Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เรื่องสั้น (ยุคน้ำท่วม เมื่อ ๑๖ ปีก่อน) ติดต่อทีมงาน

เรื่องสั้น (ยุคน้ำท่วมเมื่อ ๑๖ ปีก่อน)

ขอโทษทีเพื่อนเอ๋ย

เพทาย


ผมแวะซื้อน้ำแข็งถุงหนึ่งกับเบียร์ขวดหนึ่งก่อนจะขึ้นบันไดไปชั้นสี่ซึ่งอยู่บนสุด ของแฟลตคนยาก ก็มีผู้เข้ามาทักทาย ขอโทษไม่ใช่คนแต่เป็นสุนัข มันคือหมาไทยพันธุ์ทางตัวหนึ่ง หน้าตา หูและหางเป็นไทยแท้ แต่ตัวยาว ไม่ได้ส่วนกับขาที่สั้น จึงทำให้ดูเตี้ยผิดปกติ ขนขาวลายดำเลอะเทอะ อย่างไม่มีระเบียบตลอดหัวถึงหาง ไม่ทราบว่าใครเป็นเจ้าของ มีปลอกคอทำด้วยเข็มขัดเก่า ๆ เป็นเครื่องหมาย ผมไม่เคยเห็นมันมาก่อนเลย แต่มันก็เข้ามากระดิกหาง และเลียมือเลียขาผมอย่างสนิทสนม

ที่ว่าไม่เคยเห็นมันมาก่อนนั้น น่าจะไม่ถูกต้อง คือที่จริงมันไม่เคยเห็นผมมาก่อนจะถูกกว่า เพราะผมไม่ได้พักที่แฟลตนี้เป็นประจำ เพียงแต่แวะมาดูบ้างเดือนละครั้งหรือสองครั้ง ผมผ่อนไว้สำหรับจะหาผู้เช่า แต่ก็ไม่มีใครสนใจ เพราะตัวแฟลตอยู่ลึกจนสุดเขตของหมู่บ้าน และเป็นชั้นบนซึ่งสูงเกินไป เป็นหลังที่เกือบจะไม่มีคนอยู่ โดยเฉพาะชั้นสี่ของผม ทั้งสิบสี่ห้องมีผมโผล่มาดูแลอยู่เพียงคนเดียว นอกนั้นก็ปิดใส่กุญแจสองสามชั้นแทบทั้งนั้น หรือเขาจะมาวันที่ผมไม่ได้มาก็ไม่รู้นะ

เจ้าด่างนั้นเมื่อทักทายผมเป็นอันดีแล้ว ก็แสดงการละเล่นแบบของมันให้ผมดู คือคาบเอาเศษหนังสือพิมพ์ขาด ๆ วิ่งกระโดดไปกระโดดมา เมื่อเห็นผมไม่เล่นด้วย มันก็คาบกระดาษมาใกล้ เงยหน้าขึ้นจ้องตาผมและกระดิกหางรัวเร็วเป็นเชิงเตือนให้ผมปรบมือให้มัน แล้วก็ออกเดินนำหน้าเมื่อผมขยับตัวออกเดิน มันทำท่าจะเลี้ยวไปตามห้องในชั้นล่าง แต่พอผมเดินขึ้นบันไดมันก็รีบวิ่งกระโดดขึ้นบันได นำหน้าไป ขาของมันสั้นกว่าหมาไทยทั่วไป การกระโดดขึ้นบันไดของมัน จึงต้องออกแรงมากหน่อย จนถึงชั้นที่สี่ที่เป็นห้องของผม มันก็เดินนำหน้ากระดิกหางไปเห็นก้นส่ายน่าดู

ห้องพักนั้นแบ่งออกเป็นสองฟากหันหน้าชนกัน ด้านละเจ็ดห้อง มันก็รีรอว่าผมจะหยุดที่ห้องไหน ผมหยุดไขกุญแจห้องที่สี่ด้านซ้าย มันก็ยืนรอจนเปิดประตูออก แล้วรีบผลุบเข้าไปข้างใน เดินสำรวจดมไปทั่วห้อง แต่ปากก็ยังคาบเศษหนังสือพิมพ์อยู่ตลอดเวลา ผมรีบร้องห้ามเสียก่อนว่าอย่าฉี่รดบ้านนะ มันเดินตรวจจนรอบห้องแล้วก็หันมากระดิกหางระรัวอยู่ตรงหน้า ในขณะที่ผมนั่งลงบนเก้าอี้ มันคงอยากจะบอกว่าห้องของผมโล่งโถงน่าสบายก็ได้ เพราะมีแต่เก้าอี้สองสามตัว กับเสื่อผืนหมอนใบ สำหรับปูนอนเวลามาพักเท่านั้น ความจริงที่ผมพูดกับหมานี้ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเมื่อผมอยู่ที่แฟลตนี้คนเดียว ครั้งละเกือบยี่สิบสี่ชั่วโมง ผมไม่รู้จะพูดคุยกับใครก็พูดกับจิ้งจก แมลงสาบ และมด เพื่อนร่วมห้องของผมอยู่เป็นประจำ

ผมรู้สึกว่าหมดเวลาจะทำความรู้จักกันแล้ว จึงขอกระดาษไว้ เผื่อมันจะได้กลับไปที่เดิม แต่มันไม่ยอมปล่อย ผมจึงดึงกระดาษที่มันคาบจูงออกไปนอกห้อง แล้วก็รีบปิดประตู เสียงมันตะกายประตูแกรกกรากสองสามครั้ง แล้วก็เงียบไป ผมนั่งเหยียดเท้าลงกับพื้นห้อง พลางหยิบแก้วพลาสติกชงเบียร์กับน้ำแข็งดื่มแก้กระหาย นึกอัศจรรย์ใจว่า ผมกับเจ้าด่างนี้ได้เคยรู้จักกันมาแต่ ชาติไหน จึงได้สนิทสนมกันในเวลาอันรวดเร็วปานฉะนี้ ดูแววตาแล้วเป็นหมาที่ฉลาดซื่อสัตย์ และใจดีไม่ดุร้ายเป็นอันตรายต่อใคร

ผมเป็นคนไม่ชอบเลี้ยงหมา แต่รักหมาทุกตัวในโลก ที่ไม่เลี้ยงก็เพราะไม่ต้องการมีทุกข์ ในเวลาที่มันป่วยหรือตาย เพราะท่านว่าหมามีอายุน้อยกว่าคน ตั้งหลายเท่า ผมจึงแอบไปรักหมาของชาวบ้านอยู่เสมอ เย็นนี้เห็นจะต้องซื้อไก่ย่างมาเลี้ยงฉลองสัมพันธไมตรีกันหน่อย ผมบอกกับตนเอง เพราะกะว่าจะนอนค้างที่นี่ ดูท้องฟ้ามืดมัวเหลือเกิน ขี้เกียจเดินทางขึ้นรถเมล์ไปติดฝน ตอนเข้ากรุงเทพ

แล้วผมก็ต้องประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อเปิดประตูห้องจะออกไปหาอาหารเย็น และพบว่าเจ้าด่างยังนอนหมอบอยู่หน้าห้องของผม เหมือนกับมันไม่ได้ไปไหนเลย ตลอดเวลาสามสี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ผมเอามือลูบหัวมันด้วยความเอ็นดูและตื้นตันใจในความน่ารักของมันซึ่งมันก็ตอบแทนด้วยการเลียมือผม แล้วเราก็เดินลงมาข้างล่างด้วยกัน

ดังนั้นเมื่อผมไปซื้ออาหารกลับมา พร้อมกับเบียร์ขวดใหญ่ จึงมีไก่ย่างหนึ่งตัว ซึ่งเป็นกรณีพิเศษจริง ๆ เพราะผมเองนั้นไก่ย่างสองปีกหรือขาเดียวก็พอกินแล้ว เมื่อเจอเจ้าด่างยืนกระดิกหางรออยู่แล้ว จึงเปิดถุงหยิบไก่ย่างที่ผมยังไม่ได้ชิมเลย วางไว้ให้สองสามชิ้น พลางก็บอกว่ารอไว้พรุ่งนี้เช้าเถอะจะให้ทั้งหมดเลย คืนนั้นผมนอนคิดถึงความผูกพันระหว่างเรา ผมกับเจ้าด่าง คนกับหมาที่เพิ่งจะรู้จักกัน ด้วยความสุข จนหลับไปโดยไม่รู้ว่าฝนตกหรือเปล่า

เช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อผมกินอาหารที่เหลือเมื่อเย็นวาน พออยู่ท้องแล้ว ก็ปิดห้องลงบันไดมาทีละชั้น ผมผิวปากเรียกเจ้าด่างไปพลาง แต่ก็ไม่เห็นมันวิ่งสวนขึ้นมา จนถึงชั้นสองก็แวะไปชะโงกดู มันอยู่ที่หน้าห้องที่สาม นอนเอาคางเกยขาหน้ามองผมอย่างเฉยเมย ผมเรียกมันเบา ๆ มันก็ไม่ลุกขึ้น แม้ผมจะผิวปากมันก็เฉย แปลกแฮะ ผมนึกในใจ เพียงคืนเดียวอย่าว่าแต่คนเลยหมาก็เปลี่ยนใจได้ ผมยังไม่ละความพยายามเดินเข้าไปใกล้เอาถุงกระดูกและเนื้อไก่ย่างร่วมครึ่งตัวไปล่อที่จมูกของมัน คราวนี้ได้ผล มันลุกขึ้นอย่างเกียจคร้านแม้หางก็ไม่กระดิก ผมล่อมันออกมาตรงที่ว่างหัวบันได แล้วก็เอาถุงไก่วางลงบนพื้น ม้วนขอบถุงให้มันกินได้สะดวก เอาเลยเพื่อน ล่อให้หมดเลย ผมบอกกับมันเบา ๆ แล้วก็เดินลงบันไดไป มันก็ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาสบตาผมเหมือนอย่างเคย คงขบกระดูกกรอบแกรบง่วนอยู่

เมื่อผมเดินลงมาถึงชั้นล่าง ก็รู้สึกใจหายวูบ เสียใจ เสียดาย และอายหมาจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี ตรงหน้าของผมคือเจ้าด่าง เจ้าด่างตัวจริงยืนกระดิกหางจ้องหน้าผม เหมือนจะทวงไก่ที่บอกว่าจะให้เมื่อวานนี้ ผมเหลือแต่มือเปล่า ไม่รู้จะแก้ตัวประการใด ก็เจ้าตัวเมื่อกี้มันรูปร่างหน้าตาขาแขน เหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน ผมไม่รู้จะทำอะไรให้ดีไปกว่าก้มลงเอามือลูบหัวเจ้าด่างเพื่อนผม เป็นการปลอบใจ อยากจะยกมือไหว้ขอโทษมันเสียด้วยซ้ำ มือผมจึงสะดุดปลอกคอของมัน ปู้โธ่ ผมเซ่อเองที่ไม่ได้สังเกตเจ้าสิ่งนี้ จึงเกิดการผิดพลาด ผิดฝาผิดตัวไปอย่างไม่น่าให้อภัย

ขอโทษทีเถิดเพื่อนเอ๋ย ผมรำพึงอยู่ในใจ ขณะที่เบือนหน้าหลบสายตาอันแสนซื่อของมันไปทางอื่น.

##########

นิตยสารทหารสื่อสาร
มกราคม ๒๕๓๙

 
 

จากคุณ : เจียวต้าย
เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 13:27:15




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com