Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
------------------->จ้างเธอให้รัก ตอนที่15<------------------------ ติดต่อทีมงาน

ลิงค์ของตอนที่ผ่านมานะคะ

บทนำและตอนที่ 1
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10613052/W10613052.html
ตอนที่2
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10644126/W10644126.html
ตอนที่3
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10661938/W10661938.html
ตอนที่4
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10682612/W10682612.html
ตอนที่5
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10712662/W10712662.html
ตอนที่6
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10756171/W10756171.html
ตอนที่7
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10770518/W10770518.html
ตอนที่8
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10800113/W10800113.html
ตอนที่9
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10850347/W10850347.html
ตอนที่10
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10875048/W10875048.html
ตอนที่11
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10966374/W10966374.html
ตอนที่12
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10993897/W10993897.html
ตอนที่13
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11029236/W11029236.html
ตอนที่ 14 PART1/2
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11115180/W11115180.html
ตอนที่ 14 PART2/2
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11179537/W11179537.html

++++++++++++++++++

แฟนเก่า



ไม่กี่วันหลังจากที่ปรุฬห์และนีรนาได้ใช้เวลาร่วมกัน โทรศัพท์จากทีคก็ติดต่อมาหาชายหนุ่ม แน่นอนว่าในทีแรกปรุฬห์เข้าใจว่าน้องชายของเขาต้องการสอบถามเรื่องการตลาดในส่วนที่เขากำลังดำเนินการอยู่ทว่าในที่สุดปรุฬห์ก็ทราบถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงซึ่งทีคโทรศัพท์มาหา

“พี่รุฬห์กับนีรคบกันอยู่ใช่ไหม”

ปรุฬห์ต้องหุบรอยยิ้ม ทั้งที่เมื่อตะกี้นี้เขายังสนทนากันอย่างออกรสกับน้องชายตนเองอยู่เลยด้วยซ้ำไป

“พี่รุฬห์”ทีคเรียกกระตุ้นเขาอีกครั้ง

ชายหนุ่มนิ่มเงียบแล้วจึงส่งเสียงในลำคอตอบ

“ผมก็แค่อยากรู้”ทีคกำลังหัวเราะกลบเกลื่อนทว่าปรุฬห์ก็รับรู้ได้ในทันทีนั้นว่าน้องชายของเขาคงตัดขาดจากผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ ... ไม่สิ นีรนาใส่ยาเสน่ห์ถาวรให้แก่ทีคตั้งแต่เมื่อไหร่ปรุฬห์ไม่อาจทราบได้ “ผมรู้ว่ามันเกี่ยวกับคู่หมั้นของพี่”

“ใครบอกแก”ปรุฬห์ต้องนิ่วหน้าอย่างสงสัย ความรู้สึกกระอักกระอ่วนใจหายไปในบัดนั้น

“ลุงวุฒิ”ทันทีที่ได้ยินชื่อของเจ้าของบาร์ปรุฬห์ก็ถอนหายใจยาวๆ

“แกไปเที่ยวแถวนั้นตอนไหนทีค?”

“เปล่า ผมเจอแกที่มหาลัย แกมาหาลูกชาย ผมก็เลยถามว่าพี่กับลุงวางแผนกันถึงไหนแล้ว”

“ดีแล้วล่ะ”ปรุฬห์กล่าวในที่สุดแล้วจึงนิ่งเงียบไปอีก

“พี่รุฬห์ พี่ชอบนีรหรือเปล่า”

“อะไรของแก”ปรุฬห์ต้องเถียงขึ้นในทันทีนั้น “แกคิดว่าหญิงขายบริ ...”

“ผมก็แค่อยากรู้”

เมื่อน้องชายพูดเช่นนี้ปรุฬห์ก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา “ทีค ผู้หญิงมีนับเป็นร้อยพัน ... น้องแจ แฟนปัจจุบันของแกก็เป็นหนึ่งในนั้น”

“ผมรู้”

ไม่หรอกทีค ... แกไม่รู้อะไรเลย ... แกก็เพียงแค่ตกหลุมรักผู้หญิงที่ชื่อนีรนาจนถอนตัวไม่ขึ้นแม้ว่าความรู้สึกผูกพันอาจจะเจือจางลงไปบ้างทว่าไม่สามารถลบล้างมันได้ เหมือนแผลเป็นรอยใหญ่ซึ่งตัวเองเก็บเอาไว้ลึกในก้นบึ้งของจิตใจ ซ่อนเอาไว้ ไม่ให้ใครรู้ว่าจริงๆแล้วเขาเคยรักผู้หญิงคนหนึ่งเหลือเกิน ... ลตา

ปรุฬห์ต้องขบฟันแน่น เขาควรจะเลิกคิดถึงผู้หญิงคนนี้ได้แล้ว เขาควรจะเหลียวมองใครสักคนอย่างจริงจังเพราะไม่มีทางที่อดีตจะหวนกลับคืนได้นอกเสียจากลืมเลือนมันทั้งหมด

นับตั้งแต่ที่เขาตัดสินใจจ้างนีรนา ก็ถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาแห่งความบังเอิญซึ่งลตาติดต่อมาหาเขา เธอฝากข้อความอีกฉบับเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว และในที่สุดปรุฬห์จึงโทรศัพท์กลับไปหา เสียงใสๆหวานๆยังคงกังวานก้อง ทว่าไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มประทับใจอีกแล้ว เธอเคยเป็นแค่เพียงรักแรกของเขาเท่านั้น

“ผมไม่ได้ว่าอะไรพี่สักหน่อย”เสียงของทีคฟังดูไม่พอใจเท่าไหร่นัก “ก็เหมือนที่พี่บอก ... ผู้หญิงมีนับเป็นร้อยพัน” ปรุฬห์อยากให้คำกล่าวของทีคสะท้อนความคิดจริงๆของน้องชาย “ผมเลิกกับนีรนานแล้ว เราไม่ได้คุยกันก็นานพอสมควรแล้ว”

“อืม ดีแล้ว”ปรุฬห์กล่าวเสียงหนักแน่นแม้ว่าเขาสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายกำลังสับสนกับสิ่งที่ตนเองกำลังเผชิญอยู่ “ทีค ขอโทษนะ มีโทรศัพท์ซ้อน”ชายหนุ่มกล่าวเช่นนั้นจบก็รีบวางสายแล้วจึงมองดูหมายเลขโทรศัพท์ผู้ฝากข้อความให้แก่เขา

... ลตา ...

ปรุฬห์ก้มอ่านแล้วจึงต้องนิ่วหน้าอีก

“คุณชายคะ กาแฟร้อนค่ะ”เขาหันไปมองคุณป้าแล้วจึงกล่าวขอบคุณ เอนกายลงบนพนักพิงถอนหายใจเพียงลำพัง สายตาของเขาเหลือบเข้าไปมองในสวนหลังบ้าน เขาเห็นเปมิกากำลังสนทนากับพ่อบ้านด้วยสีหน้าร่าเริง เธอเหลือบสายตามองเขาพร้อมส่งรอยยิ้มหวานโบกมือน้อยๆ

ปรุฬห์รีบหมุนเก้าอี้หันไปทางอื่นใช้นิ้วถูขมับ

ชายหนุ่มตัดสินใจโทรศัพท์กลับไปในทันที แล้วเสียงตอบรับก็ดังกลับมาเร็วทันใจ

“สวัสดีค่ะ”

“ลตา เป็นอย่างไรบ้าง”ปรุฬห์เอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด เขานึกถึงภาพของลตากำลังลูบท้องโตๆของตนเองเบาๆ ภายในท้องของเธอคงจะมีร่างน้อยๆซึ่งกำเนิดขึ้นโดยที่พ่อของเด็กคงจะไม่มีทางรับรู้เรื่องนี้ได้เลย

“รุฬห์ ... ตอนนี้คุณพ่อของเราเดินทางมาถึงอังกฤษแล้ว”

ชายหนุ่มต้องพ่นลมหายใจยาวๆอีก “คุณอาจินคงสบายดีนะ”

“อื้มพ่อสบายดี”เสียงของเธอก็ทำให้เขาโล่งใจไม่น้อย ทว่าจู่ๆเธอก็เงียบไปจากนั้นจึงกล่าวเสียงแผ่วเจือความเศร้า “พ่อไม่เห็นด้วยกับการที่เราท้องกับแอลเลน”

เธอคงจะโดนตำหนิและทำให้พ่อแม่เสียใจพอๆกับตกใจทันทีที่ครอบครัวของเธอทราบข่าวแน่ๆ

“หมายความว่าอย่างไร”

เธอนิ่งเงียบ ปรุฬห์จึงต้องเรียก “ลตา”

หญิงสาวพยายามพูด เสียงของเธอสั่น

“ลตา ได้ยินที่เราพูดหรือเปล่า?”ปรุฬห์ถาม เธอเป็นไปอะไรไปน่ะ เสียงฮึดฮัดราวกับเธอกำลังร้องไห้ “ใจเย็นๆนะ ลตา ... ฟังเราก่อนดีไหม”

“พ่อ ...พ่อ”หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงพร่า

“พ่อทำไม? ลตา”

แล้วเธอก็ร้องไห้โฮใส่โทรศัพท์มือถือ ปรุฬห์ต้องเอามือก่ายหน้าผาก ทำไมเธอจึงทำให้เขาเครียดได้ถึงเพียงนี้ ใช่สิ เขาไม่ได้เจอเธอกี่ปีแล้ว ... จนบัดนี้เขาก็ยังคงไม่เคยเห็นเธอเลยด้วยซ้ำ ได้ยินแค่เสียง ... ได้ยินเพียงน้ำเสียงซึ่งมอบเพียงความเจ็บช้ำลึกๆให้แก่เขาเพียงเท่านั้น “ลตาครับ”

หญิงสาวพยายามสงบสติอารมณ์ก่อนจะกล่าว “รุฬห์ ... พ่ออยากให้เราเอาเด็กออก” สิ้นสุดคำพูดของเธอ ปรุฬห์ก็ต้องเบิกตากว้าง อ้าปากค้างด้วยความรู้สึกตื่นตะลึงราวกับมีบางอย่างเสียดแทงลึกในสมองของเขา ลตาเอ่ยทวนอีกครั้งก่อนจะร้องไห้หนักกว่าเก่า

“พ่อตัดสินใจแล้วและนัดกับหมอเอาไว้ในวันพรุ่งนี้ รุฬห์ เราจะทำยังไง ... เด็กในท้องเป็นลูกของเรา”

... แน่นอน เด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกของเขาหรอก ... แต่ว่าลตาเคยเป็นแฟนของเขา ตอนนี้เธอเป็นเพื่อนของเขาและเขาก็เข้าใจดีถึงความผูกพันของแม่กับลูกของเธอ

ปรุฬห์รู้ว่าแอลเลนซึ่งลตาหมายถึงเป็นแฟนของลตาในช่วงเวลาหนึ่ง แอลเลนไม่ใช่ผู้ชายที่ดีพอสำหรับลตา พวกเขาทะเลาะกันบ่อยๆจนแยกทางกันในขณะที่ยังคงศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยด้วยกัน และดูเหมือนการท้องของลตาจะทำให้แอลเลนเองไม่พร้อมจะรับเด็กในท้องเป็นลูกของเขาด้วย

ทว่าลตาไม่ต้องการทำแท้ง ... เธอระบายความรู้สึกทั้งหมดแก่ปรุฬห์ซึ่งเป็นเพียงความหวังเดียวที่เธอเชื่อมั่นว่าเขาจะรับฟังเธอได้แม้ว่าเขาไม่สามารถช่วยเหลือเธอได้เลยก็ตามที

“ลตา ทำใจดีๆไว้นะ ... หายใจเข้าลึกๆ เข้าใจใช่ไหม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ลตา ...ลตา! ฟังเราก่อน”ปรุฬห์ต้องตระเบ็งเสียงเอ่ยเรียกชื่อของหญิงสาวและดูเหมือนเธอจะไม่ได้ฟังที่เขาพูดอีกแล้ว เธอต้องการระบายทว่าเขากลับทำให้เธอเสียใจหนักกว่าเดิม ... เธอเจ็บปวดเหลือเกินและเธอไม่มีที่พึ่งพาทางใจอีกแล้ว

ชายหนุ่มอดที่จะเป็นห่วงแฟนเก่าของเขาไม่ได้ ... หากทำแท้ง ลตาก็ต้องเสี่ยงชีวิตด้วย ... เธอเสี่ยงที่จะต้องตายพร้อมเด็ก เมื่อคิดเช่นนั้นปรุฬห์ก็แทบจะคลั่ง “เราอยากคุยกับคุณอาจิน”

ลตาส่งเสียงฮึดฮัดก่อนจะกล่าว “พ่ออยู่ข้างในบ้าน เราไม่อยากเจอพ่อของเราเลย”

“ลตา เราต้องพูดกับเขานะ”

“รุฬห์ ว่างๆเราจะโทรกลับไปหาดีกว่านะตอนนี้ไม่สะดวกคุยด้วย”

“เดี๋ยวก่อนลตา”ทว่าสุดท้ายเธอก็รีบวางสายปล่อยให้เขาต้องพะว้าพะวงใจไปเพียงลำพัง

เธอคงไม่พร้อมจะสนทนาต่อ ... ไม่เป็นไร อีกสักพักเธอคงจะติดต่อกลับมาหาเขาเอง

“พี่รุฬห์คะ”เสียงของเปมิกาดังสนั่น เธอรีบวิ่งรี่เข้ามาในห้องทำงานของชายหนุ่ม “ใกล้เวลาอาหารเย็นแล้ว วันนี้มีเมนูพิเศษในใจหรือเปล่าคะ ประเดี๋ยวเปมจะจัดเตรียมให้พี่รุฬห์นะคะ”

“ไม่ครับ น้องเปมิกาไม่กลับบ้านหรือ?”ปรุฬห์รีบส่ายหน้าแล้วจึงก้มหน้าลงมองโน้ตบุคราคาแพงของตนเอง ไล่สายตาอ่านตัวหนังสือยาวเป็นพรืดโดยไม่สนใจเสียงของเปมิกาอีก ที่จริงแล้วเขาไม่ได้ต้องการทำงาน เขาแค่ต้องการอยู่คนเดียวและใช้เวลาขบคิดครู่ใหญ่ก่อนจะเดินออกมาจากห้องทำงาน

“พี่รุฬห์กำลังจะไปไหนคะ”

“ไปข้างนอก”ปรุฬห์เบื่อเสียงของเปมิกา เขาไม่หันไปสบสายตางอนตุ๊บป่องของเธออีก เปมิกาเองก็ไม่มีทางห้ามเขาได้อีกแล้วด้วย ในเมื่อชายหนุ่มแสดงตัวแฟนสาวต่อหน้าพ่อแม่และครอบครัวคฤษฐานนท์ซึ่งก็ไม่ได้ปฏิเสธการคบหากันของปรุฬห์กับนีรนาในตอนนี้ เปมิกาไม่มีสิทธิ์หึงหวงเขาด้วยซ้ำ เธอรั้งตัวเขาไว้ไม่ได้อย่างน้อยก็ช่วงเวลานี้

ปรุฬห์ไม่อยากแวะเข้ามาในบ้านหากไม่จำเป็น ชายหนุ่มจึงรีบขับรถยนต์ตรงไปยังมหาวิทยาลัย

เขาพบว่านีรนานั่งรอเขาอยู่ใต้คณะพยาบาล หญิงสาวเหลือบสายตาสบมองเขาครู่หนึ่งก่อนจะสะพายกระเป๋าและเดินเข้ามาหา

“ถ้าหากคุณไม่ว่างก็โทรศัพท์บอกก่อนก็ได้นะ”นีรนาคงเข้าใจว่าเขาหน้ามุ่ยใส่เธอเพราะไม่พอใจเรื่องที่เขาต้องมารับมาส่งเธอตามเวลา

“ว่างสิ”ปรุฬห์รีบบอกแล้วจึงเดินไปเปิดประตูรถให้แก่หญิงสาว

“คุณเป็นอะไร”นีรนาต้องถามด้วยความสงสัย

ปรุฬห์เหลือบมองเธอครู่หนึ่งแล้วจึงเดินกลับไปยังที่นั่งคนขับ

“ขอโทษนะ ฉันคิดว่าฉันไม่ควรจะถาม”

“ไม่มีอะไรหรอก”ปรุฬห์รีบกล่าวเลี่ยง ชายหนุ่มเหลือบสายตามองกระจกหลังรถก่อนจะค่อยๆหมุนพวงมาลัยช้าๆ “ไม่มีทั้งนั้น”

นีรนาเหลือบสายตาเคร่งเครียดประหลาดของเขาก็รู้ในทันทีนั้นว่าเขาโกหก หญิงสาวไม่ได้สนทนากับเขาอีก เธอปล่อยให้เขาใช้ความคิดจมอยู่ในโลกของตนเอง

... มันคงจะเป็นสิ่งที่ดีหากเธอไม่พยายามล่วงเกินเรื่องส่วนตัวของเขาให้มากกว่าที่เป็นอยู่



ทว่าหลังจากสังเกตลักษณะที่เปลี่ยนไปของปรุฬห์ก็ทำให้เธอต้องกังวลใจไม่น้อยเลยทีเดียว

“ไม่สบายใจก็ไม่ต้องออกมาข้างนอกก็ได้”นีรนาเริ่มบ่น

นับตั้งแต่เธอต้องทำหน้าที่ในฐานะแฟนของเขา คงจะมีครั้งนี้ครั้งแรกที่เขาไม่ยอมสนทนากับเธอด้วยตามปกติ การแสดงออกของเขาแปลกไปจากเดิม ไม่ใช่ผู้ที่พูดจาเย้าแหย่กวนให้โมโหได้และไม่ใช่บุคลิกของชายสุขุมนุ่มลึก วาจาแตกฉานเหมือนเฉกเช่นที่เธอสังเกตเห็นเขามักสนทนากับผู้ใหญ่

ปรุฬห์ซึ่งนั่งรับประทานอาหารเงียบๆบริเวณริมแม่น้ำกับนีรนาต้องหันมาสบตากับเธอก่อนจะหันไปบอกบริกรสั่งเหล้าหนึ่งขวด

นีรนาต้องมองดูเขาด้วยความประหลาดใจ

ปรุฬห์ไม่สนหรอกว่าหญิงสาวเบื้องหน้ากำลังสงสัยเขาหรือไม่ เขาก็แค่ไม่พร้อมจะพูด โดยเฉพาะปัญหาเรื้อรังระหว่างเขากับแฟนเก่าซึ่งกลายเป็นว่าวินาทีนี้เธอทำให้เขาปวดหัวเพราะปัญหาของเธอ ไม่ใช่ปัญหาของเขาเลย

“งอนผมเหรอ”

นีรนาเลิกคิ้วสูงพลางตีสีหน้าเหยเกตอบ หากทว่าปรุฬห์ไม่ได้กล่าวสวนคำพูดเจ็บแสบใส่อย่างเคย เขาเพียงแค่ก้มหน้าทานอาหารต่อภายใต้ความเงียบ ชายหนุ่มรับขวดเหล้ารสเลิศก่อนจะใส่น้ำแข็งผสมโซดาเล็กน้อยให้รสชาติกลมกล่อม “วันนี้ทีคโทรมา”

นีรนาเงยหน้าจ้องมองเขา

ปรุฬห์แปลกจริงๆด้วย เขากำลังเปลี่ยนประเด็นเพื่อให้เธอเลิกสนใจท่าทีซึ่งเปลี่ยนไป

“บอกฉันทำไม”

“นึกว่าคุณอยากจะรู้”ปรุฬห์กล่าวเสียงราบเรียบพลางกระดกแก้วจิบเหล้าทีละน้อย

นีรนาไม่อยากต่อล้อต่อเถียงอีก เธอเป็นฝ่ายบอกเลิกกับน้องชายของเขาเอง เธอไม่ควรจะรับรู้เรื่องราวของทีคอีก “คุณอารมณ์เสียเพราะเรื่องนี้หรือ?”

“เปล่า”ปรุฬห์บอก “ผมไม่ได้อารมณ์เสีย”ชายหนุ่มหันไปมองดูแม่น้ำสีดำสนิทเวลากลางคืน เสียงดนตรีภายในร้านอาหารคลอเบาๆทำให้รู้สึกผ่อนคลายลง นีรนาไม่ถามเขาต่อ เธอคิดว่าคำพูดซักไซ้อาจจะทำให้ชายหนุ่มกำลังไม่พอใจ

หลังจากทานอาหารซึ่งมีรสชาติจืดชืดกว่าปกติมื้อนี้เรียบร้อยแล้ว ปรุฬห์ก็พาเธอมาส่งยังห้องเช่าโทรมๆ ชายหนุ่มจอดรถยนต์ไว้ตรงริมทางเดินก่อนจะเดินเข้ามานอนเหยียดกายบนผืนเสื่อหยาบๆ นีรนาไม่ได้ไล่เขาให้รีบกลับตามปกติ ในทางกลับกัน หญิงสาวนั่งยองๆสังเกตอาการประหลาดๆของเขา

ปรุฬห์บอกว่าเขาต้องการเบียร์ หญิงสาวจึงไปซื้อมาให้จากร้านขายของชำสองกระป๋องและชายหนุ่มก็ใช้เวลาเพียงครู่เดียวขณะนั่งคิดเรื่อยเปื่อยเพียงลำพังดื่มเบียร์จนหมด หญิงสาวมองดูหน้าของเขากำลังแดง

ปรุฬห์เหลือบสายตามองนีรนาซึ่งมีท่าทีฉงนกับการกระทำของเขา ชายหนุ่มใช้มือตบบนเสื่อถี่ๆเป็นเชิงเรียกให้นีรนานั่งข้างๆ ทว่าหญิงสาวปฏิเสธ

“กลัวผมเหรอ”

“คนเมาไม่น่ากลัวหรอก”นีรนามองดูสภาพสีหน้าของอีกฝ่ายซึ่งกำลังหัวเราะร่า

ปรุฬห์เพียงแค่เหยียดยิ้มส่งสายตาเจ้าเล่ห์ให้เธอแล้วจึงเหลียวหน้าไปยังโทรทัศน์อย่างเหม่อลอย เขากำลังกังวล ...

ลตากำลังทำอะไร? กำลังแก้ปัญหาและตัดสินใจอย่างไร?

เขาหวังว่าเธอคงไม่ทำร้ายตัวเองหรือลูกของเธอในท้องระหว่างที่เธอมีปัญหากับพ่อของเธอแบบนี้

นีรนาเพียงแค่มองดูปรุฬห์ก่อนจะถอนหายใจยาวๆจากนั้นเธอก็รีบอาบน้ำ เมื่อเดินกลับออกมาอีกทีก็พบว่าปรุฬห์เดินออกไปซื้อเบียร์มาเพิ่มอีกสี่กระป๋อง หญิงสาวต้องอุทานอย่างตกใจ

“คุณปรุฬห์ ... ฉันคิดว่าคุณควรจะเล่าปัญหาของคุณหากคุณต้องการระบายกับใครสักคน”ชายหนุ่มเหลือบสายตามองเธอครั้งหนึ่งแล้วจึงหยิบกระป๋องเบียร์กระป๋องใหม่เตรียมเปิดฝาซดอย่างเคย สายตาเริ่มพร่าเลือน

“ไม่มีอะไร”

“งานธุรกิจของคุณหรือ?”

“เปล่า”ปรุฬห์บอกพลางหัวเราะ “ไม่ต้องถามผมหรอก ผมก็แค่ไม่อยากพูดถึงมัน”ชายหนุ่มพูดพลางก็หยิบหมอนหนุนใช้ปลายเท้าเขี่ยหาปุ่มพัดลม

นีรนาทอดถอนหายใจ เธอเดินไปปิดประตูบ้าน หันกลับมาอีกทีก็เห็นเขาถอดเสื้อขว้างมันทิ้งโดยไม่ได้สนใจอีก แผ่นหลังกว้างของเขามีเหงื่อชื้น ปรุฬห์บ่นพึมพำ ขาเขี่ยหาผ้าผืนบางใช้แทนผ้าห่มชั่วคราว

ในเมื่อการอยู่คนเดียวคือความต้องการของปรุฬห์ เธอก็คงไม่สามารถห้ามเขาได้อีกและในเมื่อชายหนุ่มอยากจะเข้าอยากจะออกภายในบ้านของเธอหรือวันใดไม่อยากจะบอกไม่อยากจะทะเลาะด้วย ก็คงเป็นความต้องการของผู้ว่าจ้าง เธอห้ามเขาไม่ได้และกรณีนี้นีรนาคงไม่ขัดใจเขาอีกแล้ว





ปรุฬห์ตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าตัวเองอยู่ในสภาพโทรมสุดๆ ผมเผ้ายุ่งเหยิง เนื้อตัวชุ่มเหงื่อราวกับเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ภายในห้องอับๆแบบนี้ทำให้เขาคัดจมูก ปรุฬห์ไม่รู้ว่าตนเองหลับไปตอนไหนแต่ดูเหมือนเวลานี้จะเป็นยามสาย มีกุญแจบ้านหนึ่งดอกตั้งทิ้งเอาไว้ให้แก่เขาพร้อมกับโน้ตเล็กๆจากนีรนา



ฉันซื้ออาหารเช้าให้คุณ อย่าลืมทานด้วยนะ มันอยู่ในตู้เย็น

นีร



ปรุฬห์ขำขันกับลายมือของหญิงสาว เขารีบลุกขึ้นไปอาบน้ำก่อนจะทานอาหารเช้าเป็นมื้อสายของตนเองตามคำสั่งของนีรนา

หลังจากเสร็จธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้วปรุฬห์จึงรีบเดินทางไปยังบริษัทของพ่อ เขาใช้เวลาทำงานที่นั่นขณะที่ในจิตใจยังคงอดเป็นห่วงแฟนเก่าของตนเองไม่ได้ เขาได้แต่พร่ำเพ้อถามตัวเองว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอบ้าง เมื่อกรรมการผู้จัดการใหญ่เคาะประตูเข้ามาสอบถามงาน ปรุฬห์ก็แทบจะลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาควรทำและจำได้

บางทีตลอดทั้งวันเขาอาจจะรอเพียงโทรศัพท์ของลตา

เขาเฝ้ามองมันสั่นทว่าก็มีเพียงข้อความจากระบบส่งมาให้แก่เขาเพียงเท่านั้น

วันนี้ลตาจะผ่านพ้นมันไปได้หรือเปล่านะ? ... ปรุฬห์คิดไม่ตก น่าเสียดายที่เขาไม่มีหมายเลขโทรศัพท์บ้านในเมืองไทยของลตา บางทีเขาอาจจะสามารถสอบถามอาการของเธอตอนนี้และอันที่จริงแล้วถ้าหากลตาไม่ใช่คนห่างไกลแบบนี้เขาอาจจะขึ้นเครื่องบินเดินทางไปหาเธอตั้งแต่ช่วงเลิกงานวันนี้ ทว่าเขาจะทำเช่นนั้นทำไม?

ลตาเป็นเพียงแค่เพื่อนซึ่งห่างไกลทั้งความสัมพันธ์และระยะทาง ส่วนเขาเป็นเพียงผู้ที่รู้ใจเธอมากที่สุดคนหนึ่งในอดีต ทว่าเขาก็อดเป็นห่วงเธอไม่ได้

ชายหนุ่มเลื่อนสายตาให้ห่างจากเอกสารกับตัวอักษรเล็กๆ เลื่อนเก้าอี้หันไปมองภายนอกหน้าต่างแล้วความรู้สึกอ่อนล้าก็ถาโถมเข้ามาโดยไร้ซึ่งเหตุผล



\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\



“รอใครหรือ?”

นีรนาไม่ได้ตอบ เธอส่งยิ้มให้เพื่อนแล้วจึงโบกมือลา หญิงสาวดูดน้ำส้มจากแก้วเย็นฉ่ำจากนั้นก็นั่งรอที่เดิม ตำแหน่งเดิม เฝ้ามองดูเข็มนาฬิกาเดินวนอยู่ในกรอบ รอคอยเวลา รอให้เขามารับตามปกติ

ทว่าวันนี้ไม่ปกติ ... มันเหมือนกับท่าทางการแสดงออกของเขาตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว ...

ปรุฬห์เป็นอะไรของเขา?

วันนี้เขาไม่ได้รับเธอตรงเวลาเช่นเคย อาจจะเพราะงานยุ่งทำให้เธอตัดสินใจไม่โทรศัพท์ไปกวนเขา หญิงสาวใช้เวลามากกว่าสองชั่วโมงอ่านหนังสือใต้คณะพยาบาลเพียงลำพัง มองดูผู้คนเดินผ่านไปมาเบาบางลงจนกระทั่งเหลือเพียงเธอคนเดียว

นีรนาหันไปมองรอบกายด้วยความกระวนกระวายใจจากนั้นจึงโทรศัพท์ไปหาปรุฬห์ ทว่าสายไม่ว่าง ...

สายไม่ว่าง?

เธอกดหมายเลขเดิมย้ำเป็นครั้งที่สิบทว่าสายก็ไม่ว่างเช่นเคย

ปรุฬห์ติดต่องานอยู่หรือเปล่า? ทำไมเขาไม่บอกเธอและปล่อยให้เธอรอเขาจนดึกดื่น คราวนี้นีรนาจะเดินทางกลับคนเดียวได้อย่างไร

หญิงสาวต้องมุ่ยหน้าไม่พอใจ เธอเริ่มบ่นพึมพำต่อว่าเขาขณะที่สายตายังคงเหลือบมองดูถนนหน้าคณะตึกพยาบาลแม้ไม่พบวี่แววรถคันสวยของปรุฬห์จะเลี้ยวมาจอดอย่างเคย ...

น้อยใจ ...

เธอรู้สึกอย่างนั้น ...

ปรุฬห์ไม่บอกว่าเขามีปัญหาอะไรอยู่และวันนี้เขาก็ไม่ปรากฏตัวให้เห็น โชคดีที่เธอมีกุญแจไขประตูรั้วสองดอกกุญแจห้องเช่าอีกดอกหนึ่งก็อยู่ที่เขา ถ้าหากเธอมีเพียงแค่ดอกเดียวแล้วเธอจะกลับบ้านอย่างไรหากเขาไม่ไปส่งด้วย ... นีรนานึกบ่นไปเรื่อยๆ นั่งบนม้านั่งอย่างกระสับกระส่ายจนกระทั่งเห็นเงาของชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาในตึกจึงทำให้เธอโล่งใจ

ทว่าเมื่อเธอเห็นเขาชัดเจนขึ้นนีรนาก็ต้องนิ่งเงียบ

สายตาของทั้งสองสบประสานกันครู่หนึ่งก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินเข้ามาหาเธอด้วยความสงสัย

“นีร ทำไมนั่งคนเดียวตรงนี้? เกือบจะสามทุ่มแล้วนะครับ”

นีรนาไม่ได้ตอบ เธอจ้องมองทีคอยู่เป็นนานก่อนจะบ่ายหน้าหนี “นีรกำลังจะกลับค่ะ”นับเป็นครั้งแรกในหลายเดือนมาแล้วที่เธอยอมเปิดปากสนทนากับเขา หญิงสาวรีบเก็บสัมภาระใส่ในกระเป๋าสะพายขณะที่อีกฝ่ายยังคงยืนนิ่งอยู่จุดเดิม

“รอพี่รุฬห์ใช่ไหม”

คำพูดของทีคทำให้เธอต้องหยุดกึกครู่หนึ่งแล้วจึงทำทีเป็นไม่ได้ยิน

“เขาไม่ได้บอกนีรเหรอว่าวันนี้เขามีปัญหา”

ดูเหมือนทีคคงจะรู้เรื่องราวของปรุฬห์เป็นอย่างดี หญิงสาวจึงรีบหันไปส่ายหน้าตอบ

ทีคมองแววตาสงสัยของเธอ ... แววตาและสีหน้าของนีรนาที่ทำให้เขานึกถึงวันคืนซึ่งเคยคบหากัน ไม่ได้สิ! ต่างฝ่ายต่างเดินคนละเส้นทาง เขาควรจะแข็งใจกว่านี้และเลิกคิดถึงมันได้แล้ว

น้องแจเองก็เป็นแฟนของเขาไม่ใช่หรือ? เขาควรจะเห็นความสำคัญของเธอ ไม่ใช่นีรนาอีกแล้ว

“เขาคงไม่สะดวกใจบอก”

“นีรก็คิดแบบนั้น”...สีหน้าน้อยใจ... ทีคสังเกต

นีรนากำลังน้อยใจปรุฬห์

เธอแกล้งคบกับพี่ชายของเขา เธอไม่ควรจะมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับปรุฬห์เลยเพียงสักนิดเดียว แล้วสีหน้าของเธอตอนนี้มันหมายถึงอะไร คำถามนี้ก็ทำให้ทีคต้องรู้สึกกระสับกระส่าย

“วันนี้เขาไม่ว่างหรอกครับ”ทีคบอก อันที่จริงเขารู้ดีด้วยซ้ำว่าแฟนเก่าของปรุฬห์ทำแท้งในวันนี้และช่วงเวลานี้ ณ กรุงลอนดอน เขารู้อีกด้วยว่าปรุฬห์กำลังโทรศัพท์ข้ามประเทศสอบถามอาการของลตารวมทั้งเหตุการณ์ต่างๆจากพ่อของลตาด้วยความกังวลใจเป็นอย่างยิ่ง “ถ้าไม่รังเกียจ ผมจะไปส่งนีรวันนี้”

นีรนามองดูเขาด้วยความลังเล “ฉันควรจะบอกเขาก่อน”

“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมจะบอกพี่รุฬห์เอง”ทีคบอกพร้อมเผยยิ้มบาง

หญิงสาวพยักหน้ารับแล้วจึงเดินช้าๆตามหลังเขาไปจนถึงรถยนต์ นีรนากล่าวขอบคุณก่อนจะนั่งเงียบๆ คอยชี้เส้นทางบอกว่าเธอพักอยู่บริเวณไหน



ทีคต้องมองดูสภาพบ้านโทรมๆซึ่งเป็นสถานที่พักใหม่ของนีรนาด้วยความผิดหวัง เธอยอมย้ายออกจากหอเพราะเขา ... นั่นเป็นเรื่องสุดท้ายที่เขารู้มาจากเธอหลังจากถูกบอกเลิก เขาไม่รู้อีกเลยว่าเธอพักอยู่ที่ไหนและสภาพห้องเช่าของเธอเป็นเช่นไร

“มันเป็นแค่ห้องเช่าของพี่สาวน่ะค่ะ ราคามันถูกมาก พี่สาวอยากจะเก็บของเก่าๆไว้ที่นี่เพียงเท่านั้นเอง”นีรนาบอกพร้อมตีสีหน้าเหยเก “ขอบคุณนะคะ”นีรกล่าว

ทีคยิ้มน้อยๆ เขายืนล้วงกระเป๋าอยู่ข้างหน้าประตูบ้าน สภาพรั้วขึ้นสนิมทำให้เขาไม่กล้าจับ “นีร” จู่ๆชายหนุ่มก็พูดขึ้น “ผมสงสัย”

หญิงสาวไม่รู้หรอกว่าทีคสงสัยเรื่องอะไร ทว่าแววตาต้องการคำตอบของชายหนุ่มทำให้เธอไม่พึงปรารถนาจะสนทนาด้วยเลย แววตาของเขาราวกับต้องการความจริงใจจากเธอ ต้องการรู้ซึ้งถึงความจริงบางอย่างจากเธอซึ่งนีรนาไม่แน่ใจว่าควรตอบหรือไม่

“ทีคสงสัยอะไรหรือ”

ชายหนุ่มเลียริมฝีปากบางของตน สีหน้าดูไม่ดีนัก เขาจับจ้องมองเธออยู่นานสองนานพยายามจะเค้นคำพูดผ่านไรฟันทว่าก็ไม่สามารถทำได้ดีนัก นีรนายังคงมองดูเขา “ผมไม่อยากเป็นคนหยาบคาย”

นีรนาพอจะเดาคำถามของเขาได้แล้ว ถึงตอนนี้หญิงสาวก็หัวเราะในลำคอก่อนจะส่ายหน้า

“นีร ขอโทษนะ”ทีคพูดเสียงแผ่ว “นีร ผม ...”

“พูดมาเถอะค่ะ”นีรบอก

ทีคพ่นลมหายใจยาวๆแล้วจึงกล่าวออกมาในที่สุด “นีรครับ นีรไม่ได้ขายบริการแถวนี้ใช่ไหม”ทั้งสองต่างจ้องมองกันตาไม่กะพริบ

ตอบสิ ... ตอบผมสิ ... นับตั้งแต่วันที่เขาเจอเธอในย่านซึ่งไม่ห่างไกลจากที่นี่นักมันก็เป็นสิ่งที่รบกวนจิตใจของเขามาตลอด ... เขารู้ว่านีรสอนพิเศษแก่เด็กมัธยมต้นคนหนึ่ง เขารู้ว่าเธอทำเช่นนั้นทว่าช่วงเวลาเย็นค่ำในบางวัน เขาไม่รู้หรอกว่าเธอเดินทางไปในย่านที่เรียกว่าซ่องเพื่อกิจธุระบางอย่างจริงหรือไม่

นีรนาไม่ใช่คนแบบนั้น เขารู้จักเธอดี แต่ทว่าทำไมเขาต้องไม่มั่นใจด้วย ... แน่ล่ะ ไม่มีผู้หญิงคนไหนพักอาศัยแถวนี้โดยที่พวกเธอยังบริสุทธิ์อยู่ได้ นั่นคือคำตอบพื้นฐานซึ่งผู้ชายทุกคนผู้เป็นแขกในย่านแห่งนี้เขารู้กันดีทั้งนั้น เพื่อนของทีคบางคนยังเคยมาเที่ยวเลยด้วยซ้ำไป

แต่ทำไมต้องเป็นนีรนา ... ทำไมต้องเป็นเธอ

หญิงสาวไม่ได้ตอบ เธอปิดปากเงียบก่อนจะหัวเราะให้กับคำถามของเขา

“ขอโทษนะครับ ผมไม่ควรจะถามเลยด้วยซ้ำ ให้ตายเถอะ! ... ผมล่วงเกินเรื่องแบบนี้มันบ้าชะมัด!”

นีรนายังคงจ้องมองเขา แววตาของเธอดูอ่อนโยน ...นีรนาคิดอะไรอยู่?

“ทีคไม่ไว้ใจนีรมันไม่ใช่เรื่องแปลกหรอก”

“ผมไม่ได้คิดว่าไม่ไว้ใจนีรนะ ผมไม่เคยคิดแบบนั้น”

ทีคคงไม่รู้ว่าความรู้สึกของผู้หญิงนั้นละเอียดอ่อน คำถามบางอย่างก็สามารถตราตรึงจิตใจหญิงสาวลึกไปจนถึงก้นบึ้ง

เธอไม่ตอบคำถามอะไรอีกแล้ว ... เธอเบื่อที่จะเถียงพวกเขา ในเมื่อเธอก็ไม่มีหลักฐานอื่นใดอีกบอกพวกเขาได้ว่าเธอยังบริสุทธิ์และประกอบอาชีพสุจริต เธอควรจะพอได้แล้ว ... เพียงพอให้พวกเขามองเธอเสียๆหายๆ เลิกสนใจได้แล้ว เธอเชื่อมั่นว่าการกระทำของเธอคงเป็นตัวพิสูจน์หนึ่งเดียวของเธอได้

ทว่าเธอก็ถลำลึกเข้ามาในข้อเสนอของปรุฬห์

เธอไม่มีเหตุผลปฏิเสธอีกแล้ว ... ไม่มีใครรู้ดีกว่าเธอหรือพี่สาวและครอบครัวของเธอเอง

นีรนาอาจจะต้องรู้สึกเจ็บปวดเมื่อพบว่าทีคสงสัยเธอเช่นเดียวกับปรุฬห์แต่เธอห้ามความคิดของพวกเขาไม่ได้

“นีรไม่ได้ขายตัว”นีรนาเงยหน้าบอกในที่สุด “นีรคงทำให้ใครเชื่อนีรไม่ได้เพราะนีรก็พูดได้เพียงแค่นี้ นีรมีเหตุผลที่มาแถวนี้บ่อยๆ ... มันเป็นเหตุผลของนีรที่ไม่มีใครเชื่อ แต่ก็ช่างมันเถอะ”

ทีคไม่ได้ถามเธอต่อ ...

เขารู้สึกแย่อีกแล้ว ... เขาไว้วางใจเธอมาตลอด เขาไม่ควรจะถามเธอเลยแต่จะทำอย่างไรได้

เมื่อนีรนากำลังจะปิดประตูบ้านขณะกล่าวลาแก่เขา ทีคก็เลื่อนมือไปจับแขนของหญิงสาว

“มีอะไรหรือเปล่าคะ”สีหน้าของเธอดูใส่ซื่อ

ไม่มีหรอก ... เขาไม่มีอะไรทั้งนั้น

เขาก็แค่ต้องการความเป็นส่วนตัวระหว่างตนเองกับเธอซึ่งเคยได้รับเมื่อในอดีต ทีคเพ่งพิจมองใบหน้าอีกฝ่าย สายตาเลื่อนไปจับจ้องกรีบปากสีชมพูของเธอ

เขาอยากรับรสจูบซึ่งเคยลืมเลือนอีกสักครั้งก็ยังดี ...

สักครั้ง

“นีร”

หญิงสาวมองดูนัยน์ตาของทีค เธออาจจะคิดไปเองว่ามันเจือความเศร้าหมองเอาไว้ภายใน แล้วจู่ๆทีคก็บ่ายหน้าหนีพร้อมกับพ่นลมหายใจยาวๆ เขาบ่นกับตัวเองเบาๆก่อนจะยิ้มให้แก่นีรนา

“เปล่าครับ ไม่มีอะไร ... แล้วเจอกันใหม่ครับ”ทีคเดินกลับไปยังรถยนต์ของตนก่อนจะโบกมือลาตอบ

ทีครู้ตัวว่าเขายังคงห้ามใจตัวเองไม่ได้ ... เขารักเธอมาก เขาจะลืมความเจ็บช้ำนั้นไปได้อย่างไร มันยากเหลือเกิน ... ถ้าหากวันหนึ่งเขากับนีรนาได้คบหากันอีก วันนั้นเขาอาจจะขอเธอแต่งงานเลยก็เป็นได้ คงจะไม่ยอมเสียเวลาเรียนรู้ทางใจระหว่างพวกเขาอีก ทว่าวันเวลานั้นมันคงไม่มีอีกแล้ว ทีคก็แค่ฝันเฟื่องถึงความรักที่สมบูรณ์แบบของเขาซึ่งบัดนี้ผู้ที่คว้าเอาสิทธิ์ความรักของเขาต่อนีรนาไปไม่ใช่ใครอื่นเลย

นอกจากปรุฬห์ คฤษฐานนท์ พี่ชายร่วมสาบานที่แสนดีของเขานั่นเอง ...

จากคุณ : davidmccartney
เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 54 23:24:46 A:202.12.74.7 X: TicketID:318829




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com