทั่วห้อง น้ำเข้ามาทักทายราวลำคลอง เห็นแล้วต้องตรมทรวงเอือมระอา จากคุณ : ขอฝากแค่ฝัน เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 54 21:39:09

ความคิดเห็นที่ 59 กับน้ำท่วมรอคอยถึงวันจบ ยังต้องพบเดือดร้อนทั้งหัวหู ทนและทนเฝ้ารอคราวทนดู ก็ไม่รู้หนทาง...จากได้ฟัง บนทีวีบอกข่าวให้ใจเร่ง ยากครื้นเครงให้ยิ้มกับความหลัง พื้นและผนังเลือนรางเหมือนจะพัง น้ำลดยังหนักใจกับบ้านเรือน จากคุณ : ขวดแก้วสีฟ้า เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 54 21:54:06

ความคิดเห็นที่ 60 กับคำพูดรับรองช่างลมแล้ง วาดวิมานให้แสร้งคอยแต่ฝัน พกเพ้อเพ้อเรื่อยไปในทุกวัน รำพึงรำพันกับหวังแค่สายลม รอน้ำแห้งรอแล้วใจหดหู่ ไร้ทางรู้น้ำตารสปร่าขม รอคืนวันน้ำเลยอย่ามาจม เหมือนระดมร้อนล้ามาเข้าครอ จากคุณ : ขุนพลน้อยโค่วจง เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 54 22:04:51

ความคิดเห็นที่ 61 ซ้ำซากในเรื่องราวที่ผันผ่าน ราววันวานยังอยู่ให้ปรารถนา หากจริงแล้วพ้นพรากความศรัทธา ทิ้งน้ำตาเดียวดายก่อวุ่นวาย เหมือนเราไร้ที่พักได้แต่หัก ยามตระหนักถึงบ้านและความหมาย เหมือนซ้ำซ้อนแต่คิดช่างมากมาย แท้ตรงท้ายคือไร้ที่พักพิง จากคุณ : ฝากซึ้งใส่ฝัน เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 54 22:16:16

ความคิดเห็นที่ 62 อุราร้อนกับน้ำและที่พัก ใจด่าวดักติดตามไปทุกที่ เอือมระอากับถ้อยและวจี มาขีดชี้ราวหมอผู้ทำนาย เห็นสายน้ำเอื่อยมาอยู่เบื้องหน้า ใจก็ล้าหดเล็กไม่คิดขยาย เมื่อไรหนอสายน้ำจะมลาย จวนจะตายเพราะรออยู่นานวัน จากคุณ : คืนฝันปีศาจน้อย เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 54 22:30:00

ความคิดเห็นที่ 63 โอ้หนาวใจกับน้ำคอยรับเรื่อง ใจหมดเปลืองมานานใครจะเห็น รอและรอเพียงคอยด้วยลำเค็ญ หัวใจเป็นรอยร้าวใครมารู้ จะขอเก็บอารมณ์ที่ไร้คาด เพราะอำนาจมีน้อยไม่อาจสู้ รอต่อไปอย่างช้ำทนเฝ้าดู ยังตั้งอยู่บนคอยไร้รื่นรมณ์ จากคุณ : วาดฝันมธุรพจน์ เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 54 22:42:33

ความคิดเห็นที่ 64 มองดูน้ำยังรอนยากปรุงพจน์ ไร้บทบาทวาดเวียนมาเฝ้าเพ่ง รอยกังวลเริ่มร้องเป็นบทเพลง คราวบรรเลงกล่อมซึ้งในบทตรม แย่งความคิดจะเงียบไปทุกหน เหนื่อยในตนจำทนกับความขม สั่นรัวรัวทั้งใจต่างระดม ยากจะข่มนิ่งไว้อย่าไปเคือง จากคุณ : สุดสาครท่องสมุทร เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 54 22:54:45

ความคิดเห็นที่ 65 ฤๅโลกโกรธใครกันแผ่อำนาจ ให้น้ำคาดท่วมทับหวังหมดเรื่อง ทรัพย์สินจึงสิ้นมลายหมดเปลือง- จนปลดเปลื้องอารมณ์ช้ำไม่ได้แล้ว เจ็บช้ำนานใครเลยจะมาเห็น เหตุผลเป็นสิ่งอ้างที่เบาแผ่ว ทนและทนต่อไปอยู่ทั่วแนว ไร้ซึ่งแววสงบจะสุขใจ จากคุณ : โลกของหนึ่งคน เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 54 23:11:30

ความคิดเห็นที่ 66 อีกไม่นานเขาประชุมน้ำคงหมด. ได้แต่จดนับวันไว้รอท่า อยากกลับไปหาบ้านที่จากมา ไปดูว่าพื้นดินมีเหลือฤๅ แสนเหนื่อยยากไม่เลยไม่เคยท้อ หวังแค่พอเข้ามองไปจับถือ กับทุกอย่างจากมาไม่ได้รื้อ คงได้ซื้อหาใหม่ให้วุ่นวาย จากคุณ : พระรามหัดท่องเน็ท เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 54 00:03:17

ความคิดเห็นที่ 67 อยากกลับบ้านที่จากมาใจยังสู้ ไม่อยากรู้วันไหนจะเป็นได้ ขอแค่มีวันนั้นวันเร็วไว อยากจะให้พรุ่งนี้มาเร็วพลัน รอเฝ้ารอ รอหวังอย่างเต็มที่ จิตใจมีมานะคิดฝ่าฝัน ขอให้รัฐเร่งทางแจกรางวัล ขอให้ฉันกลับบ้านไปหลับนอน จากคุณ : เมืองมานะ เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 54 00:13:18

ความคิดเห็นที่ 68 รู้น้ำหายใจรุ่มคอยนับเร่ง- ท่องเป็นเพลงบ่นไปทุกแห่งหน หวังให้ฟ้าเมตตาในวกวน อย่าส่งฝนมาเลยสักสามเดือน คอยบอกกล่าวพร่ำบ่นไปทุกที่ ให้วจีดลใจฟ้าอย่าเคลื่อน อย่าส่งน้ำตอนนี้ใจมันเบือน สักหลายเดือนค่อยมาคงได้นะ   อิ อิ จากคุณ : รสรวยริน เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 54 00:29:41

ความคิดเห็นที่ 69 โลกใต้น้ำล้อมมาพาใจหนี ไร้เสรีกับฝันที่รักษา ไร้ขอบเขตให้ทิ้งจินตนา เหนือบูชาความช้ำเศร้าสุดใจ เหมือนอีกด้านของโลกกำลังวิ่ง น้ำที่ทิ้งบอกสิ่งอันวาดไหว สะท้อนเห็นเขาสุขเราทุกข์ใด ให้หัวใจว้างอ้างอยากติดจร จากคุณ : เกรียงไกรกวีฝัน เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 54 19:13:22

ความคิดเห็นที่ 70 ช้ำชาอย่างผู้พลัดระเริงร่าย เหงาวุ่นวายท่ามเศร้าไร้คนสอน ปรุงแต่ฝันเจ็บร้าวไร้จันทร ไม่อาวรณ์แม้ยามไร้ตะวัน เจ็บชาจนลืมรู้กับด่ำรส แม้นโลกทดสิ่งใดที่ก่อฝัน ยังมองเหมือนโลกาไร้จันทร์นั้น ธรรมดาขั้นเอือมระอากับการดู จากคุณ : แก้วกลมกลม เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 54 19:55:45

ความคิดเห็นที่ 71 สะอื้นไห้มาอยู่ในหัวอก สะท้านสะทกใจรอนสะเทือนขวัญ พี่น้องร่วมพสุธาพื้นแผ่นเดียวกัน โลกลงทัณฑ์วิปโยคเห็นเคียงตา ย้ำย้ำในสำนึกให้เกิดรู้สึกเศร้า เหน็บหนาวเฝ้าร้าวใจหวั่นมาหา เล่ารำพึงรำพันเกินสัญญา วอนสวรรค์เมตตาปรานีกับฝูงชน จากคุณ : ขอฝากแค่ฝัน เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 54 11:26:28

ความคิดเห็นที่ 72 ใจยังคิดหาทางแก้ไขได้ ชดใช้ให้หมดเสียในคราวนี้ เริ่มต้นใหม่กันนะเธอคนดี ให้ธรรมชาติมีทางนำชีวา ก่อนจะสิ้นแผ่นดินมาตุภูมินั้น ใจก็ฝันมีวันคลื่นเข้าหา หวังและหวังความหวังที่ยื่นมา ปรารถนาทุกสิ่งขอกลับคืน จากคุณ : ขวดแก้วสีฟ้า เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 54 11:40:37

ความคิดเห็นที่ 73 คือนิยายชีวิตไม่มีซึ้ง สะอื้นดึงอารมณ์ให้ทุกข์ใหญ่ ผ่านมาแล้วร้าวรอนจะผ่านไป หวังเท่าไรอาวรณ์ยากย้อนวง ใจยอมแพ้แน่ใจไม่อาจสู้ กว่าน้ำพรูเข้ามาพรั่นเลือนหลง เสียเวลาต่อชีพยามเจตจำนง ยากดำรงด้วยชื่นไม่มีราน จากคุณ : ขุนพลน้อยโค่วจง เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 54 11:55:18

ความคิดเห็นที่ 74 สรรพสิ่งเลือนลอยให้ใจเปลี่ยน โลกหมุนเวียนส่งทุกข์เป็นของขวัญ วันแล้ววันเล่าช้ำมากอนันต์ ยากรำพันเหมือนทุกข์เข้าจุใจ ยากสงบไม่คร่ำในดวงจิต ช้ำกับฤทธิ์โศกเศร้าระทมไหว ไม่มีแล้วไม่มีทางสว่างไป หวังอย่างไรหวังนั้นยังหลุดนำ จากคุณ : ฝากซึ้งใส่ฝัน เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 54 12:10:26

ความคิดเห็นที่ 75 คิดแล้วใจรานเอยให้คิดถึง ครวญรำพึงหนึ่งนึกราวโลกฝัน แผ่นดินนี้แม้นมีแสงดวงจันทร์ แผ่นดินสวรรค์สรรเสกแต่ตรมนาน น้ำยังคลอท่วขังแสนรกเรื้อ กลับช้ำเหลือจะกล่าวเศร้าประหาร ท่ามภูผาควันหมอกเหลือเพียงราน คือวันวานที่ชื่นแล้วผ่านไป จากคุณ : คืนฝันปีศาจน้อย เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 54 13:14:26

ความคิดเห็นที่ 76 อาจจะเคยว้าเหว่ในวันโศก เห็นวิปโยคมากมายให้ห้ามหัก เห็นปวงชนหม่นเหม่อไร้ที่พัก เห็นทุกข์ทักใจรานกับหนทาง คืออารมณ์เจ็บแค้นให้ไหวหวั่น สุขนิรันดร์ผ่านตาไม่อาจสร้าง ปล่อยทุกอย่างว่ายวนมาละวาง จิตกระจ่างสว่างพลันหายลับเลย จากคุณ : รสรวยริน เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 54 13:38:32

ความคิดเห็นที่ 77 น้ำอยู่ไหนช้ำตามมาขอบอก ไม่อยากหลอกตนเองยังทนไหว จะน้ำหลากน้ำบ่าท่วมเข้าไป บอกไม่ได้หายแน่อย่าไปกลัว ใจก็หวังข่าวดีได้มาส่ง อย่าลืมหลงคนคอยวกเวียนหัว คนหนึ่งบอกอพยพหลบความมัว คนหนึ่งบอกเตรียมรั่วมานั่นแล้ว จากคุณ : พระรามหัดท่องเน็ท เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 54 14:11:57

ความคิดเห็นที่ 78 ขวานทองเอยเคยเรืองรองสง่าสวย เคยร่ำรวยพืชผลให้อิจฉา ไยมาจ่อมจมลงเห็นน้ำตา สยามศรัทธาเปลี่ยนไปให้อ่อนล้า ขวานเล่มนี้เคยชื่อดินแดนยิ้ม ให้เอมอิ่มพริ้มสุขรับอาสา คนต่างเมืองมุ่งชมไม่มีลา ไยต้องมาช้ำชอกให้พบพาน จากคุณ : ฝากซึ้งใส่ฝัน เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 54 14:41:18

ความคิดเห็นที่ 79 สยามเมืองเคยรุ่งเรืองเป็นเมืองสุข ไม่มีทุกข์รู้เหนื่อยมาเผาผลาญ ไม่มีร้าวหมองไหม้ในหมู่มาร ไม่ต่อต้านทุกชนสุขร่มเย็น หากวันนี้น้ำตามิอาจเลี่ยง มีแต่เบี่ยงกับเหงาที่ให้เห็น ครวญคร่ำครางวันคืนเกินจำเป็น เพราะน้ำกระเซ็นมาถึง..ถึงบ้านเรา จากคุณ : เมืองมานะ เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 54 14:54:25

ความคิดเห็นที่ 80 เวลาผ่านขวานงามไยคิดหนี แบ่งฤดีแบ่งใจเกินจะเกริ่น รอยยิ้มเปลี่ยนมาเศร้าและหมางเมิน ไร้ขัดเขินบนทางน้ำท่วมมา เวลาผ่านนานวันยิ่งหมองหม่น แปลบปวดปนศีลธรรมทำทีหา คนเห็นคนเป็นเหยื่อแกล้งพรางตา ทรายขึ้นมาราคาดูโหดจัง จากคุณ : โลกของหนึ่งคน เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 54 15:16:11

ความคิดเห็นที่ 81 น้ำท่วมนั้นเป็นกันหลายจังหวัด ยากเจนจัดช่วยเหลือกับเงินหลวง บริหารงบมากมายราวผลพวง ยากในห่วงเข้ากระเป๋าใครแสดง เลือกคนเก่งแล้วนายังยุ่งใหญ่ เลือกชาวไร่ชาวนาใครรู้แหล่ง เลือกคนดีรู้แต่พูดใช่ไม่แย้ง ได้ตำแหน่งเลือกแล้ว..งานอยู่ใด จากคุณ : วาดฝันมธุรพจน์ เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 54 15:39:37

ความคิดเห็นที่ 82 เมื่อน้ำไหลเข้ามาให้ใจหวั่น มาถึงวันของเราแล้วหนอหวัง หวังไม่ต้องรีบร้อนประตูพัง กลับมาดั่งคลื่นซัดโถมกระจาย แล้วกี่วันหนอหายช้ำใจเข้า ไม่รู้เท่าหนทางเริ่มเลือนหาย ถึงจะกั้นกระสอบทรายตั้งมากมาย น้ำทำลายไม่เห็นแม้แต่เงา จากคุณ : สุดสาครท่องสมุทร เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 54 15:53:23

ความคิดเห็นที่ 83 ~ความหวังใหม่~ หนาวและเหงาคลื่นน้ำมาล้ำไหล โอมทวยเทพท้าวไท้ผู้ใหญ่ยิ่ง ประทานเถิดประทานผสานพิง ให้ทุกสิ่งกลับคืนอย่าฝืนลา หมอกโอบไอความเปลี่ยวเที่ยวเลี้ยวลัด ในป่าชัฏพืชพักมอดรักษา คำนึงขมขยายเข้ากรายอุรา สุดสายตาเวิ้งว่างกระจ่างยล โอมทวยเทพเวหาเทวานาถ อนุญาตขาดเหลือมาเกื้อผล โปรดการุญชนชั้นขมขั้นวน ไร้ถนนพิพัฒน์ผลยากพ้นลาญ เมื่อเดือนแจ่มเมฆรอมาคลอขัง ไร้ชัชวาลมืดบังยากนั่งขาน จะเอื้อนอรรถกล่าวใดก็ใช่การ ขอเทพนั้นประทานบุญทานใจ เร้นรอยกังวลรางอยู่กลางห้วง สิ่งทั้งปวงอยากกอดเหมือนมอดไหม้ ทรวงบอบช้ำโปรดรู้หดหู่ไกล ขอเทวาไท้โปรดสดับกับคับเคือง เพื่อโลกาบรรเทาจากเศร้าหมอง โปรดประทานคุ้มครองครรลองเรื่อง ให้สุกใสไพฑูรย์จำรูญเรือง สะอื้นเมืองจบลงหมดหลงพลัน โดย......ญามี่///... จากคุณ : ญามี่ เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 54 16:37:10

ความคิดเห็นที่ 84 สวัสดีค่ะพี่,เพื่อนทุกคน จากข่าวฝนจะตกหนัก น้ำท่วมสูงสุด ในวันที่29-10นี้ ทำให้คนเครียดอยู่แล้ว เครียดหนักขึ้นเช่นน้าชายมี่ค่ะ บ่นตลอด มีเลยเอามาแปลงเป็นกลอน สงสารน้าจัง น้าสะใภ้ไปขนมาม่ามาเก็บอีกแล้วค่ะ ............................... ฟ้ามืดมืดสายฝนเตรียมหล่นแล้ว “น้า”มีแววเคืองแค้นนับแสนก้าว นับหนึ่งสองก็แล้วไม่แคล้วคราว มาสิมาความร้าวช่างยาวเยือน ฝนจะลงใช่ไหม?..ลงได้เลย ใจมันเผยทรหดเกินปลดเลื่อน มาสิมาฝนปรายอย่าอายเดือน หล่นมาเตือนมนุษย์โลกอย่าโยกย้าย เสียใจมีที่สุดเกินหยุดยั้ง จะนอนนั่งดูฟ้าเอาหน้าส่าย เจ็บจนชาหายรู้ไม่กู้วาย จะถึงตายก็มิว่าอยากท้าเจอ มาทำไมทีละนิดให้คิดกลุ้ม แน่จริงรุมมาเลยใช่เกยเสนอ อยู่ใต้ฟ้ากลัวฝนสู้กลละเมอ ก็ยอมเพ้อครวญคร่ำชอกช้ำเนา จากคุณ : ญามี่ เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 54 22:11:48

ความคิดเห็นที่ 85 พราวจันทร์เพ็ญไหวพริ้วบนผิวน้ำ แว่วลำนำเพลงรักจากปลายคุ้ง หอมราตรีรวยรินกลิ่นจรุง ควันลอยฟุ้งข้างลอมฟางเพิ่งจางไป วันที่จันทร์พรายพริ้วบนผิวน้ำ เสียงครวญคร่ำอิดโรยระโหยไห้ เจ้าราตรีต้นนั้นพลันหายไป กองฟืนไฟจมน้ำ้ข้างพนัง เดือนดวงเก่ายังพร่างพรายบนสายน้ำ ช่วยตอกย้ำว่าวันนี้ยังมีหวัง แม้สิ้นเนื้อยังเหลือแรงพลัง ยังได้นั่งชมจันทร์ที่บ้านเรา จากคุณ : 312_spiriz เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 54 22:57:51

ความคิดเห็นที่ 86 อันว่ารอรอแล้วหารู้ไม่ หวั่นหวาดในหัวใจใครมาเหลียว รอแล้วรอรุ่มร้อนอยู่ข้างเดียว หาใครเหนี่ยวช่วยเหลือมาคุ้มครอง ฟ้าดินปรวนแปรไปยากใครออด มีแต่มอดไหม้มาตามใจสนอง รอแล้วรอ รอท่ามจิตใคร่ร้อง ไยครรลองฉันต้องมีแต่ตรม จากคุณ : เกรียงไกรกวีฝัน เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 54 23:00:27

ความคิดเห็นที่ 88 อันว่ารอรอแล้วหารู้ไม่ หวั่นหวาดในหัวใจใครมาเหลียว รอแล้วรอรุ่มร้อนอยู่ข้างเดียว หาใครเหนี่ยวช่วยเหลือมาคุ้มครอง ฟ้าดินปรวนแปรไปยากใครออด มีแต่มอดไหม้มาตามใจสนอง รอแล้วรอ รอท่ามจิตใคร่ร้อง ไยครรลองฉันต้องมีแต่ตรม จากคุณ : แก้วกลมกลม เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 54 23:19:57

ความคิดเห็นที่ 89 มองรอยน้ำเอ่อล้นจนถึงท่วม ใจไม่รวมเป็นหนึ่งมีแต่เหงา มองรอยน้ำสูงขึ้นใจร้อนเร้า มีแต่เศร้าห่วงใยข้าวของจม บอกตัวเองหาใหม่อย่าไปคิด ใจยังสะกิดนั่นเพื่อนทิ้งก็ขม เคยเห็นกันมานานเพราะนิยม กลับจ่อมลงล้มจากคิดถึงจัง จากคุณ : ขอฝากแค่ฝัน เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 54 23:35:00

ความคิดเห็นที่ 90 กลิ่นน้ำเน่าลอยมาให้หวั่นไหว จะจับไข้ยามดมใจคิดหนี ร้อนก็ร้อนน้ำเหม็นค่าชีวี เชื้อโรคมีมากมายจำอดทน จะหายยังน้ำท่วมที่มาแกล้ง ใจแห้งแล้งหมดสิ้นมาหลายหน เบื่อและเบื่อกับน้ำที่ได้ยล จำอับจนนั่งนอนข้างน้ำริน จากคุณ : ขอฝากแค่ฝัน เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 54 00:45:13

ความคิดเห็นที่ 91 สวัสดีค่ะพี่,เพื่อนทุกคน ช่วงนี้ไม่มีอะไรดีกว่า..ภาวนา- ให้ไทยรอดจากน้ำท่วมเร็วๆนะคะ ..................................... หนาวในหนาววิกฤติ น้ำท่วมฤทธิ์ก่อปริศนา คืนวันพร่ำพรรณนา รอนรอนเข้าคลอเคลียคราง คลื่นน้ำฟาดกราดเกรี้ยว ใจกลับเปลี่ยวอาลัยห่าง บรรเลงแว่วเลือนราง หนาวอ้างว้างเรื่อยเรื่อยยิน อุทกภัยหาญล้ำล่วง ล้างทั้งปวงมลายไปสิ้น เห็นแผ่นดินแสนถวิล จ่อมจมลงปฐพีเลือน ใจแกร่งสู้แรงน้ำ คอยบอกย้ำจะไม่เบือน ตราบวายใจจะเหมือน แท่งศิลามิเจือแปร แม้ใจทุกข์กับภาพรอบด้าน ก็ต้องผ่านไปได้แน่ ทั่วโลกรอนกับทุกข์ยังลุกแก้ หาใช่แย่แค่เราต้องมาเป็น จากคุณ : ญามี่ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 54 23:28:58

ความคิดเห็นที่ 92 อาจหวั่นไหวกับภัยในธรรมชาติ ไม่ประมาทน้ำท่วมในทุกที่ แต่ยังมองโลกนี้มีสิ่งดี หวังชีวีจะสุขไปอีกนาน คลื่นน้ำไหลเชี่ยวกราดให้ลำบาก ใจยังฝากนัยคิดให้ประสาน ต่อปัญหาที่เกิดจะแก้การณ์ ต้องได้ผ่านเหตุการณ์ที่ร้ายแรง จากคุณ : พระรามหัดท่องเน็ท เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 54 01:00:17

ความคิดเห็นที่ 93 สวัสดีค่ะพี่.เพื่อน ฟังข่าวแล้วเศร้าจัง เมืองไทยต้องสั่ง ผัก,ผลไม้จากต่างชาติแล้ว... ...................................... เมื่อลมหนาวโชย ความเศร้าก็เข้ามา รู้สึกอยากตื่นไวไว จากความฝันร้ายสักทีไหมคะ? น้ำทะเลหนุนสูงเกินจูงจาก อุบายพรากหมดทางลากห่างได้ กระแสน้ำครื้นเครงบรรเลงไกล สะอื้นในสรรพสิ่งเริ่มทิ้งปอง ทางลิบโล่งกุมภีล์ว่ายลี้สลอน นี่นั่นนอนเห็นกันพาขวัญสยอง ประสานเสียงเกรงกลัวยามมัวมอง แต่ปรองดองกันมั่นไล่ดั้นล้อม สัตว์หลงทางจากบ้านยากต้านสู้ อ้วนเป็นหมูให้จับไม่รับกล่อม จับมาแล้วหวั่นไหวเหมือนไม่ยอม ยังคิดพร้อมเข่นคร่าไม่ลามือ คลื่นน้ำรุกร้อนรนกมลเหงา แววหมองเศร้าขานขับเกินนับถือ “ผู้ใหญ่ท่าน”รอนึกยังฝึกปรือ เพราะน้ำดื้อไม่จากยามลากริน หนาวของชนคั่งคับยากรับอยู่ ต้องจำสู่รานรสไม่หมดสิ้น อยากเป็นนกเที่ยวโดยจะโบยบิน ไม่ต้องนิ่งยินร้าวยากก้าวเลือน จากคุณ : ญามี่ เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 54 14:20:48

ความคิดเห็นที่ 94 เฝ้ารอวันน้ำหายไปจากถนน หนีอับจนความร้าวที่หวั่นไหว หนีความหิวกระหายไปจากใจ หนรอยไหม้หมองหม่นในใจมี ธรรมชาติที่แปรเปลี่ยนจนขมขุ่น ใจยังครุ่นคิดนานแต่จะหนี รอยร้าวรานตามติดไม่ช้าที อาจต้องลี้หากน้ำยังตามมา จากคุณ : เกรียงไกรกวีฝัน เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 54 14:32:26

ความคิดเห็นที่ 95 ข้าวของมีเริ่มหายขาดตลาด น้ำสะอาดล่องหนไม่รู้หน สงบงามแปรเปลี่ยนแต่วกวน ทั่วถนนเลือนลับสุดสายตา ไม่อยากตื่นมาพบกับวันพรุ่ง มองทั่วคุ้งยิ่งหนาวกับเวหา คิดฝ่าฟันต่อสู้กับโชคชะตา เกิดอ่อนล้าเหนื่อยหน่ายกับทางเดิน จากคุณ : แก้วกลมกลม เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 54 14:52:09

ความคิดเห็นที่ 96 ฟ้ามืดลงใจหลงที่ไหนหนอ ได้แต่รอความหวังยังประสงค์ ยังอยากมีชีวาตามจำนง ไม่ใช่พงแดนทมิฬให้หนาวอุรา เสียงหวั่นหวาดยังมากลางวิถี ใจวิ่งหนีกลางทุกข์กองมหา ยังไม่พ้นเดินหลงดงนกกา สุดนัยน์ตามีเห็นก็เพียงน้ำ จากคุณ : ขวดแก้วสีฟ้า เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 54 15:12:52

ความคิดเห็นที่ 97 ดาวหลายดวงลอยเลื่อนหว่างสิงขร แสงพริบตอนต่อยาวสว่างไสว ฉันมองฟ้าที่งามแล้วเปลี่ยวใจ จะเห็นใครมาคลอไม่มีเคียง ดาวยังทอแสงพริ้งแสงอ่อนหวาน อีกไม่นานจะเช้าไม่อาจเลี่ยง น้ำระยิบระยับสั่งใจให้คอยเรียง ให้ฟังเสียง..เลิกแล้วกับฝันร้าย จากคุณ : ขอฝากแค่ฝัน เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 54 15:28:55

ความคิดเห็นที่ 98 ความเป็นอยู่ฝูงชนเริ่มคับแค้น มีแต่แดนน้ำท่วมมากหลากหลั่ง บ้างอพยพจำลาจากเรือนรัง จากพื้นน้ำหาฝั่งห่างระทม ความสูญเสียครั้งใหญ่ด้วยฟ้าฝน โลกบิดเบือนปรับตนก่อทุกข์ขม ภัยมหาใหญ่หลวงที่ทวงระดม ร้องระงมใช่หายยังคงมา จากคุณ : ขุนพลน้อยโค่วจง เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 54 15:48:01

ความคิดเห็นที่ 99 ทุกข์ทั่วหน้าขาดหวังไม่อาจตอบ ที่ล้วนชอบจมหายให้สงสาร รอความหวังน้ำลดแสนทรมาน รอยยิ้มหวานเหมือนลืมกับวันวาน ถึงเวลาต้องคืนกับธรรมชาติ ไร้อำนาจต่อรองกับการอวสาน จำต้องยอมต้องรับกับประทาน อยู่กับกาลน้ำท่วมร่วมรับรู้ จากคุณ : คืนฝันปีศาจน้อย เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 54 16:09:55

ความคิดเห็นที่ 100 นั่งดูข่าวเช้าค่ำให้ใจหวั่น เหมือนความฝันใช่จริงให้ห่วงหา หนาวลึกลึกในทรวงห่วงอุรา น้ำเอ่อมาแสนเศร้าใจคะนึง โทรหาเพราะเป็นห่วงเขาอยู่ไหน นอนอย่างไรวุ่นวายไหมใจคิดถึง ไม่มีเน็ทหรือไรใจรำพึง ได้แค่ส่งคำซึ้งซึ้งมาฝากเธอ จากคุณ : ฝากซึ้งใส่ฝัน เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 54 19:36:06

ความคิดเห็นที่ 101 บนสายน้ำที่ไหลอย่างกราดเกรี้ยว ไม่อาจเหลียวพบใดมาช่วยขัง น้ำถูกปล่อยไหลรินมานองยัง ฝั่งบ้านเรือนกระทั่งนองเต็มเมือง ไม่แค้นเคืองผู้ใดช่วยตัดสิน เริ่มจะชินความช้ำในทุกเรื่อง มองน้ำไหลไปมาอย่างนองเนือง ไม่อยากเปลืองอารมณ์ไปดูมัน จากคุณ : พระรามหัดท่องเน็ท เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 54 20:06:37

ความคิดเห็นที่ 102 เหงาเหงากับวันที่น้ำท่วม ใจกลับรวมเป็นหนึ่งกับความเศร้า มีแต่หวังและหวังในเรือนเงา ใจคอยเฝ้าแต่ถวิลที่ใจปอง ลับไปแล้วทรัพย์สินที่เคยครอบ ใจก็ปลอบคงมีวันคืนสนอง รอกับรอรอแล้วที่เคยครอง ใจจับจองกลับไร้ที่ต้องการ จากคุณ : เมืองมานะ เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 54 20:32:44