...Dragon Delivery...#17 (5/7 ครึ่งแรก)
|
 |
http://writer.dek-d.com/lawit/writer/view.php?id=738340
###
ทีละครึ่งก่อนนะคะ คนเขียนกำลังภายในหมดเกลี้ยงแล้ว
###
๕.
โซลโทนั่งอยู่ตรงนั้นอีกนานทีเดียว
เขากินขนม และคิด บางทีคงเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาคิดจริงจังถึงเรื่องอะไรแบบนี้ ปรกติโซลโทไม่ค่อยคิดเรื่องอะไรลึก ๆ เท่าไร เรื่องที่เขาคิดมักเป็นเรื่องวิธีแก้ปัญหา หรือไม่เช่นนั้นก็เรื่องในชีวิตประจำวัน เขาคิดว่าตนคิดไม่เก่งจึงทำเสียมากกว่า ถ้าหากทำไม่ได้ เขาก็หาข้อมูล ถามคนอื่นหรือไม่ก็หาหนังสืออ่าน
แต่ที่นี่ไม่มีใครให้ถาม และไม่มีหนังสือให้อ่าน อีกอย่างหนึ่ง แม้ถามไปจนหมดโลกคงไม่มีใครตอบได้ โซลโท เอชานเป็นใครหรือ เส้นแบ่งบาง ๆ ระหว่างเขากับลุงหมายความว่าอย่างไร และหากว่าทั้งตอนเด็กเป็นผ้าขาว และตอนที่รู้จักความรักล้วนไม่ใช่ตัวตนแท้จริง อะไรจะเป็นตัวตนที่แท้จริงของไซธีน เอชาน
โซลโทเป็นใคร คำตอบไม่น่ายากเท่าไร โซลโทชอบจามี ชอบต้นไม้ ชอบมังกร ชอบขนมของเรนา
โซลโทไม่ชอบสัตว์มีเกล็ด ไม่ชอบความวุ่นวาย แม้จะต้องเจอตลอดเวลา ไม่ชอบเวลาที่รัฟจำศีล โซลโทเป็นน้องของพี่ เป็นเจ้าของร้านเอชาน โซลโทรู้จักคนมากมาย และยิ่งรู้จักเพิ่มมากขึ้นในปีที่ผ่านมานี้ โซลโทเป็นคนรักของเรนา
ชายหนุ่มนิ่งไป
ใจเขาสงบลง มันสงบลงอย่างประหลาด คล้ายกับว่ายามพบตำแหน่งแห่งที่ของตน บางสิ่งก็นิ่งลงได้ เขามองตะกร้าขนม มองไปข้างหน้า แล้วก็มองรอบตัว
"นี่ ท่านอยู่ที่ไหน" ชายหนุ่มเอ่ยในที่สุด "ข้าอยากคุยกับท่าน"
ไม่มีเสียงตอบจากรอบข้าง โซลโทเงียบอยู่ครู่หนึ่ง ครั้นแล้วเขาก็กอดอก นานแล้ว ตอนที่ท่านชายเกือบจะปิดร้านเอชาน เทย์บอกว่าอย่าไปตามเกมของอีกฝ่าย ตอนนั้นโซลโทยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร แต่ตอนนี้ เขาคิดว่าตนเริ่มเข้าใจ ถ้าหากยอมทำตามอีกฝ่าย ก็จะตกอยู่ในกติกาของอีกฝ่าย ไม่อาจออกไปได้เลย
เขามีความจำเป็นต้องทำตามเกมของไซธีนหรือ ที่จริง...บางทีเขาอาจจะเลือกได้กระมัง
"หากท่านไม่ออกมา ข้าก็จะไม่ออกไป" ชายหนุ่มบอกเรียบ ๆ
เขาไม่อธิบายอะไรมากกว่านั้น หากแต่นั่งกอดอกนิ่งอยู่ เวลาผ่านไป...ผ่านไปเรื่อย ๆ โซลโทเป็นคนอดทน เขารอได้ แต่ว่าพอผ่านไปนานเข้า คาดว่าอีกฝ่ายก็คงเริ่มเอะใจเช่นกัน
'เจ้าหมายความว่าอย่างไร' มีเสียงถามมา
"ถ้าท่านไม่มาคุยกับข้า ข้าจะไม่ออกจากที่นี่" ชายหนุ่มบอก กอดอกเฉย "ข้าจะไม่ดูความทรงจำอื่น ๆ ของท่าน ไม่เลือกอย่างที่สามด้วย"
'หึ' อีกฝ่ายหัวเราะ 'เช่นนั้นเจ้าก็ออกไปไม่ได้เหมือนกัน ช่วยใครก็ไม่ ยังคงโง่ไม่มีที่สิ้นสุดอยู่นั่นเอง'
โซลโทไม่ตอบ จากประสบการณ์ที่ผ่านมา เขาเริ่มคิดว่าอย่าตอบดีกว่า และอย่าต่อปากต่อคำด้วย เพราะถ้าหากฟังมากนัก ไม่ช้าคงถูกหลอกจนได้ ชายหนุ่มหลับตาลง เขาขอจ้าวแห่งความตายแล้วว่าให้ตนกลับไปทันช่วยทุกคนได้ อีกอย่างหนึ่ง ถ้าเขากลับไปไม่ได้ อย่างน้อยนี่ก็เป็นการตรึงวิญญาณของไซธีนเอาไว้ไม่ใช่หรือ เขารู้ว่าท่านเจวานเก่ง เทย์ก็เก่งเช่นกัน ข้างนอกมีคนเก่งกว่าเขามากมาย จะต้องปราบความทรงจำของไซธีนที่อยู่ในร่างของเขา จะต้องช่วยเรนาได้ เขาอาจจะทำได้ดีที่สุดแค่นี้แล้ว แค่ไม่ให้วิญญาณของไซธีนได้ร่าง แค่ไม่ให้ฝ่ายนั้นกลายเป็นสิ่งที่ปราบไม่ได้
'หากเจ้าไม่เลือก ก็แตกสลายอยู่ในความทรงจำนั้นแล้วกัน'
โซลโทรู้สึกประหลาด เขาหันกลับไป และเห็นว่าความทรงจำนี้ "ปิด" ลงแล้ว พื้นที่ที่เชื่อมต่อกับโลกภายนอกสูญหาย กลายเป็นเหมือนโลกปรกติ ไอดากับไซธีนในวัยหนุ่มไม่อยู่แล้ว กาลเวลาเริ่มเคลื่อนคล้อยจากจุดเดิม เจ้าของร้านเอชานมองรอบ ๆ ด้วยความรู้สึกงุนงง
'เจ้าจะอยู่ในโลกนั้นอย่างผีตลอดกาลก็ได้ ไม่เช่นนั้นก็จงมาอ้อนวอนข้า ให้ข้าปลดปล่อยเจ้าออกไป'
โซลโทนิ่ง เขากลัว แต่อีกทีหนึ่ง ชายหนุ่มก็คิดว่าตนรู้ บีบคั้นขนาดนี้แสดงว่าเขาเหนือกว่าแล้วใช่ไหมเล่า เขาไม่เดินหมาก อีกฝ่ายก็เดินไม่ได้เหมือนกัน เขาคิดอย่างนั้นก็หุบปากแน่น ไม่ยอมพูดอะไร
...
โซลโทอยากกลับบ้าน
ไม่ได้หมายถึงบ้านไร่ เขาก็อยากกลับบ้านไร่เหมือนกัน แต่ตอนนี้เขาอยากกลับร้านเอชานมากกว่า เขาย้ายตัวเองจากริมทะเลสาบซีเลมาอยู่ในเมือง ตอนแรกเมืองส่วนใหญ่ยังไม่สร้าง เขาก็นั่งอยู่บนเนิน มองชาวบ้าน แต่พอเมืองสร้างมากขึ้น เขาก็เลยขึ้นไปอยู่บนหอไอดา
ตอนแรกหอไอดายังไม่สูงมาก ดูเหมือนเรนาจะเคยอธิบายไว้ เธอบอกว่ามีหนังสือมากก็ต้องมีที่เก็บใหญ่ใช่ไหมเล่า มันก็เลยสูงขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไร แต่โซลโทเห็นว่าพื้นที่ข้างในหอไม่เห็นจะเคยเท่าพื้นที่ข้างนอก อีกอย่างบางทีมาหอไอดา จำนวนชั้นที่อยู่บนผังก็ไม่ยักเท่ากัน ความประหลาดอย่างนี้ชาวซีเลเห็นจนเฉยเลยไม่มีใครคิดอะไร แต่ช่วงแรกที่เจ้าของร้านมาใหม่ก็งง ๆ เอาการ
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้หอไอดายังไม่สูงเท่าตอนนั้น โซลโทขึ้นไปนั่งบนชั้นบนสุดแล้วก็ยังพอเห็นเมืองได้ ไม่ได้เห็นแต่เมฆเหมือนสมัยที่เขาอยู่ เขาก็ดู เมืองก็สร้างไป ความรู้สึกของเขามันแปลก ไม่มีใครเห็นตัว คุยกับใครไม่ได้ แม้แต่ไอดาในโลกนั้นก็ไม่เห็นเขาเหมือนกัน โซลโททำอะไรไม่ได้นอกจากมอง เขาคิดว่านี่คงเป็นวิธีที่ที่ไซธีนจะบีบคั้นเขาแล้ว คนอย่างไซธีนที่อยู่คนเดียวมาเป็นร้อย ๆ ปีคงรู้ดีว่าความเหงาเป็นอย่างไร
เขาเหงา เขาเหงามาก แต่บางทีคงเพราะอย่างนั้น โซลโทจึงมีความจำเป็นต้องหวนกลับไปหาความทรงจำของตน เขาพยายามนึกเสมอว่าตัวเองเป็นใคร เขาพยายามจดจำทุกคนให้ได้ สุดท้ายตอนนี้สิ่งที่จะไม่เสียไปก็มีแต่เรื่องที่อยู่ในใจของตัวเอง เขาก็หวังว่าคนอื่นจะไม่ลืมตนเหมือนกัน
...
'เจ้าทนดีเหลือเกิน' ในที่สุดเสียงก็ดังขึ้น
โซลโทเหลือบมองไปข้างหลัง ตอนนี้หอไอดาชักสูงเกินไปหน่อยแล้ว เขาเห็นข้างล่างมีแต่เมืองตุ๊กตา เลยย้ายมาที่หอสังเกตการณ์เมืองที่เพิ่งสร้างไม่นาน ลุงมายืนอยู่ข้างหลังเขาแต่เมื่อไรไม่ทราบ ยังคงเป็นรูปเงาที่มองทะลุได้ แต่เจ้าของร้านเอชานก็ไม่ถึงกับรู้สึกแปลกใจ บางทีเขาคงชาไปแล้วกระมัง
'ทำอย่างนี้คิดว่าฉลาดแล้วหรือไง' ฝ่ายนั้นถาม เสียงที่เย้ยเยาะมาตลอดกลายเป็นเย็นชา
"ท่านก็มาแล้ว หรือไม่ใช่" โซลโทยิ้มนิดหนึ่ง เขาแปลกใจที่ได้ยินเสียงของตัวเอง เขาไม่ได้ยินมันมานานมากแล้ว
'แล้วไง'
"ก็ตามที่บอกแต่แรก ท่านมาคุยกับข้า" เจ้าของร้านเอชานบอก "ไม่อย่างนั้นข้าก็อยู่ตรงนี้ตลอดไป ข้าไปไหนไม่ได้ ท่านก็ไปไหนไม่ได้เหมือนกัน"
'ช่างเป็นการดิ้นรนของคนโง่ดีจริง ๆ'
"จริง ข้าโง่ แต่ท่านก็ทำอะไรไม่ได้"
เจอไม้นี้ ต่อให้เป็นไซธีน เอชาน ก็ต้องนิ่ง เขาขึงตามองโซลโท แต่ชายหนุ่มไม่สนใจ
'เจ้าจะคุยอะไร' อดีตเจ้าของร้านนั่งขัดสมาธิลงในที่สุด ทั้งสองประสานสายตากัน
"เมื่อแรกข้าเพียงแต่จะบอกว่าท่านไม่ยุติธรรมกับข้า ข้าไม่ต้องการเล่นเกมนี้จนกว่าจะได้รับความยุติธรรม" โซลโทบอกช้า ๆ "แต่มันนานมากแล้ว ข้าก็เลยต้องคิดเรื่องอื่น ๆ ด้วย มีเรื่องหนึ่งที่ข้าสงสัยมาตลอด ยิ่งกว่าความยุติธรรมหรือไม่ยุติธรรม ข้าถามท่าน...ท่านพบความสงบใจที่ซีเลหรือเปล่า"
ยามที่ชายหนุ่มถามมาถึงคำสุดท้าย ไซธีนก็เบิกตาขึ้นเล็กน้อย เขามองหน้าอีกฝ่ายราวไม่เชื่อสายตา
'เหตุใดถามอย่างนี้'
"เหตุใดไม่ถามอย่างนี้ ยิ่งคิดเท่าไรข้าก็ยิ่งว่าไม่ใช่แล้ว ท่านกำลังหลอกลวงข้า ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง" เจ้าของร้านเอชานชี้หน้าคู่สนทนา "เมื่อก่อนข้าไม่เข้าใจ แต่ตอนนี้ข้ารู้แล้ว ท่านต้องเปลี่ยนไปที่ซีเล"
...
เงียบ
ความเงียบ ยาว นาน ครั้นแล้ว โซลโทจึงได้ยินเสียง ตอนแรกเขาสะดุ้งว่าเป็นเสียงอะไร ก็หันมองไปรอบ ๆ มันเหมือนเสียงโลหะกระทบกัน ครั้นแล้วเขาจึงรู้สึกตัว เสียงมาจากทางไซธีน
เสียงมาจากทางไซธีนจริง ๆ และภาพของไซธีนที่เขาเห็นก็ไม่เหมือนเดิม ก่อนนี้ เขาเคยเห็นเส้นบาง ๆ คล้ายใยแมงมุม โยงความทรงจำทุกฉากเข้าหาถ้ำนั้นซึ่งเคยเป็นที่ทำงานของลุง และบางทีคงเป็นที่เดียวในโลกซึ่งอดีตเจ้าของร้านสามารถเรียกว่าบ้าน แต่เวลานี้ โซลโทจึงรับทราบว่าเส้นใยดังกล่าวไม่ได้โยงกับถ้ำ หากโยงกับตัวลุงเอง และเขาไม่เห็นมันเป็นใยแมงมุมแล้วด้วย แต่เห็นมันเป็นโซ่ โซ่มากมายมหาศาล พันธนาการร่างที่คล้ายเงาโปร่งใสของลุงไว้ตั้งแต่คอจรดข้อเท้า เกือบไม่มีที่ว่าง เสียงที่ได้ยิน เป็นเสียงลั่นของโซ่นั่นเอง
"เกิดอะไรขึ้น" เจ้าของร้านเอชานตกใจ
'คำสาปถูกล้างไปส่วนหนึ่ง' ลุงของเขาตอบอย่างสงบ
ถ้อยคำนั้นทำให้โซลโทแปลกใจ ที่จริง เขายิ่งประหลาดใจกว่าเก่าเมื่อเห็นสีหน้าของคู่สนทนา...มันสงบลงจนรู้สึกได้ คล้ายกับก่อนนี้เขาสวมหน้ากาก และเพิ่งได้ถอดออกทิ้งไป
"หมายความว่าอย่างไร" ชายหนุ่มถอยเล็กน้อย
'ทำไมเจ้าไม่พูดต่อเล่า เหตุใดจึงว่าข้าเปลี่ยนไปที่ซีเล' อีกฝ่ายถามราวไม่ได้ยิน
โซลโทเงียบ เขาไม่แน่ใจสถานการณ์ตรงหน้า สิ่งที่เกิดขึ้นสอนให้เขาคิดมากกว่าเก่า อย่างไรก็ตาม เมื่อนึกถึงว่าตนเองไม่มีอะไรจะเสียแล้วกระมัง ชายหนุ่มจึงเอ่ยต่อไป
"ท่านให้ข้าหาตัวตนจริง ข้าก็คิดอยู่ว่าตัวตนจริงคืออะไร ในเมื่อไม่ใช่ทั้งตอนเด็กและตอนหนุ่ม ข้าคิดหมดทุกทางแล้ว จึงเห็นว่าคนเราเกิดจากสองอย่างผสมกัน อย่างหนึ่งคือความเป็นท่านเอง ที่บางทีก็บอกไม่ได้ว่ามาจากไหน เหมือนข้าชอบจามี แต่พี่สาวข้าไม่ชอบ ทั้งที่ก็โตมาเหมือนกัน เหมือนเมล็ดข้าวฟ่าง ต่อให้ปลูกอย่างไรก็ไม่กลายเป็นต้นข้าวสาลี"
"ข้าไม่รู้หรอกว่าแก่นไส้ของท่านเป็นอย่างไร แต่ข้าคิดแล้ว ตัวตนของคนเราก็ไม่ได้มีเฉพาะตรงนั้น ตัวตนของเรายังเกิดจากว่าไปพบใครด้วย เมล็ดข้าวฟ่างจะงอกมาดีหรือจะลีบก็ขึ้นกับปลูกที่ไหนอีก เพราะอย่างนั้นท่านก็พูดถูกแล้ว ท่านไม่ใช่ทั้งตัวท่านตอนเด็ก และไม่ใช่ตัวท่านตอนที่พบไอดา ท่านเปลี่ยนไปทุกครั้งที่พบอะไรใหม่"
'เจ้าจะว่าตัวตนจริงของข้าคือตัวตนสุดท้ายก่อนตาย?'
"ข้ายังไม่ได้เลือก" โซลโทเร่งบอกทันที "ข้าก็ว่านั่นก็ไม่ใช่เหมือนกัน เพราะใครจะบอกได้ว่าตัวตนจริงของต้นข้าวคืออะไร ตอนเป็นเม็ดหรือตอนที่เป็นต้น หรือตอนที่เหลือแต่เมล็ดข้าวใหม่"
เขาหยุดนิดหนึ่ง
"แต่ข้าก็นึกได้เหมือนกัน ข้าไม่เห็นความทรงจำของท่านสิบปีสุดท้ายที่ซีเลเลย ไม่เห็นแม้แต่ฉากเดียว"
นั่นก็ทำให้เขานึกอีกอย่างได้เช่นกัน
ตลอดปีที่อยู่ซีเล ใช่ว่าโซลโทจะไม่เคยจินตนาการถึง "ลุงไซธีน" ก็คนลึกลับปริศนาคนนั้นส่งผลต่อชีวิตของเขามากมายหรือไม่ใช่ ทิ้งร้านไว้ให้เขา แถมยังทิ้งหนี้ไปอีกต่างหาก แต่พอนึกถึงเรื่องนี้แล้ว โซลโทก็เพิ่งตระหนักว่าภาพของ "ลุงไซธีน" ที่เขาคิดไว้ จนกระทั่งถึงวันที่เขารู้ความจริง ไม่มีอะไรเหมือนกับลุงไซธีนที่เขาพบตรงหน้านี้เลย
"ข้าก็คงโง่ด้วย ระแวงน้อยไป" ชายหนุ่มยอมรับ "แต่อีกทีหนึ่ง ข้าก็คิดว่าไม่ใช่เพราะอย่างนั้นเสียทีเดียว ข้าคิดว่าตัวเองไม่ได้จินตนาการผิดด้วย เพราะอะไรรู้ไหม เพราะต่อให้คนอื่น ๆ ว่าอย่างไร ข้าก็เห็นท่านเจวาน เห็นรัฟกับเฮกเค"
'หือ' อีกฝ่ายไม่เข้าใจ
"มังกรไม่เคยโกหก รัฟกับเฮกเคยอมให้ท่านขี่ทั้งที่ไม่ได้สะกดใช่ไหมเล่า อีกอย่างหนึ่งทำไมท่านเลือกเฮกเค มันแก่แล้ว ทำไมท่านเลือกรัฟ รัฟต่างจากมังกรทุกตัว" ชายหนุ่มว่า "ทำไมท่านให้โมรากับท่านเจวาน ทำไมท่านช่วยเขา ท่านเจวานอาจจะคิดว่าตัวเองถูกหลอก แต่ที่จริงเขาเป็นมังกร สัญชาตญาณของเขาดียิ่งกว่าใคร ๆ เขาเป็นคนที่รู้เสมอว่าใครดีหรือไม่ดี ท่านพบความสงบใจที่ซีเลหรือเปล่า ท่านเปลี่ยนไปหรือไม่ใช่ ท่านกับความทรงจำที่สิงอยู่ในร่างข้าต่างกันใช่ไหม ท่านต้องการอะไรกันแน่ ปิดบังข้าทำไม ตอบข้ามา คุยกับข้า ข้าต้องการเห็นทั้งชีวิตของท่าน ข้าไม่ต้องการเลือกอะไรที่ข้าไม่รู้ความจริง"
ไซธีนไม่ตอบคำนั้นทันที เขายกแขนข้างหนึ่งของตนขึ้น มองเส้นโซ่ที่พันธนาการแขนนั้นจนเกือบไม่มีที่ว่าง เสียงโลหะกระทบกราวเบา ๆ ชายชราหัวเราะหึ ๆ ออกมา
'นางดัดหลังข้าแสบถึงไส้ดีแท้ สุดท้ายสำหรับเจ้า ไม่ว่าข้าหรือสไลม์ก็ไม่ต่างกันหรือไม่ใช่ เขาบอกให้เอายาฆ่าหญ้าราด แต่เจ้ายังดันจะต้องคุยก่อนให้ได้'
"หมายความว่าอย่างไร"
อดีตเจ้าของร้านถอนใจ
'เมื่อข้าทำให้ตัวเองลงมาที่นี่ก่อนเวลา' เขาเอ่ยเรียบ ๆ 'ข้าไปหาจ้าวแห่งความตาย และขอไถ่วิญญาณล่วงหน้า ข้าบอกนางว่าข้าต้องการวิญญาณของโซลโท เอชาน เขาจะมาที่นี่ในไม่ช้า ไม่น่าเกินหนึ่งปี ชะตากรรมใดที่ข้าตัดเอง ให้นำไปต่อเป็นชะตากรรมของโซลโท'
ยามถ้อยคำผ่านไป คนถูกเอ่ยถึงก็มึนวูบ เกือบไม่แน่ใจว่าตนได้ยินหรือไม่ได้ยินอะไร
"ท่าน...พูดอะไร"
'เจ้าถาม ข้าก็ตอบไงเล่า คำสาปล้างไปส่วนหนึ่งแล้ว ข้าได้รับอนุญาตให้พูดได้'
แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 54 01:48:11
จากคุณ |
:
ลวิตร์
|
เขียนเมื่อ |
:
25 ต.ค. 54 01:44:25
|
|
|
|