Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
กระบี่รันทด......ภาค 2...........บทที่ 11(อุ้งมือแมว) ติดต่อทีมงาน

กระบี่รันทด ภาค 2 บทที่ 11

ขทที่แล้ว


http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11080730/W11080730.html

ความเดิม
กระบี่ัรันทดนำกล่องปริศนาไปส่งยังวังแมวเหมียว



********


กระบี่รันทด..มีเรื่องราวมากมายหลายเรื่อง เฉกเช่นบุรุษหนุ่มคนอื่น แต่ก็มีเรื่องราวมิใช่น้อยผิดแผกแตกต่างจากคนอื่นๆ มิใช่ว่าประเสริฐเลิศเลอเหนือมนุษย์ตนใด เพียงมันสามารถกระทำเรื่องราวมากมายหลายเรื่อง ที่ผู้อื่นมิอาจกระทำ ในทำนองเดียวกัน มันก็ไม่อาจกระทำเรื่องราวมากมายหลายเรื่องที่ผู้อื่นกระทำ

ดังนั้นมันจึงเป็นบุคคลพิเศษพิสดาร

ความฝันของมันก็มักพิสดาร เพียงไม่ทราบว่าพิสดารมากหรือน้อยกว่าคนอื่น เพราะมันไม่อาจเสนอหน้าไปแส่ถามความฝันของคนอื่น หรือเสนอหน้าเข้าไปอยู่ในความฝันของคนอื่น

ความฝันควรเป็นสิทธิเฉพาะบุคคล  ไม่อาจไหว้วานใครมาช่วยฝันเป็นโลกเหนือจริงอันมหัศจรรย์ จนบางอยากอยากติดในความฝันบรรเจิดเพริดแพร้วตลอดกาล

แต่ความฝัน ที่ทำให้มันรู้สึกอับอายรันทดสุดแสนยังคงเป็นความฝันเกี่ยวกับเสื้อผ้า

เสื้อผ้ามีที่ใดน่าอับอาย หาไม่...เสื้อผ้าย่อมมิอาจอับอาย เสื้อผ้ายิ่งไม่อาจหน้าศิลาหยาบ หากยามเสื้อผ้าอันตรธานหายไปจากเรือนร่าง ท่ามกลางสาธารณะชน นั่นนับว่าเลวร้ายยิ่งแล้ว

กระบี่รันทดกำลังฝันว่ามันยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนในตลาดสด ผู้คนมากมายแต่งกายหลากสีสันพรรณราย เอวมันเพียงผืนเดียว

มันเป็น”กระบี่รันทด” หาใช่ “กระบี่หน้าศิลา” ดังนั้นพลันรู้สึกผิดท่าผิดทางสุดบรรยาย นี่เป็นฝันร้ายยิ่งกว่าฝันร้ายใดๆ มันยินยอมฝันเจอฝูงผีปีศาจทั้งคืน ฝันว่าถูกคมดาบคมหอกทิ่มแทง ประเสริฐกว่าฝันว่ามาวาบหวิวท่ามกลางสายลมท่ามกลางผู้คน มันไม่เข้าใจว่ามาอยู่ในสภาพนี้ได้อย่างไร

ความอับอายปะทุรุนแรงจนสะดุ้งตื่น

พักหนึ่งมันจึงค่อยรู้สึกตัวว่าเป็นเพียงความฝัน ลอบถอนใจอย่างโล่งอก ในที่สุดความฝันอันน่าอับอายก็ผ่านพ้น ลุกขึ้นนั่งอย่างช้าๆ

ทันใดนั้นมันก็ถอนใจค้าง....

ความเย็นยะเยียบแผ่ซ่านเข้ามาตามไขสันหลังราวอสรพิษร้าย เนื่องเพราะมันเพิ่งรู้สึกตัวว่ามันปราศจากเสื้อผ้าอาภรณ์แม้แต่ชิ้นเดียว

บุรุษหนุ่มใจหายวาบรีบหงายหลังดึงผ้าห่มมาคลุมร่าง

คำกล่าวว่า กระบี่อยู่คนอยู่ กระบี่หายคนหาย กระบี่ของมันมิเพียงหาย คนก็ไม่ได้สูญหาย แต่เสื้อผ้าของมันพลันอันตรธานหายไร้ร่องรอย

นี่เป็นภาวะเลวร้ายสุดทนทาน

คาวมรักหรือคล้ายเช่นนี้..

แต่ความเลวร้ายยังไม่หยุดเพียงแค่นี้ ข้างเตียงถึงกับมีร่างสองร่างยืนนิ่งอยู่ราวรูปปั้น

นั่นเป็นสองสตรีชุดแมวหน้ากากแมวพี่น้องซึ่งลงมือต่อมันนั่นเอง!

คับขันหนักหนาสาหัสแล้ว

นี่เป็นอีกครั้งซึ่งย่ำแย่ยิ่งกว่าตกอยู่ใต้เงาคมดาบปลายหอก

ถ้าปราศจากเสื้อผ้าอาภรณ์ ต่อให้มีฝีมือสูงเยี่ยมเทียมฟ้าปานใด ก็ไม่อาจยืดหน้าเชิดอกกระโดดปราดขึ้นราววิหคเหิน มิอาจกรีดมือวาดเท้าใส่ผู้คน แม้ปักหลักตั้งท่าเริ่มต้นกระบวนท่าก็มิอาจ  เดินไปรับประทานอาหารในร้านข้างถนนยังมิอาจ อย่าว่าแต่จะถาโถมต่อสู้ แต่เยื้องย่างร่างกายออกนอกที่พักก็ยังจะกล้า? ยังจะกล้าสบตาผู้ใด..?

เสื้อผ้าซึ่งความจริงอยู่กับเราจนธรรมดาสามัญ พอขาดหายกับเป็นเรื่องหนักหนาสาหัส เข้าทำนอง “วันใดขาดข้าแล้วเจ้าจะรู้สึก” ในอึดใจนั้น มันพลันเข้าใจว่าเสื้อผ้าความจริงหาได้แค่ปกปิดร่างกาย ยังกักขังความอับอายให้อยู่เป็นที่เป็นทาง และบางครั้งเสื้อผ้าก็กลับกลายเป็นภาพลวงตาลวงใจผู้คนได้เช่นกันหากยึดติดกับเปลือกนอก

สตรีสองนางพี่น้องคล้ายไม่เห็นท่วงท่าอาการของบุรุษหนุ่ม สตรีผู้พี่กล่าวอย่างเบิกบานว่า

“ท่าทางมันมิรู้ตัวว่าเสื้อผ้าของมันถูกถอดนำไปซักตากแล้ว”

ดรุณีผู้น้องพยักหน้าอย่างเห็นด้วยบอกว่า

“ใช่แล้ว มันยังไม่รู้ตัวว่ากระบี่ของมัน สิ่งของของมัน อยู่กับพวกเรา”

ใช่แล้วน้องข้า มันยังไม่ทราบว่าอีกนานกว่าเสื้อผ้ามันจะแห้ง ท่าทางทุกข์ทนอับอายไปกระทั่งในความฝัน”

ตอนนั้นบุรุษหนุ่มไถลร่างไปใต้ผ้าห่มหมดสิ้น เป็นตายอย่างไรก็ไม่อาจไถลร่างออกมาสู่โลกภายนอก

เสียงดรุณีผู้น้องกล่าวอีกว่า

“ท่านพี่....ไฉนมันหายไปแล้ว ข้าว่าลองเปิดผ้าห่มดูดีไหม”

“เป็นความคิดที่ดี บางทีมันอาจใช้วิชาจักจั่นทองลอกคราบ หลบหนีไปแล้วก็ได้”

ว่าพลางยื่นมือกรงเล็บแมวของนางออก

“ข้าไม่ได้หนี..”

กระบี่รันทดแผดร้องขึ้นทันที โผล่หน้าออกมาจากผ้าห่ม เหงื่อโซมดั่งฝนซัด สีหน้าต่อให้เป็นยอดกวีเอกของยุทธภพ ก็มิอาจบรรยายสีหน้าของมันได้ชัดเจน

มือกรงเล็บแมวชะงัก แต่ปากของนางพาลไม่ชะงัก

“อะไรกัน..เจ้ายังอยู่อีกหรือ นึกว่าเจ้าจะหลบลี้หนีหายไปแล้ว”

ว่าจาของนางแมวตัวน้อยคนนี้ช่างน่าคลั่งใจ..คนไม่มีเสื้อผ้าติดกายอยู่ ยังสามารถหลบหนีไปที่ใด

“เอาเสื้อผ้าของข้าคืนมา”

บุรุษหนุ่มกระชากเสียงอย่างขุ่นเคือง แต่มือยังกุมผ้าห่มไว้แน่น

“เสื้อผ้าของเจ้าคนวังแมวเหมียวนำไปซักแล้ว เจ้าต้องไปพบประมุขวังเหมียวแมว ไม่อาจสกปรกได้ ดังนั้นเจ้าต้องรอพักใหญ่”

“สิ่งของของข้าล่ะ”

“วางใจ...วังแมวเหมียวไม่ใช่รังโจรต่ำช้า สิ่งของพวกนั้นพวกเราเก็บดูแลอย่างดี แล้วจะคืนให้ ตอนนี้เจ้าพักผ่อนไปก่อน”

บุรุษหนุ่มกล้ำกลืนฝืนใจอย่างจำยอม

แมวสองพี่น้องออกจากห้องไปแล้ว กระทั่งประตูก็ไม่ยอมปิด เพราะรู้ว่าต่อให้เปิดอ้าเอาไว้ บุรุษหนุ่มก็ไม่อาจก้าวเดินออกไป นับเป็นเครื่องจองจำไร้สภาพชนิดหนึ่ง

กระบี่รันทดได้แต่นอนลืมตาโพลงอยู่เช่นนั้น ภายในใจวุ่นวายสับสน ความจริงการมาวังแมวเหมียวไม่ใช่หน้าที่ของมันเลยแม้แต่น้อย มันเป็นหน้าที่ของเฒ่าซกมกกับเฒ่าซกเล็กต่างหาก แต่ยอมฝีมือทั้งสองล้วนสละหน้าที่ของมันไปแล้ว

เฒ่าซกเล็กไปเปิดร้าตำมะละก้าอยู่กับแม่เฒ่าส้มตำ เฒ่าซกมกแปรพักตร์ไปอยู่กับพวกที่พยายามช่วงชิงกล่องปริศนาล้ำค่า สุดท้ายภาระนี้กับตกเป็นของกระบี่รันทดอย่างไม่ตั้งใจ

ว่าแต่ภายในกล่องปริศนาเป็นสินค้าใดกัน ผู้คนมากมายหลายกลุ่มถึงพยายามแย่งชิงอย่างเอาเป็นเอาตาย

มันพลันนึกถึงธิดาหมู่ตึกไร้รัก ป่านนี้นางจะอยู่เช่นไร ในยามคับขันคนเรามักคิดถึงคนอันเป็นที่รัก อาจเพราะจิตใจบางคนต้องการการปลอบประโลมดูแล แม้เพียงเสี้ยวน้อยนิดบนสายธารแห่งกาลเวลาก็ตาม ขอเพียงเป็นเปลวเทียนสว่างวาบในคืนเดือนมืดเพียงเล็กน้อยก็มีความหมาย

นานเท่านาน สตรีแมวเหมียวทั้งสองก็กลับเข้ามาอีกครั้ง หอบเสื้อผ้าและสิ่งของทั้งหมดของกระบี่รันทดเข้ามาด้วย พวกนางวางสิ่งของลงบนโต๊ะ แมวสาวผู้พี่บอกเสียงเฉื่อยชาว่า

“เสื้อผ้าสิ่งของมาแล้ว พวกเรารอด้านนอก เจ้ารีบแต่งตัว”

พอทั้งสองก้าวออกไป กระบี่รันทดก็ค่อยๆยื่นมือออกไปหยับเสื้อผ้ามาใส่ทั้งที่ยังนอนอยู่ใต้ผ้าห่ม มันไม่แน่ใจว่าแมวสาวทั้งสองตัวจะโผล่เข้ามาตอนไหน

นับว่าทุลักทุเลไม่เบา

มีเสียงหัวเราะคิกคักดังอยู่หน้าห้อง เสียงแมวสองตัวคุยกันด้วยเสียงค่อนข้างดัง

“ท่านพี่ว่าตลกไหม..มันไม่กล้าแม้กระทั่งลุกออกมาจากผ้าห่มใส่เสื้อผ้า”

“เจ้าไปแอบดูมัน”

“หาไม่...ข้าเพียงชำเลืองมองวูบเดียว อยากรู้ว่ามันจะทำอย่างไร”

“มันทำอย่างไร”

“มันใส่เสื้อผ้าใต้ผ้าห่ม มิคาดว่ามีเรื่องพิสดารแบบนี้”

เสียงแมวผู้พี่หัวร่ออย่างขบขัน นางหัวร่อจนพอใจแล้วพูดไปหัวร่อไปว่า
“ท่าทางมันคงลำบากยากเข็ญ ทำแบบนั้นไหนเลยสะดวกหมดจด ไม่ทราบว่ามันโง่หรือฉลาดกันแน่”

“ข้าว่ามันไม่ได้โง่และไม่ได้ฉลาด”

แล้วมันเป็นเช่นไร”

“มันเขินอาย...”

แล้วเสียงหัวเราะสดใสก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง บุรุษหนุ่มรับฟังจนน่าแดงก่ำ ทั้งเขินอายทั้งขุ่นเคืองรีบสวมใส่เสื้อผ้ารวดเร็วสุดชีวิตก่อนหันไปตรวจตราสิ่งของซึ่งติดตัวมา

อยู่ครบไม่มีอะไรสูญหาย รวมทั้งกล่องปริศนานั้นด้วย

พร้อมสรรพเรียบร้อย บุรุษหนุ่มก็เดินออกจากห้องด้วยสีหน้าท่าทางขุ่นเคือง แต่พอออกจากห้องก็พลันรู้สึกลานตาวูบ

ด้านหน้าของมันเป็นหุบเหวลึกล้ำกว้างไกล เบื้องบนเป็นท้องฟ้าเต็มไปด้วยหมอกสีขาว หันไปมองซ้ายขวาเห็นอาหารและหมู่ตึกก่อสร้างเรียงรายไปตามหน้าผา ทั้งสวยงามและทั้งน่าตื่นใจ กระแสลมเย็นฉ่ำรู้สึกได้ถึงละอองไอเมฆ

“ตามพวกข้ามา”

สองแมวพี่น้องหันมาบอกก่อนเดินนำหน้าไปตามทางเดินเลียบหน้าผาสูงชัน ท่าทางพวกนางคล้ายเป็นแมวตัวใหญ่จริงๆ แมวซึ่งสามารถกระโจนขบกัด ทั้งน่าอุ้มและน่าไม่ไว้ใจในคราเดียวกัน

การเคลื่อนไหวของพวกนางก็ปราดเปรียบคล่องแคล่ว เคยฟังว่าวังแมวเหมียวเป็นสถานที่ทียอดฝีมือมากมาย แต่อาคารต่างๆ ตอนนี้กลับเงียบสงบปราศจากวี่แววผู้คน

ทางเดินลัดเลาะคดเคี้ยวไปตามหน้าผาสูงชัน เดินมาสักครู่แมวสาวพี่น้องก็หายหน้าไปแล้ว ไปแบบไม่มีปากมีเสียง ไปแบบแมวๆ

กระบี่รันทดได้แต่สั่นศีรษะอย่างอับจนปัญญา พวกนางคล้ายเป็นปีศาจแมวไปแล้ว

ทางเดินด้านหน้าขยายออกเป็นลานกว้างล้อมด้านโอบล้อมด้วยแนวไม้ร่มรื่น ตามคาคบตามโขดหินใหญ่น้อยมีแมวมากมายหลายสิบตัวนอนพักผ่อนอยู่ด้วยท่าทางสบายใจ

ริมหน้าผามีชายชราชุดขาวผู้หนึ่งหนวดเคราขาวโพลน เสื้อผ้าแม้จะเก่าจนซีดแต่ยังดูสะอาด เบื้องหน้าของชายชราเป็นหม้อไฟใบใหญ่ น้ำในหม้อกำลังเดือดส่งกลิ่นสมุนไพรหอมกรุ่น

พอเห็นบุรุษหนุ่มชายชราพลันกวักมือเรียก

“มานี่”

กระบี่รันทดขมวดคิ้วอย่างนึกสงสัย ชายชราผู้นี้มาทำอะไรอยู่แถวนี้ จะหุงหาอาหารก็ควรอยู่ในครัว แต่สองเท้ายังก้าวตรงไปอย่างแช่มช้าและระมัดระวัง ชายชราเห็นแล้วพลันแผดเสียงหัวร่อกึกก้องก่อนเอ่ยเสียงดังๆว่า

“เจ้าหนุ่ม ไม่ต้องทำท่าทางแมวย่องแบบนั้น ข้าไม่คิดจะกินเจ้าเป็นอาหารเที่ยงหรอก”

อาหารเที่ยง....เที่ยงของวันใหม่แล้ว กระบี่รันทดพึ่งรู้ว่าตัวเองสลบไม่ได้สติข้ามวันข้ามคืนไปแล้ว

“ข้ากำลังจะทำซุปเล็บมือแมว  เจ้ายังไม่ได้กินอาหารเที่ยง ควรมากินซุปเล็บมือแมวกับข้า ก่อนเดินทางไปพบประมุข”

บุรุษหนุ่มเคยได้ยินแต่คำว่า ยำเล็บมือนาง (ยำหนังบาทาไก่) ไม่เคยได้ยินคำว่า ซุบเล็บมือแมวมาก่อนเลย

ชายชรามองหน้างุนงงสงสัยของกระบี่รันทดแล้วหัวร่อเอ่ยต่อไป

“ฮา..ฮา นอกจากซุปเล็บมือแมวแล้ว ข้ายังจะทำ ยำเล็บมือแมวอีกสักจานสองจาน เจ้าคงไม่เคยรับประทานอาหารชั้นดีแบบนี้เป็นแน่แท้ ยังมีหัวแมวแดดเดียวอีกนะ...กรอบอร่อย..ถ้าไม่ชอบข้าจะทำต้มแซบหัวแมว..นี่ก็อร่อยตาเหลือกตาค้าง หัวแมวต้มจนเปื่อยนุ่มหอมกรุ่มชวนฝัน..หรือจะทำต้มยำพุงแมว...”

“หยุดปากท่าน”

กระบี่รันทดเค้นเสียงหนักๆจนเกือบเป็นการตะโกน เขม้นมองอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ ถึงไม่รู้เรื่องแมว แต่มันก็เป็นคนรักแมวยิ่งชีพ

ไม่ว่าผู้ใด ก็ไม่อาจทำร้ายแมวต่อหน้ามันเด็ดขาดการรับประทานแมวยิ่งไม่อาจรับได้

เฒ่าชุดขาวยังคงหัวร่อ มือยังคงจับตะหลิวคนลงไปในหม้อ เอ่ยปากต่อไปราวไม่ได้ยินเสียงของอีกฝ่าย

“เจ้าจะต้องไม่เคยรับประทานตาแมวชุบแป้งทอด กินแล้วนัยน์ตาจะกระจ่างสุกใสเป็นตาแมว เซ่งจี้และกึ๋นแมวก็รสชาติดีเลิศประเสริฐศรี ที่นี่มีแมวมากมาย ให้เลือกชิม.....”

ว่าพลางวางตะหลิว ลุกขึ้นบิดขี้เกียจไปมาอย่างเมื่อยขบ สายตามองไปยังฝูงแมวรอบด้านแลบลิ้นเลียริมฝีปาก

“ข้าจะแสดงการจับแมวมาปรุงอาหารให้ชม”

กระบี่รันทดเคลื่อนกายมาขวางทางทันที ชายชราเหลือบตามามองแล้วเอ่ยถามด้วยสีหน้าเหมือนมองคนโง่งม

“เจ้าคิดจะช่วยข้าจับแมว..ท่าทางยาก..จับแมวไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะแมวที่นี่ มันปราดเปรียวว่องไวกว่าแมวธรรมดาหลายเท่า”

“ใครบอกข้าจะทำอาหารอุบาทว์แบบท่าน ข้าคิดจะขวางท่านต่างหาก”

กระบี่รันทดแค่นเสียงตอบ มือกุมด้ามกระบี่ ท่าทางไม่หลีกทางให้มนุษย์กินแมวเด็ดขาด ชายชราเงยหน้าหัวร่อลั่นอีกครั้ง

“เจ้าคิดจะขวางทางเฒ่าแมวเหมียวอย่างข้า......”

เฒ่าแมวเหมียว.....เป็นฉายาไม่เคยผ่านหูมาก่อนเลย...ความจริงในยุทธภพมีจอมยุทธพิสดารมากมาย เช่น เฒ่าซกมกเฒ่าซกเล็ก กระบี่หรรษา จอมมารคอหอย แม่เฒ่าปากปลาร้า เฒ่าสามอีแปะ กระยี่แสนหล่อ และอื่นๆแกมากมาย แต่ไม่เคยได้ยินชื่อเฒ่าแมวเหมียวมาก่อนเลย

“ท่านไม่อาจทำร้ายแมว”

“เจ้าขวางข้าได้..... “

ชายชราล้วงมือชวาเข้าไปในอกเสื้อ ดึงมือออกมา ปรากฏมีกรงเล็บแมวเหล็กติดมือออกมาทันที

ดูสิว่า..เจ้าจะรับมือกับกรงเล็บแมวได้หรือไม่”

กระบี่รันทดดึงกระบี่ออกมาเช่นกัน ย่อมเป็นกระบี่ซึ่งกระบี่หรรษาส่งมอบให้

“ถ้าเจ้ารับมือข้าได้ ข้าจะหยุดการกินแมว”

คำพูดนั้นเป็นแรงกระตุ้นอย่างดี กระบีรันทดไม่ได้ต่อสู้เพื่อตัวมันเอง แต่มันกำลังต่อสู้เพื่อพลเมืองแมว เพื่อเผ่าพันธุ์ของแมวทั้งหลาย

เฒ่าแมวเหมียวกระโดดปราดขึ้นราวอาการกระโจนของแมวป่า กวัดแกว่งมือทั้งสองราวแมวตะกายป่ายปีน  กรงเหล็กวาววับคล้ายเป็นกระบี่จิ๋วห้าเล่มวูบวาบอยู่เบื้องบนฟากฟ้า

เสียงดังเปรี้ยงสนั่นหวั่นไหว ประกายไฟแตกวาบเป็นไฟพะเนียง กระบี่ต้านรับกรงเล็บแมวไว้ได้ กรงเล็บแมวยังคงตะปบตัวกระบี่แนบแน่น  แรงกระแทกพลังมหาศาลทำให้บุรุษหนุ่มไถลไปด้านหลังหลายก้าวทั้งที่ยังไม่ได้ขยับเท้า เฒ่าผู้นี้เป็นยอดคนอีกคนหนึ่ง

“ฝีมือไม่เลว...สามารถต้านรับขบวนท่า “กรงเล็บแมวพิฆาตหนู” ของข้าได้...”

พูดยังไม่ทันขาดคำสีหน้าพลันแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย เนื่องจากพลันรู้สึกว่าแขนเสื้อยาวข้างขวาพลันขาดหลุดร่วงลงไปชิ้นหนึ่ง ที่แท้กระบี่รันทดอาศัยจังหวะต้านรับตอบโต้ออกในในคราเดียวกัน พลังแหลมคมของกระบี่พุ่งตัดแขนเสื้อของชายชราขาดปลิดปลิว

“เจ้าบังอาจทำร้ายเสื้อของข้า เสื้อซึ่งภรรยาของข้าดั้นด้นไปซื้อมาให้ เช่นนี้ข้าไม่เกรงใจเจ้าแล้ว”

เฒ่าแมวเหมียวคำรามอย่างขุ่นเคือง ปล่อยกรงเล็บออกจากคมกระบี่แล้วพุ่งตะปบกรงเล็บเข้าหารวดเร็วราวประกายไฟ

บุรุษหนุ่มขยับกายหมายถอยหลังออกไปแต่พลันรู้สึกชาวูบไปทั้งร่าง ร่างกายชะงักค้างแข็งทื่อไปในเสี้ยวพริบตา

นั่นเป็นภาวะอันตรายสุดแสน

หูพลันได้ยินเสียงหัวร่อสดใสมาจากด้านหลังว่า

“อะไรกัน…ลุกขึ้นมาได้ ก็มาทะเลาะกับผู้อื่น ซ้ำยังขัดขวางการกินแมวของพวกเรา”

เป็นเสียงของดรุณีผู้น้องสองสาวแมวเหมียวนั่นเอง พวกนางไม่ทราบว่ามาปรากฏตัวด้านหลังได้อย่างไร หนึ่งในนั้นใช้วิชาสกัดจุดจนบุรุษหนุ่มแข็งทื่อไปทั้งตัว

กรงเล็บแมวเหล็กพุ่งมาถึงคอหอยแล้วชะงักค้างท่วงท่าเช่นกัน ปลายเล็บเหล็กตมกริบห่างจากลำคอไม่ถึงสองนิ้ว เสียงเฒ่าแมวเหมียวตวาดอย่างไม่พอใจว่า

“พวกเจ้ายื่นหน้ามาแทรกมาขวางทำไมกัน”

“พวกข้าเพียงคิดช่วยจับหนูตัวนี้ให้ท่านเท่านั้น”

พวกนางถึงกับเห็นกระบี่รันทดเป็นหนูตัวน้อยไปเสียแล้ว ชายชราส่งเสียงในลำคออย่างหงุดหงิดสักพักก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มแย้มเงยหน้าหัวเราะก้อง

“เป็นเช่นนี้ก็ดี ...ข้าไม่ต้องเปลืองแรง แล้วเจ้าสองคนคิดอยากรับประทานเนื้อของมันหรือไม่”

แมวสาวสองตัวพอได้ฟังก็หัวเราะคิกคักขึ้นมาทันที พากันด้อมๆมองๆ ไปรอบตัวของบุรุษหนุ่มเหมือนแมวกำลังดมปลาย่าง

“ข้าคิดว่าเนื้อของมันคงอร่อย นำไปต้มหม้อไฟหม้อใหญ่ ท่าทางอร่อยกว่าแมว”

“พวกท่านเป็นอะไรไปแล้ว คิดจะกินเนื้อแมวเนื้อคน”

บุรุษหนุ่มส่งเสียงถามขณะค่อยล้มลงกับพื้น สาวสาวผู้เป็นพี่ปราดมารับไว้ทันก่อนฟาดลงกับพื้น พลางบอกเสียงระรื่นว่า

“พวกเราก็เป็นแมว แมวปีศาจ..ชอบกินมนุษย์”

อ้อมอกของนางหอมกรุ่น กระบี่รันทดพลันรู้สึกเรี่ยวแรงสูญหายไปทันทีเพราะความรู้สึกแบบนั้นทำลายพลังฝีมือรันทด แต่ไม่ทราบว่าทำไมถึงรู้สึกสบายดีสุดแสน เช่นนี้ล้มอีกร้อยคราก็มิเป็นไร

“ว่าอย่างไร..เจ้าหนุ่ม”

กรงเล็บเหล็กขยับไปมาอยู่เบื้องหน้า เสียงชายชราก้องกังวานคาดคั้น

“เจ้ายังคิดจะขัดขวางการทำอาหารของพวกเราหรือไม่”

“ข้าย่อมคิดขัดขวาง”

“เจ้ามีปัญญาขัดขวาง”

“อย่างน้อยใจของข้าก็ขัดขวางไม่ยินยอม”

เฒ่าแมวเหมียวมองหน้าบุรุษหนุ่มด้วยสายตาประหลาดพิสดารชนิดหนึ่งแล้วกระโดดปราดตีลังกาถอยหลังออกไปก่อนหายลับไปในดงไม้ เสียงหัวร่อสนั่นหวั่นไหวร้องว่า

“ร่างกายบังคับได้ แต่ใจไหนเลยบังคับได้ ปล่อยมัน...แล้วพามันไปต่อได้”

แมวสาวผู้พี่ปล่อยบุรุษหนุ่มลงกับพื้นทันทีตามคำสั่ง พอร่างกระทบพื้นอาการชาด้านพลันหายไป บุรุษหนุ่มกระโดดปราดขึ้นมาอีกครั้ง นั่นเป็นเพราะจุดถูกคลายออกแล้ว เรื่องราวนับว่านอกเหนือการคาดคิดยิ่งนัก

ยังไม่ทันได้เอ่ยปากถาม มือของแมวสาวผู้พี่ก็ผลักกลางหลังค่อนข้างแรงพลางบอกว่า

“เจ้าเดินต่อไป”

มือของนางยังไม่ถึงตัว เป้าหมายก็พลิกตัววูบหันกลับมาคว้าข้อมือของนางไว้

“ทำไมต้องผลักข้าด้วย”

แต่พอมันคว้าถูกข้อมือนุ่มเนียนก็ต้องรีบคลายออกอย่างรวดเร็ว อย่างไรนางก็เป็นสตรีจะมากจะน้อยไปบ้าง ควรยินยอม

แมวสาวผู้น้องเห็นดังนั้นส่งเสียงหัวเราะขึ้นทันทีพลางบอกว่า

“ท่าทางมือของพี่ท่านกลับกลายเป็นถ่านไปร้อนไปแล้ว มันถึงรีบปล่อยรวดเร็วขนาดนั้น หากข้าเป็นมัน มีโอกาสเกาะกุมมือท่านพี่ประกันว่าเป็นตายร้ายดีไม่ยอมปล่อย”


คนที่รับฟังคนหน้าแดงกลับเป็นบุรุษหนุ่ม  เมื่อครู่มันไม่ทันคิดจริงๆ สัญชาตญาณป้องกันตัวทำให้มันโต้ตอบออกไปในทันที สถานการณ์ดูเลวร้ายลงไปอีกมือแมวสาวผู้พี่กระชากเสียงถามว่า


“เจ้าคิดลวนลามเรา”



+++++++++++

แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 54 19:36:10

แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 54 19:24:48

จากคุณ : Psycho man
เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 17:59:53




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com