Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
'''!!!||||||||||||| บาปห้อเลือด |||||||||||||!!!''' [ตอนที่ 01] ติดต่อทีมงาน

The Ecchymosed Sin – บาปห้อเลือด

(คำโปรย)


ปรัชญา เพิ่งสูญเสียคนที่เขารักมากที่สุดไป

เขาปฏิญาณกับตัวเองว่าจะทำ ทุกอย่าง เพื่อให้ได้เธอคืนมา

ไม่มีใครรู้ว่า ความพยายามนี้ ทำให้จิตใจเขา ผิดปกติ

ฟาห์ คือเด็กสาวที่เขารับมาเลี้ยงดู เพื่อเป็นร่างสังเวยในพิธีชุบชีวิต

เธอปฏิญาณกับตัวเองว่าจะทำ ทุกอย่าง เพื่อให้เขาล้มเลิกความตั้งใจ

ไม่มีใครรู้ว่า ความพยายามนี้ ทำให้จิตใจเธอ เปลี่ยนไป

ในเวลาที่ ความรัก ต้องจบลงด้วยการ นองเลือด อยู่เสมอ

เธอจะทำอย่างไรเพื่อให้มีชีวิตรอด

และได้รับความรักจากเขาเป็นของรางวัล

 

 

ทุกบรรทัดและทุกตัวอักษรในเรื่องนี้

ทุกท่านสามารถติชมได้อย่างเต็มที่เลยเน่อ

เรายินดีปรับปรุงผลงาน เพื่อให้นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทุกคนอยากอ่าน

ขอฝากนัก(อยาก)เขียนมือใหม่คนนี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจทุกท่านด้วยเน่อ

ขอบคุณฮัฟ m( _ _ )m


 


บทนำ

 

เวลาบ่ายสองโมงตรง วันหนึ่งในห้าปีก่อน...

ท่ามกลางท้องฟ้าแจ่มใสไร้เมฆหมอกขมุกขมัว เสียงนกร้องเพลงอย่างร่าเริงเสนาะหู และเงาไม้ร่มรื่นที่พัดไกวยามเมื่อลมพัดผ่าน ที่สุสานฝังศพของโบสถ์ซึ่งตั้งอยู่บนเนินสูง มีผู้คนในชุดโทนดำกลุ่มหนึ่งกำลังหลั่งไหลเข้ามา น่าเสียดายที่ความสมบูรณ์แบบของอากาศวันนี้ ไม่อาจกลบความเศร้าโศกที่เกิดขึ้นในใจพวกเขาได้

ทั้งๆที่อยู่ภายใต้ท้องฟ้าสดใสกับแดดรำไร แต่นาทีนี้สิ่งที่พวกเขาสดับได้ กลับมีแค่เสียงร้องห่มร้องไห้ที่ดังมาจากร่างของสาวน้อยและสาวใหญ่คู่หนึ่ง ที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับคนที่สำคัญที่สุดของงาน

ในบรรดาผู้คนที่มาร่วมงาน พบว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีบุคลิกแตกต่างจากคนอื่นๆ เขายืนนิ่งอยู่หน้าหลุมเปล่าที่ขุดไว้สำหรับฝังโลง ข้างในตามีน้ำใสคลออยู่ปริ่มขอบ ปากกัดแน่นจนสั่น เขากลั้นใจดูสถานที่พักพิงแห่งสุดท้ายของคนรักอย่างทุกข์ทรมาน มันลึกลงไปเมตรกว่า และคับแคบเหลือเกิน สิ่งมีชีวิตที่แสนพิเศษเช่นเธอจะมาลงเอยอยู่ในที่แบบนี้ได้อย่างไร เขาไม่อาจยอมรับความจริง

สีดำล้วนของเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่ ตัดกับสีเขียวจัดจ้านของพื้นหญ้าจนคล้ายภาพคนละใบ โลงศพสีขาวสะอาดที่กรุด้วยเส้นสีทองตลอดแนวขอบ ถูกคนของสุสานยกเข้ามาอย่างเงียบเชียบ ทุกคนถอยห่างจากหลุมศพคนละก้าวสองก้าว ยกเว้นชายหนุ่มคนนั้นที่ยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหว ทั้งๆที่เขายืนขวางเป็นจระเข้ขวางคลอง แต่กลับไม่มีใครทักท้วงการกระทำของเขา ทุกคนคล้ายจะเข้าใจดีว่านี่เป็นช่วงเวลาสุดท้ายที่เหลืออยู่ ที่เขาจะสามารถหลอกตัวเองได้ว่าคนรักของเขา...ยังไม่ตาย

หลังจากเวลาผ่านไปราวๆครึ่งนาที เขาก็เปิดทางให้แล้วก้าวไปยืนข้างๆแทน แม้เวลาครึ่งนาทีจะฟังดูแสนสั้นนัก แต่มันช่างยาวนานเหลือเกินสำหรับเขา เช่นเดียวกับเวลาที่เหลืออยู่ชั่วชีวิตนี้ ที่พอไม่มีเธอแล้ว มันก็เหมือนจะยาวนานไม่สิ้นสุด

โลงถูกฝังลงไปในหลุม จนคนที่ยืนอยู่รอบๆมองเห็นแค่ขอบด้านหนึ่งของมัน ถัดจากนั้นบาทหลวงประจำสุสานก็เข้ามาทำพิธี บรรยากาศร่มรื่นพลันกลายเป็นความหม่นเศร้า เสียงสวดมนต์ดังคลอเคล้าไปกับความขมขื่น ทุกคนเอ่ยอำลาในใจ และขอให้เธอไปสู่สุคติ

ทว่าความปรารถนาอันแรงกล้าของชายหนุ่มกลับมีกลิ่นอายที่แตกต่างออกไป เขาต้องการให้เธอกลับมาไม่ว่าจะด้วยสภาพใดก็ตาม จะเป็นผีหน้าเน่าเฟะ หรือเป็นแค่ธุลีสีหม่นในอากาศ เขาไม่สนเลยว่าสิ่งที่ตนต้องการนั้นจะพิลึกพิสดารแค่ไหน เขารู้แค่ว่าเวลานี้เขายังไม่พร้อมที่จะปล่อยมือจากเธอ และขอร้องให้เธออย่าปล่อยมือจากเขาไปเหมือนกัน

กระแสความคิดหนึ่งพุ่งปราดมาในสมอง ขณะที่ท้องฟ้าแจ่มใสเริ่มหม่นลงที่ขอบฟ้าไกลๆ เขาเลิกสนใจพิธีกรรม เลิกร้องไห้กับบทสวด และเริ่มสำรวจหลุมศพอีกครั้ง ผิดแต่ว่าคราวนี้เขามองมันด้วยแววตาที่แตกต่างออกไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

เขาจะต้องนำเธอกลับมา

ทุกคนเริ่มกระวนกระวายเมื่อฝนตั้งเค้าจะตกห่าใหญ่ เสียงสวดเร่งกระชั้นขึ้นอย่างรวบรัด แต่เขาไม่สนใจทั้งพิธีกรรม บทสวด หรือฟ้าฝน เขาสนเพียงอย่างเดียวคือวิธีที่จะรั้งเธอไว้กับเขาตลอดไป สมองเขาตรึกตรองอย่างหนัก สารพัดวิธีลื่นไหลมาในหัว

 

ครืนนน!!!

 

แต่แล้วเสียงฟ้าร้องก็สนั่นขึ้น มันกระชากเขาออกจากการจมดิ่งในความคิดตัวเอง พอตวัดมองขึ้นฟ้า ก็เห็นเมฆดำกลุ่มหนึ่งกำลังเคลื่อนเข้ามาอย่างรวดเร็ว ประหนึ่งว่าเป็นควันไฟที่ถ่ายเข้ามาในห้องปิดทึบ เพียงไม่นานก็เบียดบังดวงอาทิตย์จนมิด ทำให้เมืองทั้งเมืองตกอยู่ในบรรยากาศมืดครึ้มเหมือนมีสุริยคราส ประกายเส้นสีทองแล่บเป็นแสงจ้าหลังการระเบิดใหญ่บนเมฆ ก่อนที่ฝนเม็ดแรกจะร่วงลงมาแตะแก้มเขา มันเย็นจัดเหมือนน้ำแข็ง เขาแหงนหน้าขึ้นมองฟ้าด้วยแววตาคมกล้ามุ่งมั่น คล้ายรับฟังอาญาสวรรค์

ฝนเทลงมาประหนึ่งฟ้ารั่ว บรรดาแขกที่มาร่วมพิธีฝังศพต่างกุลีกุจอไปหลบในโบสถ์ หากแต่ชายหนุ่มยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เนื้อตัวเขาเปียกปอน กำหมัดแน่น เขม็งมองฟ้าด้วยแววเคียดแค้น

ท่ามกลางเสียงร้องเตือนของคนที่อยู่ใต้ร่มเงาของพระเจ้า เขายืนตากฝนเพียงลำพัง

 

เปรี้ยง!!!

 

เสียงฟ้าผ่าดังลั่นขึ้นมา! ก่อนที่อสุนีบาตจะฟาดลงมายังโคนต้นไม้แห้งที่อยู่ห่างไปไม่ไกล แม้จะได้ยินเสียงคนกรีดร้อง แต่เขายังไม่ยอมละออกมาจากจุดที่ยืนอยู่ และไม่ยอมละสายตาจากฟ้าเบื้องบนเช่นกัน

เธอเป็นของผม... เขาพูดเสียงต่ำ คล้ายว่าคนฟังกำลังยืนอยู่ใกล้ๆ

จู่ๆสายลมก็กรรโชกแรงขึ้น ทั้งเศษฝุ่นและใบไม้ต่างปลิวไปบนพื้นเหมือนถูกพายุซัด! เสียงฟ้าคำรามกระหึ่มขึ้นอีก ชายหนุ่มกำมือแน่น มองตาขวางไปยังท้องฟ้าสีเทา แล้วตะโกนสุดเสียง!

เธอเป็นของผม! เธอคนนี้เป็นของผม! แม้ว่าตอนนี้พวกคุณจะมีอำนาจมากกว่า แต่สักวันผมจะเอาเธอคืน! ผมจะทำลายกฎของคุณให้ดู! ผมจะทำให้เธอเป็นของผมตลอดกาล!”

ฉับพลันนั้น! สายฟ้าเส้นหนึ่งก็ฟาดลงมาที่ป้ายหลุมศพตรงหน้าเขาอย่างจัง! พร้อมกับเสียงดังสนั่นหวั่นไหว! แรงระเบิดทำให้ป้ายหลุมศพแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ตัวเขากระเด็นไปหลายเมตร ทันทีที่ร่างกระดอนลงบนพื้น เลือดลำหนึ่งก็พุ่งออกจากปาก ชายหนุ่มไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะกรีดร้อง เขาสลบไปทันที

เสียงหวีดร้องดังตามมา คนในร่มแตกตื่นเหมือนผึ้งแตกรัง เสียงโวยวายดังโหวกเหวกจนบาทหลวงประจำโบสถ์ต้องออกหน้าห้ามปราม ขณะที่คนส่วนใหญ่ช่วยเหลือเขาด้วยการโทร.ตามรถพยาบาลจากข้างในนั้น กลับมีเด็กสาวคนหนึ่งวิ่งฝ่าสายฝนออกมา ที่นิ้วนางข้างซ้ายของเธอสวมแหวนหมั้นแบบเดียวกับที่ชายหนุ่มสวมอยู่

ร่างบางวิ่งตรงไปหาชายหนุ่มโดยไม่สนความโกรธเกรี้ยวของฟ้าฝน พอถึงตัวก็พยายามพยุงเขาลุกขึ้น แต่ตัวเขาหนักเกินไป หรือไม่เธอก็แรงน้อยเกินไป ทำให้ร่างหล่นตุบบนพื้นอีกครั้ง เด็กสาวหันหาความช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครอยู่ตรงนั้น และไม่มีวี่แววของรถพยาบาล เม็ดฝนกระหน่ำกับลมแรงทำให้ทุกสรรพสิ่งกลายเป็นภาพเบลอ เธอพิศมองเขาด้วยแววโศกตรม แทบจะสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่เขาแบกรับไว้ จากนั้นก็หันไปทางหลุมศพของพี่สาวตน ที่บัดนี้ป้ายหินพังทลายลงด้วยแรงฟ้าผ่า

เด็กสาววิงวอนด้วยจิตตั้งมั่น จนคล้ายจะทุ่มสมาธิทั้งหมดไปกับการพูดคุยกับคนที่อยู่ต่างมิติ ความปรารถนาที่ต่างกันจากคนสองคน ถูกส่งไปยังคนๆเดียวกันในเวลาไล่เลี่ย หากแต่ไม่แน่ใจว่าคนผู้นั้นจะรับรู้ได้รึเปล่า

เด็กสาวลืมตาขึ้นเมื่อเสียงฝนเงียบไป เมฆดำทะมึนค่อยๆสลายตัว แสงแดดเริ่มส่องลงมาอีกครั้ง ขณะที่บรรยากาศเริ่มกลับสู่ความสดใส เธอยิ้มน้อยๆให้ชายหนุ่มที่เริ่มได้สติ เขากระพริบตาถี่ๆให้ชินกับแสงสว่าง ก่อนจะยันกายขึ้นจากพื้น

ป้ายหินพังไปแล้ว แต่พิธียังดำเนินต่อไป ชายหนุ่มอยู่จนจบงาน เขาอยู่ที่นั่นจนแขกทุกคนทยอยกลับกันไปหมด จนเหลือเขาเพียงคนเดียว

รอดูฝีมือผมบ้างแล้วกัน เขาพูดเสียงต่ำ พลางชำเลืองขึ้นฟ้า

อะไรที่ผมเคยทำได้มาแล้วครั้งหนึ่ง ผมจะทำมันให้ได้อีกครั้ง ต่อให้คราวนี้ไม่มีพวกคุณช่วยเหลือ ต่อให้ผมต้องกลายเป็นกบฏของพระเจ้า ผมก็จะไม่ถอย ผมจะทำทุกอย่างเพื่อนำเธอกลับมาให้ได้ พวกคุณคอยดูฝีมือผมจากบนนั้นแล้วกัน

จบคำนั้น ชายหนุ่มก็เดินจากไป พร้อมกับความตั้งใจเปี่ยมล้น ชนิดที่ไม่ว่าสิ่งใดบนโลก ก็ไม่อาจทำให้มันสั่นคลอนลงได้



---- รบกวนติชมด้วยนะคะ ----

แก้ไขเมื่อ 22 ต.ค. 54 08:31:37

แก้ไขเมื่อ 22 ต.ค. 54 08:31:04

แก้ไขเมื่อ 22 ต.ค. 54 08:28:42

แก้ไขเมื่อ 22 ต.ค. 54 08:27:34

แก้ไขเมื่อ 22 ต.ค. 54 08:26:18

แก้ไขเมื่อ 22 ต.ค. 54 08:25:09

จากคุณ : ผีเสื้อผีดิบ
เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 54 08:24:02




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com