เพราะพรุ่งนี้ต้องมารับเธอที่นี่ตั้งแต่เช้า หรืออาจเป็นเพราะความสงสัยว่าทำไมวันนี้เธอจึงไม่ได้ไปเยี่ยมน้องชาย หรือเหตุผลอีกมากมายที่พีรภาสอยากจะหยิบยกมาเพื่อบอกว่า ทำไมเขาขับรถมาจอดอยู่ที่นี่ ทั้งที่มันไม่ใช่ทางกลับบ้าน ทั้งที่อยากจะบอกตัวเองว่าควรพักผ่อนเสียบ้าง
ชายหนุ่มส่งสายตาไปยังสะพานสายแคบอย่างครุ่นคิด ก่อนจะตัดสินใจก้าวลงจากรถ เมื่อบอกตัวเองได้แล้วว่า ไหนๆ ก็มาแล้ว จะเดินเข้าไปสักนิดจะเป็นอะไรไป เข้าไปเพื่อจะได้รู้ว่าเธอทำอะไรอยู่ น้องชายของเขาอุตส่าห์เอาชีวิตมาเสี่ยง วันหยุดทั้งทีไม่ไปเยี่ยม จะใจร้ายเกินไปไหม
แม้จะเดินไปข้างหน้าบ้าง หยุดเดินบ้าง คิดถอยหลังกลับบ้าง แต่ในที่สุดคนที่อยากมาเยี่ยมก็เดินมาถึงสุดปลายกำแพงจนได้ เพียงแต่ก้าวต่อไปเขาต้องตัดสินใจอีกครั้งว่า จะเดินเข้าไปหรือ...ถอยหลังกลับ
เมื่อตัดสินใจได้ในที่สุด พีรภาสจึงหันหลังกลับไปทางเดิมทันที ถ้าเธอถามขึ้นมาล่ะ ว่าเขามาที่นี่ทำไม แล้วจะตอบออกไปว่าอย่างไร เพราะฉะนั้นเขาก็ต้องเลือกที่จะ...ถอยหลังกลับ
“อ้าวพี่ปูน สวัสดีค่ะ มาทำอะไรคะเนี่ย”
บางครั้งการหันหลังกลับอาจจะย้อนมาเจอปัญหาเดิม ผู้มาเยือนหยุดนิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะส่งเสียงปลอบใจตัวเอง สถานการณ์ต่อไปอาจจะไม่เลวร้ายก็ได้ สิ่งที่คิดว่ามันคือปัญหาบางทีอาจจะเป็นเพียงการคิดไปเอง ถ้าไม่เผชิญกับมันก็คงจะผ่านไปไม่ได้ คงจะเป็นจริงเพราะคนตรงหน้ายังส่งยิ้มมาให้
“สวัสดีครับ” คนตอบยังคงยืนนิ่ง
“พี่ปูนมาทำอะไรคะ หรือว่าปายเป็นอะไร” เจ้าบ้านคาดเดาเมื่อเห็นคุณชายเงียบไป
ตั้งแต่เกิดเรื่องดูเหมือนพี่ปูนจะกลับไปสงบปากสงบคำเหมือนเดิม หรืออาจจะเป็นเพราะต่างคนต่างยุ่งในส่วนงานของตัวเอง เลยไม่ค่อยมีเวลาคุยกันมากนัก ระหว่างนั่งรถไปด้วยกันก็เหมือนไม่มีเรื่องอะไรจะคุย ปล่อยให้เสียงเพลงในรถและบรรยากาศรอบข้างเข้ามามีผลเสียมากกว่า ช่วงพักกลางวันธีรภัครก็ชวนเธอคุยเสียจนไม่ได้มองอีกคน
เรียกได้ว่าตั้งแต่เธอเอ่ยขอบคุณเขาเรื่องการปลอบใจในวันนั้น ก็แทบไม่ได้คุยอะไรกันอีกเลย
“อ้อ...เปล่า” เมื่อเห็นว่าตัวเองชักจะเงียบนานเกินไปแล้ว เขาจึงตอบออกมาอย่างตะกุกตะกัก “เจ้าปายบ่นถึงน่ะ เลยกะว่าจะชวนไปเยี่ยม”
ในที่สุดพีรภาสก็คิดหาเหตุผลจนได้ แม้วันนี้เขาจะไม่ได้ยินน้องชายบ่นถึงเพื่อนรักสักคำ แต่สำหรับคำพูดที่ถามไถ่ก่อนออกมานั้น บอกได้ชัดเจนยิ่งกว่าการบ่นถึงเสียอีก
เหตุผลของคุณชาย ทำให้ภาพฝันต้องประมวลผลในหัวอยู่พักใหญ่ แล้วอีกคนจะบ่นถึงทำไมกัน เมื่อวานก็เพิ่งไปเยี่ยม แถมคนที่อยู่โรงพยาบาลก็รู้ว่า วันนี้วันอาทิตย์มีสอนศิลปะน้องๆ ที่นี่
“ปายหรือคะ บ่นถึงฝัน” หญิงสาวทำหน้าสงสัย
ในเมื่ออีกคนไม่ได้บ่นถึงจริงๆ แถมอีกคนก็ทำสีหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อ พีรภาสก็รู้ได้ทันทีว่า...ไม่ใช่เหตุผลนี้
“อ้อ...บ่นอยู่ว่าน้องฝันทำอะไรอยู่ประมาณนี้” พีรภาสยังหาทางไปต่อ
“อ๋อ...คงจะคิดถึงน้องๆ ที่นี่มากกว่าค่ะ เลยอยากรู้ว่าฝันสอนไปถึงไหนแล้ว” ภาพฝันพยายามปะติดปะต่อ และทำความเข้าใจในเจตนารมณ์ของคุณชาย
“สอน...” ชายหนุ่มทวนคำนั้นอีกครั้ง สอนอะไร ในเมื่อเธอเพิ่งจะกลับมา ในมือนั้นมีสีน้ำอยู่สองสามขวด คนสงสัยทำหน้าฉงนก่อนจะไหลไปตามน้ำ “ใช่...ใช่ ปายเลยให้พี่มาดูไง”
ไม่มีคำพูดใดๆ จากเจ้าบ้าน เธอเพียงส่งยิ้มพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะเดินผ่านคุณชายเพื่อไปยังลานเล็กๆ ใต้ถุนบ้านไม้หลังเก่าถัดจากสุดปลายกำแพงไปสองสามหลัง ที่นั่นมีเด็กๆ นั่งล้อมวงบนแคร่ไม้ไผ่ ส่งเสียงพูดคุยกันด้วยสีหน้าตื่นเต้น ด้านหน้าทุกคนมีกระดาษสีขาวคนละแผ่น
“แหมพี่ฝันไปแปบเดียว ส่งเสียงไปถึงหน้าปากซอยกันเลยนะ” ภาพฝันวางขวดสีน้ำลงกลางวง เด็กๆ ก้มลงมามุงกันใหญ่ “ไง หาอะไรมาได้บ้าง คีช่วยไปเอาพู่กันในห้องพี่ฝันมาเพิ่มอีกซักสี่ด้ามนะ”
หลังจากหันไปบอกคีรัช คุณครูภาพฝันก็เริ่มผสมสีเพิ่มอีก ทั้งสีเขียว สีม่วง และสีส้ม เมื่อรวมกับแม่สีอีกสามสี ก็มีพอที่จะแต่งแต้มจินตนาการได้แล้ว คนมาเยี่ยมลังเลเพียงครู่ก็เดินมาร่วมมุงกับเขาด้วย ตรงกลางแคร่มีทั้งกิ่งไม้ ใบไม้ขนาดต่างๆ ขนไก่ ถุงพลาสติก ไม่เว้นแม้กระทั่งเศษไม้กวาด
พีรภาสมองดูอุปกรณ์แล้วอดยิ้มออกมาไม่ได้ ทำไมการเรียนศิลปะจะต้องเริ่มจากตรงนี้ด้วย เขาจำได้ว่าเมื่อครั้งอยู่ชั้นอนุบาลคุณครูแจกก้านกล้วยคนละอัน นำไปจุ่มสีน้ำแล้วไปแปะบนกระดาษเปล่า เพื่อให้เกิดเป็นรูปต่างๆ เพียงแต่ผลงานของเขานั้น คือการแปะไปตรงไหนก็ได้ ขอให้เต็มกระดาษไว้ก่อน
“พี่ปูนสนใจลองดูซักรูปไหมคะ” ภาพฝันนึกสนุกหันมาชวนแขก เธอเคยได้ยินมาว่าคุณชายพีรภาสไม่ค่อยจะกินเส้นกับศิลปะสักเท่าไร เพื่อนรักเคยเล่าให้ฟังว่าเขาต้องรับภาระการบ้านวิชาศิลปะของคุณชายเกือบทุกชิ้น
“ไม่ล่ะ” คนถูกชวนได้แต่ส่ายหน้า แต่เมื่อเห็นภาพของเด็กๆ ที่ละเลงสีกันอย่างสนุก เขาก็อดยิ้มออกมาด้วยไม่ได้ ยิ่งได้มองภาพของคุณครูที่ดูเหมือนเธอจะตั้งใจประดิดประดอยเป็นพิเศษ แค่เศษไม้และขนไก่เธอยังทำให้เป็นกระท่อมกลางป่าได้เลย แต่มองอยู่ได้สักพักเขาก็ตัดสินใจเดินกลับออกไป
“พี่ปูนไม่เบื่อเหรอคะ...” คนที่กำลังสนุกกับการละเลงสีลงบนกระดาษของตัวเอง สำรวจภาพของน้องๆ แล้วหันไปหาคุณชายอีกครั้ง...หายไปไหนแล้ว คิดจะมาก็มา คิดจะไปก็ไป สงสัยจะไม่ถูกกับงานศิลปะเอาจริงๆ
จากคุณ |
:
pormare
|
เขียนเมื่อ |
:
วันปิยมหาราช 54 18:32:30
|
|
|
|